GMC ตอนที่ 17 คำสารภาพที่กล้าหาญ
GMC ตอนที่ 17 คำสารภาพที่กล้าหาญ
เมื่อกลับถึงบ้าน ซูฮ่าวได้หยิบขวดยาออกมาอย่างระมัดระวัง
ถ้าเขาต้องการที่จะใช้ผลของยาเสริมสร้างร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลมากที่สุด มันทนต่อความเจ็บปวดที่มาก และยิ่งความเจ็บปวดมากเท่าใดผลของยายิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก
ซูฮ่าว ได้เลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาได้อย่างมหาศาลซึ่งต้องแลกด้วยกันความเจ็บปวดที่มหาศาลเช่นกัน
ครั้งล่าสุดที่เขาได้รับความเจ็บปวดจากยาตัวนั้นมันยังคงติดอยู่ในใจของเขา ถ้าเขาใช้ทั้งสองยาพร้อมกันไม่เพียง แต่เขาสามารถที่จะได้ผลของยาเสริมสร้างเขายังสามารถที่จะฟื้นฟูได้ด้วย
"ยังมียาฟื้นฟูฉันมีอยู่จำนวน 35 ขวด " ซูฮ่าวพึมพำกับตัวเอง ครั้งล่าสุดที่เขาใช้ยาฟื้นฟู 1 ขวด มันช่วยให้เขาสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะต้นกำเนิดระดับสูง ได้ถึง 10% กล่าวอีกนัยหนึ่งตราบเท่าที่เขาดื่มอีก 9 ขวด เขาก็สามารถที่จะเรียนรู้การบ่มเพาะระดับสูงได้ แน่นอนว่านี่จะเกิดขึ้นได้หากเขาต้านทานความเจ็บปวดของยาฟื้นฟูทั้ง 9 ขวดนั้นได้
"9 ขวด" แสงจากดวงอาทิตย์ส่องมาททางของซูฮ่าว นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการปรับปรุงความสามารถของตัวเขา เขาไม่ควรปล่อยให้โอกาสนี้ไปได้ง่ายๆ
ไม่เพียงแค่ 9 ขวดเท่านั้นเขาก็ต้องการที่จะดื่มมันทั้งหมด 35 ขวดในครั้งเดียว นี่เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถดึงประสิทธิภาพทั้งหมดของยาเสริมสร้างได้มากเท่าที่จะทำได้
"ถ้าจะกินเพียง 9 ขวดมันยังมีเหลืออีกตั้ง 26 ขวดถ้าปล่อยทิ้งไว้มันคงไม่ดี และถ้าดื่มเพียงแค่ 9 ขวดใช้ในการวิเคระห์และจำลองการ์ดอยู่ไม่กี่ทีก็หมดแล้ว" ซูฮ่าวมีความคิดที่บ้าคลั่ง ถ้าคนอื่นๆรู้จักความคิดของเขาละก็ คนอื่นอาจคิดว่าเขาเป็นบ้า
ดื่มยาฟื้นฟูระดับเริ่มต้น 35 ขวดในครั้งเดียว?
อย่าพูดถึงยาที่มีในตลาดมืดแม้แต่ยาที่มีขายทั่วไปในร้านค้าปกติก็เพิ่มพลังงานจำนวนมากพอที่จะทำให้แหล่งเก็บพลังงานระเบิดได้
นี่คือเป็นความเสี่ยงของ ซูฮ่าว ถ้าเขาล้มเหลวเขาอาจจะตาย แต่ถ้าเขาทำสำเร็จเขาจะเป็นอัจฉริยะดชั่วข้ามคืน!
เขาอดทนมานานหลายปีแล้ว ด้วยโอกาสตรงหน้า เขาต้องคว้าเอาไว้ให้ได้!
หลังจากที่เตรียมยาทั้งหมดไว้อย่างเรียบร้อย ซูฮ่าวจึงเริ่มตรวจสอบการ์ดที่เขาเคยคัดลอกไว้
ทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานระดับสูง ทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าระดับเริ่มต้นและทักษะการบ่มเพราะต้นระดับเริ่มต้น หากไม่รวมการความสามารถวิเคราะห์แบบจำลอง ความสามารถในแหล่งกำเนิดของตัวเขามีทั้งหมด 3 ใบ
สำหรับในตอนนี่ที่เขายังไม่ได้เรียนรู้การบ่มเพาะระดับสูง
"เมื่อฉันเรียนรู้การ์ดการเพาะปลูกระดับสูงแล้ว ความแข็งแรงของร่างกายฉัน คงจะสามารถก้าวหน้าได้เร็วขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ฉันต้องพัฒนาควรจะเป็นทักษะการต่อสู้ "ซูฮ่าวกล่าวต่อ" ทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ ยังอยู่ในระดับเริ่มต้น เหตุใดฉันจึงไม่ใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาให้สูงขึ้น ฉันกลัวว่าที่เหลือ 26 ขวดฉันจะดื่มได้เพียงครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด ดูเหมือนว่าฉันจากบางอย่างอีก "
รูปแบบการ์ดแรกที่ ซูฮ่าว ต้องการสร้างคือทักษะการต่อสูงของเจ้าหน้าที่ระดับสูง
ต่อไจากทักษะการต่อสู้ของเจ้มหน่าที่คือทักษะการต่อสู้ทางทหาร ความต้องการขั้นต่ำในการเรียนคือต้องใช้ทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ซูฮ่าวต้องที่จะสร้างการ์ดทักษะการต่อสู้ทางทหารเขาต้องรวมทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ให้สมบูรณ์ ดังนั้นเพื่อที่เขาจะต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ระดับสูงของเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อที่จะใช้ทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ได้อย่างเต็มที่เขาต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
สำหรับการ์ดแบบที่สอง ซูฮ่าว ยังไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ เขาทำขั้นตอนที่หนึ่งให้เสร็จก่อน
"ขอเพียงทำให้การ์ดใบแรกสมบูรณ์ก่อนแล้วเราถึงจะพูดถึงเรื่องนี้" ซูฮ่าวเริ่มคิดว่า
"ใครเป็นที่ผู้เชี่ยวชาญ ทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ แม้แต่ครูผู้สอนของโรงเรียนยังใช้ได้เพียงระดับเริ่มต้นเท่านั้น"
หลังจากที่เขาคิดว่าอยู่ครูหนึ่ง ซูฮ่าวก็สนึกถึงคนคนหนึ่งที่มีความเป็นไปได้สูงมาก ในการที่จำสำเร็จทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้
เขาต้องยอมรับว่า พี่น้องเฉินเป็นดาวนำโชคของเขาจริงๆ ครั้งล่าสุดที่เขาสามารถเรียนทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับเริ่มต้นได้เขาก็เรียนรู้จากการต่อสู้กับเธอ และคราวนี้เขาจะะได้เรียนรู้จากพี่ชายเธอเฉินเฟิง
เมือง เจียงฮี ตำนานของเมือง
ความคิดของ ซูฮ่าว นั้นง่ายมากในการเข้าเรียนในวิทยาลัย ซานเซียง พวกเขาทั้งหมดต้องเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะแน่นอน! หลักสูตรการสอนการต่อสู้ใน ซานเซียง เป็นอย่างใดไม่ได้นอกจากทักษะการต่อสู้ทางทหาร!
มันคือขั้นที่สามของทักษะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในโลกจนในขณะนี้(มั้ง)
เนื่องจากความปรารถนาของเขาคือ การเรียนทักษะการต่อสู้ทางทหารแม้แต่เฉินเฟิงอาจจะยังไม่สามรถเรียนรู้ทักษะนี้ได้ แต่เขาต้องมีทักษะในการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างแน่ๆ
ดังนั้นตราบที่เขาพบกับทักษะการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เขาจะประสบความสำเร็จ!
สำหรับวิธีของเขา นี่มันเป็นงานที่ง่ายมาก
โรงเรียนขนาดใหญ่แห่งแรกในเมืองเจียงฮี ในช่วงพักระหว่างเรียนในตอนเช้า นักเรียนจะได้รับพักผ่อนร่างกายของพวกเขา ที่ห้องเรียน 326 จะเต็มไปด้วยฝูงชน นี่เป็นเพราะความงามของโรงเรียน เฉิน เยวี่ย อยู่ในชั้นเรียนนี้!
อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นได้เพียงแค่ผู้เข้าชมและไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เธอแต่อย่างใด มีครั้งหนึ่งที่
เฉินเยวี่ย ส่งคนคนหนึ่งที่ติดตามเธอเข้าไปนอนที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหกเดือนเต็ม ตั้งแต่นั้นมาไม่มีนักเรียนคนไหนที่กล้าติดตามเธออีกพวกเขาได้แต่มองจากมี่ไกลๆ
แต่แน่นอน ข้อยกเว้นเช่น ซุนเหยาเตี้ยน
"เยวี่ย ทำไมเราไม่ไปทานอาหารเย็นด้วยกันละคืนนี้ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อวานนี้มีการโจมตีจากกองทัพสัตว์ที่กำลังคลั่ง มันจะเป็นอันตรายมากถ้าเธอไปคนเดียว แต่ถ้าเะอไปกับฉัน ฉันจะสามารถปกป้องเธอได้ "ซุนเหยาเตี้ยน กล่าวอย่างมั่นใจ
นักเรียนรอบ ๆ มองเขาด้วยความรังเกียจ อย่างนายหรอจะปกป้องเฉิน เยวี่ย ความสามารถของ เฉิน เยวี่ยสูงกว่าเขาอย่างมากไม่เพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้น หากพวกเขากำลังเผชิญกับสัตว์ที่กำลังคลั่ง อาจเป็น ซุนเหยาเตี้ยน เองที่จะโดนปกป้อง
ซุนเหยาเตี้ยน มองไปที่เฉิน เยวี่ย ด้วยความอึกอัดใจและไอออกมาก่อนที่เขาจะพูดต่อ "ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของฉันจะไม่เท่าเธอแต่ฉันสามารถรับประกันได้ว่าทุกคนที่ต้องการจะทำร้ายคุณจะต้องก้าวข้ามศพฉันไปก่อน!"
คำกล่าวที่น่าหลงไหลเช่นนี้สามารถใช้ได้กับหญิงสาวให้หลงใหลในตัว ซุนเหยาเตี้ยน อย่างบ้าคลั่งได้เลย
แต่กลับ เฉิน เยวี่ย ยังคงเงียบ ถ้าไม่ได้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ไม่งั้ยเธอคงจะเตะซุนเหยาเตี้ยนลอยขึ้นฟ้าไปนานแล้ว
ปัง
เสียงเปิดประตูห้องเรียน ดังขึ้นโดยฉับพลัน เมื่อหันศีรษะไปพวกเขาประหลาดใจที่เห็นซูฮ่าวยืนอยู่ที่ทางเข้าประตู แล้วเริ่มวิ่งเข้าไปข้างใน
"ซูฮ่าว"
ซุนเหยาเตี้ยนโกรธเป็นอย่างมาก "แกกล้ามาที่ห้องเรียนได้อย่างไรหรือแกต้องการที่จะตาย "
ซูฮาวขี้เกียจเกินไป ที่จะพูดคุยกัยคนพันธุ์นี้ เขาเดินตรงไปหา เฉิน เยวี่ย และดึงแขนเธอออกไปจากห้องเรียน
นักเรียนต่างก็ตะลึง!
F * ck นี่มันเรื่องอะไรกัน
ซูฮ่าวกล้าวิ่งเข้ามาในห้องเรียนของพวกเขาและลากแขน เฉินเยวี่ย ออกไป
ซุนเหยาเตี้ยน ดูพวกเขากำลังจะเดินออกมาจากประตูก่อนที่จะฟื้นตัวจากความมึนงง ความโกรธของเขาได้พุ่งสูงขึ้นและตะโกนว่า "กันเส้นทางของเขาไว้อย่าให้ออกไปได้"
ที่ประตูมีชายสูงกว่า 2 เมตร กำลังขวางหน้า ซูฮ่าว
หลู เว่ย(Luo Wei) ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของ ซูฮ่าว ซึ่งตอนนี้เป็นลูกน้องของ ซุนเหยาเตี้ยน และเป็นคนที่บอกเรื่องขอ งซูหลิง ให้กับ ซุนเหยาเตี้ยน ด้วยความสามารถของเขาที่มี 6 จุด เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าซูฮาวที่ก่อนหน้านี่ที่เขามีพลังเพียงแค่ 3.8 จุด
หลูเว่ย ยืนอยู่ตรงหน้า ซูฮ่าว และกล่าวว่า "ซูฮ่าว นายควรหยุด ... "
"ถอยไปซะ"
ซูฮ่าวขี้เกียจที่จะยุ่งกับเรื่องไร้สาระนี้ ด้วยมืออีกข้างที่จับลาก เฉินเยวี่ยอยู่ จึงใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างส่งหมัดออกไปยังตรงหน้า
"ความเร็วระดับนีั มันอะไรกัน!"
จิตใจของ หลูเว่ย เริ่มตื่นตัว ด้วยมือทั้งสองข้างของเขาพยายามจะปกป้องหน้าอกและป้องกันกำปั้นจากซูฮ่าว
เมื่อ ซูฮ่าว เห็นกำปั้นของเขาถูกป้องกันจึงใช้ขาขวาของเขาเตะออกไปแทน
“ตุบ”
หลูเว่ย ถูกเตะเขาที่กระเพาะอาหาร ร่างกายของเขาถูกส่งออกไปโดยกองกำลังและตกลงไปที่ราวบันไดชั้นสาม เขาเกือบจะตกลงมาจากชั้นบน
ซูฮ่าว หัวเราะเยาะ หลูเว่ย
โดยไม่ไม่มีสิ่งใดหยุด ซูฮ่าว อีกต่อไปและยังคงลาก เฉินเยวี่ย ออกไปนอกห้องเรียนและรีบวิ่งออกไปจากโรงเรียน เมื่อซุนเหยาเตี้ยนวิ่งตามไปที่นั่นเขาก็ไม่สามารถมองเห็นแม้แต่เงาของซูฮ่าว
“ไอ้ขยะ”
ซุนเหยาเตี้ยน ระบายความโกรธของเขาทั้งหมดกลับ หลูเว่ย โดยการเตะไปที่เขา
ที่สวนสาธารณะของเมือง เจียงฮี
ซูฮาวยังคงลาก เฉินเยวี่ย เดินไปทางด้านในของสวน
เฉิน เยวี่ย เพียงมองเขาด้วยความสนใจ เธออยากจะว่าซูฮ่าวที่เป็นคนลากเธอออกไป ระหว่างทางมาที่นี่เขาจับมือเธอไว้ตลอดทาง เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกอาย แต่สิ่งที่ทำให้เธออยากรู้อยากเห็นก็คือสิ่งที่ ซูฮ่าวพยายามจะทำ
ซูฮ่าว ซึ่งเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนประเภทนี้และแน่นอนว่าเขาคงไม่เป็นที่สนใจมัน
พวกเขาเดินต่อไปยังกลางของสวนสาธารณะ เมื่อพวกเขามาถึงศาลาที่อยู่ใกล้ทะเลสาบ ซูฮ่าว ก็หยุดลงลากเธออีก
เฉิน เยวี่ย เดินไปนั่งอยู่บนม้านั่งหิน มองไปที่เขาขณะที่เผยรอยยิ้มอันหวานของเธอ เธอถามว่า "นายต้องการทำอะไร หืมคงไม่ใช่ที่ให้ฉันคิดหรอกใช่ไหม นายต้องการสารภาพรักกับฉัน? "
"เธอรู้ได้ยังไง" ซูฮ่าวมองเธออย่างจริงจัง "ฉันชอบเธอมานานแล้ว หรือเธอดุไม่ออก "
ตาของเฉิน เยวี่ย ก็เปิดกว้างขึ้นและมองไปที่เขาเห็นได้ชัดว่าเธอดูเหมือนจะตกใจกับคำพูดที่ฉับพลันของเขา เธอคิดว่าเขาคงจะล้อเล่น แต่เมื่อมองไปที่การแสดงออกของซูฮ่าวเธอก็พูดออกไปว่า "ซูฮ่าว นายคงไม่ได้คิดจริงจังหรอกใช่ไหม "
ซูฮ่าวมองไปที่ใบหน้าเธอและหัวใจของเขาห่อเหี่ยวลงอยากมากแล้วก็เริ่มถอนหายใจ เฉิน เยวี่ย ไม่ยังอยากจะพัฒนาความสัมพันธุ์ของเขาเพราะเธอยังไม่ใช่แน่ใจกับมัน แม้ว่าในช่วงไม่กี่วันนี้เรื่องต่างๆเกิดขึ้นกับพวกเขามากมาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเขา
"แน่นอน" นายซูฮ่าวเงยหน้าขึ้น ดูใบหน้าที่ขาวบริสุทธิ์ดั่งหยกของเฉิน เยวี่ย เขายังคงกล่าว "เมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มสุดร้อนแรงคนนี้ ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกอยู่งั้นหรอ สำหรับเธอแม้จะสละชีวิตของตัวเองหรือจะให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น"
ยิ่ง เฉิน เยวี่ย ได้ยินคำพุดเหล่านี้ เธอยิ่งรู้สึกคุ้นเคยกับมัน เธอตอบสนองเพียงเล้กน้อย ต่อจากนั้นภายหลังมาก นี่มันไม่ใช่คำสารภาพที่ ซุนเหยาเตี้ยน เคบบอกกับเธอฟังเมื่อ 2 ปี ก่อน เมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกไม่ใช่หรอ
"นายมัน"
เฉิน เยวี่ย เงยหน้าขึ้นมองไปที่การแสดงออกทางสีหน้าของ ซูฮ่าว ทันทีที่ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเธอโดนหลอกโดยเขาอีกครั้งแล้ว
ติดตามงานแปลได้ที่ เพจฝึกหัดแปลนิยาย