ตอนที่ 172 เสร็จสิ้น (FREE)
คำถามแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือดวงชะตาของจีนโบราณ
ในโลกเก่าของเขารู้จักกันดีในนาม 'อ้าย ฉิง"
แน่นอนว่าชื่อนั้น ในโลกนี้ไม่มีใครรู้จัก เพราะในโลกนี้มีแต่ กฎแห่งเต๋า เท่านั้น
ปากกาของ ฟาง เจิ้งจือ ขีดเขียนลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว
"ความนอบน้อมมาพร้อมกับความพึงพอใจ มันเป็นกฎของโลกใบนี้... "
หลังจากเขียนคำถามแรกจบ เขารีบอ่านคำถามข้อถัดไปทันที
คำถามที่สองนั้นเกี่ยวกับโลกของเซียน มีการให้อธิบายและตีความคร่าวๆ
มันยากที่จะยอมรับ แต่การสอบระดับจักรพรรดินั้นต้องใช้ความรู้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนี้ ไม่ได้เป็นปัญหากับ ฟาง เจิ้งจือ ในโลกเก่าของเขาเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ฟาง เจิ้งจือ เองก็ศึกษาเรื่องพวกนี้มาเป็นอย่างดี
การตีความ?
จากการศึกษามารุ่นต่อรุ่น มากกว่า 1000 ปี การตีความต่างๆมากมายถูกพิมพ์อยู่ในหนังสือเรียบร้อย
คำถามที่สองถูกตอบลงไปอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่คำถามถัดไป...
...
ฟาง เจิ้งจือ เขียนด้วยความเร็วสูงสุด เสียงขีดเขียนระหว่างปากกากระทบกับกระดาษสามารถได้ยินทั่วห้องสอบเพราะตอนนี้ทุกคนกำลังมองเขาอยู่
พวกเขาราวกับมองเห็นผี
แม้แต่ ปิง หยาง ก็อดจ้องมองที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้
หลังจากนั้น นางก็ขยี้ตาอย่างหนัก นางไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีใครเขียนคำตอบลงบนกระดาษได้รวดเร็วขนาดนี้
เมื่อคืนที่ผ่านมา นางได้เห็นกับตาตัวเองว่าเจ้าหน้าที่ออกข้อสอบยังเกาหัวอยู่นานกว่าที่จะทำกระดาษคำตอบได้เสร็จสิ้น
ทุกคนคิ้วขมวดแน่น หน้าแทบจะซีดขาว
แต่ทำไมข้อสอบคำถามเดียวกัน ต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ราวกับเขากำลังเล่นสนุกอยู่ เขียนลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ปิง หยาง นั้นนั่งด้านซ้ายของ ฟาง เจิ้งจือ ดังนั้นนางจึงเห็นการกระทำอย่างชัดเจน หลังจากอ่านคำถามเพียงแปปเดียว เขาก็เขียนคำตอบลงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปคำถามถัดไป
ไม่นานทั้งหน้าก็เต็มไปด้วยคำตอบ
"เขาลอกหรือ?" ปิง หยาง อยากจะลุกขึ้นและรายงาน ฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตาม นางก็นึกขึ้นได้ว่าตัวนางเองก็มีโพยข้อสอบอยู่ นางจึงยกเลิกความคิดนั้นไป
นี่เป็นครั้งแรกที่ เหยียน ซิว เข้าร่วมสอบระดับจักรพรรดิกับ ฟาง เจิ้งจือ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงของ ฟาง เจิ้งจือ เขาจึงผงะไปกับความเร็วของ ฟาง เจิ้งจือ
มีความคิดโผล่ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจในทันที เขาเคยเห็นคำตอบพวกนี้มาก่อนงั้นหรือ?
ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง...
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เคยเห็นมาก่อน เขาคงไม่เก็บไว้ที่ตัวเองคนเดียว นอกจากนี้ความเป็นไปได้ยังมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หรือตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ เอาจริงแล้ว?
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว เหยียน ซิว ทันที
ตอนที่ทำการทดสอบระดับมณฑลและระดับเมือง ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่จริงจังขนาดนี้
"เขาเขียนเร็วเหลือเกิน?" เหยียน ซิว มองที่กระดาษของตัวเอง ก่อนหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นเขาก็นิ่งสงบลง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เริ่มที่คำถามแรก เขาพลิกไปที่หน้าหลังและเริ่มที่คำถามนั้นแทน
ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ กำลังห้มหัวทำข้อสอบอย่างขมักเขม้น เขาจึงไม่ได้สังเกตุเห็นการกระทำของ เหยียน ซิว
ในความเป็นจริง…
ไม่เพียงแต่ เหยียน ซิว ผู้เข้าสอบคนอื่นๆก็ค่อยๆเลือกตอบคำถามอย่างระมัดระวัง ไม่มีใครสักคนในห้องที่เลือกตอบคำถามตามลำดับแบบ ฟาง เจิ้งจือ
แม้แต่ ปิง หยาง ที่มีโพยข้อสอบก็ไม่ยกเว้น
ในที่สุดทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงปากกาที่ขีดเขียนลงไปบนกระดาษ แสดงให้เห็นว่าทุกคนเริ่มทำข้อสอบแล้ว ไม่มีใครให้ความสนใจกับ ฟาง เจิ้งจือ อีกต่อไป
...
เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ฟาง เจิ้งจือ ยังคงรักษาความเร็วอย่างสม่ำเสมอ ในมือของเขายังมีอีกกว่าครึ่งของข้อสอบที่ยังไม่ได้แตะมัน เชาค่อยๆทำมันไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามใครก็ตามที่ได้เห็นการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ต่างรู้สึกหงุดหงิด
"คือ ... เขาคิดจะทำหมดทุกข้อจริงๆงั้นหรือ?!"
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากความคิดนี้ผุดขึ้นมา พวกเขาก็รีบบังคับมันให้หายไปอย่างรวดเร็ว
เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น…
ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ใครจะมานั่งทำข้อสอบทั้งหมดกัน
แต่ ฟาง เจิ้งจือ เองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาค่อยๆเติมคำตอบลงในคำถามทีละข้อทีละข้อ ขณะที่เขากำลังทำอยู่เขาก็ตระหนักถึงแนวโน้มที่แปลกประหลาด
ในทุกๆหน้าของกระดาษคำตอบจะมีการจับคู่กลอนโดยใช้สัมผัสโผล่ขึ้นมา
"อย่างที่คาดไว้ คนจากเมืองเหยียนคงรู้วิธีจับคู่กลอนดี แม่แต่เด็กสามขวบคงรู้เรื่องพวกนี้ดี ... การทดสอบระดับจักรพรรดิ จะเอาอย่างนี้จริงๆงั้นรึ? หรือมันจะเป็นแบบไม่รู็จะออกข้อสอบอะไรดี เลยเอาพวกนี้มาออกสอบ? "
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าการจับคู่กลอนพวกนี้เหมือนเป็นการดูถูกความฉลาดของเขามากเกินไป อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจมันมากไป เขารเิ่มจับคู่พวกมันเข้าด้วยกัน
...
เวลาค่อยๆเดินผ่านไป ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวอีกหนึ่งชั่วโมงก็ผ่านไป
ปิง หยาง เริ่มตรวจคำตอบของตัวเอง ที่จริงต้องพูดว่า ปิง หยาง ทำทีว่าตรวจเช็คข้อสอบไปอย่างนั้น
เปรียบเทียบกับ ปิง หยาง และ เหยียน ซิว พวกเขาไม่มีใครสนใจคนอื่น พวกเขายังคงก้มหัวแทบแนบชิดกระดาษคำตอบ บางคนมีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากด้วยความเครียด
ปากกาของ ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่หยุนิ่ง เขายังคงเหลือหน้าสุดท้ายก่อนที่จะทำข้อสอบทั้งหมดเสร็จ
เมื่อมาถึงจุดนี้ ฟาง เจิ้งจือ ก็เงยหน้าขึ้นมามองรอบๆ เขาพบว่า เหยียน ซิว กำลังปรับเปรียบคำตอบของเขา ขณะที่ ปิง หยาง ส่ายหัวเล่นพร้อมกับตรวจเช็คกระดาษคำตอบในมือของนาง
แต่คนส่วนใหญ่ยังคงก้มหัวทำข้อสอบอยู่เหมือนเดิม
"ทำไมทุกคนทำช้าอย่างนี้?" ฟาง เจิ้งจือ จำได้ตอนที่เขาเข้าร่วมการทดสอบระดับมณฑล เขาทำเสร็จแล้วมีเวลาหลับอีกเกือบครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เขาไม่ได้คาดคิดว่าการทดสอบระดับจักรพรรดิจะทำให้เขาอยากลำบากได้
แต่ในช่วง 15 นาทีที่ผ่านมา ยังมีหน้าหนึ่งที่เขายังทำไม่เสร็จ
"ทำ...ใครในโลกนี้...ที่คิดคำถามมามากมายขนาดนี้กัน?" ฟาง เจิ้งจือ สาปแช่งอย่างเงียบๆ ไม่มีเวลาที่จะมองไปรอบๆ เขารีบเขียนข้อสอบให้เสร็จ
เวลาเดินไปอีกครั้ง
คำถามสุดท้าย ฟาง เจิ้งจือ คิดว่ามันเป็นเหมือนการสอบในระดับมณฑล มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพิธีการ
มันเป็นการทดสอบเกี่ยวกับความรู้เรื่องพิธีสาบานตน
ในประเด็นนี้ ฟาง เจิ้งจือ คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แต่ในโลกนี้นั้นมีพิธีการเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามพิธีกรรมในโลกนี้นั้นแตกต่างกัน
ในโลกก่อนหน้านี้ จะต้องมีการทดสอบ ทำข้อสอบ ที่แสดงว่าคนคนนั้นพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่
มีกฎว่าอายุอย่างน้อยต้อง 16 ปี เป็นช่วงที่เปลี่ยนจากวัยรุ่นและกลายเป็นผู้ใหญ่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็นึกถึง เหยียน ซิว บางที่เขาก็อาจจะทำพิธีนี้ก่อนที่จะออกจากเมืองเหยียนไป
ก่อนที่จะเริ่มงานเลี้ยงฉลองกองตรวจการศักดิสิทธิ์ เหยียน ซิว เคยพูดบางอย่างกับ ฟาง เจิ้งจือ เขาบอกไว้ว่าอาจจะใช้เวลา 2 ปี เขาถึงจะได้ไปนั่งบริเวณที่นั่งหน้าสุด
ฟาง เจิ้งจือ เองก็ไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง
สองปี?
อายุสิบแปดปี...
"ก้อง!"
ในขณะที่เขากำลังคิด เสียงระฆังบอกหมดเวลาสอบก็ดังขึ้น
ตาของ ฟาง เจิ้งจือ กวาดไปรอบๆ เขาเห็นผู้คุมสอบทั้ง 4 คนกำลังเริ่มเก็บกระดาษคำตอบจากทุกทิศทาง ฟาง เจิ้งจือ ไม่เสียเวลาอีกต่อไป รีบเขียนความหมายของพิธีสาบานตนลงไปทันที
หลังจากเขียนทุกสิ่งเรียบร้อย เขาก็รีบถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เห้อในที่สุดก้เสร็จเสียที!"
เพจหลัก : Double gate TH