ตอนที่ 177 วันประกาศผล (FREE)
ฮัน ฉางเฟิง นิ่งไม่พองั้นหรือ?
ไม่อย่างแน่นอน
มันก็เหมือนทุกๆคนที่ถูกจับได้เพราะทำบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่จับได้คือ องค์หญิงปิง หยาง
ปิง หยาง มาที่โรงเรียนหลวงด้วยตัวเอง?!
จุดประสงค์ของนางนั้นชัดเจน ไม่ว่านางจะก่อความวุ่นวายในเมืองเหยียนมากมายเท่าไร แต่นางก็ไม่เคยละเลยเรื่องอำนาจทางการเมืองแม้แต่น้อย
ดังนั้น...
ใบหน้าของ ฮัน ฉางเฟิง ขาวซีด ขณะที่ ปิง หยาง เดินฝ่าผู้คนเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับดาวตกที่พุ่งใส่พื้นโลก
ริมฝีปากชมพูของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ดวงตาของนาง พิจารณา ฮัน ฉาเฟิง ในระยะประชิด
"ท่านฮัน ท่านดูกังวลนะ ... อย่าบอกนะว่าท่านกำลังแก้ไขคำตอบอย่างผิดกฎการทดสอบอยู่?"
แค่คำพูดเดียวที่นางพูดออกมา ทั่วทั้งโรงเรียนหลวง ราวกับพื้นผิวทะเลสาบที่ถูกอุกกาบาตตกใส่ บรรดาผู้ที่อยู่ในห้องต่างสับสน
ปากของ ฮัน ฉางเฟิง อ้าค้างเขาตกใจมากจนตาเกือบทะลุออกมาจากเบ้า
"องค์หญิง ปิง หยาง อย่ากล่าวหาข้าเยี่ยงนั้น ... " หัวใจของ ฮัน ฉางเฟิง อยู่ในความสับสน แต่เขายังคงพยายามรักษาความนิ่งสงบบนใบหน้า
"ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านฮันอย่าทำเป็นเรื่องตกอย่างนี้สิ! ข้าอยู่ที่นี่เพื่อมาเอากระดาษคำตอบของใครบางคนตามตำสั่งของท่านพ่อ" รอยยิ้มของ ปิง หยาง ราวกับดอกไม้บาน หลังจากเห็นท่าทีของ ฮัน ฉางเฟิง
...
ค่ำคืนของเมืองเหยียน ไม่ได้เงียบสงบ แสงไฟในเมืองส่องสว่างจ้าไปทั่ว ผู้คนเดินออกมาจากบ้านอย่างขวักไขว่ ถนนเต็มไปด้วยความคึกคัก
เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองเหยียน ผิวทะเลแดงดูเหมือนจะนิ่งสงบกว่ามาก แสงสะท้อนสีเขียวคลุมไปทั่วผิวทะเลสาบราวกับหยก แสงจันทร์สีเงินเองก็ส่องลงมาเช่นกัน
ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปที่ผิวทะเลสาบตาไม่กระพริบ
เพราะ…
เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงเต้นรำใต้แสงจันทร์ เช่นเดียวกับที่เขาเห็นในหอสมบัติสวรรค์ นางสวมชุดเดิมด้วยรูปร่างที่งดงาม
อย่างไรก็ตามที่นี่ไม่ใช่หอสมบัติสวรรค์ แต่ที่นี่เป็นทะเลแดง
ดังนั้น…
ผู้หญิงคนนี้มาจากไหน?
ฟาง เจิ้งจือ นิ่งงงงันเขาต้องการสังเกตุนางให้ชัดเจน แต่ผ้าคลุมที่ปิดหน้านางอยู่ทำให้เห็นไม่ชัดเจนมากนัก
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกแปลกใจมาก
เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นเคยเหลือเกิน เขาต้องเคยเห็นเธอที่ไหนสักแห่งมาก่อน แต่เขาจำไม่ได้ว่าที่ไหน
นางเต้นรำเบาๆไปบนผิวน้ำ ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องสว่าง ฉากที่แปลกประหลาดทำให้ ฟาง เจิ้งจือ นั้นตกตะลึง หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ ราวกับถูกฟ้าผ่าใส่
อย่างไรก็ตามมันแตกต่างกับตอนที่อยู่ในหอสมบัติสวรรค์ คราวนี้ ฟาง เจิ้งจือ ศึกษานางอย่างละเอียดรอบคอบ ทุกการเคลื่อนไหวของนาง
ดังนั้นเขาจึงตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นเต้นรำอยู่ในพื้นที่หนึ่งเสมอ
ดูเหมือนจะเป็นวงกลม
มันไม่ได้เป็นวงกลมขนาดใหญ่ แต่นางไม่สามารถมารถก้าวเดินออกมาจากวงกลมนั้นได้ การทำอย่างนี้ เหมือนนางกำลังติดอยู่ด้านใน
ฟาง เจิ้งจือ คิดอยากจะตาม เหยียน ซิว มาอย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้น แสงมากมายได้ส่องลงมาจากท้องฟ้า
ราวกับแสงจันทร์หล่นลงมาจากท้องฟ้า
แสงสีขาวบริสุทธิ์ค่อยๆเคลื่อนลงมาจากท้องฟ้า
ทันใดนั้น แสงแบบเดียวกันก็ปรากฎขึ้นมาที่หน้าผากของหญิงนางนั้น มันดูดซับแสงที่มาจากท้องฟ้า
ฟาง เจิ้งจือ นั้นราวกับถูกสะกดจิต ก่อนที่หญิงนางนั้นจะหายไป
ราวกับนางไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ความสงบกลับคืนสู่ผิวทะเลสาบ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เป็นสีแดงเฉกเช่นก่อนหน้า สายลมหอบความหนาวเย็นพัดผ่าน ...
...
สามวันต่อมาตอนสายๆ
ดวงอาทิตย์อันเร่าร้อน ณ ขอบฟ้าทำให้ฉากที่เห็นนั้นเต็มไปด้วยความงดงาม
ที่ประตูเมืองเหยียน ชายหนุ่มสองคนขี่ม้าป่ามังกรหิมะกำลังเข้ามาใกล้
พวกเขานั้นไม่ได้เร่งรีบทำให้ทหารยามที่อยู่หน้าประตูสามารถเห็นได้ว่า พวกเขาเป็นใคร
ไม่มีใครหยุดพวกเขา
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิว เขาไม่ได้ไปสอบถามอะไรมากมาย เพราะเขารู้ว่าเหยียน ซิว กำลังคิดหนักอยู่และในหัวใจของเขาเชื่อมั่นว่า เหยียน ซิว ต้องทำได้แน่นอน
...
ที่ประตูทางโรงเรียนหลวง ผู้คนยืนอัดแน่นกันราวกับฝูงปลา
ผู้เข้าสอบนับไม่ถ้วนต่างยืนตากแดดรออยู่หน้าประตู เพราะวันนี้เป็นวันประกาศผลทดสอบด้านปัญญา
วันนี้เป็นวันสำคัญของพวกเขา
เป็นวันที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล
การทดสอบระดับจักรพรรดินั้นรวมผู้มีความสามารถจำนวนมากจากทั้ง ดินแดนเหลียงตะวันตก เมืองใหญ่ทางใต้ นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา
นั่นหมายความว่าผู้เข้าสอบมากมายที่เดินทางกว่า 1000 กิโลเพื่อมาที่นี่
นอกเหนือจากเหล่าผู้เข้าสอบแล้วพวกเจ้าหน้าที่ของพระราชวังเองก็ปรากฎตัวขึ้นที่นี่ด้วยเช่นกัน
การประกาศผลการทดสอบนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีในการวัดความสามารถของแต่ละคน ความสำเร็จของการได้เป็นกลุ่มแรกนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
"ดูนั่นสิ นั่นคือ ซิง ฉิงซุย แห่งกองตรวจการความมั่นคง" ผู้คนต่างฮือฮา หลังจากนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินมาจากที่ไกลๆ
เขาอยู่ในวัยประมาณ 23-24 ปี ใบหน้าของเขาดูชั่วร้าย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เติบโตมาอย่างสุขสบายแบบใครๆ และปล่อยกลิ่นอายแห่งความหดหู่ออกมาตลอดเวลา
เหมือนกับเสือดำที่พร้อมจะเข้าตขุบเหยื่อในทันที ดวงตาที่เร้าร้อนราวกับเปลวไฟ คิ้วหนาเข้มที่ทำให้เขาดูป่าเถื่อน
"ข้าได้ยินมาว่า ซิง ฉิงซุย อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นกลาง และยังได้รับการดูแลจากท่านซิงแห่งกองตรวจการความมั่นคงอีกด้วย เขาเอาแต่ฝึกซ้อมการรบอยู่เสมอในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในรอบการทดสอบระดับจักรพรรดินี้ เขาอาจจะได้อยู่ในระดับที่ดีก็เป็นได้ "
"ในการทดสอบระดับจักรพรรดิรอบนี้ คงจะได้เห็น ซู ตงหลิน จากสำนักซูแน่นอน"
"ข้าไม่เห็นด้วย แม้ว่า ซู ตงหลิน จะเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ในทีหลัง แต่ความสามารถของเขานั้นก็ยังไม่ได้ถูกทดสอบในสนามรบจริงแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับที่สูง แต่ก็ยังไม่อาจต่อกรกับ ซิง ฉิงซุย ได้
"ซู ตงหลิน มาถึงที่นี่แล้ว!"
ขณะที่พวกเขากำลังถกเถียงกันไปมา ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดจีนโบราณ ก็เดินทางมาถึงที่นี่เขาอายุประมาณ 25-26 ปี ใบหน้าเนียนใสและซีดขาว หว่างคิ้วมีรอยย่นที่เหมือนจะเหนื่อยล้า
ราวกับว่าเขากดดันตัวเองมากจนเกินไป
มีหญิงสาว 2 นางคอยเดินตามหลังเขาอยู่
พวกนางดูมีลักษณะที่อ่อนช้อย คนหนึ่งสวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวเข้ม ในขณะที่อีกคนสวมชุดสีแดงสด
"ดูสิพวกนางดูราวกับเป็นมือขวาและมือซ้ายของ ซู ตงหลิน เลย!"
"ความรักของท่านซูที่มีให้ลูกชายนั้นช่างยิ่งใหญ่จริง พวกนางคอยรับใช้และติดตามดูผลลัพธ์ของเขา ... "
"อย่าทำเป็นปิดบัง เจ้าอิจฉาเขาละสิ?"
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ..."
ผู้คนต่างให้ความสนใจไปที่ ซิง ฉินซุย และ ซูตงหลิน ไม่มีใครสังเกตุดวงตาคู่นั้นเลย เป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงบ ไม่มีประกายแม้แต่เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามดวงตานั้นก็ได้แต่แสดงถึงความสงบนิ่งที่มากเกินไป
เจ้าของดวงตาคู่นี้ดูเหมือนจะไม่ต้องการความสนใจจากผู้อื่น
เขาเพียงแค่ยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ เขาสวมแค่เสื้อธรรมดาพร้อมกับสายรัดสีขาวที่มัดเส้นผมของเขาเอาไว้
ช่างเป็นชุดที่ดูธรรมดามาก
ถึงอย่างนั้นคนธรรมดาคนนี้ก็เป็นคนที่ดึงดูดความสนใจของเหล่าเจ้าหน้าที่หลวงมากมาย เหล่าเจ้าหน้าต่างมองมาที่เขา
อย่างไรก็ตามไม่มีใครเข้าไปหาเขา ในสายตาของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความหวั่นเกรง เกรงกลัวมาจากก้นบึ้งของหัวใจ...
เพจหลัก : Double gate TH