บทที่ 3 : การล่าขุมทรัพย์ในคลังสินค้า
บทที่3:การล่าขุมทรัพย์ในคลังสินค้า
ผู้แปล : แปลนิยายกากๆ
ปรับสำนวน : ไม่ได้ปรับ
ตรวจคำผิด : ไม่ได้ตรวจ
หลี่ หู่รู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่ เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า
แม้ว่าฮันนาห์จะดูไม่ถูกกับฮันส์ แต่เธอก็ไม่ได้ไล่พี่ชายของเธอออกไป เพราะบ้านหลังนี้เป็นของพวกเขาทั้งสอง ตอนนี้ฮันส์ก็กลับมาแล้ว หลี่ หู่เขารู้สึกว่าเขาควรจะย้ายออกไปจากที่นี้
เย็นวันนั้น ขณะที่หลี่ หู่กำลังจะออกไปเดินเล่น เขาได้ยินเสียงดังออกมาจากโกดังนั่งเล่น
"... ไม่ว่าเงินค่าเช่าบ้านของไอ้หนุ่มชาวจีนจะสูงขนาดไหน ยังไงก็ต้องขอให้เขาย้ายออกไปจากที่นี้!" นั่นเป็นเสียงของฮันส์
"ย้ายออกไป พี่พูดคำนี้ออกมาได้อย่างน่าตาเฉยได้ยังไง?" ฮันนาห์ด้วยกล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง "พี่รู้ไหมว่าเขาต้องทนทุกข์และลำบากแค่ไหน ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้?"
"ฮันนาห์เธอไร้เดียงสาเกินไป เธอยังไม่รู้ถึงความร้ายกาจของโลกที่แท้จริง... "
"ฮันส์ ฉันรู้เกี่ยวกับความร้ายกาจของโลกภายนอกเป็นอย่างดี นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องดีต่อกันและกัน พระเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า ... "
"หยุดเลยๆ" ฮันส์ขัดจังหวะฮันนาห์ "เธอก็รู้ว่าฉันไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า และมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะขอให้เด็กหนุ่มชาวจีนนั้นออกไป! "
"ฉันรู้ว่าพี่คิดยังไง ฮันส์ฟังฉันนะ ฉันต้องไปทำงานกะกลางคืนตอนนี้ ถ้าฉันกลับมาแล้วไม่เจอหลี่หรือรู้ว่าเขารู้สึกไม่ดี ฉันสาบานเลยว่าจะไล่พี่ออกจากบ้าน พี่คงรู้น่ะว่าฉันพูดจริง! " ฮันนาห์กล่าว
ฮันส์ได้แต่ยอมแพ้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น "ทำไมเธอถึงช่วยไอ้หนุ่มนั้นด้วย? อย่าบอกฉันน่ะว่าเธอตกหลุมรักไอ้หมอนั้น"
ฮันนาหัวเราะเบา ๆ "พี่ก็รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น ความจริงแล้วเมื่อเร็ว ๆ หลี่ หู่ต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และตอนนี้เขาก็เครียดมาก ๆ ด้วย ฉันไม่อยากเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตเขาพัง "
หลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา หลี่ หู่ก็กลับไปที่ห้องของเขาอย่างเงียบๆ มันจะดีที่สุดถ้าเขาไม่ออกไปในเวลานี้
ความห่วงใยของฮันนาห์ทำให้เขารู้สึกขอบคุณเธอมาก เขารู้ว่าตัวเองมันน่าสงสาร แต่หลี่ หู่เป็นหนุ่มชาวจีนที่มีความภาคภูมิใจของตัวเองและเขาไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากความเมตตาของคนอื่น
“แมลงตัวน้อย คืนนี้ฉันจะพานายไปเก็บเหรียญจากท่อน้ำทิ้ง!” หลี่ หู่กล่าวพร้อมกับหันไปมองแมลงตัวน้อย ที่โผล่หัวออกมาจากฝ่ามือเขา
ในสถานการณ์แบบนี้ นี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการหารายได้? เขาจะต้องหาเงิน!
ด้วยแมลงตัวน้อยนี้ทำให้เขาสามารถหาเงินได้หลายทาง แม้การเก็บเหรียญจะเป็นหนึ่งในวิธีการที่น่าเบื่อหน่ายมากที่สุด แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่าจะช่วยให้เขามีเงินจ่ายค่าครองชีพได้เร็วที่สุด
หลังจากฮันนาห์ขับรถออกไป หลี่ หู่ก็คว้ากระเป๋าและเตรียมพร้อมออกไปข้างนอก
ระหว่างที่เขากำลังออกไป เขาเห็นฮันส์นั่งอยู่บนพื้นและกำลังเล่นโทรศัพท์ด้วยความสนุกสนาน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ฮันส์พูดขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้า"สวัสดีหนุ่มชาวจีน! หลังจากนอนหลับไปนาน นายน่าจะหิวแล้วใช่มั้ย?"
หลี่ หู่ไม่ได้รู้สึกดีหรือเกลียดต่อฮันส์ แม้ว่าฮันส์จะอยากให้เขาออกไป แต่อย่างน้อยฮันส์ก็ไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับเขา
หลี่ หู่และตอบว่า "ก็นิดหน่อย มีอะไรเหรอ?"
ฮันส์ลุกขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้ม "ฉันหิวมาก เราไปกินพิซซ่ากันไหม? "
"นายจะเลี้ยง?"
"เชี่ยไรละ! ไม่ใช่ว่าคนจีนทุกคนรวยรึไง ตอนนี้ฉันอยู่ที่ลอสแอนเจลิส ฉันมักได้ยินข่าวชาวจีนไปซื้อคฤหาสน์"
หลี่ หู่ หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและเปิดให้ฮันส์เห็นเหรียญ 1 ดอลล่าร์ 5 เหรียญ
"ฉันมีแค่นี้ นายคิดว่าฉันจะมีปัญญาเลี้ยงนายรึเปล่า?"
ฮันส์กลอกตาอย่างผิดหวัง ก่อนจะหยิบธนบัตรสีเขียวที่มีรูปอเล็กซานเดอร์แฮมิลตันออกมา
ธนบัตร 100 ดอลลาร์จะมีรูปของแฟรงค์ลินอยู่บนนั้น ส่วนธนบัตรที่มีรูปอเล็กซานเดอร์แฮมิลตันอยู่คือธนบัตร 10 ดอลลาร์
"โอ้ว ตอนนี้เราก็มีเงิน 15 เหรียญพอสำหรับพิซซ่าหน้าพริกไทยแล้ว" ฮันส์โชว์ธนบัตรของตัวเอง "และตามสัดส่วนเงิน ฉันจะได้สามในสี่ของพิซซ่า ส่วนนายจะได้หนึ่งในสี่."
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมธุรกิจของนายถึงล้มละลาย คณิตศาสตร์ของนายมันน่าสงสารจริงๆ ฉันจะต้องได้หนึ่งในสาม ส่วนนายได้สองในสาม ตกลงไหม?"
"ใครบอกว่าฉันล้มละลาย ฉันแค่มีปัญหาเรื่องเงินนิดหน่อย ความจริงแล้วฉันกลับมาที่แฟลกสแตฟฟ์ตอนนี้ก็เพื่อเข้าร่วมการประมูล ฉันจะทำเงินจากมัน! "
"เข้าร่วมการประมูล?" หลี่ หู่ตอบกลับ "นายมีเงินพอที่จะซื้อของสะสมพวกนั้น?"
ในความเห็นของเขา การประมูลเป็นเรื่องสำหรับคนรวยที่มีเงินมากจนเหลือ แล้วใช้มันไปชื้อสิ่งของที่ไร้ประโยชน์ เพราะงั้นเมื่อ หลี่ หู่เห็นฮันส์มีเงินเพียง 10 ดอลลาร์ เขาเลยคิดว่าชายตรงหน้าไม่น่าจะมีเงินพอไปชื้อของพวกนั้น
ฮันส์กลอกตาอีกครั้ง - ดูเหมือนว่านี่จะเป็นนิสัยของเขา "ของสะสมอะไร การประมูลที่ฉันจะเข้าเป็นการประมูลพื้นที่เก็บของ!"
"การประมูลพื้นที่เก็บของ?"
"ใช่" ฮันส์พยักหน้า "วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ แฟลกสแตนฟฟ์จะมีพื้นที่เก็บของ 8 แห่งถูกนำออกมาประมูล ฉันได้ข่าวว่าของคราวนี้มีเก้าอี้นวดแคสโรวด้วย“
หลี่หู่ไม่ได้อยู่อเมริกามานาน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่คุ้นเคยกับชีวิตประจำวันและวัฒนธรรมของที่นี่ เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับการประมูลพื้นที่เก็บของ และนั่นก็เป็นข้อมูลทั้งหมดที่เขารู้แล้ว
เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก อเมริกามีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครซึ่งก็คือพื้นที่เก็บของ
เนื่องจากประเทศไม่มีข้อจำกัดในเรื่องถิ่นที่อยู่และประชาชนก็มีอิสระที่จะย้ายไปอยู่ที่ใดก็ได้ในประเทศ ทำให้หนุ่มชาวอเมริกันไม่ชอบซื้อบ้านของตัวเองและต้องการเช่าแทน แต่ทุกครั้งที่พวกเขาจะย้ายที่อยู่ การจะเก็บของไปด้วยก็เป็นเรื่องยุ่งยาก เป็นผลให้ธุรกิจจัดเก็บของเกิดขึ้นและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว บริษัทจัดเก็บสินค้าจะซื้อที่ดินเพื่อสร้างคลังสินค้าและปล่อยให้ลูกค้าเช่าโกดังไว้เก็บสัมภาระไว้
แต่หากผู้เช่าพื้นที่เก็บของไม่ชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด ตามกฎหมายแล้วของที่เก็บอยู่ข้างในจะตกเป็นของบริษัทเจ้าของคลังสินค้า และสามารถจัดการทุกสิ่งทุกอย่างภายในได้ตามที่เห็นสมควร
วิธีที่การที่พบมากที่สุดก็คือการขายให้กับคนด้วยการประมูล ผู้ที่ประมูลพื้นที่เก็บของเหล่านี้ถูกเรียกว่า "นักล่าสมบัติ" หลี่หู่รู้ว่าฮันส์มีธุรกิจของตัวเอง แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นธุรกิจประเภทนี้
หลี่หู่ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการประมูลพื้นที่เก็บของมากนัก เขาเลยถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น "แผนของนายคือเป็นไง นายรู้ว่าเก้าอี้นวดที่บริษัทจัดประมูลอยู่โกดังไหนงั้นหรอ?"
ฮันส์ส่ายหัว "ไม่มีคนรู้ข่าวนี้มากนัก และคราวนี้มีพื้นที่เก็บของถึง 8 โกดังที่ถูกนำมาประมูล และเก้าอี้ก็อยู่ในโกดังใดโกดังหนึ่ง และก็ไม่มีรู้ว่ามันอยู่ในโกดังไหนด้วย มีโอกาสหนึ่งในแปดที่จะเลือกถูก "
"หนึ่งในแปด!? แล้วมันแตกต่างอะไรจากการเล่นหวย?"
"ความแตกต่างนั้นใหญ่มาก โอกาสที่จะถูกห้วยต่ำกว่าหนึ่งในแปดล้านชะอีก,ทีนี่นายเข้าใจรึยัง?"
หลี่หู่ไม่เข้าใจการลงทุนแบบนี้และนั่นเป็นความแตกต่างระหว่างฮันกับตัวเขา เขาเป็นคนที่ชอบเดินบนเส้นทางที่มั่นคง ขณะที่ฮันส์เป็นนักผจญภัยที่ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่สูง
หลี่ หู่ยักไหล่และหันกลับไป แต่ในตอนนั้นเขาเหลือบไปเห็นรอยสักของแมลงตัวน้อยบนฝ่ามือ ทันใดนั้นความคิดนึงก็โผล่ขึ้นมาในหัว
"เฮ้เพื่อน เป็นเรื่องจริงไหมที่ว่าไม่มีใครรู้ว่าเก้าอี้อยู่ในโกดังไหน?"
"มั่นใจสุดๆ!"
"ถ้าฉันสามารถหาคลังสินค้าที่มีเก้าอี้นวดให้นายได้ นายแน่ใจไหมว่านายจะสามารถชนะการประมูลได้?"
"แน่นอน! "
"ถ้างั้นทำไมเราไม่ร่วมมือกันละ? ฉันจะช่วยหาโกดังที่มีเก้าอี้นวดให้นายเอง"