EG บทที่ 176 ขายต่อช่วงเวลาโฆษณาของสถานี CCTV (อ่านฟรี)
หลังจากที่ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์แล้ว เฝิงหยู่ก็รีบเตรียมโฆษณาทันที สัญญาโฆษณาระหว่างสถานี CCTV และบริษัทการค้าไท่หัวระบุไว้ว่าบริษัทการค้าไท่หัวมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาโฆษณาได้ตราบใดที่ผลิตภัณฑ์นั้นยังจำหน่ายโดยบริษัทการค้าไท่หัวและโฆษณานั้นเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการโฆษณาของประเทศ
เฝิงหยู่ใช้จ่ายเงินจำนวนมากสำหรับการซื้อช่วงเวลาโฆษณา แต่ก็เป็นการเพิ่มยอดขายเครื่องทำความชื้นด้วย เฝิงหยู่รู้สึกว่าตอนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความถี่ในการโฆษณาสูงมากขนาดนั้น เครื่องทำความชื้นไม่เหมือนกับพวกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และตลาดก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น หลายครอบครัวมีเครื่องทำความชื้นเพียงหนึ่งเครื่องก็เพียงพอแล้ว เขาตั้งใจที่จะลงโฆษณาแค่ 2-3 ช่วงสำหรับเครื่องทำความชื้น และเก็บอีกหนึ่งช่วงโฆษณาไว้ให้รถจักรยานยนต์
แน่นอน ก่อนที่จะเปลี่ยน โฆษณา เฝิงหยู่ต้องคุยเรื่องค่าโฆษณากับหลี่หมิงเต๋อก่อน
.........
“อะไรนะ? ทำไมค่าโฆษณาถึงได้แพงขนาดนี้? ตั้ง 5 ล้านเชียวหรอ? โฆษณาแค่ไม่กี่วันเองนะทำไมถึงแพงขนาดนี้?” หลี่หมิงเต๋อตะโกนด้วยความตกใจ
เฝิงหยู่บอกเขาว่าเปลี่ยนให้โฆษณาไปอยู่ในช่วงเวลาที่มีผู้ชมมากที่สุดเพื่อโฆษณารถจักรยานยนต์ ซึ่งรับรองว่าทั้งประเทศจีนจะต้องได้เห็นรถจักรยานยนต์รุ่นซงเจียงภายในระยะเวลาไม่นานและจะเพิ่มยอดขายอย่างมากด้วย
ในตอนแรก หลี่หมิงเต๋อก็ยังรู้สึกพอใจ เขาคิดว่าเฝิงหยู่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขายินดีที่จะเปลี่ยนโฆษณาจากเครื่องทำความชื้นเป็นรถจักรยานยนต์แทน แต่เมื่อเฝิงหยู่พูดถึงค่าโฆษณา หลี่หมิงเต๋อก็โมโหขึ้นมาทันที!
“ค่าโฆษณา 5 เดือนเท่ากับ 5 ล้านหยวน ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลนะครับ” เฝิงหยู่กางแขนออกแสดงทีท่าว่าตัวเองเป็น “คนที่มีเหตุผล”
“5 เดือน 5 ล้าน สมเหตุสมผลตรงไหนกัน?” หลี่หมิงเต๋อตะโกน
เฝิงหยู่หยิบตารางออกมาวางบนโต๊ะ “ผู้จัดการหลี่ ลองดูตัวเลขนี้สิครับ ข้อมูลนี้บันทึกตั้งแต่เริ่มโฆษณาเครื่องทำความชื้นที่สถานี CCTV ยอดขายของเครื่องทำความชื้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือส่วนแบ่งการตลาดของเดือนพฤษภาคม และนี่ของเดือนมิถุนายน นี่คือผลจากการโฆษณากับสถานี CCTV อย่าบอกผมนะว่าการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ไม่คุ้มกับราคาที่จ่ายไป?”
“ไม่ต้องมาหลอกผมเลย เครื่องทำความชื้นได้รับสิทธิบัตร และไม่มีสินค้าอื่นที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าการโฆษณาจะมีประสิทธิภาพ แต่คุณก็พูดถึงผลลัพธ์เวอร์เกินจริงไป แถมตารางรายงานส่วนแบ่งการตลาดก็จัดทำขึ้นโดยลูกน้องของคุณเอง ใครจะไปรู้ว่ามันถูกต้องหรือเปล่า? คุณเอาตัวเลขกับปริมาณยอดขายมาโชว์ให้ผมดู แค่ดูผมก็รู้แล้วว่าคุณกำลังโกหก”
หลี่หมิงเต๋อเคยอยากรู้ว่าเครื่องทำความชื้นขายได้กี่เครื่องและได้ผลกำไรเท่าไหร่ เขาเคยถามเฝิงหยู่แล้ว แต่เฝิงหยู่ปฏิเสธที่จะบอกเขา เขาลองไปถามโฮวไฮ่ถาวและหลี่ซื่อโหยว แต่ก็ได้รับคำตอบเหมือนกัน พวกเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขให้เขาได้รู้
“คุณจะโชว์ตัวเลขยอดขายสินค้าให้คนภายนอกดูหรือไง?” เฝิงหยู่ถามกลับ “เอางี้ ผมจะให้คุณดูตัวเลขยอดขายของพัดลมไฟฟ้าเฟิงหยู่ บริษัทการค้าไท่หัวเป็นเจ้าของสินค้านี้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นผมจึงสามารถเปิดเผยข้อมูลนี้ให้คุณรู้ได้”
เฝิงหยู่หยิบรายงานที่เขาเตรียมไว้ออกมาและโชว์ให้หลี่หมิงเต๋อดู
“ลองดูนะครับ ยอดขายพัดลมไฟฟ้าเฟิงหยู่เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังจากที่เริ่มโฆษณาในสถานี CCTV 10 เท่านะครับ!” เฝิงหยู่ขึ้นเสียงสูง
“ก็นั่นมันช่วงฤดูร้อนพอดี มันไม่เหมือนกันและเอามาใช้เป็นหลักฐานข้อพิสูจน์ไม่ได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น คุณใช้ค่าโฆษณาสำหรับพัดลมไฟฟ้าไปเท่าไหร่กัน? ผมมั่นใจว่าไม่ถึง 1 ล้านหยวนต่อเดือนหรอก!”
อันที่จริง เฝิงหยู่ทำโฆษณาเพื่อบริษัทของตัวเอง และเขาก็คำนวณทุกอย่างด้วยตนเอง การโฆษณาครั้งนั้นใช้เงินประมาณ 200,000 หยวน และเขาสามารถเพิ่มยอดขายและได้ผลกำไรสองสามแสนหยวน นอกจากนี้เขายังสร้างชื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ซึ่งก็เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดตัวพัดลมไร้ใบพัดในปีหน้า
เขาต้องให้คนรู้ว่าพัดลมไฟฟ้ายี่ห้อเฟิงหยูดีที่สุดในประเทศจีน เมื่อใดก็ตามที่คนพูดถึงพัดลมไฟฟ้า จะต้องนึกถึงยี่ห้อเฟิงหยูก่อนเป็นอันดับแรก!
เฝิงหยู่เป็นเจ้าของพัดลมไฟฟ้ายี่ห้อเฟิงหยูทั้งหมด และเขาอยากจะเขียนตัวเลขอะไรก็ได้ที่เขาต้องการในรายงาน ตัวอย่างเช่น รายงานปลอมฉบับนี้
“ไม่ใช่ 1 ล้านหยวนหรอครับ? คุณดูดีๆ ค่าโฆษณาตั้ง 1.2 ล้านหยวน! นี่ผมลดให้คุณละนะ” เฝิงหยู่ตะโกนพร้อมกับโบกรายงานไปมา
“อะไรนะ? 1.2 ล้านหรอ? เป็นไปไม่ได้!” หลี่หมิงเต๋อไม่เชื่อว่าเฝิงหยู่จะยอมจ่ายเงินค่าโฆษณามากขนาดนี้ โฆษณาทางทีวีในตอนนั้นยังไม่ได้มีมูลค่าสูงขนาดนั้น!
ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องทำความชื้นก็มีเจ้าของทั้งหมดสามฝ่าย และแม้ว่าบริษัทการค้าไท่หัวจะเป็นฝ่ายดำเนินการขาย แต่ค่าโฆษณาก็ต้องแบ่งหารกันทุกฝ่าย เขาไม่เชื่อว่าหลี่ซื่อโหยวกับโฮวไฮ่ถาวจะยอมจ่ายค่าโฆษณาเดือนละ 1 ล้านหยวน!
เฝิงหยู่โกหกต่อไปว่า “คุณต้องพิจารณาด้วยว่ารถจักรยานยนต์ซงเจียงของเราเป็นแบรนด์ใหม่และยังไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อน คุณรู้หรือเปล่าว่าการจ้างดารามาถ่ายโฆษณาให้ต้องใช้เงินเท่าไหร่? เราจ้างพิธีกรที่มีชื่อเสียง เซินลี่สำหรับการโฆษณาเครื่องทำความชื้น ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำแบบนี้ได้หรือเปล่าล่ะครับ?”
“แต่นี่มันรถจักรยานยนต์ พรีเซ็นเตอร์โฆษณาก็ควรจะเป็นผู้ชายไม่ใช่หรอ? คุณคิดจะจ้างใคร? แล้วต้องใช้เงินเท่าไหร่?” หลี่หมิงเต๋อถามตรงๆ
ให้ตายสิ เจ้าหน้าที่รัฐพวกนี้ล้วนเป็นจิ้งจอกขี้โกงกันทุกคน กลอุบายของเฝิงหยู่เอามาใช้หลอกคนพวกนี้ไม่ได้เลย แต่เฝิงหยู่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่หลี่หมิงเต๋อเป็นกังวลมากที่สุด ซึ่งก็คือตัวเลขยอดขาย
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงมากขนาดนั้นครับ ถ้าคุณตกลงที่จะจ่าย 5 ล้านหยวนสำหรับค่าโฆษณา ผมรับรองว่าเราจะขายได้เพิ่มอีก 10,000 คันภายในปีหน้า ซึ่งเท่ากับว่าจะขาย ได้อย่างน้อย 130,000 คัน แต่ก่อนอื่น การผลิตของเราก็ต้องตามให้ทันด้วย!”
10,000 คันสำหรับค่าโฆษณา 5 ล้านหยวน? กำไรของรถจักรยานยนต์ต่อคันมากกว่า 500 หยวน เมื่อเฝิงหยู่พูดแบบนี้ หลี่หมิงเต๋อจึงเริ่มพิจารณาใหม่อย่างจริงจัง
โฆษณาที่สถานี CCTV มีอิทธิพลมากขนาดนั้นเลยหรือ? ทำไมเฝิงหยู่ถึงได้มั่นใจขนาดนั้น? ยี่ห้อรถจักรยานยนต์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักจะสามารถขายได้ถึง 130,000 คันภายในปีแรกเลยหรอ? แค่ใช้โฆษณาเนี่ยนะ? หรือเป็นเพราะการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของรถจักรยานยนต์ที่เฝิงหยู่เป็นคนทำกันแน่?
“คุณรับรองได้จริงๆ หรอ?” หลี่หมิงเต๋อถามอย่างสงสัย
“แน่นอน ไม่มีปัญหาครับ! เราจะใส่ข้อตกลงนี้ลงไปในสัญญาด้วยก็ได้ ถ้าฟมไม่สามารถทำได้ บริษัทการค้าไท่หัวจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าโฆษณานี้เอง!” เฝิงหยู่พูดพร้อมกับตบเบาๆ ที่หน้าอกตัวเอง
“ตกลง งั้นผมขอไปคุยกับผู้อำนวยการโฮวและคุณฟู่ก่อน ถ้าพวกเขาตกลง เราค่อยมาเซ็นสัญญากัน!” หลี่หมิงเต๋อยังมีเรื่องที่ค้างคาในใจ เขายังอยากรู้ว่าใช้ค่าโฆษณาสำหรับเครื่องทำความชื้นไปเท่าไหร่กัน
.........
“คุณโฮว บอกความจริงผมมาเถอะ ตกลงค่าโฆษณาสำหรับเครื่องทำความชื้นมันเท่าไหร่หรอ?” หลี่หมิงเต๋อโทรศัพท์ไปถามโฮวไฮ่ถาว
“เรื่องนี้....คุณหลี่ คุณไปถามเฝิงหยู่จะดีกว่า หลี่ซื่อโหยวกับผมสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่เปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงของข้อมูลนี้ ผมบอกได้แค่ว่าเราจ่ายไปเยอะมากๆ”
“เท่าไหร่ล่ะ?” หลี่หมิงเต๋อยังไม่ละความพยายาม
โฮวไฮ่ถาวลังเลสักครู่ก่อนที่จะพูดว่า “มันเยอะมาก เยอะมากจริงๆ”
เยอะมากๆ เลยหรอ? มันจะเยอะขนาดนั้นจริงหรอ?
“มากกว่า 5 ล้านหยวนหรือเปล่า?”
“อืม” โฮวไฮ่ถาวจำได้ว่าค่าโฆษณาเท่ากับ 5 ล้านหยวน แต่เขาไม่ได้บอกรายละเอียดกับหลี่หมิงเต๋อว่าเงินจำนวนนั้นสำหรับค่าโฆษณาหนึ่งปี และรวมช่วงโฆษณาทั้งหมด 4 ช่วงที่สถานี CCTV และอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น เฝิงหยู่บอกพวกเขาว่าถ้าโฆษณาไม่มีผลอีกต่อไปแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หลี่หมิงเต๋อไม่รู้รายละเอียดพวกนี้ เขาแค่ได้ยินมาว่าค่าโฆษณาของเครื่องทำความชิ้นมีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านหยวน ดังนั้นเฝิงหยู่ก็ไม่ได้หลอกเขาเพราะหลี่ซื่อโหยวและโฮวไฮ่ถาวก็กล้าที่จะตกลงกับจำนวนเงินมากมายขนาดนี้ ถ้างั้นเขาก็ต้องยอมตกลงเหมือนกันบ้างแล้วล่ะ!
หลังจากที่เซ็นสัญญาแก้ไขกับหลี่หมิงเต๋อแล้ว เฝิงหยู่ก็เดินยิ้มถือเช็คในมือออกจากสำนักงานไป
ใครบอกว่าช่วงเวลาโฆษณาที่สถานี CCTV จะเอาไปขายต่อไม่ได้?