SGS บทที่ 35 – หมาป่าปีศาจ! การต่อสู้ที่แท้จริง!
ถึงแม้วู่หยานไม่ได้ลงมือฆ่า ‘กำแพง’ ด้วยตัวเอง แต่เขาก็มั่นใจ มันตายจนไม่สามารถตายไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
ตอนแรกมันมีร่างกายใหญ่ประมาณ3-4เมตร แต่ตอนนี้ภายใต้แรงอันเหนือมนุษย์ของฮินางิคุ ตัวมันลดลงเหลือแค่เศษหินเล็กๆตามพื้น ฮินางิตุยังคงปิดตาแนนปากกรีดร้องไม่หยุด ทุบพื้นด้วยชิโระซากุระ ดูราวกับว่าเธอแค้นมันแต่ชาติปางก่อน
“……….” วู่หยานและมิโคโตะได้ยืนดูฮินางิคุสติแตกมากว่า5นาทีแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาแค่รู้สึกกลัวนิดหน่อยกับท่าทางบ้าคลั่งของเธอ แต่ตอนนี้หน้าทั้งสองคนเต็มไปเหงื่อเย็นเชียบ
วู่หยานรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ถึงแม้ฮินางิคุจะไม่เหนื่อย แต่พวกเขาทั้งสองคนดูแล้วรู้สึกเหนื่อยแทน ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าหยุดเธอตั้งแต่ตอนนี้
“เอ่อ ฮินางิคุ....” วู่หยานยิ้มฝืนๆ แล้วชี้ไปที่หลุมลึกที่เธอทำ “ไอ้กำแพงนั่นมันแหลกละเอียดไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้อง..เอ่อ...ทุบมันต่อหรอก......”
เธอหยุดหอบหายใจหนัก และเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัวไม่หาย “...แหลก.....แหลกละเอียด.....ตายแล้ว?”
มองดูฮินางิคุที่ยังไม่หายกลัว วู่หยานเริ่มสงสัยในใจ การที่เขาพาฮินางิคุมาด้วยมันดีแล้วจริงๆเหรอ?
ต้องรู้ก่อนว่านี่ยังเป็นแค่ปีศาจตัวเดียว ต่อจากนี้ยังตองเจอปีศาจอีกเป็นกองทัพ ถ้าถึงตอนนั้นฮินางิคุสติแตกอีกละก็.....
แค่คิด เขาก็ตัวสั่น
“มันตายแล้ว เพราะงั้น หยุดทุบพื้นได้แล้ว ฮินางิคุ......” เห็นได้ชัด กับท่านประธานที่บ้าคลั่ง แม้จะเป็นผู้ใช้พลังจิตเลเวลห้าก็ยังรู้สึกกลัว
“ตาลแล้ว.....มันตายแล้ว.....” ฮินางิคุค่อยๆก้มหน้าลงมอง ที่พื้นมีหลุมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง1เมตรที่เกิดจากเธอ นอกจากเศษหินและฝุ่นทราย เธอก็ไม่เห็นตัว ‘กำแพง’ เลย
“อะฮ่าฮ่า....ฮ่าฮ่าฮ่า.....ตายง่ายๆแบบนี้ ปีศาจก็ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน...ฮ่าฮ่า...” ถอนหายใจอย่างโล่งอก ชิโรซากุระก็เปลี่ยนเป็นดอกซากุระปลิวหายไป ยืนเท้าเอวเธอยิ้มแล้วหัวราะแห้งๆ เป็นรอยยิ้มที่ปลอมจนไม่รู้จะปลอมยังไง
“………” ทั้งสองคนรู้สึกมันจะดีกว่า ที่จะไม่ไปขัดฮินางิคุในตอนนี้
วู่หยานเมินฮินางิคุ แล้วเดินมาตรงจุดที่ ‘กำแพง’ มันแงะตัวเองออกมา ทำให้เกิดโพรงซึ่งเป็นทางเข้าขึ้นมา ข้างในมันแคบกว่าทางข้างนอกอยู่ไม่น้อยเลย และทางมันก็ไม่ได้ลึกเข้าไป แต่เป็นลงข้างล่าง ผิวหน้ามันเรียบเนียนมาก ดูเหมือนจะสามารถสไลด์ลงไปได้เลย
“นี่น่าจะเป็นทางเข้าของจริง” มิโคโตะเดินมาข้างๆวู่หยาน มองดูทาง หลังจากได้เจอปีศาจของจริง เธอก็ไม่กลัวพวกมันแล้ว
“คงงั้น....” วู่หยาน พูดอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ “เข็มทิศ มันชี้มาที่นี่ มันก็ควรเป็นทางเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของม่านกักกัน”
“งั้น....เราจะลงไปกันเลยมั้ย?” มิโคโตะหันมาถาม
“อ่า....อันตรายของจริงมันต่อนี้แหละ” จับดาบคุซานางิแน่น วู่หยานรู้สึกได้ในใจกำลังมีอารมณ์พลุ่งพล่าน ลังเลเหรอ? หรือว่ากลัว? ตื่นเต้น?.....
เห็นความรู้สึกซับซ้อนในแววตาวู่หยาน มิโคโตะ พูดอย่างมั่นใจ “ผ่อนคลายหน่อย นายยังมีฉันไปด้วยนะ!”
หันหน้าไปมองมิโคโตะ วู่หยานมองเธออยู่แบบนี้ จนมิโคโตะเป็นฝ่ายหลบสายตาด้วยใบหน้าแดงๆ
“ยะ..อย่าเข้าไจผิดนะ ฉันก็แค่....ใช้แล้ว ถ้านายตาย ฉันต้องตายด้วยไง”
วู่หยานยิ้มขำๆเมื่อเห็นท่าทางมิโคโตะ และนี่ยิ่งทำให้เธอหน้าแดงกว่าเดิม ก่อนที่เธอจะทำเป็นซึนเดเระอีกรอบ วู่หยานก็พูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปก
“อืม ขอบใจมาก มิโคโตะ!”
เธอตะลึงก่อนรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง พร้อมทำเสียงขึ้นจมูก และเงียบไป
“ฉันด้วย! ฉันก็จะช่วยด้วย!” เสียงดังจากข้างหลังทำให้วู่หยานกับมิโคโตะตัวแข็ง ก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆให้
ฮินางิคุเดินมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ในแววตามีความอิจฉาอยู่ ถึงแม้เธอจะยังไม่ฟื้นดี แต่บทสนทนาระหว่างวู่หยานกับมิโคโตะเธอดูอยู่ ฮินางิคุไม่ได้มองมิโคโตะ แต่หันไปถลึงตาใส่วู่หยาน ที่ทำตัวเจ้าชู้
วู่หยานเกาแก้ม ยิ้มแห้งๆให้ฮินางิคุ แต่นี่ยิ่งทำให้เธอไม่พอใจกว่าเดิม
รีบเปลี่ยนเรื่องดีกว่า.....
คิดดังนี้ วู่หยานก็รีบหันตัวไปที่ทางเข้า
“เอาละ ไปกันเถอะ!” พูดจบก็กระโดดลงไป ใช้ประโยชน์พื้นผิวเรียบๆสไลด์ตัวลงไป
“พวกเราก็ไปกันเถอะ ฮินางิคุ!” พูดเสร็จมิโคโตะก็กระโดดตามลงไป ฮินางิคุเหลือตัวคนเดียว ยืนมองทั้งสองคนกระโดดลงไป ก่อนที่เธอจะหันไปมองรอบๆตัวที่ทั้งมืดและเงียบสงัด ฮินางิคุขนลุกรีบกระโดดตามไปอย่างไว
เส้นทางไม่ได้ยาวมากนัก ไม่นาน วู่หยานก็เห็นทางออก ขณะที่สไลด์ตัวออกไป อยู่ๆเขาก็รู้สึกตัวมันโหว่งๆพิกล รีบก้มหน้ามอง ตอนนี้เขากำลังลอยตัวอบู่บนอากาศ แถมยังสูงจากพื้นมาตั้ง10เมตร!
อยู่ๆก็โผล่กลางอากาศ วู่หยานใจหาบวาบ รีบปรับท่าทางก่อนจะลงพื้นอย่างปลอดภัย
“อิย้า!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาเหนือศีรษะเขา วู่หยานเงยหน้ามอง เห็นสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ ‘มิซากะ มิโคโตะ’ กำลังล่วงลงมาตรงหัวเขาพอดี กระโปรงกระพือไปมา กางเกงขาสั้นโผล่เข้ามาในสายตาเขา วู่หยานอึ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบอ้าแขนรับเธอ
(อิย้า Iya = ไม่นะ เสียงร้องเวลาตกใจ)
“ยัยบ้า ทำไมเธอถึงล่วงลงมาได้ล่ะเนี่ย? ไม่ใช้ว่าเธอสามารถใช้พลังแม่เหล็กไฟฟ้า เดินบนกำแพงหรืออะไรทำนองนั้นได้หรอกเหรอ?” มองสาวน้อยในอกตัวเอง วู่หยานพูดไม่ออก
เห็นตัวเองถูกวู่หยานอุ้มในท่าเจ้าหญิง มิโคโตะหน้าขึ้นสีทันที “ฉะ..ฉะ..ฉันใช้ไม่ทัน...”
....ก็เธอไม่มีประสบการณ์สู้จริงนี่นะ......
ถึงแม้มิโคโตะจะLevel 5 แต่ก็ไม่เคยสู้จริงๆมาก่อน ไอ้การต่อสู้ปกติของเธอมันก็แค่แสดงโชว์ ดังนั้นเธอเลยไม่สามารถตอบสนองเหตุการณ์กะทันหันได้ อย่างเช่นตอนนี้?............
เดียวนะ! ถ้ามิโคโตะยังล่วงลงมา งั้นก็หมายความว่า........
“อ้า!!!” เสียงฮินางิคุกรีดร้องดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนที่กำลัง ‘จู๋จี๋’ กันอยู่ตกใจ วู่หยานรีบวางมิโคโตะ ก่อนจะอ้าแขนรับฮินางิคุด้วยท่าเดิม ก่อนจะมองบน
เห้อ เขาไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี......
วางฮินางิคุที่ยังคงไม่หายกลัวลง วู่หยานเดินไปหยิบคุซานางิที่เขาโยนทิ้งไปเมื่อกี้ ก่อนหันมามองสองสาว
“ฉันขอล่ะ ช่วยตื่นตัวกันมากกว่านี้หน่อยได้มั้ย ถ้าฉันไม่ไปรับพวกเธอ ด้วยความสูง10เมตร คิดว่าจะรอดกันงั้นเหรอ?....”
ภายใต้สายตาวู่หยานที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยใจผสมกับล้อเลียน ทำให้สองสาวก้มหน้าลงอย่างเด็กโดนผู้ใหญ่ดุ แต่ก็ไม่นานนัก พวกเธอก็เงยหน้าขึ้นมาเถียง
“เหอะ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร เมื่อกี้ฉันก็แค่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เท่านั้น ครั้งหน้าฉันไม่เป็นนี้แน่.......” มิโคโตะพูด
“ใช้แล้วๆ เมื่อกี้ฉันตอบสนองช้าไปนิดหน่อยเอง นายก็แค่ฉวยโอกาสตอนคนอื่นไม่ทันตั้งตัว แล้วยังกล้ามาสั่งสอนพวกเราอีกเหรอ!” ฮินางิคุพูด
ยัยซึนเดเระสองคนนี่ ....ถึงแม้ฉันจะชอบมากก็เถอะ........
“ฟิ้ว!” อยู่ก็มีเสียงลมกรรโชกดังขึ้น ทำให้ทั้งสามคนตกใจ
วู่หยานตอบสนองอย่างรวดเร็วอุ้มฮินางิคุหลบไป พร้อมกับมิโคโตะ พริบตาก็มีเงาดำพุ่งใส่จุดที่พวกเขาอยู่เมื่อกี้ แล้วหยุดอยู่ตรงนั้น
“ตัวอะไร!” ขณะที่วู่หยานยังอุ้มฮินางิคุ ข้างๆเขามิโคโตะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ วู่หยานรีบหันไปมอง ในสายตาเขาปรากฏหมาป่าตัวใหญ่ ตาสีเขียวกำลังจ้องเขม็งมาที่พวกเขา และปากก็มีน้ำลายไหลไม่หยุด ราวกับว่าเห็นอาหารแสนอร่อย
หมาป่าปีศาจชั้นสูง : เลเวล30
วู่หยานเครียดขึ้นมาทันที ปีศาจเลเวล30 ในตระกูลซากิโนะมิยะคนที่พอจะรับมือมันได้ก็เห็นจะมีแต่อิสึมิ ขนาดเดินมั่วๆยังเจอตัวเก่งขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้นำตระซากิโนะมิยะรุ่นก่อนถึงได้มาตายที่นี่
“นะ...นั่นหมาป่าเหรอ?” ฮินางิคุที่กำลังนอนพิงตัววู่หยานไม่ทันได้รู้สึกเขินอาย เธอกำลังมองหมาป่าด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ปีศาจนี่เป็นแหล่งรวมตัวประหลาดจริงๆ กำแพงบ้างล่ะ หมาป่าบ้างล่ะ.....” มิโคโตะตบมุข
เอ่อ...ขอโทษนะ นี่ใช้เวลามาตบมุขมั้ย? ถึงแม้หมาป่ามันจะทำอะไรเธอไม่ได้ก็เถอะ
“ใครจะจัดการ นายหรือฉัน!” มิโคโตะพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
กับสาวห้าวๆอย่างเธอ การต่อสู้ก็เหมือนแรงกระตุ้นชนิดนึง เพราะก่อนหน้านี้เธอยังกลัวปีศาจอยู่ เลยไม่มีกะจิตกะใจสู้
“ฉันเอง มันไม่คู่ควรให้เธอลงมือ!” วางฮินางิคุลง วู่หยานยกดาบชี้ไปที่หมาป่าปีศาจ
ถึงแม้มิโคโตะลงมือเองจะจัดการมันได้ง่ายๆ แถมเขาก็ยังได้EXPเหมือนเดิมก็เถอะ แต่ว่าเขาควรลงมือด้วย ไม่งั้นถ้าเอาแต่โยนให้คนอื่นจัดการให้ แล้ววันไหนเขาถึงจะเก่งล่ะ?
“โฮก!!” วู่หยานพุ่งตัวเข้าหา มันก็คำรามใส่อุ้งเท้าทั้งสี่ตะกุยพื้นวิ่งเข้าหาเหมือนกัน มันวิ่งเร็วมากจนเกิดเป็นภาพติดตา นัยน์ตาวู่หยานหดลง มองกงเล็บตรงหน้า
วู่หยานยกดาบมากันกรงเล็บมัน แรงมหาศาลส่งผ่านดาบมา ทำให้เขากระเด็นออกไป ขณะที่ที่กำลังลอยตัวเขาก็พลิกร่างกลับมาเอามือกดพื้นใช้เป็นแรงพลัก แล้วพุ่งไปอยู่ตรงหน้ามัน แล้วจับดาบแทงดวงตามัน
“เคร้ง!” วู่หยานสัมผัสได้ว่าดาบกำลังแทงของแข็ง หมาป่าปีศาจยกกรงเล็บมากันดาบเขา จากนั่นก็กำดาบไว้ไม่ปล่อย
สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น หมุนดาบทำให้เกิดสะเก็ดไฟระหว่างกรงเล็บมันกับดาบเขา
“งิง....” หมาป่าปีศาจร้องออกมาอย่างเจ็บปวด รีบปล่อบตัวดาบ วู่หยานได้ดาบคืนมาก็ยกเท้าถีบมัน
“สุดยอดเลย.....หยาน....” ฮินางิคุพูดพึมพำด้วยใบหน้ากังวล
“ก็ไม่เลวนี่ ถ้ามีเวลา ฉันต้องขอสู้กับเขาสักครั้ง!” มิโคโตะพูดยิ้มๆ
ถ้าวู่หยานรู้ว่าตัวเองถูกคุณหนูเรลกันเล็งเป้าไว้ ไม่รู้จะทำสีหน้ายังไง......
ถูกวู่หยานถีบ หมาป่าปีศานดวงตาแดงก่ำ เงยหน้าคำรามด้วยความบ้าคลั่ง กลายเป็นภาพติดตา แล้วมาโผล่ตรงหน้าวู่หยานทันที ตวัดกรงเล็บใส่
ยกดาบมาป้องกัน วู่หยานแทบกระเด็นจากแรงของมัน เขากัดฟันกรอด
ทั้งพลังและความเร็วมันเหนือกว่าหมด ยังดีที่ปฏิกิริยาตอบสนองมันช้ากว่า ไม่งั้นเขาคงแพ้ไปแล้ว......
เส้นเลือดปูดขึ้นตามแขนโชว์ว่าวู่หยานได้ฝืนใช้แรงมากกว่าปกติ ถึงแม้เขาจะกันการโจมตีของมันได้ แต่เพราะด้านกำลังมันเหนือกว่า ทำให้เขาถูกดันถอยหลัง
กำดาบในมือแน่น วู่ออกแรงมากกว่าเดิม ทำให้ตัวเขาหยุดถอยได้สำเร็จ เงยหน้ามอง เขาเห็นมันกำลังแยกเขี้ยวด้วยระยะประชิดทำใหน้ำลายมันแทบโดนหน้าเขา วู่หยานจ้องตามันกลับอย่างเย็นชา
ในเมื่อทั้งพลังและความเร็วเขาด้อยกว่า ถ้ายังฝืนสู้ต่อเขาแพ้แน่ ดังนั้นต้องรีบจบการต่อสู้นี่!
ระอองแสงเริ่มรวมตัวล้อมรอบใบดาบเขา บรรยากาศสั่นสะเทือน วู่หยานฉีกยิ้มแล้วตะโกนออกมา
“ดาราพลิกสวรรค์!!”
แสงรอบๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นจันทร์เสี้ยว บรรยากาศก็กลายเป็นใบมีดแหลมคม คลื่นดาบพุ่งใส่ตัวหมาป่า เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น.......
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล มีกลุ่มลับแล้ว