ตอนที่ 46 เข้าสู่หุบเขาเจ็ดวายุ
จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ ตอนที่ 46 เข้าสู่หุบเขาเจ็ดวายุ
หุบเขาเจ็ดวายุมีพื้นที่อันกว้างขวาง ตั้งแต่ทิศตะวันออกมายังตะวันตกมันมีพื้นที่กว่าพันไมล์ และสี่ร้อยไมล์จากทิศใต้ไปทิศเหนือ มันเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของแคว้นพิรุณ
ภายในภูเขามีสัตว์อสูรอาศัยอยู่มากมาย และมีสมุนไพรหลากหลายชนิด บางทีแร่เหล็กมีค่าบางชนิดที่ใช้สำหรับหลอมอาวุธระดับสูงก็ถูกค้นพบจากที่นั่น เพราะงั้นจึงมีผู้คนมากมายเดินทางไปที่นั่นโดยมีเป้าหมายคือของมีค่าเหล่านั้น อย่างไรก็ตามจำนวนของคนที่ตายจากการเข้าไปยังหุบเขาเจ็ดวายุเองก็สูงมากเช่นกัน
บางคนตายเพราะสัตว์อสูร บางคนตายเพราะสภาพบรรยากาศอันเลวร้าย และก็มีบางคนที่ตายด้วยมือของมนุษย์ด้วยกันเอง
ถึงแม้จะไม่มีใครเคยนับจำนวน แต่ทุกคนเชื่อว่ามากกว่าครึ่งที่ตายในหุบเขาเจ็ดวายุเป็นเพราะมนุษย์ สิ่งที่อันตรายที่สุดในหุบเขาเจ็ดวายุไม่ใช่สัตว์อสูรแต่เป็นมนุษย์ด้วยกันเอง
วันต่อมา หลิงฮันและหลิวอู๋ตงได้มาถึงเมืองสะพานอรุณ จากเมืองนี้พวกเขาสามารถเข้าไปยังหุบเขาได้โดยตรง
เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างใช้เวลา พวกเขาจึงเดินทางโดยใช้ม้า ทั้งสองคนค้างคืนที่โรมแรมในเมืองหนึ่งคืน หลังจากนั้นได้ทิ้งม้าไว้ที่โรงแรมและออกเดินทางไปยังหุบเขาโดยมีสัมภาระนิดหน่อยแบกไว้ที่หลัง
…ถ้าพวกเขาไม่กลับมาภายในหนึ่งเดือน ทางโรงแรมจะสามารถนำม้าของพวกเขาไปขายได้
ค่ำคืนผ่านไป ดวงอาทิตย์ได้ขึ้นสู่ท้องฟ้า หลิงฮันและหลิวอู๋ตงสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไป ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่อาจบรรยายได้
พวกเขาเดินทางไปรอบเทือกเขาเพื่อค้นหาถ้ำหินตามข่าวลือที่ได้ยินมา แต่ถึงแม้พวกเขาจะหามาแล้วเป็นเวลาห้าวันและพบถ้ำมากมาย แต่ทุกๆถ้ำที่เจอก็มีแต่ความผิดหวังอยู่ภายใน
แต่นั่นก็ดูสมเหตุสมผลอยู่ ถ้าถ้ำที่ว่าหาง่ายขนาดนั้น มันก็คงถูกพบโดยคนอื่นไปแล้วไม่ใช่หรือไง?
‘หืม?’
หลิงฮันหยุดเดินชั่วขณะ เขาได้ยินเสียงการต่อสู้อยู่ไม่ไกล
“ไปดูกันเถอะ” หลิงฮันพูดออกไป ถึงแม้นี่จะเป็นชีวิตที่สอง เขาก็ไม่อาจเปลี่ยนนิสัยอยากรู้อยากเห็นได้
ทั้งสองคนเดินตามเสียงและไปถึงลำธารเล็กๆ ในที่ว่างไม่ไกลมากนักมีกลุ่มคนสองกลุ่มกำลังสู้กันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย
“โลกช่างแคบยิ่งนัก!” หลิงฮันส่ายหน้า เขารู้จักหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังสู้อยู่
…พวกมันคือลิ่วตง เชินเพิงจวี จูเซว่อวี่ และคนอื่นๆ พวกเขาเคยร่วมมือกันที่ภูเขาแห่งสมดุลก่อนหน้านี้เพื่อแย่งชิงผลจิตวิญญาณบริสุทธิ์มา เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาพบพวกมันอีก
ในกลุ่มห้าคน ลิ่วตง หลีเฮา และจูเซว่อวี่ได้ทะลวงผ่านระดับรวมธาตุเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เชินเพิงจวีและโจวฉางได้เลื่อนระดับมาถึงหลอมกายาขั้นเก้า พวกมันก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เพราะอย่างไรแต่ละก็ได้ผลจิตวิญญาณบริสุทธิ์ไปคนละผลอยู่แล้ว จึงไม่นับว่าแปลกอะไร
แต่ถึงแม้ฝั่งของพวกมันจะมีจอมยุทธในระดับรวมธาตุสามคนก็ยังเสียเปรียบอีกฝ่ายที่มีจอมยุทธระดับรวมธาตุสี่คนอยู่ดี
สามต่อสี่ พวกมันเสียเปรียบเรื่องจำนวน แถมด้วยความจริงที่ว่าพวกมันเพิ่งจะทะลวงมายังระดับรวมธาตุพลังของพวกมันจึงยังอ่อนแออยู่... ถ้าไม่ใช่เพราะว่าศัตรูของพวกมันดูเหมือนจะต้องการจับพวกมันแบบยังมีชีวิต พวกมันคงจบสิ้นไปนานแล้ว
“ทำไมพวกเจ้าไม่รีบยอมแพ้เสียล่ะจะได้ไม่ต้องทรมาน?” หนึ่งในศัตรูของพวกมันพูดออกมา ฝ่ายศัตรูมีทั้งหมดสี่คน ทั้งสี่คนมีท่าทางที่โหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยจิตสังหาร พวกมันจะต้องคุ้นเคยกับบริเวณนี้เป็นอย่างดีแน่นอน
ลิ่วตงและกลุ่มของมันไม่พูดตอบ และทำการป้องกันต่อไป
ในอดีต คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มคือหลีเฮา ซึ่งตอนนี้เองก็ไม่ต่างกัน มันกวัดแกว่งกระบี่ไปมาไม่หยุด การฟันแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เป็นเพราะหลีเฮาทั้งกลุ่มจึงยังสามารถต้านทานศัตรูมาได้ถึงขนาดนี้
แถมมันยังต้องต่อกรกับศัตรูถึงสองคนอีกด้วย ‘ฉัวะๆ’ด้วยกระบวนท่าที่ทรงพลังจากศัตรูสองคน ทำให้หลีเฮาได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกและหลัง จนมันต้องกระอักเลือด
หลีเฮาตระโกนลั่น ดวงตาของมันกลายเป็นสีเลือด บรรยากาศรอบๆตัวมันกลายเป็นคลุ้มคลั่งราวกับมีอะไรบางอย่างในตัวมันกำลังจะระเบิดออกมา
หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย
นั่นคืออะไรกัน?” หลิวอู๋ตงถามลวกๆ เป็นธรรมดาที่การต่อสู้ระดับนี้จะไม่มีค่าให้นางสนใจมากนัก
“หมอนั่นมีพรสวรรค์ไม่น้อย มันใกล้จะสร้างปราณกระบี่ได้แล้ว” หลิงฮันพูดและขี้ไปทางหลีเฮา
“ปราณกระบี่!” หลิวอู๋ตงช่วยไม่ได้ที่จะตกตะลึง ไม่ว่าจะเป็น‘ปราณ’ของอะไร ก็อยากที่จะสร้างขึ้นมาทั้งนั้น เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการสร้างปราณจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก หากจอมยุทธอยู่ในสถานการณ์อารมณ์ถูกกระตุ้นขึ้นมามากๆ
อารมณ์ที่ว่าเป็นได้ทั้งความสุขและเศร้า ฆ่าฟันและสิ้นหวัง แต่ตัวนางที่มีนิสัยเย็นชา จึงไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนั้นเลยสักครั้ง สุดท้ายนางจึงไม่สามารถสร้างปราณดาบขึ้นมาได้
...จากสิ่งที่นางรู้ ผู้อาวุโสในตระกูลของนางสามารถสร้างปราณดาบขึ้นมาได้เพราะเขาโศกเศร้าจากการที่ภรรยาเสียชีวิตไปด้วยโรคร้าย
ตอนนี้หลีเฮาอยู่ในจุดที่ใกล้จะสร้างปราณกระบี่ได้แล้ว จะไม่ให้นางตกตะลึงและอิจฉาได้อย่างไร?
หลิงฮันยิ้มและพูด “เจ้าไม่จำเป็นต้องท้อแท้ไป ด้วยการชี้แนะของข้า ในเร็วๆนี้เจ้าจะสามารถสร้างปราณดาบได้ มันไม่ใช่เรื่องยากแม้แต่น้อย!” สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่ยากคือการสร้างรัศมีแห่งดาบ ส่วนแก่นแท้แห่งดาบคือการท้าทายที่แท้จริง
ไม่ใช่เรื่องยากแม้แต่น้อย?
หลิงอู๋ตงกรอกตามองบน ทั้งแคว้นพิรุณนี้จะมีกี่คนเชียวที่สามารถสร้าง’ปราณ’ขึ้นมาได้? ขนาดตระกูลหลิวของนาง ยังมีเพียงเจ็ดคนเท่านั้นที่สามารถทำได้!
หลิงฮันยิ้ม นางนั้นไม่รู้ว่าดวงดาวนั้นใหญ่โตเพียงไหน คนที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นพิรุณอย่างมากก็อยู่ในระดับบุปผาผลิบาน... แคว้นพิรุณเรียกได้ว่าเป็นนำก้นบ่อ
ในโลกที่กว้างใหญ่ มีอัจฉริยะอยู่นับไม่ถ้วน คนที่สามารถสร้าง’รัศมี’ขึ้นมาได้คงมีไม่น้อยแน่ หรือบางคนอาจจะสร้าง’แก่นแท้’ขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ
“เจ้าจะไปช่วยพวกนั้น?” หลิวอู๋ตงอดไม่ได้ที่จะถาม
“นี่คือโอกาสหายากของหมอนั่น ถ้าครั้งนี้มันไม่สามารถสร้างปราณกระบี่ขึ้นมาได้ ครั้งหน้าหากโอกาสจะมาถึงคงจะอีกห้าปีหรืออาจจะเป็นสิบปี” หลิงฮันพูดและส่ายหัว “ให้มันแบกรับความกดดันไปอีกหน่อยแล้วกัน”
หลิวอู๋ตงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางไม่คิดว่าหลีเฮาจะโชคดีขนาดนั้น แทนที่จะสร้างปราณกระบี่ได้ มันมีโอกาสจะถูกสังหารภายใต้แรงกดดันที่รุนแรงได้ทุกเมื่อ
“อย่าดูถูกความมุมานะและความตั้งใจของมนุษย์ ภายใต้แรงกดดันนั่น มีโอกาสที่คนเราจะสามารถระเบิดพลังที่น่าเหลือเชื่อออกมาได้!” หลิงฮันยิ้ม
หลิงฮันอดคิดถึงไปยังชีวิตที่แล้วของเขาไม่ได้ เขาใช้เพียงเม็ดยาต่างๆที่หลอมขึ้นเองเพื่อที่จะช่วยให้ทะลวงผ่านและเลื่อนระดับได้อย่างง่ายดาย
เป็นตอนที่เขาไปยังโบราณสถานต่างๆที่ทำให้เขาตระหนักได้ว่าตัวเขามีพลังต่อสู้ที่อ่อนแอ ซึ่งจากการที่ต้องพบเจอกับภัยอันตรายต่างๆโบราณสถานนั่นเองที่ทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งและแน่วแน่ขึ้น รวมถึงทำให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นไปด้วย
เป็นช่วงหลังจากนั้นที่ตัวเขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นจอมยุทธที่ทรงพลัง
“ฟึบ!”
ประกายแสงแห่งกระบี่ได้ตัดผ่านอากาศ คำพูดของหลิงฮันเป็นจริง หลีเฮาที่ถูกต้อนจนมุม สามารถแสดงทักษะกระบี่อันน่าตะลึงออกมาได้ และยิ่งกว่านั้นได้มีประกายแสงพุ่งออกไปพร้อมกับกระบี่ที่หลีเฮากวัดแกว่ง ราวกับว่ามันได้แทงกระบี่ออกไปสองเล่มในครั้งเดียว
มันแทงกระบี่ออกไปสองเล่ม โดยเล่มที่สองคือ...ปราณกระบี่!
“ฉัวะ!”
เหล่าศัตรูไม่มีใครคาดคิดว่าหลีเฮาจะสามารถสร้างปราณกระบี่ขึ้นมาได้ หนึ่งในคู่ต่อสู้ของมันจึงโดนกระบวนท่าของหลีเฮาเข้าไป และด้วยการที่มีปราณกระบี่เสริมเข้าไปด้วย ทำให้ศัตรูเกิดบาดแผลขึ้นที่ไหล่ซ้ายและมีเลือดกระจายออกมา
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*