EG บทที่ 177 การจ้างคนดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอน 1 (อ่านฟรี)
ในบรรดาดาราชายในยุคนั้น ดาราที่ตรงกับความต้องการของเฝิงหยู่และหลี่หมิงเต๋อมากที่สุดก็คือ จูซือเหมา เขามีคุณสมบัติครบทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาและผลงานภาพยนตร์ ละครทีวี ละครสั้นที่ล้วนได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วทุกแห่งในประเทศจีน ซึ่งเทียบเท่าได้กับดาราฮ่องกงโจวเหวินฟะเลยทีเดียว
ค่าตัวของดาราฮ่องกงมีมูลค่ามากกว่าดาราของจีนอย่างน้อยสิบเท่า ถ้าจะจ้างดาราฮ่องกง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มีผลมากมายขนาดนั้น เพราะคนที่ดูหนังฮ่องกงมีจำนวนน้อยกว่าคนที่ดูภาพยนตร์และละครของจูซือเหมาเสียอีก
เฝิงหยู่เชื่อว่าถ้าเขาติดต่อจูซือเหมาให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์รถจักรยานยนต์ของเขาได้ ยี่ห้อรถจักรยานยนต์ซงเจียงและยอดขายจะต้องพุ่งกระฉูดแน่ๆ เพราะชื่อเสียงความนิยมของดาราคนนี้และแฟนคลับของเขา แต่จูซือเหมาและหุ้นส่วนของเขาไม่ค่อยได้ถ่ายงานโฆษณาและเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าสักเท่าไร เขาไม่เคยไปแสดงตามงานที่ไนท์คลับแม้ว่าเขาจะได้รับข้อเสนอเป็นค่าตัวจำนวนสูงมากจากเจ้าของไนท์คลับของตาม
หุ้นส่วนหัวล้านของเขาเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงกลางยุค 90 และพูดถึงบางอย่างที่ทำให้คนทั้งประเทศรู้สึกช็อกไปตามๆ กัน
พิธีกรถามว่าข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องค่าตัวสำหรับการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาที่สูงสุดในประเทศจีนและมีคนมาเสนอเงินมากกว่า 10 ล้านหยวนเพื่อให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ตาเฉินหัวล้านตอบว่าเรื่องนั้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาว่าอยากจะรับข้อเสนอในการถ่ายโฆษณาหรือไม่ ชีวิตเขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ถ้าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ เขาก็อาจจะไม่รับแม้ว่าจะเสนอเงินหลายล้านก็ตาม แต่ถ้าเขาอารมณ์ดี แค่เงิน 100,000 ถึง 200,000 หยวนไม่ต้องเยอะมาก เขาก็ยอมตอบรับข้อเสนอเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้
แม้ว่าอัตราค่าตัวในการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาของจูซือเหมาตอนนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็น่าจะสูงเกิน 100,000 หยวน ซึ่งเป็นราคาที่เฝิงหยู่ยอมรับได้ เขารับราคาค่าตัวได้ถึง 1 ล้านหยวนเลยด้วยซ้ำ ถ้าจูซือเหมาสามารถโน้มน้าวให้ตาเฉินหัวล้านยอมตกลงได้ เฝิงหยู่ก็พร้อมจ่ายมากขึ้นเช่นกัน
จูซือเหมาคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจมากเช่นกัน เขาต้องลองใช้สินค้าที่เขาจะเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาก่อน ถ้าเขารู้สึกว่าสินค้าใช้ดีจริงตามที่กล่าวอ้างและไม่ได้หลอกลวงผู้บริโภค เขาถึงจะยอมถ่ายทำโฆษณาให้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเฝิงหยู่ เพราะก็แค่รถจักรยานยนต์เท่านั้น เขาให้ฟรีเลยยังได้!
ตอนนี้เฝิงหยู่กำลังคิดพล็อตเรื่องของโฆษณาอยู่ เขาจะถ่ายทอดคุณสมบัติของรถจักรยานยนต์ซงเจียงให้ทุกคนได้เห็นภายในระยะเวลา 15 วินาที และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำให้จูซือเหมารู้สึกเด่นน้อยลงได้อย่างไร?
เมื่อเห็นครั้งแรก รถจักรยานยนต์ซงเจียงมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม แถมยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น ที่นั่งสบาย ความสูงของที่จับก็สอดคล้องกับความสูงของคนจีน มีถังน้ำมันสำรอง ส่วนด้านหน้ามีกันชนพลาสติกและด้านหลังก็มีบังโคลนยางด้วย
รถจักรยานยนต์ซงเจียงมาพร้อมกับหมวกกันน็อคสองใบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ที่นั่งซ้อนท้าย ทั้งหมดนี้ทำให้คนรู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะซื้อและราคาไม่แพง
หมวกกันน็อคของรถจักรยานยนต์คิดค้นโดยชาวโซเวียตเป็นครั้งแรกและแถมให้ฟรีเมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้ออูราล (Ural) และซันชาย (Sunshine) ต่อมารถจักรยานยนต์ของญี่ปุ่นก็เริ่มแจกหมวกกันน็อคฟรีเมื่อซื้อรถจักรยานยนต์เช่นกัน แต่ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม ก็แถมหมวกกันน็อคฟรีเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น มีแต่รถจักรยานยนต์ซงเจียงเนี่ยแหละที่แถมให้ฟรีถึงสองใบ!
ทันใดนั้นเฝิงหยู่ก็นึกถึงวัตถุประสงค์แรกเริ่มของรถจักรยานยนต์ในยุคนั้น คุณคิดว่าเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายงั้นหรอ?
ไม่ใช่แน่นอน!
วัตถุประสงค์แรกของรถจักรยานยนต์ในยุคนั้นก็คือเพื่อใช้จีบสาวๆ!
การขี่รถจักรยานยนต์ตอนนี้ก็เหมือนกับการขี่จักรยานเมื่อสองสามปีก่อน และก็เหมือนกับการขับรถสปอร์ตในยุคอนาคต โอกาสที่จะจีบสาวๆ ออกไปเดทและได้รับการชื่นชมจากสาวๆ จะเพิ่มมากขึ้นทันที
สถิติจำนวนผู้บริโภคที่ซื้อรถจักรยานยนต์ซงเจียงในยุคนั้นมีอายุระหว่าง 18 ถึง 30 และล้วนแต่เป็นผู้ชายทั้งนั้น แทบจะไม่มีผู้หญิงที่ขี่รถจักรยานยนต์เลย แม้แต่รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก 50 ซีซีก็ไม่มีผู้หญิงที่ไหนขี่
วัยรุ่นจำนวนมากซื้อรถจักรยานยนต์ไม่ใช่เพื่อความสะดวกสบาย แต่เพื่อดึงดูดความสนใจคนอื่นต่างหาก จริงๆ แล้วรถจักรยานยนต์ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการโอ้อวดนั่นเอง เฝิงหยู่ได้ไอเดียที่จะบอกใบ้คนดูโดยใช้อิทธิพลจากดารา
ถ้าเป็นเช่นนี้ เฝิงหยู่ต้องหานักแสดงสาวด้วย และเธอจะต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงเพื่อให้โฆษณาครั้งนี้ประสบความสำเร็จและได้ผลดีที่สุด
นักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นก็คือ หลิวต้าชิ่ง!
เธอเป็นนักแสดงที่เห็นแก่เงินมากที่สุด ซึ่งฉายานี้ได้รับมาจากผู้ชมในปีต่อๆ มาในอนาคต และเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ค่าตัวสูงสุดในประเทศจีน เธอได้รับรางวัลด้านการแสดงมากมาย แต่ก็เคยติดคุกมาก่อน อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการแสดงของเธอยังคงถือว่าดีเป็นเลิศ
ในอนาคตเส้นทางอาชีพการแสดงของเธออาจจะไม่ได้ดีมากนัก แต่ ณ ตอนนี้ทุกคนล้วนชื่นชมเธอ ในปี 1991 เธอทำธุรกิจและก่อตั้งบริษัทมากมายในหลากหลายวงการธุรกิจ เธอสร้างรายได้จำนวนมากในยุค 90
ถ้าจูซือเหมาและหลิวต้าชิ่งร่วมมือกัน โฆษณาชิ้นนี้จะกลายเป็นโฆษณาที่แสดงโดยนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคนั้น เว้นแต่ว่าจะมีใครสามารถเชิญดารารุ่นใหญ่อย่าง จ้าวจงเสียงและหลี่กู่ มาร่วมแสดงในโฆษณาได้ นอกนั้นก็ไม่มีใครสู้ทีมจูซือเหมาและหลิวต้าชิ่งได้แล้ว !
แต่ภาพลักษณ์ของจ้าวจงเสียงและคนอื่นๆ ก็ไม่เหมาะกับรถจักรยานยนต์สักเท่าไหร่
หลังจากที่เฝิงหยู่คิดโครงเรื่อง บทพูด และการแสดงต่างๆ ของโฆษณาเสร็จ เขาก็ไปขอลาหยุดที่โรงเรียนอีกครั้งและเดินทางไปปักกิ่งพร้อมกับอู่จื้อกาง
ดาราสองคนนี้ไม่ได้ทำงานผ่านตัวแทนเพราะพวกเขาถือว่าตัวเองเป็น “ลูกจ้างของรัฐ” จูซือเหมา เป็นนักแสดงของออกัสเฟิรสท์ฟิล์มสตูดิโอ ส่วนหลิวต้าชิ่งเป็นนักแสดงของปักกิ่งฟิล์มสตูดิโอ ถ้าเราไปที่สถานที่ดังกล่าว ก็จะเจอพวกเขาอยู่ที่นั่นแน่นอน
เฝิงหยู่เลือกไปออกัสเฟิรสท์ฟิล์มสตูดิโอก่อน จูซือเหมากำลังซ้อมบทละครอยู่ ซึ่งจะมีการแสดงในวันมะรืน เฝิงหยู่นั่งอยู่ที่สแตนด์มองดูการแสดงของจูซือเหมา ช่างเป็นนักแสดงที่เก่งอะไรเช่นนี้!
ถ้าเทียบกับพวกไอดอลในยุคอนาคต นักแสดงพวกนี้เก่งกว่าเยอะ ทั้งทักษะการแสดงที่ดีเยี่ยม การแสดงบนเวที และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการแสดงท่าทางที่เกินจริงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การซ้อมก็ตาม นี่แหละคือสิ่งที่เฝิงหยู่กำลังตามหาอยู่
หลังจากการซ้อมจบลง ทั้งนักแสดงหญิงและชายก็กลับไปที่ฉากหลังเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เฝิงหยู่กวักมือเรียกจูซือเหมาให้เดินมาหา
“เสี่ยวจู นี่ผู้จัดการเฝิงหยู่และผู้จัดการอู่จื้อกางจากเมืองปิง พวกเขาอยากคุยอะไรด้วยหน่อย”
จูซือเหมามองเฝิงหยู่และอู่จื้อกางอย่างสงสัย เขาไม่ได้รู้จักชายสองคนนี้มาก่อน และพวกเขาก็ยังเด็กมาก แต่ได้เป็นผู้จัดการแล้วงั้นหรอ?
“คุณตามหาผมทำไมครับ? คุณมาจากบริษัทไหน?” จูซือเหมาคิดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อเชิญให้เขาไปแสดงในงานของบริษัท เขาปฏิเสธข้อเสนอมาแล้วมากมายแม้ว่าค่าจ้างจะดีมากก็ตาม เขารู้สึกว่าการแสดงของเขาถูกตีเป็นมูลค่าเงินมากเกินไป ซึ่งไม่ใช่สอดคล้องกับลักษณะนิสัยของเขา
ที่บริษัทของเขาจัดหาอพาร์ตเม้นท์ให้เขาและให้เงินเดือนจำนวนมากพอที่เขาจะดูแลครอบครัวได้ แล้วเขาจะหาเงินไปเยอะๆ เพื่ออะไร? แม้แต่เวลาจะพัฒนาทักษะฝีมือการแสดงของเขาเอง เขายังแทบไม่มีเลย
เฝิงหยู่หยิบนามบัตรออกมาและยื่นให้จูซือเหมา “คุณจูครับ เรามาที่นี่เพื่อเชิญให้คุณไปร่วมแสดงในโฆษณาของเรา ซึ่งก็คือโฆษณารถจักรยานยนต์ โดยมีนักแสดงหญิงที่ร่วมแสดงด้วยคือคุณหลิวต้าชิ่ง!”
“ใครนะครับ? หลิวต้าชิ่ง? โฆษณารถจักรยานยนต์? บริษัทการค้าไท่หัว? คุณกำลังนำเข้ารถจักรยานยนต์หรอครับ?
เฝิงหยู่ไม่ตำหนิจูซือเหมาที่เขาจะคิดแบบนี้ เกือบ 80% ของรถจักรยานยนต์ในยุคนั้นล้วนนำเข้ามาทั้งหมด แม้ว่าจะมีรถจักรยานยนต์ภายในประเทศ แต่การผลิตก็น้อยมาก แถมประสิทธิภาพในการใช้งานก็แย่ การตลาดก็แย่ตามไปด้วย
“เปล่าครับ เราผลิตรถจักรยานยนต์เองในประเทศ โรงงานที่ผลิตรถจักรยานยนต์คือบริษัทเครื่องจักรของเมืองปิง นี่คือรูปภาพรถจักรยานยนต์ของเราครับ คุณลองดูก่อนได้”
ยี่ห้อในประเทศหรอ? เมืองปิง? สินค้าดีๆ แบบไหนกันที่ผลิตจากเมืองในชนบทแบบนั้น? ถ้าเป็นเมื่อสิบปีที่แล้วตอนที่เมืองปิงยังเป็นหนึ่งในเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศจีน ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ตอนนี้มันแทบจะเป็นไม่ได้
จูซือเหมารับรูปภาพมาจากเฝิงหยู่ ว้าว รถจักรยานยนต์คันนี้สวยจริงๆ!
นี่เป็นรถจักรยานยนต์ที่ผลิตในประเทศจริงๆ หรอ?
บริษัทเครื่องจักรจากเมืองปิงสามารถผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพได้ขนาดนี้จริงๆ หรอ?