ตอนที่ 312 ยืนยันภารกิจ
ระดับเพลิงสวรรค์จะเป็นออกเป็น5ขั้น ระดับเพลิงขาวคือขั้นแรก ตามด้วยเพลิงแดง เพลิงฟ้า เพลิงม่วง จากนั้นก็เพลิงทอง
มอนสเตอร์เช่นวิญญาณกระดูกที่หลิน ฮวงจับได้ก่อนหน้าและไคลี่ที่เขาได้ปลดผนึกรวมถึงฟีนิกส์เพลิงต่างก็เป็นระดับเพลิงขาว
อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์ระดับเพลิงขาวที่กลายพันธ์สองครั้งจะมีความสามารถเทียบได้กับระดับเพลิงฟ้าที่ยังไม่ผ่านการกลายพันธ์เลย เนื่องด้วยฟีนิกส์เพลิงคือมอนสเตอร์พิเศษ ความสามารถมันจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น บางที มันอาจสู้ได้แม้กระทั่งมอนสเตอร์กลายพันธ์หนึ่งครั้งระดับเพลิงฟ้า แม้ว่าหลิน ฮวงและหยี่ เยว่หยู่จะไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ที่พวกเขาตรวจพบก่อนหน้ามาจากไหน แต่ทั้งคู่ต่างสัมผัสได้ถึงพลังที่ไม่ต่ำกว่าเพลิงม่วง มันอาจจะเป็นมอนสเตอร์ระดับเพลิงทองเพราะกลิ่นอายมันแข็งแกร่งกว่าฟีนิกส์เพลิงมากแม้ว่ามันจะอยู่ไกลจากพวกเขา
เห็นได้ชัดว่ามันถูกดึงดูดมาโดยกลิ่นอายที่ปลดปล่อยจากการต่อสู้ มอนสเตอร์ที่หาญกล้าเข้าใกล้พวกเขาแม้จะสัมผัสได้ถึงการปะทะกันระหว่างมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งระดับเพลิงขาวย่อมต้องมีความมั่นใจว่าตัวมันเหนือกว่า
โชคดี หยี่ เยว่หยู๋ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเพื่อจุดไฟชีวิต หากเธอช้ากว่านี้เพียงไม่กี่วินาที ทั้งสามคงจะกลายเป็นอาหารมอนสเตอร์ไปแล้ว
ตามความสามารถในปัจจุบันของหลิน ฮวงการล้มมอนสเตอร์ในระดับเช่นฟีนิกส์เพลิงคือขีดจำกัดสูงสุดเขา การสู้กับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่านั้นเกินกว่าความสามารถเขา นั่นทำให้เขาเลือกที่จะวิ่งทันทีที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอาย
เมื่อวิ่งผ่านหมึกดำมา พวกเขาก็มาปรากฏตัวในที่ที่ไกลออกไปนับพันกิโลเมตร ซึ่งอยู่ใกล้กับป่าต้นโอ๊กอมตะ
มันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลิน ฮวงตั้งไว้ก่อนหน้า เพื่อให้เขาสามารถมาหาไทแรนด์ได้ทันเวลา แต่เนื่องจากพวกเขาต่างเร่งรีบเมื่อหมึกดำถูกเปิดใช้งาน เขาจึงไม่อาจเลือกจุดหมายเฉพาะได้ทัน ดังนั้น พวกเขาจึงถูกสุ่มให้ส่งมายังที่นี่
“นั่นมันอะไรกัน?!ฉันสัมผัสได้ว่ามันทรงพลังเสียยิ่งกว่าฟีนิกส์เพลิง!”หยี่ เยว่หยู่กล่าวอย่างหวาดกลัว
“ฉันไม่รู้ แต่มันต้องอยู่ในระดับเพลิงม่วงเป็นอย่างน้อย...”หลิน ฮวงรู้สึกโล่งอก ทันทีที่ประตูกำลังจะปิด เขาสามารถเห็นอุกกาบาตที่พุ่งมาทางพวกเขาได้
“เราถูกโจมตีงั้นหรอ?”หลี่ หลางเพิ่งจะรู้ตัวเมื่อได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่พูดเพราะเขาถูกลากมาโดยไม่รู้อะไร เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่พูดกัน เขาจึงรู้ว่าทำไมจู่ๆหลิน ฮวงจึงอัญเชิญสมบัติมิติและลากเขาเข้ามา
ทั้งคู่ไร้คำพูดและเหลือบมองหลี่ หลาง
“เอาเถอะ แต่นี่คือที่ไหนกัน?มันดูคุ้นจัง”หยี่ เยว่หยู่มองดูสภาพแวดล้อมรอบตัวที่ดูคุ้นเคยแปลกๆ
“ฉันก็คิดเช่นนั้น ฉันคิดว่าฉันคิดไปเองเสียอีก ฉันรู้สึกว่ามันดูเหมือนป่าต้นโอ๊กอมตะที่เราผ่านมาก่อนหน้าเลย...”เสียงของหลี่ หลางดังขึ้น ขณะที่เขาสังเกตรอบๆ
“ใช่ มันดูเหมือน.....แต่กลับไม่มีต้นโอ๊กอมตะเลย ทำไมพวกมันทั้งหมดจึงหายไป?”ทันทีที่หลี่ หลางโพล่งออกมา หยี่ เยว่หยู่ก็หันไปและมองไปในทิศทางที่ต้นโอ๊กอมตะเคยอยู่ เธอขมวดคิ้ว
“หลิน ฮวง ทำไมนายจึงตั้งที่นี่เป็นจุดหมายเรา?นายไม่ใช่คนที่กวาดล้างป่าใช่ไหม?”หลังจากที่เห็นทักษะของหลิน ฮวง เขาก็รู้สึกว่าคนธรรมดาไม่อาจทำเช่นนี้ได้ บางที มันอาจมีแค่หลิน ฮวงที่สามารถกระทำได้
“ไม่ มันไม่ใช่ฉัน ฉันค้นพบว่าป่าถูกกวาดล้างออกไปตอนที่ฉันผ่านมาที่นี่เมื่อหลายวันก่อน ดังนั้นฉันจึงตั้งที่นี่เป็นจุดหมายเพราะฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆที่ป่าหายไป ฉันอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันว่าง”หลิน ฮวงหาข้ออ้าง
ทั้งคู่เชื่อคำพูดของหลิน ฮวงทันทีเพราะป่าต้นโอ๊กอมตะได้หายไปโดยสิ้นเชิงราวกับมันไม่เคยมีอยู่มาก่อน มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถทำได้
“มีสิ่งมีชีวิตมากมายที่เราไม่อาจเอาชนะได้ในมิตินี้....”หยี่ เยว่หยู่ถอนหายใจ
หลิน ฮวงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเพราะทั้งคู่เชื่อในสิ่งที่เขากล่าว ในความเป็นจริง เขาได้เปิดเผยความสามารถของเขาไปมากต่อทั้งคู่ แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้ทั้งคู่รู้ถึงความลับเขาเพิ่ม มันไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อใจทั้งคู่ แต่เขารู้สึกว่าการเผยความลับเขาจะไม่ได้นำพาประโยชน์มาสู่ทั้งคู่และมันอาจจะสร้างปัญหาให้เสียมากกว่า เมื่อเหลือบมองเวลา มันก็เป็นเวลาประมาณ2ทุ่มแล้ว มันผ่านมากว่า40นาทีแล้วนับตั้งแต่การตายของฟีนิกส์เพลิง
“หลิน ฮวง มีอะไรที่นายต้องทำไหม?”หยี่ เยว่หยู่ถามเพราะเธอสังเกตเห็นว่าหลิน ฮวงเหลือบมองเวลาอยู่บ่อยครั้ง“ไปทำธุระนายให้เสร็จก่อนสิ เมื่อนายทำธุระเสร็จ เราค่อยมาพบกันอีกครั้ง”
“ตกลง ฉันมีบางสิ่งต้องทำนะ ฉันจะพาพวกนายกลับไปที่ยืนยันภารกิจ เราสะสมศพมอนสเตอร์หลุดพ้นได้เพียงพอแล้ว รอฉันอยู่ที่นั่นและฉันจะไปพบพวกนายทันทีที่ฉันทำธุระเสร็จ”หลิน ฮวงแนะนำ
“หากนายรีบ เราก็ค่อยไปยืนยันภารกิจทีหลังได้นะ”หลี่ หลางอธิบาย
“ฉันยังพอมีเวลาอยู่ ไปยืนยันภารกิจกันก่อนเถอะ”หลิน ฮวงกังวลว่าทั้งคู่จะยังอยู่ที่นี่เพราะเขากลัวว่าทั้งคู่จะพบไทแรนด์ที่กำลังปลดผนึกตัวมันอยู่ด้านใต้พื้นและกระบวนการปลดผนึกของไทแรนด์จะถูกรบกวน นอกจากนี้ มันยังเกี่ยวกับการปลดผนึกไป่อีกด้วย แม้ว่ามันจะผ่านมาเพียง40นาทีหลังการตายของฟีนิกส์เพลิง แต่การยืนยันภารกิจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ดังนั้นเขาจึงยังคงสามารถทำมันได้อยู่
เขาอัญเชิญหมึกดำออกมาอีกครั้ง ระบุจุดหมายเป็นที่ยืนยันภารกิจ และเดินเข้าไปในประตู
เมื่อพวกเขาปรากฏตัวอีกครั้ง พวกเขาก็มาถึงที่ที่พวกเขาได้รวมตัวกันในระหว่างการฝึกรอบสอง
ผู้คุมการฝึกรอบสอง จาง ปิง ตกใจอยู่สักพักเมื่อเขาเห็นการมาของทั้งสาม ทันใดนั้น เขาก็สังเกตการบรรลุระดับเพลิงขาวของหยี่ เยว่หยู่
“ทำไมพวกเธอสามคนจึงกลับมาเร็วนัก?พวกเธอทำภารกิจเสร็จแล้วงั้นหรือ?!”จาง ปิงรู้สึกราวกับมันเพิ่งจะเป็นเพียงวันที่สองตั้งแต่ที่การฝึกเริ่มขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะมีสมาชิกที่บรรลุระดับเพลิงขาว มันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้น6ตัวภายในเวลาเพียงสองวัน
“ผู้คุม เราทำภารกิจเสร็จแล้วและเรามาที่นี่เพื่อยืนยันมัน”หลี่ หลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ผมคิดว่าเราคงเป็นกลุ่มแรกที่ทำภารกิจเสร็จ ใช่ไหมครับ?”
“พวกเธอจะถือว่าผ่านภารกิจก็ต่อเมื่อส่งศพให้ฉันแล้ว”จาง ปิงจ้องมองหลี่ หลางเพราะเขาเกลียดคนที่พูดจาฉะฉานเช่นนี้
“เอาละ..”หลี่ หลางรู้สึกเบื่อและถูจมูกเขาหลังจากฟังสิ่งที่จาง ปิงกล่าว จากนั้นเขาก็หยิบเอาศพของแมงมุมพยาบาตออกมาขณะที่หยี่ เยว่หยู่นำเอาศพของปีศาจกิ้งก่าเพลิงปฐพีและยักษ์ภูเขาไฟออกมา ส่วนหลิน ฮวงนำเอาศพของทหารอันเดท ยักษ์ดาบอสูรและแมงป่องผลึกไฟออกมา เขาเก็บศพมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งอย่างวิญญาณกระดูกไว้ในช่องเก็บของเขา
เมื่อเห็นว่าทั้งสามครอบครองศพมอนสเตอร์ระดับเพลิงขาว6ตัว จาง ปิงก็ประหลาดใจ เหลือบมองพวกเขา เขาสงสัยว่าต้องมีใครคนหนึ่งท่ามกลางพวกเขาที่ครอบครองทักษะตรวจจับเฉพาะ มิฉะนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถมากพอ มันก็ยังเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะบรรลุภารกิจเสร็จเร็วนัก
หลังจากที่ตรวจสอบศพ แม้ว่าเขาจะอยากรู้ว่ามอนสเตอร์บางตัวนั้นตายได้ไง แต่เขาก็เพียงเก็บศพไปและพยักหน้าให้
“พวกเธอทั้งสามผ่านการประเมินแล้ว บอกชื่อของพวกเธอมา!”
“หยี่ เยว่หยู่”
“หลี่ หลาง”
“หลิน ฮวง”
หลังจากนั้นสักพัก จาง ปิงก็พบชื่อพวกเขาในภาพรายชื่อและทำเครื่องหมายที่ด้านข้างชื่อพวกเขา
“ก่อนการฝึกรอบสามจะเริ่มขึ้น พวกเธอสามคนสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ตาม ฉันขอแนะนำว่าอย่าขี้เกียจและไปหามอนสเตอร์หลุดพ้นฆ่าซะ แล้วพวกเธอจะรู้ว่าทำไมในการฝึกรอบสาม”จาง ปิงเตือนและไม่ได้พูดอะไรอีก
“รอฉันแถวนี้ละกัน เนื่องจากมันสายแล้ว ก็ตั้งเต็นท์แถวๆนี้และทำอาหารกินกันซะ ฉันจะกลับมาทันทีที่ทำธุระเสร็จ”
หลิน ฮวงอัญเชิญหมึกดำออกมาอีกครั้งและเดินผ่านประตูไป.....