ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGMC ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้มของความสามารถ

GMC ตอนที่ 1 ยุคแห่งพลัง


GMC ตอนที่ 1 ยุคแห่งพลังพิเศษ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 301 เป็นห้องเรียนกว้างขวาง มีนักเรียนหลายสิบคนนั่งคล้ายกับพระสงฆ์ที่ต้องการการตรัสรู้ ออร่าบางๆหมุนวนรอบตัว

"ทุกคนไม่ต้องกังวลถึงสิ่งใด! พวกเจ้าเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว เจ้ามีเวลาเพียงหนึ่งปีก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าเจ้าไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยโชคชะตาของเจ้าอาจอาหารสำหรับสัตว์ร้าย "ครูชั้นมัธยมศึกษาปี หยางฉี  (Yang Ziqing) หญิงวัยกลางคนพ่นน้ำลายให้กับนักเรียนที่กำลังฝึกอยู่

"ข้าไม่สนใจว่าในอดีตเจ้าขี้เกียจแค่ไหน เมื่อเจ้าอยู่ในชั้นเรียนของข้า  เจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขี้เกียจเป็นอันขาด  ในตลอดช่วงท้ายของปีนี้ข้าต้องการให้ทุกคนมาที่นี่เพื่อฝึกอบรมและปรับปรุงความสามารถของพวกเจ้าให้ได้อย่างน้อย 6 ขั้นหรือสูงกว่า ถ้าไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าเข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัย "

"ทุกคนได้ยินสิ่งที่ข้าพูดชัดหรือยัง?" หยางฉี ตะโกนเพราะเธอไม่ได้รับการตอบสนองจากนักเรียน

"พวกเราได้ยินครับ/ค่ะ" นักเรียนตอบพร้อมเพรียง

"ดีมาก" หยางซี พยักหน้าอย่างความพึงพอใจ "ทุกคนจะได้รับการสอนวิธีการในการสร้างเสริมความสามารถ เมื่อเจ้ากลับบ้านเจ้าจะต้องฝึกซ้อมต่อได้ ในเวลาหนึ่งเดือนปีสามของโรงเรียนจะมีการสอบภาคปฏิบัติครั้งแรก อย่าทำไห้ฉันต้องอับอาย!    โอ้  บรรดาผู้ที่ติด 100 อันดับแรกของโรงเรียนทั้งหมดจะได้รับสิทธิเข้าร่วมห้องผู้มีพรสวรรค์ ข้าแน่ใจว่าพวกเจ้ารู้เรื่องนี้"

"เลิกได้!"

“Hua ---”

เพียงเวลาต่อมา ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าจากนักเรียนที่ขยันหมั่นเพียรจะวิ่งออกจากห้องเรียนอย่างตื่นเต้น

ใบหน้าของ หยางฉี กลายเป็นขี้เถ้า เหมือนเธอได้ดูลิงเหล่านี้กำลังแสดงละคร เธอมองดูพวกเขาอย่างหมดหนทาง โชคดีที่ยังคงมีนักเรียนคนหนึ่งที่ฝึกฝนอย่างจริงจัง อย่างน้อยก็ทำให้เธอสบายใจขึ้น

อย่างไรก็ตามพรสวรรค์ต้นกำเนิดของเขาช่างเป็นเรื่องน่าเศร้านัก

ซูฮ่าว (Su Hao) สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ออร่ารอบๆมารวมตัวอยู่รอบตัวเขา เขาตื่นจากการทำสมาธิของเขา "ความสามารถของข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในอัตรานี้ภายในหนึ่งเดือนความสามารถของข้าควรจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 นอกจากสำคัญของร่างกายและรากฐานทางทฤษฎีแล้วพรสวรรค์ของฉันยังมีศักยภาพที่จะพอที่จะเข้าถึงระดับ 4 ได้อีกด้วย "

ซูฮ่าว ยืนขึ้นและทำยืดร่างกายขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง

ที่เพื่อนร่วมชั้นของเขากำลังแสดงความสามารถตัวเอง บางคนบดหินด้วยกำปั้นของพวกเขา ใครบางคนส้รางเปลวไฟอยู่แถวป่า มีบางคนนั่งข้างสระว่ายน้ำและกำลังสร้างน้ำแข็งขึ้นมา แม้แต่เลวร้ายที่สุดบางคนก็โง่เง่าและบินอยู่บนฟ้า

ยุคปัจจุบันที่เขาอาศัยอยู่คือยุคของความสามารถพิเศษ!

ในปี ค.ศ. 2030 ภัยพิบัติได้กวาดไปทั่วโลก รุ่นต่อมาได้อธิบายเหตุการณ์นี้เป็นจุดเกิดความสามารถเข้าไปในโลก

ความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เริ่มปรากฏให้แก่มนุษย์ สัตว์บางตัวยังมีความสามารถพิเศษ ทำไห้โลกเกิดความวุ่นวาย ในที่สุดรัฐบาลจากหลายๆประเทศต่างต้องสร้างร่วมเป็นพันธมิตรกัน หลังจากนั้นยี่สิบปีที่ผ่านมา สันติภาพได้กลับมาในที่สุดและสถานการณ์ก็สงบลง

มนุษย์ใช้พลังอำนาจของความสามารถเพื่อการวิจัยและการศึกษาเกษตรกรรมและสาขาอื่น ๆ การพัฒนาสังคมโดยมีการปรับเปลี่ยน  ตอนนี้เทคโนโลยีที่ไม่สามารถบรรลุได้ก่อนหน้านี้ก็สามารถทำให้เป็นไปได้ ปัจจุบันเป็นปี 2050 โลกได้เข้ามาในยุคของความสามารถพิเศษ

ปัจจุบันเป็นยุคที่ดีที่สุดตลอดกาล ผู้คนไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเสื้อผ้าและอาหาร นักเรียนมัธยมปลายจะได้รับโอกาสในใช้ความสามารถของพวกเขาและจัดการกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่จัดไว้ให้ฟรี

อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นยุคที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาเช่นเดียวกัน สัตว์ป่ากลายเป็นสัตว์ที่ดุร้ายที่จะฆ่าทุกสิ่งอย่างไร้ความปราณี นอกเหนือจากเมืองต่างๆไม่มีสถานที่อื่นใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยของประชาชนได้

สำหรับนักเรียนในโรงเรียนมัธยมเป้าหมายเดียวของพวกเขาคือการควบคุมความสามารถของพวกเขาเข้าร่วมในการสอบเข้าวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด!

ถ้าข้าต้องการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยความสามารถของฉันจำเป็นต้องเข้าถึงอย่างน้อยระดับ 6  ด้วยความเร็วปัจจุบันของข้าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าร่วมในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยข้าอาจไม่ถึงระดับ 5 แน่ดูเหมือนจะเป็นแค่ความสิ้นหวังในการที่จะเข้ามหาวิทยาลัย "ซูฮ่าว กลายเป็นหดหู่

ยุคนี้ใช้ความสามารถเพื่อจะมีชีวิตรอดและการต่อสู้เผชิญอันตราย แต่ความสามารถของเขาไม่ได้เป็นสิ่งที่พิเศษน่าสนใจ แต่อย่างใด

ซูฮ่าว เคยคิดมาก่อนว่าแม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนอย่างไม่หยุดยั้ง  ยังแทบไม่มีคุณสมบัติพอสำหรับมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ยังคงใช้ความสามารถการวิเคราะห์แบบจำลองของเขา เขาอาจจะจบลงด้วยการเป็นผู้สร้างโมเดลที่ปรึกษาทั่วไปหรือกลายเป็นสถาปนิกซึ่งทำงานอยู่เบื้องหลัง

ในขณะที่เขาสามารถใช้ชีวิตแบบนั้น ซึ่งห่างจากฝันของเด็กหนุ่มซึ่งอยากจะสังหารสัตว์เดียวดายหรือปกป้องโลก

เฮ้อ... ความฝันจะยังคงเป็นความฝัน

ระดับพรสวรรค์มีผลต่อความสามารถอย่างมาก ถ้าคนใดคนหนึ่งมีพรสวรรค์ที่ต่ำ คนนั้นจะถึงระดับพลังที่ต่ำ

ค่าความสามารถในการคำนวณครั้งล่าสุดจากข้อสรุปค่าพื้นฐานทางกายภาพสมรรถภาพทางกายทักษะการสู้รบและดัชนีความสามารถก่อนหารด้วย 100

รากฐานทางทฤษฎีเป็นหลักสูตรทางทฤษฎีขั้นพื้นฐานซึ่งรวมถึงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับความสามารถในการต่อสู้กับสัตว์ที่น่ากลัว วิธีการต่อสู้การเอาชนะความอ่อนแอและความรู้สมุนไพรที่เติบโตบนโลก ในความรู้ทั้งหมดของโลกนี้ ลำบากมากจนทำให้คนอื่นไม่พอใจในข้อจำกัดของหลักสูตรนี้คือ 200 จุด โดยทั่วไปแล้วนักเรียนคนใดคนหนึ่งซึ่งสามารถได้ 100 คะแนนจาก 200 ถือว่าเป็นเกณฑ์ที่ดี

สมรรถภาพทางกายหมายถึงความแข็งแรงของร่างกายมีคะแนนรวม 400 จุด โดยทั่วไปคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 100

คะแนนจาการต่อสู้ประกอบด้วยทักษะการต่อสู้นและศิลปะการต่อสู้มีคะแนนสูงสุดที่ 400 แต่โดนส่วนมากคะแนนจะอยู่ที่ประมาณ 0 ถึง 5 สำหรับนักเรียนโดยเฉลี่ย (อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจนะ)

สุดท้ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดคือ!

ระดับความสามารถพร้อมกับอันดับพรสวรรค์ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับความสามารถ อย่างไรก็ตามการคำนวณนี้มีความซับซ้อนสูงมาก พรสวรรค์ได้รับการจัดอันดับจาก  F  ถึง  A  ความสามารถในการจัดอันดับความสามารถจะสูงขึ้น

มีขีดจำกัดและไม่มีจำกัด !

เนื่องจากความสามารถของ ซูฮ่าวคือการวิเคราะห์ซึ่งเป็นระดับ E ทำให้คะแนนโดยรวมของเขาลดลง

เขาทำคะแนนได้ 180 คะแนนในด้านพื้นฐานทางทฤษฎี 100 คะแนนในสมรรถภาพทางกาย 0 คะแนนในการต่อสู้และ 100 คะแนน รวม 380 คะแนน ทำให้ความสามารถในการกำเนิดของเขามีค่าเท่ากับ 3.8 และจะถึง4ในเร็วๆนี้

ซูฮ่าว คิดอย่างเงียบ ๆ ในใจขณะที่มือของเขาทำความสะอาดสิ่งต่างๆเพื่อที่เขาจะได้ออกจากโรงเรียน

อย่างไรก็ตามเสียงเตะอย่างรุนแรงทางประตูห้องเรียน

"ซูฮ่าว ออกมาพบบิดาของแกเดี๋ยวนี้!" นักศึกษาที่หล่อเหลาและสูงยืนอยู่ที่ประตู

"เกิดอะไรขึ้น?" ซูฮ่าวไม่ได้ออกไป เขาไม่ใช่คนโง่ นักเรียนคนนั้นมีชื่อว่า ซุน เหยาเตี้ยน(Sun Yaotian) เขาคืออัจฉริยะ ค่าความสามารถของเขาสูงถึง 8 จุด ดังนั้นเขาจึงสามารถเอาชนะซูฮ่าว ได้อย่างง่ายดาย

"แกและเฉิน เยวี่ย(Chen Yiran) กลับบ้านด้วยกันอีกแล้วรึ?" ซุน เหยาเตี้ยน

ซูฮ่าว ขมวดคิ้ว "เราเดินไปทางเดียวกัน หลังเลิกเรียนเราอาจจะเจอกันและกลับบ้านด้วยกันเป็นครั้งคราว "

"ข้าไม่สนใจว่าจะไปในทางเดียวกันยังไง" ในช่วงเดียว ซุน เหยาเตี้ยนขัดจังหวะเขา "ข้าเชื่อว่าแกรู้ความสามารถของ เฉิน เยวี่ย อย่างแน่นอน ด้วยคุณสมบัติของแก  แกไม่แม้แต่จะได้มองไปที่นาง! ครั้งต่อไปแกห้านเข้าใกล้นาง ถ้าไม่เช่นนั้นข้าจะลงมือกับแกแน่เมื่อใดก็ตามที่ข้าเห็นแก "

"ซุน  เหยาเตี้ยน แก !" ซูฮ่าว กลายเป็นโกรธและกำกำปั้นของเขา

"แกต้องการจะสู้?"ซุน เหยาเเตี้ยนตะโกนใส่เขา "กฎของโรงเรียนระบุว่าห้ามต่อสู้ในห้องเรียน ถ้าแกต้องการจะสู้แกก็ออกจากห้องเรียนซะ"

ใบหน้าของ ซูฮ่าว กลายเป็นขี้เถ้า ความโกรธในหัวใจของเขาดับลงทันที

ด้วยค่าความสามารถในการกำเนิดของเขามีแค่ 3.8 ต่อหน้า ซุนเหยาเตี้ยน มันก็เหมือนกับหนูที่อนู่ต่อหน้าราชสีห์ก้  ซุน เหยาเตี้ยน อาจจะทำร้ายเขาจนตาย ห้องเรียนเป็นสถานที่ที่ห้ามการต่อสู้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงถ้าเขาเริ่มการต่อสู้

"ไก่อ่อน!"ซุนเหยาเตี้ยน เยาะเย้ยซูฮ่าวที่ไม่มีท่าทีออกจากห้องเรียน "จำคำพูดของข้าไว้ให้ดี นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายของข้า"

"ซุนเหยาเตี้ยน.. ... " ซูฮ่าว เต็มไปด้วยความโกรธพราว

เขาฝึกฝนหนักกว่าคนอื่นอย่างมาก ยังไงก็ตามเขาสามารถจัดการอยู่ในระดับล่างเท่านั้น มันเป็นเพราะความสามารถพิเศษของเขา คะแนนพื้นฐานทางทฤษฎีของเขาเท่ากับ 180 คะแนนทำให้เขาเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของโรงเรียน แต่ระดับความสามารถของเขาก็แค่ 80 คะแนนเท่านั้น สำหรับ ซุนเหยาเตี้ยน เพียงแค่ระดับความสามารถของเขาเพียงอย่างเดียวทำคะแนนให้เขาได้ 500 แต้ม

เนื่องจากความสามารถของซุนเหยาเตี้ยน คือความสามารถระดับ A, การควบคุมด้วยโลหะ มันเป็นความสามารถในการต่อสู้ระดับสูงซึ่งมีทั้งความแข็งแกร่งและการป้องกัน ดังนั้นการประสิทธิภาพการต่อสู้โดยรวม เมื่อเทียบกับของเขาเป็นช่องว่างใหญ่มาก

"วันหนึ่ง ... ข้าจะก้าวข้ามขีดจำกัดนั้น!" พลังแห่งความโกรธสามารถมองเห็นได้ในสายตาของซูฮ่าว เขาเดินออกจากชั้นเรียน

ความคิดของเขาเป็นเรื่องง่าย ความสามารถไม่จำเป็นต้องเอาชนะการทำงานหนัก

ถ้าความสามารถของเขาอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเขาไม่สามารถทำแต้มได้ดีในดัชนีความสามารถเขาจะทำใหเดีในด้วนอื่นแทน  ความสามารถทำแต้มได้ 1000 คะแนนในอีกด้านหนึ่ง ให้คะแนน 200 คะแนนในด้านการจำลอง ทฤษฎีการต่อสู้ 400 คะแนนและอีก 400 คะแนนพลังต่อสู้ และเมื่อเขาสร้างความแข็งแกร่งอีก10 คะแนนเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น (อันนี้งงๆหน่อยนะครับ  ผมแปลก็ก็งง)

ซูฮ่าวกอดฟันไว้แล้วออกจากไป

มีถนนที่ไม่มีที่สิ้สุดผู้คนบนถนนสายหลัก

"เยี่ยม !"

คนหนึ่งคนวิ่งอย่างรวดเร็วผ่านร่างของซูฮ่าว ภายหลังนั้นมองเห็นแต่เพียงความเร็วสูงมาก   ซูฮาวผู้ที่กำลังตกใจก็ได้หันไปมองอย่างตั้งใจทันที

เขาตรวจสอบบางโทรศัพท์ของเขาและทำให้เขาหรู้ว่าโจรคนนั้นขโมยไป

ซูฮาวรู้สึกตกใจในทันทีและมีปฏิกิริยาล่าช้า "ขโมย"

เขามองเห็นเงาชายวัยกลางคนวิ่งไปในทิศทาง อื่นด้วยเหตุนี้สุฮาจึงเข้าใจทันที "เขาเป็นขโมยและฉันไม่ใช่เหยื่อคนเดียว"

ที่ถนนสายนี้มีจำนวนโจรไม่น้อย แต่เลวร้ายยิ่งกว่าส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูงมากของพวกเขา การขโมยของแล้วรีบหนีอย่างเร็ว กลยุทธ์นี้ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา แต่ที่เลวร้าย ซูฮ่าวได้ตกเป็นเหยื่อของโจรพวกนี้

ความโกรธของซูโฮที่มีอยู่แล้วจากการคุกคามของซุนเหยาเตี้ยน ตอนนี้เขาหาทางไปถึงถนนที่ขโมยวิ่งถูกไปโดยทันที

“เพ้ง”

ซูฮ่าว ส่งหมัดและทำลายโซ่ที่ล็อคล้อรถจักรยานยนต์บินที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที เขารีบกระโดดขึ้นไปตามล่าโจร

เมื่อเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์เริ่มบินม่านแสงล้อมรอบฐานรถ ขณะลอยตัวอยู่ในอากาศทันทีทันใดนั้นก็วิ่งไปตามทิศทางของขโมย ซูฮ่าว ก้มหน้ากัดฟัน "F * ck! ด้วยความเร็วของแก แกคิดว่าจะไม่มีใครสามารถจับตัวแกได้ "

สามเงาดำแล่นผ่านถนน

เงาดำ นำหน้าโดยมีชายวัยกลางคนกำลังโกรธและสุเฮะนั่งด้านหลังบนรถจักรยานยนต์บิน ต่อมา

หลังจากที่ไล่ล่ามานานกว่าสิบนาทีซูฮ่าวก็สามารถตามพวกเขาทันได้ที่สะพาน เจียงฮี

ไกลออกไปเขาจะได้เห็นขโมยและชายวัยกลางคนกำลังต่อสู้กันอยู่  ซูฮ่าวเร่งขึ้น "ขโมย  ลองดูทีคราวนี้แกจะหนียังไง. "

ซูฮ่าว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะที่รถจักรยานยนต์กำลังบินกำลังวิ่งไปหาพวกเขา แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรในขณะนั้น

“วืด!”

ชายวัยกลางคนทรุดตัวลงกับพื้น ขโมยก็รีบหนีไปจากเขา   ซูฮ่าวงุนงงเมื่อเขาเห็นขโมยที่ถือกริชที่อาบด้วยเลือดที่ถูกดึงออกมาจากร่างของชายวัยกลางคน

จากนั้นเขาก็เห็นโจรนำขวดสีฟ้าออก เขาหยดน้ำไม่กี่หยดลงบนร่างของชายวัยกลางคน

“si Ksshhhhh”

ช่วงเวลาที่หยดของเหลวสัมผัสร่างกายของชายวัยกลางคนมันกัดกร่อนร่างกายจนไม่มีอะไรเหลืออยู่

"นี่มัน…"

เมื่อดูฉากนี้ซูฮ่าวเริ่มมีการโตื่นตระหนก! เขานี้ไม่ใช่ขโมย เขาเป็นนักฆ่า! ข่าวที่เขาดูระบุไว้ว่านักฆ่าจากองค์กรจะมีน้ำยาชนิดพิเศษใช้ทำลายหลักฐานได้อย่างง่ายดาย

"เชี่ย!" ซูฮ่าว

โดยไม่ชักช้าเขาหันกลับมาและต้องการจะไปที่รถของเขา แต่น่าเสียดายที่นักฆ่าสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเขา เขาเย้ยหยันก่อนเอาปืนพกเงินและมุ่งเป้าไปที่ซูฮา

ซูฮ่าว เริ่มสั่นและเส้นผมของเขาเริ่มงอขึ้น

ไม่  ฉันจะตาย!

การจ้องมองด้วยความเย็นชาของฆาตกรเหงื่อเย็นก็เริ่มปรากฏขึ้น อย่างไม่คาดคิดความโกรธที่ถูกบีบอัดในหัวใจของนายซูฮ่าเริ่มระเบิดขึ้น

"ซูฮ่าวอยากบอกนะว่าแกอยากจะถูกรังแกอยู่ตลอดเวลา?"

"ไม่ไม่ทาง.....!"

สังเกตเห็นจุดเลือดบนแทบหน้าอกของนักฆ่าเห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนได้ทำให้เขาบาดเจ็บ

การบาดเจ็บทำให้เขามีการเคลื่อนไหวช้าลง ความโกรธสามารถมองเห็นได้จากสายตาของซูฮาวเพราะเขากลัวที่จะตาย แต่ถึงแม้เขาจะตายเขาก็จะลากนักฆ่าไปด้วยกันกับเขาน่ะแหละ

“ย่า.”

ซูฮ่าว บิดด้วยความเร็วสูงสุด

“บึ้ม”

เครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ระเบิดออกไอน้ำของพลังงาน ความเร็วของรถจักรยานยนต์ได้ถึงความเร็วสูงสุด ลำแสงผ่านไปในอากาศและตีฆาตกร

“ปิ้ว”

เลเซอร์ยิงออกจากปืนสีเงินมุ่งไปทาง ซูฮ่าว แต่น่าเสียดายที่เลเซอร์ที่จะบินไปข้างซูฮ่าว แต่อุณหภูมิสูงของเลเซอร์ยังคงเผาผลาญหูของเขา

“บึ้ม”

รถจักรยานยนต์บินชนหน้าอกของนักฆ่า นักฆ่าชนเข้ากลับคอนเทนเนอร์ คอนเทนเนอร์นับไม่ถ้วนตกลงมาทับตัวเขา

ซูฮ่าว ผู้ซึ่งไม่สามารถควบคุมรถจักรยานยนต์และตกลงมา เขาล้มลงกับพื้นและรู้สึกเหมือนเกินความสามารถเขา

ด้วยบาดแผลทั่วร่างของเขา ซูฮ่าว ลุกขึ้นยืน เขากลัวว่าแม้จะถูกคอนเทนเนอร์หล่นทับฆาตกรยังคงสามารถออกจากลุกขึ้นได้

"คอนเทนเนอร์เหล่านั้นมีน้ำหนักอย่างน้อยหลายตัน เขารอดพ้นได้อย่างไร? เขามีมีพลังมาก? "

"ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ได้!" ความคิดนี้กระพริบผ่านใจ ซูฮ่าวก่อนไปหยิบปืนเงินมาและเล็งฆาตกรที่เพิ่งออกมาจากกล่อง

ดวงตาเย็นยะเยือกและน่าสยดสยองจ้องมาที่ซูฮ่า การจ้องมองนี้ทำให้เขาเกือบจะซุ่มซ่ามและทิ้งปืนไป

"ไปตาย!" ซูฮ่าปิดตาทั้งสองข้างและกดทริกเกอร์

“ปิ้ว! (2)”

เลเซอร์ถูกยิงออกมาและเจาะเข้าไปในร่างกายของนักฆ่า นักฆ่าเดินสองสามก้าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาค่อย ๆ ยกมือขึ้นเพื่อกดแผล

ไม่มีเลือดไหลออกมากนักเนื่องจากอุณหภูมิสูงทำให้ปากแผลปิดไป เมื่อแววตาจางหายไปจากดวงตาของเขาเขาค่อยๆล้มลงบนพื้นอย่างช้าๆ

"เขาตายแล้ว?" ซูโฮได้ถอนหายใจ

ปืนถูกโยนออกจากมือเมื่อรู้สึกกลัวเริ่งกัดกลุ้มหัวใจของเขา  เขาอยากจะหันร่างและหนีจากที่นี้แต่ก็ต้องหยุดลง เนื่องจากเขาได้คะแนน 180 คะแนนในพื้นฐานทางทฤษฎีเขาจึงมีข้อได้เปรียบในการรู้ข้อมูลที่คนอื่นอาจไม่รู้จัก

ปืนพกมีลายนิ้วมือของเขา ชายวัยกลางคนเสียชีวิตและหายตัวไป ร่างของนักฆ่ายังอยู่ในที่เกิดเหตุ เขาไม่สามารถออกไปแบบนั้นได้

ซูฮ่าว ทนความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนในใจของเขาและค้นหาซากศพของฆาตกรสำหรับขวดสีน้ำเงินที่บรรจุของเหลวที่เน่าเปื่อย

“si! Ksshhhh”

ร่างกายของนักฆ่าเริ่มสลายตัวช้าๆ แม้แต่ปืนเงินหรือรถมอเตอร์ไซค์บินและหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุก็ถูกทำลาย

เขาไม่กล้าที่จะทิ้งอะไรไว้เบื้องหลัง เขากังวลว่าแม้กระทั่งอาวุธจะที่ติดตั้ง GPS หรือระบบติดตามอื่น ๆ

"ในที่สุด มันก็ผ่านไป!" ซูฮ่าวรู้สึกโล่งใจอย่างสิ้นเชิง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากของเหลวที่ย่อยสลายแล้วเขายังได้พบกับการ์ดสีน้ำเงินและสีดำลึกลับที่อยู่ใต้ซากศพของนักฆ่า

"นี้คืออะไร? แม้แต่ของเหลวที่สลายตัวไม่สามารถทำลายมันได้? "การ์ดใบนี้ได้รับความสนใจจากเขาทันทีเมื่อผลการสลายตัวไม่มีผลต่อมัน

“ซู่!”

บัตรสีดำเบลอเรืองแสงและถูกดูดทันทีเข้าไปในมือขวาของซูฮ่าว ทันทีร่างของเขาหายตัวไปจากที่เกิดเหตุโดยไม่มีร่องรอย

“วิ้งง ---!”

ซูฮ่าว รู้สึกมีบางอย่างก้องในใจของเขา ฉากโดยรอบกลายเป็นเรื่องไม่จริง สะพาน เจียงฮี คว่ำลง สายตาของเขาเหมือนมีม่านหมอก

ความรู้สึกของการเป็นครึ่งหลีบครึ่งตื่นเหมือนมันเกิดขึ้นเป็นเวลานาน แต่ยังรู้สึกเหมือนเพียงสักครู่

การ์ดลึกลับมันอยู่ใจกลางของซูฮ่าวมันกระพริบอย่างต่อเนื่อง ถ้าซูฮาวเงียบขรึมเขาจะได้ยินเสียงข้อมูลทุกอย่างจากการ์ดได้

"... การค้นพบรูปแบบ ...  เริ่มการฟิวชั่น ...สร้างใหม่ ... "

ซูฮ่ารู้สึกว่าเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของยาที่ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แต่ก็รู้สึกสบายและผ่อนคลาย

“เฮือก!”

ร่างกายของซูฮ่ากระวนกระวายใจทำให้เขาตื่นขึ้นมาทันที

ไม่มีสัญญาณของการโจมตีคนในขณะที่มองไปรอบ ๆ เมื่อเขามองตัวเองดูเหมือนว่าเขาจะไม่พบสิ่งผิดปกติ

"ฉันสงสัยว่าฆาตกรทำอะไรกัน. "

ซูฮ่าส่ายหัวและเดินไปที่มุมหนึ่งซึ่งไม่มีใครสังเกตเห็นเขาก่อนที่จะรีบออกจากที่เกิดเหตุ

 

 

ติดตามผลงานผมได้ที่ เพจฝึกหัดแปลนิยาย  มีกลุ่มลับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด