บทที่ 28 - เรียกฉันว่าอิชมาเอล (4) [อ่านฟรีวันที่ 12/08/61]
บทที่ 28 - เรียกฉันว่าอิชมาเอล (4)
ยูอิลฮานได้กลับไปที่ทำงานของเขา หลังจากนั้นเขาก็ได้ยืนยันทางทีวีที่ประกาศเรื่องการเปลื่ยนแปลงไปของดันเจี้ยนกลางเมื่อ ความสัมพันธ์ของจักรพรรดินีกับรัฐบาลนี่น่าทึ่งจริงๆ
ยังไงก็ตามเขาไม่ต้องดูอะไรอีกแล้ว ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือสกิลของเขา
[หัวใจมอนสเตอร์คลาส 2 ที่กำลังหลับไหล 0/500]
[เลือดโทรลล์ 0/500 ลิตร]
[หลับสบาย 12/100 ชม.]
[หินพลังเวทย์ของมอนสเตอร์คลาส 3 1/1]
เมื่อได้มองเห็นเงื่อนไขนี้แล้วทำให้ยูอิลฮานอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
"ฉันรู้อยู่แล้วว่าคนเราทำดีได้ดี"
[ฉันไม่เกลียดการคิดบวกแบบนี้หรอกนะ]
นั่นใช่การดูถูกเขาทางอ้อมหรือป่าวนะ? หลังจากเขาได้สั่นหัวเพื่อให้เอิลต้าเงียบไป เขาก็มองดูสิ่งที่เหลืออยู่
"ปัญหาใหญ่ที่สุดก็เป็นโทรลล์สินะ ฉันไม่เคยได้ยินเลยว่ามันมีมอนสเตอร์จากโลกอื่นมาปรากฏบนโลก....."
[ถ้าหากเป็นคนอื่น เขาคนนั้นก็แค่ไปรับเควสที่เหมาะสมและทำมันที่ต่างโลกก็จบแล้ว]
"ฮึ่ม ฉันจะไปทำแบบนั้นได้ไงล่ะในเมื่อฉันไปต่างโลกไม่ได้"
เอิลต้าที่ล้อเล่นจนยูอิลฮานโกรธได้ปลอบเขาด้วยการเรียกลมเย็นๆมาให้
[คุณไม่ต้องห่วงหรอกความเข้มข้นของมานาบนโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกไม่นานนคุณก็จะต้องเจอโทรลล์เร็วกว่าที่คุณคิดซะอีก]
"แต่เธอไม่รู้หรอว่าเลือดโทรลล์นะมันได้รับความนิยมจากคนอ่านนิยายมากเลยนะ? มันไม่ใช่ว่าเลือดของมันจะมีค่ามากกว่าทองเพราะการที่มันเป็นวัตถุดิบในการทำโพชั่นนะ? ไม่ใช่ว่าที่สกิลพักผ่อนต้องการเลือดโทรลล์เพื่อวิวัฒนาการมันเป็นเพราะเอกลักษ์ของการรักษาแผลสินะ?"
[ใช่แล้ว เรื่องนั้นมันแน่นอน]
เอิลต้าได้ตอบกลับมาด้วยเสียงที่มันใจ
[แต่แน่นอนว่าคุณจะใช้เลือดของมันได้หากมีการต้านทานพิษระดับสูงนะ]
"เวรเอ้ย"
ทำไมการต้านทานพิษถึงได้เพิ่มขึ้นไปในทุกๆครั้งเลยนะ! ความต้านทานพิษระดับต่ำ ความต้านทานพิษ ความต้านทานพิษระดับสูง เขาไม่อย่างจะคิดเลยว่าความต้านทานอย่างต่อไปจะเป็นระดับไหน
[อย่าไปเชื่อพวกนิยายแฟนตาซีมากนัก มันจะไปมีมนุษย์คนไหนบ้าถึงขนาดไปดื่มเลือดมอนสเตอร์สดๆกันล่ะ? มันไม่ใช่ว่าจะไม่มีโพชั่นในต่างโลกเลยด้วย แต่ว่าส่วนผสมหลักของมันไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวกับโทรลล์ซักนิด]
"อ่า เป็นงั้นหรอ"
ไม่ว่ายังไงก็ตามความจริงที่ว่าเลือดโทรลล์จำเป็นสำหรับการวิวัฒนาการสกิลพักผ่อนของเขาก็ยังไม่ได้เปลื่ยนไป สกิลนี้ต้องการเลือดของมอนสเตอร์ที่มนุษย์ไม่สามารถจะดื่มได้ สกิลนี้จะวิวัฒนาการไปเป็นยังไงกันนะ? ยูอิลฮานทั้งกังวลและคาดหวังในเวลาเดียวกัน
[หัวใจของมอนสเตอร์คลาส 2 ที่กำลังหลับไหลก็ยากเหมือนกันนะ คุณจำเป็นจะต้องฆ่ามันภายในครั้งสองครั้ง]
"ฉันคิดว่าฉันน่าจะทำได้หากฉันทำการเสริมพลังให้กับอาวุธซักหน่อย...."
ในตอนนั้นยูอิลฮานก็หันไปมองทาฮาคาเนี่ยมที่อยู่ในมุมที่ทำงานของเขาทำให้เอิลต้าต้องดึงผมของเขา
[ฉันบอกว่าไม่]
"ขอสักหน่อยนึงนะ"
[ไม่!]
แม้ว่ายูอิลฮานจะกลับมาเกิดอีกครั้ง เอิลต้าก็ไม่ยอมที่จะถอยให้เขา
[สมดุลมันจะเอนเอียงเกินไป แค่การให้คุณใช้ค้อนกับทั่งได้จนกว่าเควสจะจบลงมันก็ดีมากพอแล้ว]
"ชิ"
เอาเถอะ มันก็ยอดเยี่ยมแล้วที่เขาสามารถจะสร้างอาวุธขึ้นได้ด้วยเครื่องมือมหัศจรรย์ที่อยู่เหนือไปกว่าโลกนี้ ในขณะที่เขาซ่อมหอกเหล็ก เขาก็ได้รู้สึกกถึงความจริงข้อนี้
แต่ยังไงก็ตามต่อให้เขาใช้เหล็กมาทำมันก็เป็นการยากที่จะสร้างหอกที่ดีไปกว่าหอกเหล็กที่เขามีตอนนี้ ตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาจะลองไทเทเนียมหรือยังนะ? หลังจากได้คิดแบบนี้ยูอิลฮานก็ต้องส่ายหัว
"ฉันน่าจะเรียนรู้เรื่องของกระดูกให้มาขึ้นดีกว่า"
[ถึงแบบนั้นหากคิดจากพรสวรรค์ของคุณอุปกรณ์โลหะน่าจะเปล่งประกายกว่านะ]
ยูอิลฮานก็รู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน นี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาคิดที่จะใช้ฮาคาเนี่ยมนั่นเอง
"อ่า ให้ตายสิ งั้นตอนนี้ก็มาทำในสิ่งที่ฉันทำได้ก่อนดีกว่า"
[คุณควรจะทำอย่างนี้แต่แรกแล้ว]
หนังที่ได้รับความเสียหายนำมาสร้างได้แค่เกราะบางส่วนเท่านั้น ส่วนกระดูกเสือดาวที่แข็งมากๆทำให้ไม่เสียหายอะไร กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นก็เช่นกัน นี้คือวัตถุดิบทั้งหมดที่เขามี
อย่างแรกเลยเขาได้ทำการซ่อมแซมชุดเซ็ตฉมวกที่ได้รับความเสีหายก่อน เสาและฉมวกที่ทำมาจากกระดูกเสือดาวยักษ์ส่วนใหญ่ยังดีอยู่ทำให้เขาต้องแก้เพียงแค่เชือกหนังด้วยการนำหนังเสือดาวสีดำไปเสริม
หลังจากจัดการซ่อมชุดเซ็ตทั้งหกนี้เสร็จแล้ว เขาก็ได้เริ่มหันไปมองกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
"ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ"
[คุณคงไม่ได้คิดจะทำอะไรแปลกๆอีกแล้วหรอกนะ?]
ทำไมจะไม่ล่ะ? เขาได้ยิ้มขึ้นมาเมื่อจินตนาการถึงบางอย่างและตื่นเต้นไปกับกล้ามเนื้อของเสือดาวนี้
ยังไงก็ตามไม่ว่าความยิดหยุ่นของเสือดาวงจะมากแค่ไหนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวข้ามแรงขับเคลื่อนที่ทำขึ้นมาจากดินระเบิดในยุคสมัยใหม่นี้ ตามที่เขาคิดเอาไว้เลยถึงแม้ว่ามันจะเป็นมอนสเตอร์มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะก้ามข้ามขีดจำกัดของดินระเบิดไปได้ ในขณะนั้นยูอิลฮานก็ถอนหายใจออกมา
เส้นเอ็นมีเพียงความเหนียมทนทานแต่ว่าไม่มีความยืดหยุ่นเมื่อเทียบกับกล้ามเนื้อ สุดท้ายแล้วมันก็คงต้องไปจบในเตาไฟสินะ
"ไม่! ฉันวางแผนที่จะย่างมันกินหลังจากได้เริ่มสกิลต้านทานพิษระดับสูง!"
[มันคงจะเน่าก่อนนะ]
ฉันก็คิดว่าเขาจะเอามันมาทำเป็นอาวุธแต่แล้วเขากลับมีเป้าหมายแบบนี้เนี้ยนะ!? - เอิลต้าได้คิดขึ้นภายในใจของเธอ
ยังไงก็ตามเส้นเอ็นที่เขาได้โยนเข้าไปในเตาไฟก็ได้แสดงการเปลื่ยนแปลงที่ผิดปกติ ยูอิลฮานที่สังเกตุเห็นมันอย่างรวดเร็วได้เกิดแสงขึ้นภายในตาเขา
"ดูเจ้านี่สิ....?"
เป็นเพราะการที่มันได้ไปสัมผัสเข้ากับเพลิงนิรันดร์ที่ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้งั้นหรอ? หรือวามันเป็นเพราะว่าการเกิดของเสือดาวดำมันผิดปกติอยู่แล้ว? ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผลที่ชัดเจนก็ตามที แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความจริง
เมื่อเส้นเอ็นได้ถูกเพลิงนิรันดร์เผหามากขึ้นไปเรื่อย เส้นเอ็นก็ได้เปลื่ยนไปทีละนิดในขณะที่กลายเป็นสีแดง
"เธอก็น่าจะบอกฉันก่อนนะถ้าหากว่ามันมีวิธีการทำแบบนี้......!"
ในตอนนี้ตาของยูอิลฮานก็ยังจ้องนิ่งอยู่ที่เตาไฟ แต่ว่าเอิลต้าได้หันหน้าหนีพร้อมเสียงฮึ่ม
[ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตหรือสร้างอะไรเลย มันไม่มีทางที่ฉันจะรู้ว่ามันจะมีการเปลื่ยนแปลงไปของเส้นเอ็นหลังจากเจอกับเพลิงนิรันดร์หรอกน่า]
"ย่างมันสักหน่อย ฉันอยากจะเห็นจุดที่สำคัญที่สุด"
ยูอิลฮานไม่ได้ฟังเอิลต้าอีกต่อไปแล้ว เพลิงนิรันดร์ได้เพิ่มอุณหภูมิขึ้นราวกับมันเข้าใจในคำพูดของเขาและในขณะที่เส้นเอ็นได้ทนกับความร้อนในระดับที่ไม่เคยมีให้เห็นบนโลกก็ร้อนขึ้นมา
"หยุด"
เมื่อยูอิลฮานได้รู้ถึงจุดสำคัญผ่านประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมาเป็นร้อยปีเขาก็สั่งให้หยุดลงทันที เขาได้เอาแหนบคีบเส้นเอ็นออกมาอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่รอจนกระทั่งมันเย็นตัวลงไปแล้วเขาก็ใช้เครื่องมือทุกชนิดในที่ทำงานของเขาเพื่อทุบมัน ดึงมันออก หุ่นมันและแม้กระทั่งตรวจสอบความต้านทานความร้อนและความต้านทานความเย็น หลังจากนั้นเขาก็ได้ข้อสรุป
"ฉันจะตั้งชื่อมันว่าหนังยางยักษ์"
เส้นเอ็นของเสือดาวสีดำนั้นทนทานมาก มันไม่ได้รับผลกระทบจากไฟ น้ำและการช็อตเลยสัดนิด แต่ยังไงก็ตามเมื่อมันได้สัมผัสเข้ากับเพลิงที่ร้อนแรงของเพลิงนิรันดร์ เอกลักษ์เฉพาะตัวที่น่าทึ่งของมันก็ได้ถูกเสริมขึ้นมาอย่างแท้จริง และนั่นมันก็คือความยืดหยุ่นที่เหนือยิ่งไปกว่ากล้ามเนื้อของเสือดาวซะอีก
แม้ว่ามันจะเป็นการยากที่จะดึงมันเนื่องจากความแข็งที่น่าทึ่ง แต่ว่าด้วยความยืดหยุ่นที่ถูกเสริมเข้ามานี้ทำให้มันสามารถถูกดึงได้ง่ายดาย นี้มันน่าทึ่งจริงๆ ยูอิลฮานจึงเรียกมันว่าเป็นหนังยางยักษ์
[นี้มันน่าทึ่งจริงๆ แต่ว่าคุณวางแผนจะทำอะไรจากมันล่ะ?]
"ฉันคิดได้อย่างหนึ่ง"
นั่มนัก็คือ pile bunker(คิดชื่อไม่ออกจริงๆ ใครพอรู้ช่วยแนะนำทีครับ) แม้ว่ามันจะมีหลักการเหมือนกับกับปืน แต่มันก็เป็นอาวุธระยะประชิดที่ใช้พลังดินระเบิดยิงแท่งเหล็กแทนกระกระสุน
ยูอิลฮานได้คิดที่จะทำ pile bunker ด้วยเส้นเอ็นของเสือดาวแทนดินระเบิด
[คงมีแค่คนแปลกๆแบบคุณที่จะคิดอะไรแบบนั้น!]
"เพลิงนิรันดร์ นายจำถึงอุณหภูมิเมื้อกี้ได้ใช่ไหม? พวกเราจะทำแบบนั้นกับเส้นเอ็นทั้งหมด"
ความคิดที่จะใช้หนังยางยักษ์นี้ได้ระเบิดออกมาจากหัวของยูอิลฮานแล้ว เขายังสามารถจะคำนวณว่าจะทำยังไงกับกระดูกในหัวอีกด้วยซ้ำไป
[ฉันอยากจะรู้พลังงานในตัวคุณจริงๆว่ามันมาจากไหน]
ในท้ายที่สุดแล้วเอิลต้าก็ได้แต่ถอนหายใจเฝ้ามองดูเขาทำงานเงียบๆ
กระดูกชิ้นที่ใหญ่และหนาที่สุดได้ถูกปรับแต่งให้เป็นลำกล้องซึ่งรวมไปถึงส่วนต่างๆภายในด้วยและหนังยางยักษ์ที่ซึ่งได้รับการเสริมความยืดหยุ่นจากเพลิงนิรันดร์ก็ถูกคิดคั้งอยู่ภายในกระบอกปืน การทำงานที่เขาทำนี้มันลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติจนเอิลต้าอดคิดไม่ได้ว่าเขาเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือป่าว
"มันน่าจะดีนะหากที่จับมันถูกห่อด้วยหนัง"
ยูอิลฮานได้สร้างขึ้นเพื่อให้เหมาะกับตัวเขา แม้ว่ามาตราฐานจองเขามันจะกว้างใหญ่จนเรียกว่าเป็นปัญหาก็ตามที
"ถ้าฉันแข็งแกร่งขึ้น งั้นฉันก็สามารถจะปรับแต่งส่วนด้านใน แล้วฉันก็ยังสามารถเสริมยางลงไปเพื่อทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นได้อีกด้วย"
[ความคิดของคุณมันไร้สาระจนถึงขนาดที่ฉันไม่คิดว่ามันจะออกมาจากหัวของคนเลยจริงๆ]
กระสุนของ pile bunker ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน! เขาได้ใช้เขี้ยวของเสือดาวเพื่อที่จะทำกระสุนนี้ ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของเสือดาวทำให้ฟันของมันมีขนาดที่ยาวและหนามา และยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังคมมากๆอีกด้วย
หลังจากได้ทำกระสุนทั้งหมด 7 นัดแล้ว ยูอิลฮานก็เริ่มกังวล
"ฉันจะต้องเสริมมันด้วยหินพลังเวทย์ไหมนะ...."
[แค่นี้มันก็น่ากลัวพอแล้วนะ]
"มันจะต้องเป็นไม้เด็ดของฉันแน่ถ้าฉันใช้หินพลังเวทย์ของเสือดาวดำกับมัน"
[ถ้าคุณมั่นใจว่าจะเจอมอนสเตอร์คลาส 3 อีกก่อนโทรลล์จะเกิดขึ้นก็เชิญทำตามที่คุณต้องการเลย]
การทัดท้านของเอิลต้าแข็งแกร่งมากจนในท้ายที่สุดทำให้ยูอิลฮานได้ยอมแพ้กับการหัตถกรรมมานา
ยูอิลฮานได้ทำอาวุธนี้อย่างระเอียดมากๆดังนั้นมันจึงมีถึงการโหลดถึง 3 ขั้น ยังไงก็ตามเนื่องจากการพยายามของเขาการโลหดระดับที่หนึ่งก็ยากจนน่าทึ่งแล้ว
"อ๊ากกกกกกกกกกกก....... แม่!"
[แม่ของคุณอยู่ต่างโลกนู่น!]
ยูอิลฮานแทบจะหายใจไม่ออกหลังจากที่ดึงโหลดในขั้นแรก
"ฉันใช้เวลไปกี่วิ?"
[ประมาณ 2 วิ]
"อย่างที่คิดเลยการจะใช้มันอย่างต่อเนื่องมันเป็นไปได้ยาก ให้ตายสิ แค่ดึงมาในระดับหนึ่งฉันก็ต้องเรียกแม่แล้ว ถ้าหากฉันดึงไปถึงขั้นสามฉันก็คงเรียกทั้งโครตเหง้าฉันแน่"
ขั้นที่สองต้องใช้เวลาในการรีโหลดถึง 10 วินาทีและในขั้นที่ 3 ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งนาที ถ้าหากว่าเขาโหลดไปโดยที่เคลื่อนไหวไปด้วยมันจะต้องใช้เวลามากยิ่งกว่านี้ซะอีก
หลังจากที่เขาได้รีโหลดแล้วข้อความที่เขารอคอยอยู่ก็ได้ปรากฏขึ้นมา
[Pile Bunker ความเร็วแสงได้เสร็จสมบูรณ์]
[ระดับ - ยูนีค]
[พลังโจมตี -
ขั้นที่ 1: 1200
ขั้นที่ 2: 1800
ขั้นที่ 3: 2900]
[ออฟชั่น - ความเร็วในการรีโหลดลดลงและความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น 20%]
[ความทนทาน - 1240/1240]
[อาวุธที่ถูกสร้างขึ้นจากช่างระดับสูงสุดด้วยการใช้กระดูก ฟันและเส้นเอ็นของเสือดาวเงา
แม้ว่ามันจะน่าทึ่งที่สามารถจะแสดงพลังที่น่ากลัวได้โดยที่ไม่ต้องใช้เวทมนตร์หรือดินปืน แต่ว่ามันก็ยากที่จะใช้ในขณะที่เคลื่อนไหวเช่นกัน]
Pile Bunker อันนี้ได้มีออฟชั่นอัลฟ่าอยู่แม้ว่าจะไม่ผ่านหัตถกรรมมานาก็ตามซึ่งผลของออฟชั่นน่าทึ่งอย่างแท้จริง ลดเวลาในการรีโหลดและความเร็วในการโจมตี! ยูอิลฮานอยากจะร้องไห้จากความยินดีที่ได้ออฟชั่นที่มีประโยชน์แบบนี้
แต่ยังไงก็ตามเอิลต้าที่มีความสามารถในการหาข้อเสือของสิ่งนี้ได้ตำหนิออกมา
[ความยาวของมันกว่า 3 เมตรนี่มันเป็นข้อเสียจริงๆเลย]
"ฮึ่ม นี่มันเอาไว้ใช้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ต่างหาก"
[อย่าบอกฉันนะว่า...?]
"ตอนนี้ฉันจะสร้างอาวุธขนาดที่เล็กลงเพื่อรับมือกับมอนสเตอร์ขนาดเล็ก"
[ไปพักเถอะ แค่พักน่า!]
ยูอิลฮานไม่ได้เหนื่อยแม้แต่นิดและเขาก็ได้เริ่มทำอาวุธด้วยหนังยางอีกครั้ง เขาทำงานอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทูตสวรรค์ได้ลงมาทำกับดักแห่งการทำลายชิ้นที่ 3