GMC ตอนที่ 4 การควบคุมร่างกาย
GMC ตอนที่ 4 การควบคุมร่างกาย
ดวงตาของซูฮ่าวโผล่ขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนเขาจะสามารถสกัดการโจมตีได้อย่างง่ายดายและโต้กลับด้วยเทคนิคเดียวกัน
คราวนี้เฉิน เยวี่ย รู้สึกประหลาดใจจริงๆ เธอมั่นใจมากว่าความสามารถของซูฮ่าวมีเพียง 3.8 เท่านั้น แต่ความสามารถในด้านทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับสูงดังกล่าวได้เกินความคาดหมายของเธอ
เธอไม่คิดว่าเขาจะสามารถเรียนทักษะการต่อสู้พื้นฐานขั้นกลาง มันทำให้เธอตกใจจริงๆ "ชายคนนี้ลึกลับจริงๆ ดูสิว่านายได้เรียนทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับกลางถึงขั้นไหนแล้ว "
“ยะ!”
เฉิน เยวี่ย โจมตีเขาอย่างต่อเนื่องด้วยทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับกลางของเธอที่ไร้ที่ติ น่าแปลกใจที่ซูฮ่าวยังคงตอบโต้ทุกการโจมตีของเธอได้ ในไม่ช้าเขาก็สามารถทำให้เฉิน เยวี่ย อยากจะสู้อย่างจริงจังกับเขา
"ไม่เลวเลยความเชี่ยวชาญในทักษะของคุณค่อนข้างแข็งแกร่ง" แน่นอนว่าเฉิน เยวี่ย ไม่ต้องการที่จะยอมรับการสูญเสียความตั้งใจของเธอ ดังนั้นเธอจึงแสร้งทำเป็นว่าไม่ใส่ใจและในการประเมิน ซุฮ่าวแทน
อย่างไรก็ตามในอีกสองนาทีต่อมาซูฮ่าวสามารถเอาชนะในการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าของพวกเขา แม้ว่า เธอจะเอาชนะเขาอย่างง่ายดายถ้าใช้ทุกสิ่งที่เธอมีแต่เธอไม่ทำ
เฉิน เยวี่ย เริ่มท่จะเร่งความเร็วขึ้น เธอหลบหลีกอย่างรวดเร็วในขนาดที่ยังคงใช้ทักษะการต่อสู้พื้นฐาน "ลองดูสิว่าคุณจะทนต่อสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างไร"
“ปัก ปัก !”
กำปั้นทั้งสองถูกส่งไปที่ร่างกายของซูฮ่าว แต่น่าเศร้าสำหรับ เฉิน เยวี่ย เพราะเขาสามารถกันและหลบหลีกได้ทั้งหมดและยังสามารถโต้ตอบเธอกลับมาอีกด้วย
"ทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับสูง!" เฉิน เยวี่ย เปิดทั้งสองตาที่มีเสน่ห์ของเธอกว้างเป็นสัญญาณของหารตกตะตึงในสายตาเธอ ซูอ่าว เข้าใจทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับสูงแล้วงั้นหรือ
ซูอ่าว จมอยู่กับการต่อสู้ครั้งนี้ 1 หมัด 2 หมัด เมื่อเขาโต้กลับด้วยทักษะการต่อสู้พื้นฐานระดับสูงโดยไม่ได้ตั้งใจ จิตใจของเขาจมอย่ที่หมัดแต่ละหมัดที่ส่งออกไป ทักษะต่างๆของทักษะการต่อสู้พื้นฐานขั้นต่ำ กลางหรือสูงก็ถูก ซูฮ่าวหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกันเป็นทักษะของตัวเขาเอง
เฉิน เยวี่ย ไม่กังวลถึงความแตกต่างอีกต่อไปเธอได้ใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสูงในทันทีและระดับอื่นในทันที เธอแสดงเทคนิคการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบที่ลื่นไหลดังสายน้ำ เธอต่อสู้ผสมผสานกันเป้นอย่างดีและดูสสวยงาม
นี่เป็นการต่อสู้ที่แท้จริง!
สำหรับ ซูฮ่าว เขาไม่ได้ออมแรงไว้อีกต่อไป บางครั้งในระหว่างการป้องกันและการโต้กลับของเขา เขาได้รวมทักษะหลายชุดของการเคลื่อนไหวทักษะระดับต่ำ กลางและขั้นสูงเข้าด้วยกัน การเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้ เฉิน เยวี่ย ยากที่จะถตอบโต้กับ ซูฮ่าว ได้
เฉิน เยวี่ย อยู่ในสภาพที่น่าสังเวช แต่เนื่องจากเธอสังเกตเห็นว่าซูฮ่าวอยู่ในสถานะการเรียนรู้ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจทักษะเธอจึงสู้กับเขาต่อไป
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ซูฮ่าว ก็หยุดโจมตี เขาประหลาดใจมาก ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ!
เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาขะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วถ้าไม่ได้ต่อสู้อย่างต่อเนื่องกับ เฉิน เยวี่ย มานานกว่า 1 ชั่วโมงเขาได้รับการควบคุมทักษะใหม่ ๆ ที่เขาได้รับ
ทฤษฎีการต่อสู้, 100 คะแนน!
ความสามารถของเขาในที่สุดก็ขึ้นไปถึง 5.0 จุด
“He!”
"ย้า!"
ซูฮ่าว รู้สึกว่าหมัดของเขาแต่ต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
"อัจฉริยะ ซู มาที่นี่และช่วยฉันลุกขึ้นยืนได้แล้ว" เสียงหวานใสดังมาจากข้างๆเขาทำให้ ซูฮ่าว สังเกตเห็น เฉิน เยวี่ย ที่ปกคลุมไปด้วยเหงื่อและนั่งพิงอยู๋มต้ต้นไม้
ซูฮ่าเดินไปยัง เฉิน เยวี่ย และช่วยเธอให้ยืนขึ้น
เหตุที่ เฉิน เยวี่ย เหนื่อยล้าก็เพราะเขา
เพื่อที่จะรับมือกับเขา เฉิน เยวี่ย จึงลดระดับความแข็งแกร่งของเธอลงในขณะที่ ซูฮ่าว กำลังใช้เต็มที่ เหตุที่เธอทำเช่นนั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะทำร้ายซูฮ่าวการทำเช่นนั้นยากยิ่งกว่าการใช้พลังเต็มที่เสียอีก
ซูฮ่าว ก็ไม่คาดไม่ถึงเช่นกันว่าความสามารถเขาจะทำให้เธอกดดันได้
"นั่น ฉันเสียใจจริงๆ"ซูฮ่าวขอโทษอย่างเขินอาย
"นายไม่ต้องรู้สึกเสียใจ แต่ทำนายถึงซ่อนความสามารถที่แท้จริง? "เฉิน เยวี่ย มองเขาอย่างงุ่มงง "ในเมื่อนายมีความสามารถระดับนั้นทำไมถึงยังขอคำเนะนำจากฉัน?"
"ตอนแรกผมก็ไม่ได้ชำนาญนักแต่ได้เรียนรู้จากการต่อสู้ที่ผ่านมา "ซูฮ่าว หัวเราะขณะที่มองไปที่เหงื่อไหลไปทั่วร่างกายของเธอ "ฉันเป็นหนี้เธอมาก ขอบคุณ"
เฉิน เยวี่ย ยิ้มให้เขา "เพียงได้ต่อสู็กับนายก็ดีมากแล้วถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับฉัน"
เพียงผ่านไป 2 - 3 นาที เธอก็สามารถพื้นตัวได้อย่งรวดเร็ว
" กลับไปโรงเรียนกันเถอะ "เฉิน เยวี่ย ลุกขึ้น
"เดี๋ยวก่อนสิ .. " ซูฮ่าวหยุดเธอ
"อะไร?" เฉิน เยวี่ย ถามอย่างสงสัย
ซูฮ่าวชี้ไปที่ยอดเขาแฝดสีดังเชอรี่ของเธอ เมื่อเฉิน เยวี่ย มองลงมาแก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสด
การต่อสู้ทำให้เหงื่อของ เฉิน เยวี่ย ออกมาเป็ฯจำนานมาก เสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อและแนบชิดกับร่างกายของเธอ ตอนนี้สามารถมองเห็นยอดเขาแฝดทั้งสองของเธอได้อย่างชัดเจนมันกลมสวยงาม มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะต่อต้านสิ่งล่อลวง ไม่ให้เตะต้องเธอและเป็นอาหารตาสำหรับเขา
"นายยังจะยืนมองอยู่ได้รีบถอดเสื้อของนายมาให้ฉัน "เฉิน เยวี่ย ทำท่าอุกอาจและบังคับให้ซูฮ่าวถอดของเขาออกแล้วนำไปให้เธอ หลังจากที่เธอสวมชุดนักเรียนของซูฮ่าวแล้ว เฉิน เยวี่ย รู้สึกสบายใจมากขึ้น
หลังจากสู้กับเสร็จห็นได้ชัดว่าเธอเหงื่อออกมาก แต่เธอก็คงจะคิดไม่ถึงเรื่องนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าการสู้กับซูฮ่าวในวันนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้เกิดขึ้น
"นายตั้งใจดูใช่ไหม?" เฉิน เยวี่ย ถามอย่างไม่พอใจ
"เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน พี่ชายเคยบอกแล้วว่าจะขายทักษะแต่ไม่ขายตัว "ซูฮ่าวพูดร่าเริงชเิงล้อเล่น เพื่อผ่านช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจ
จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่โรงเรียนด้วยกัน
แต่เป็นครั้งแรกความรู้สึกมคนทั้งสองผูกพันกัน
สำหรับซูฮ่าวเขาก่อนหน้านี้เขาจะไม่กล้าคิดที่จะมีความสัมพันธ์อันเป็นพิเศษคิดแค่มิตรภาพอันธรรมดาระหว่างพวกเขา
อย่างไรก็ตามตอนนีั้เขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของตนพร้อมกับพลังความเชื่อมั่นของเขาก็เติบโตขึ้นเช่นกัน เป็นครั้งแรก ซูฮ่าว มองไปที่สาวสวยข้างๆเขาอย่างใกล้ชิดและคิดว่าเธอเป็นคนที่สวยที่สุดในโรงเรียน
เมื่อพวกเขามาโรงเรียนด้วยกันฉากนี้จะทำให้เกิดเรื่องซุบซิบในหมู่นักเรียน
"เชี่ย ที่เฉิน เยวี่ยใส่อยู้คงไม่ใช่เสื้อของ ซูฮ่าวหรอกใช่ไหม"
"ไม่จริงสายตาแกคงเพี้ยนไปแล้ว แกก็รู็ว่านั้นคือใครเธอคือ เฉิน เยวี่ย สาวสวยอัจฉริยะ ประจำโรงเรียนเราเลยนะ ได้ยังไง นั้นมันคือ เสื้อ ของซูฮ่าวจริงๆ "
ในมุมหนึ่งของศาลาในโรงเรียนใบหน้าของซุนเหยาเตี้ยนดูบิดเบี้ยว ใบหน้าของเขาโกรธเกี้ยวและทั้งสองกำหมัดของเขาแน่นตาของเขาแสดงเจตนาสังหาร
"เฉิน เยวี่ย ฉันได้พยายามเอาใจใส่เธอมาตลอดหลายปีแต่เธอกลับไมาสนใจ แต่พอไอ้ขยะนั้นเธอกับไปสนใจมัน "ซุนเหยาเตี้ยน กล่าวไม่พอใจ
พี่น้องสองคนยืนเงียบ ข้างๆเขา ด้วยความกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะเปิดปากของพวกเขา
เฉิน เยวี่ย ที่สวมเสื้อของ ซูฮ่าวเนื่องจากเสื้อผ้าเปียกของเธอ และการที่เธอเดินเข้าโรงเรียนพอกับซูฮ่าว เมื่อ ซุนเหยาเตี้ยนได้ดูฉากนี้เขาก็คิดทันทีว่าพวกเขาทำบางสิ่งบางอย่างกัน
"รอดูว่าพ่อของแกคนนี้จะลงโทษแกยังไง!" ซุน เหยาเตี้ยนสาปแช่ง
ชายคนหนึ่งกลัวตัวสั่นด้วยความกลัวขณะที่เดินไปหาเขา ด้วยรูปร่างที่สูงประมาณ 1.9 เมตรชายคนนั้นเดินไปยืนอยู่ข้างๆซุนเหยาเตี้ยนนี้และตอบว่า "ครับ เจ้านาย"
"ฉันได้ยินมาว่าแกและซูฮ่าวเป็นเพื่อนกันหรือ?" ซุนเหยาเตี้ยนถามอย่างประหลาดใจ
"ไม่ใช่มันไม่ใช่แบบนั้นครับ" หลิว(Liu Wei)เหว่ยโบกมือของเขาอย่างรวดเร็วและอธิบายว่า "พวกเราสนิทกันช่วงมัธยมต้น ตอนนี้อยู่มัธยมปลายมาผมไม่ได้พูดกับเขามาก แน่นอนเนื่องมาจากความอ่อนแอของเขา. "
"ข้าไม่สนใจเรื่องของแก!" ซุนเหยาเตี้ยน ยังคงสบถด้วยความรังเกียจ "แกต้องว่าฉันว่ามีอะไรเป็นสิ่งสำคัญของเขา"
"นี่ ... นี่ ... " หลิว เหว่ย ลังเลที่จะตอบ
"พูด!" ซุนเหยาเตี้ยนปล่อยแรงกดดันโดยใช้พลังที่ถึง 8 จุดออกมาทำให้ หลิวเหว่ย สั่นอย่างเกรงกลัว
น้องสาวของเขาเป็นคนสำคัญที่สุดของเขา นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเรียนของเราด้วยเช่นกัน "หลิวเหล่ยรีบกล่าว
“โอ้? น้องสาว?”ดวงตาของนายสุกรีนกระพริบด้วยเจตนาร้าย "เธอชื่ออะไร?"
"ซูหลิง!"
"ซูฮหลิง?" ซุนเหยาเตี้ยน ตะลึง "เด็กปีสองที่มีพรสวรรค์?"
"ใช่แล้วล่ะ"
"ขยะแบบนี้กลับมีน้อวสาวที่มีพรสวรรค์เช่นนั้นรึ"ซุนเหยาเตี้ยน ลังเลเล็กน้อย ซูหลิงไม่ได้เป็นคนธรรมดา เธอเป็นปีสองที่มีความสามารถเธอมีพลังมากกว่า 8 จุด นั่นหมายความว่าเธอเร็ว ๆ นี้จะถึง 9 จุดอย่างแน่นอน
เธอเป็นที่จับตามองของโรงเรียน ถ้าเขากล้าที่จะทำอะไรกับซูหลิงเขาก็มั่นใจได้ว่ากลุ่มแฟนคลับของซูหลิงจะต้องถลกหนังเขาแน่นอน เมื่อคิดถึงคนโง่เหล่านั้น ซุนเหยาเตี้ยน เริ่มมีเหงื่อเย็น
อย่างไรก็ตามเขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ซูฮ่าวไปเช่นนั้น
ซุนเหยาเตี้ยน ลังเลและต่อเขาก็กดนาฬิกาข้อมือซ้ายเหมือนโทรศัพท์มือถือ
“ปิ้ง!”
หน้าจอเสมือนปรากฏขึ้น เมื่อเทียบกับนักเรียนคนอื่นที่ใช้โทรศัพท์มือถือประเภทเก่าแล้ว ซุนเหยาเตี้ยน เป็นส่วนน้อยของเยาวชนที่ใช้รุ่นใหม่
หลังจากที่เขาเลือกหมายเลขแล้ว ซุน เหยาเตี้ยนก็โทรออก ไม่กี่วินาทีต่อมาหน้าของคน คนหนึ่งก้ปรากฏขึ่นที่ หน้าจอเสมือนจริง ด้วยรูปทรงที่ที่ ประทับใจ ผิวคล้ายทองแดง ดวงตาที่เย็นชาของเขามองไปที่ ซุนเหยาเตี้ยน แล้วถาม"มีอะไร?"
"ที่ชาย เฟิง(Yifeng) ฉันสังเกตเห็นว่า เยวี่ย(Yiran) และชายคนหนึ่งกำลังเข้าไปโรงเรียนด้วยกัน" ซุนเหยาเตี้ยน หยุดสักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเติมเชื้อไฟ "ด้วยท่าทางของพวกเขามีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นแน่นอน"
"ฉันรู้เรื่องนี้แล้ว" คนที่แต่งตัวประหลาดในหน้าจอเสมือนพยักหน้าและปิดการสื่อสารทันที
ปฏิกิริยาดังกล่าวทำให้ ซุน เหยาเตี้ยน โกรธมาก "ซูฮ่าวแม้ว่าข้าจะไม่สามารถทำอะไรแกได้ แต่ใช่ว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ "
ที่ไหนสักแห่งในเมือง เจียงฮี
เฉินเฟิงได้ปิดการสื่อสารด้วยด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มบนปากของเขา "ซุน เหยาเตี้ยนขยะแบบแกยังกล้าที่จะให้น้องสาวของฉันไปสนใจแก "
"อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ผมเชื่อว่าเขาไม่กล้าที่จะโกหกผม ดูเหมือนว่ามันจำเป็นสำหรับผมที่จะไปไปดู "
หลังจากที่ได้คิดอย่างนี้เฉินเฟิงได้เริ่มใช้รถสปอร์ตรุ่น จำกัด ของเขา กลางฟ้ามีแสงเรืองแสงที่ส่องและพุ่งหายไปในทันที