ตอนที่ 92 เผชิญหน้า
ตอนที่ 92 เผชิญหน้า
การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนแห่งนิกายโลหิตค่อนข้างโฉ่งฉ่าง เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวของศิษย์ที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ดังก้องไปทั่วบริเวณ
หยางไค่และเซี่ยหนิงฉางได้ยินอย่างชัดเจน ใบหน้าของทั้งสองเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน พวกเขาจึงหันหน้ามองไปยังทิศทางของเสียงตะโกน
พวกเขาไม่เคยล่วงรู้เลยว่าตลอดระยะเวลาที่เดินทางมายังหุบเขาพวกเขาถูกติดตามโดยศัตรูที่หมายปองทำร้าย การติดตามของเหวินเฟยเฉินค่อนข้างดีเยี่ยม ระยะห่างที่ติดตามยังปลอดภัยที่สุด จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพบเห็นโดยบังเอิญ แม้ว่าเซี่ยหนิงฉางจะอยู่ในเขตแดนผสานลมปราณขั้นสูงสุด แต่ยังไม่สามารถสัมผัสการเคลื่อนไหวต่างๆที่อยู่ในระยะไกล แผนการของเหวินเฟยเฉินจึงสำเร็จลุล่วงตามคาดหมาย
ทำไมถึงมีคนอื่นอยู่ที่นี้ ? เซี่ยหนิงฉางขมวดคิ้วที่ละเอียดอ่อนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ใบหน้าของหยางไค่นิ่งสงบขึ้นมาทันที ศิษย์พี่น้อยคนนี้เคยกล่าวไว้ว่า สถานที่แห่งนี้ในเวลาปกติมันเป็นเพียงหุบเขาธรรมดาสามัญ แม้เพียงวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปีจึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฟ้าสวรรค์ ดังนั้นมันจึงไม่เป็นจุดดึงดูดของบุคคลอื่นๆ แม้แต่น้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง กลุ่มคนที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาอยู่ห่างจากพวกเขาไม่มากและพวกเขาเข้ามาในหุบเข้าในเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง หากไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกดึงดูดจากการเปลี่ยนแปลงในสถานที่แห่งนี้ พวกเขาต้องมีการวางแผนล่วงในในการติดตามพวกเขามาถึงสถานที่แห่งนี้
สิ่งที่กำลังจะตามมาต้องเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสอย่างแน่นอน ! เพราะบุคคลที่มาเยือนมาจำนวนที่ไม่น้อย และยังมีคนที่กระโดดลงมาตายอีกต่างหาก
สถานที่แห่งนี้เป็นใจกลางเทือกเขาวายุทะมึน หากว่าคนเหล่านี้เข้ามาเพื่อแสวงหายาสมุนไพรหรือล่าสัตว์ พวกเขาจะไม่สามารถนำพาคนที่มีความสามารถระดับต่ำ และไม่สามารถที่จะเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่เช่นนี้
ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา ! เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยางไค่ได้กล่าวแนะนำอย่างกะทันหัน : พวกเราควรหนีไปก่อน !!
ได้ !! เซี่ยหนิงฉางพยักหน้าตกลง
คิดจะหนี ? เสียงที่เยือกเย็นแว่วมาจากด้านหลัง จากนั้นร่างเงาของคนคนหนึ่งได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขาโดยห่างกันเพียง 4 จ้าง ตามมาด้วยฝ่ามือที่นำพามาซึ่งลมพายุที่รุนแรง ซึ่งได้ขัดขวางเส้นทางการหลบหนีของพวกเขาทั้งสอง
หยางไค่และเซี่ยหนิงฉางตื่นตกใจกับบุคคลที่ปรากฏอยู่ตางหน้าเพราะความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับสูง ในขณะที่พวกเขาหลบหนีจากฝ่ามือที่โจมตีเข้ามาพวกเขาได้เคลื่อนไหวลมปราณที่อยู่ภายในร่ากายเพื่อระมัดระวังกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ก่อนที่ยังไม่ทราบถึงความตั้งใจของพวกเขา หยางไค่ไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา
เหวินเฟยเฉินมาถึงที่นี้เพื่อปิดกั้นและขัดขวางหยางไค่และเซี่ยหนิง เมื่อเห็นพวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหว เหวินเฟยเฉินไม่ได้ลงมือโจมตีพวกเขาอีก แต่เขากลับยืนนิ่งและจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เยือกเย็น
หยางไค่ไมได้อยู่ในสายตาของเหวินเฟยเฉิน แต่หญิงสาวที่สวมผ้าคุลมหน้าทำให้ดวงตาของเฟวินเฟยเฉินประกายด้วยความสว่าง เขากล่าวชื่นชมหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าว่าเป็นหญิงสาวที่บริสุทธุ์ แม้ว่ามองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง แต่ดวงตากลมโตที่ประกายด้วยความสว่างสดใสและบริสุทธุ์เสมือนดวงดาวที่เจิดจรัสงดงาม มิใช่ดวงตาที่หญิงสาวธรรมดาทั่วไปจะสามารถครอบครองมันได้ นอกจากนั้น เรือนร่างของหญิงสาวคนนี้ยังโดดเด่นและงดงามยิ่งนัก
เมื่อมองไปที่ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวน ทำให้หัวใจของเหวินเฟยเฉินเต้นอย่างกระวนกระวางแม้ว่าเหวินเฟยเฉินไม่ใช่ชายหนุ่มที่หลงไหลในรูปลักษณ์ของหญิงสาวก็ตาม หากเป็นหล่งฮุยที่ยืนอยู่ตรงหน้า คงจะแสดงออกอย่างน่าเกลียดและเปิดเผยลักษณะนิสัยที่น่าขยะแขยงออกมาอย่างแน่นอน
หลังจากที่สามเฝ้ามองซึ่งกันและกันอย่างระมัดระวัง หยางไค่มองหาเส้นทางหลบหนีตลอดเวลา แต่เขาพบว่าชายวัยกลางที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีความแข็งแกร่งที่อยู่ในระดับสูง การที่เขายืยอยู่ตรงหน้าพวกเขา เสมือนเป็นการปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของพวกเขาทั้งหมด
คนคนนี้เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง ศิษย์น้องเจ้าอย่าเคลื่อนไหวโดยพละการเด็ดขาด เซี่ยหนิงฉางอ่านความคิดของเขาออกอย่างแจ่มแจ้ง เขาจึงกล่าวเตือนด้วยเสียงที่เบาหวิว
ลมปราณแท้จริง !! หยางไค่สูดลมหายใจเข้าอย่างกะทันหัน หัวใจของเขากำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง
เมื่อผ่านไปสักพัก กลุ่มคนของนิกายโลหิตและหอวายุพิรุณได้วิ่งตามมาถึงพอดี พวกเขายืนอยู่ข้างเหวินเฟยเฉิน และใช้สายตาที่ประสงค์ร้ายจ้องมองไปที่หยางไค่และเซี่ยหนิงฉาง
พวกเจ้าเป็นใคร ? หยางไค่หรี่ตากล่าวถาม เพราะเขาพบว่าเขาไม่รู้จักเหล่าผู้คนที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่คนเดียว ทำให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เขาไม่รู้เลยว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีหลายคนที่เป็นคนที่เขารู้จัก แต่เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขาต่ำเกินไป ระหว่างทางที่เดินทางเข้ามากลับถูกสัตว์ปีศาจกลืนกิน คนสุดท้ายที่เหลืออยู่เพิ่งตายไปเมื่อสักครู่จากการกระโดดลงมาจากหน้าผา
คนที่จะเอาชีวิตของเจ้า! หล่งฮุยเดินออกมาจากด้านหลังของเหวินเฟยเฉิน เขาจ้องมองหยางไค่ด้วยสายตาที่เย้ยหยันและกล่าวหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ แต่เมื่อดวงตาของเขามองเห็นเซี่ยหนิงฉาง ดวงตาของเขาประกายด้วยสายตาที่หื่นกระหายและกวาดสายตามองไปที่เรือนร่างของเซี่ยหนิงฉางอย่างป่าเถื่อน ก่อนจะกล่าวชื่นชม : เยี่ยม ! เยี่ยม !! หญิงสาวบริสุทธุ์คนหนึ่งที่งดงามไร้ฐิติ มันคุ้มค่ากลับการที่ติดตามมาถึงจุดนี้ !!
เซี่ยหนิงฉางขมวดิค้วที่ละเอียดอ่อนของนาง ใบหน้าแสดงออกด้วยความรังเกียจ และค่อยๆซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของหยางไค่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของนางจะแข็งแกร่งกว่าหยางไค่ แต่นางยังเป็นหญิงสาวที่ไร้เดียงสา แม้การหลบซ่อนตัวไม่ได้มีความหมายใดๆ แต่มันเป็นการปกป้องตัวเองตามสัญชาตญานของหญิงสาว
หยางไค่และเซี่ยหนิงฉางใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม ทันใดนั้นหยางไค่รู้สึกถึงเนื้อที่อ่อนนุ่มทั้งสองข้างกำลังสัมผัสกับหลังของเขา ทำให้เขาสูดลมหายใจเข้าใจและยึดหลังของตนเองให้ตรงยิ่งขึ้น
ภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤต จิตใจของหยางไค่นิ่งสงบ จิตใจของเขาไม่สั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากที่นิ่งไปชั่วครู่ในที่สุดเขาได้กล่าวถามอีกครั้ง : พวกท่านทุกคนที่ความแค้นกับข้า?
เวลานี้หยางไค่ทราบอย่างชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มาที่นี้โดยบังเอิญแต่พวกเขามาด้วยความเจตนา ไม่เช่นนั้นเมื่อพบเจอกันครั้งแรกพวกเขาก็แสดงถึงความเป็นศัตรูและเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขา
ศัตรู่เหล่านี้เป็นศัตรูของเหรัญญิกเม้งและศิษย์ของเขา หรือเป็นศัตรูของเขาเอง ?หยางไค่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน แม้ว่าจะต้องตาย พวกเขาก็ต้องรู้ว่าพวกเขาเป็นใครและรู้ถึงเหตุผลของพวกเขา
แน่นอนว่ามีความแค้น !! หล่งฮุยรู้สึกว่าชัยชนะอยู่ในกำมือของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะซ่อนฐานะที่แท้จริงของเขา : เจ้าเด็กน้อย ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ว่า ข้าหล่งฮุยหลายชายของหล่งไจ้เทียนรองประมุขแห่งนิกายกายโลหิต !!เจ้ากล้าที่จะข้องแวะกับหู่เหม่ยเอ่อ และคงไม่คิดว่าจะมีจุดจบเช่นนี้ ?
หยางไค่ตะลึง !! เขาไม่คิดว่าคนที่มาสร้างความเดือดร้อนให้แก่เขาในวันนี้จะเป็นคนที่มีฐานะระดับสูง ความแค้นของเขาช่างไร้เหตุผลสิ้นดี เขาและหู่เหมยเอ่อเคยพบเจอกันเพียง 3 ครั้งเท่านั้น พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธุ์ที่มากเกินไป แต่มันกลับทำให้เขาคิดว่าเป็นความสัมพันธุ์ฉันท์คู่รก นอกจากถอนหายใจอย่างเงียบๆ หยางไค่จะสามารถกล่าวสิ่งใดได้อีก ?
ในเมื่อเขากล่าวถึงหล่งไจ้เทียน หยางไค่คิดถึงชายชราที่พบเจอที่เหมืองแร่แห่งนิกายโลหิต ครั้งนั้น หล่งไจ้เทียนสร้างความอัปยศให้แก่เขา และเขาเองไม่เคยลืมมันไปแม้แต่วันเดียว
หลังจากที่หลุ่งฮุยกล่าวจบ นู่วหล่างได้กล่าวออกมาอย่างสุภาพ : นู่วเต๋าเป็นน้องชายของข้า ! เขาหายตัวไปพร้อมกับเฉินเซ้าเฟิง เจ้าเด็กน้อย ข้าขอถามเจ้า การหายตัวของพวกเขาเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือไม่ ?
คนทั้งสองกลุ่มตามกำลังมองหาตัวของเขาและกำลังจะสร้างปัญหาความวุ่นวายให้แก่เขา !! ทำให้หยางไค่เข้าใจความเป็นมาของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หยางไค่ถอนหายใจอย่างเงียบๆ เขาเดินทางไกลออกจากสำนักครั้งแรก แต่กลับถูกกลุ่มศัตรู 2 พวกหมายตาเอาไว้ และยังออกโรงอย่างยิ่งใหญ่ซะด้วย
ครั้งนี้ เขาทำให้เซี่ยหนิงฉางต้องได้รับความเดือดร้อน
หยางไค่สูดลมหายใจลึกๆ ใบหน้าของหยางไค่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว และยังแสดงออกอย่างเฉยชา เขายืนมือออกไปจับมือของเซี่ยหนิงฉางและกล่าวด้วยเสียงเบา : อีกสักครู่ ศิษย์พี่ไม่ต้องสนใจข้า หาโอกาสหลบหนีออกไป !!
ในเมื่อเป็นเรื่องที่เขาสร้างขึ้นด้วยตนเอง เขาไม่สามารถปล่อยให้เซี่ยหนิงฉางต้องมารับความลำบากนี้พร้อมกับเขา หากนางวิ่งหนีไปเพียงคนเดียว ไม่แน่ว่านางอาจจะมีโอกาสรอด หากนางยังอยู่กับเขา เขาคงจะเป็นภาระให้แก่นางอย่างแน่นอน
แม้ว่าเสียงของหยางไค่จะเบามาก แต่คนที่อยู่ตรงข้ามกับได้ยินมันอย่างชัดเจน
หล่งฮุยหัวเราะเสียงดัง : คิดจะหนี ?มันไม่ง่ายเช่นนั้น ข้าติดตามพวกเจ้าในป่าต้องพบเจอกับความลำบากยากเย็นมานานนับหลายวัน พวกเจ้าจะไม่ตอบแทนข้าหน่อยหรือไง ?หยางไค่ วันนี้เจ้าต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย สำหรับหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังเจ้า จะกลายเป็นของเล่นของข้า !! วางใจ ข้าจะไม่ฆ่านางในตอนนี้ ข้าจะเล่นกับนางจนเบื่อแล้วจะปล่อยให้นางตายอย่างช้าๆ
หยางไค่แสดงออกอย่างเยือกเย็น เขาตะโกนคำราม : วิ่ง !
ในขณะเดียวกันหยางไค่ได้จับแขนของเซี่ยหนิงฉาง ภายใต้สายตาที่ตื่นตะลึงของนาง หยางไค่ใช้แรงทั้งหมดผลักเซี่ยหนิงฉางออกไปเพื่อให้นางหนีรอดออกไปอย่างปลอดภัย
อย่าแม้แต่จะคิด !! เหวินเฟยเฉินหัวเราะอย่างเยือกเย็น ร่างกายของประกาย ทันใดนั้นเขาได้ปรากกฎอยู่ด้านหลังของเซี่ยหนิงฉางและพุ่งฝ่ามือโจมตีเซี่ยหนิงฉางอย่างรุนแรง !!