บทที่ 26 - เรียกฉันว่าอิชมาเอล (2) [อ่านฟรีวันที่ 08/08/61]
บทที่ 26 - เรียกฉันว่าอิชมาเอล (2)
เสือดาวสีดำที่โดนสายฟ้าเข้าไปล้มลงไปกับพื้นพร้อมๆกับเสียงะรเบิดที่ดังขึ้น ในตอนนั้นเชือกก็ได้ตรึงขึ้นและทำให้ร่างกายของมันมีแผลฉีกมาขึ้น
หลังจากนั้นรถหุ้มเกราะของคังมิเรย์ก็ได้ขับเข้ามาใกล้ยูอิลฮานและหยุดลงทันที คังมิเรย์มองออกมาผ่านกระจกได้มีขวดบางอย่างเล็กๆในปากและในขวดนั้นก็มีอะไรซักอย่างที่เรืองแสงออกมา เมื่อเขาลองคิดดูเธอก็ยังใส่หน้ากากอยู่ด้วย เป็นหน้าการที่ปิดหน้าผากลงมาจนถึงจมูกของเธอ เธอไม่ได้ใส่หน้ากากฮัคแล้ว
"คุณจะจับเจ้ามอนสเตอร์เอาไว้แบบนี้สินะ?"
"นั่นแหละที่ฉันทำ"
เวทย์ที่คังมิเรย์ใช้เป็นแค่เวทย์คลาส 1 เท่านั้นแต่มันก็ยังแข็งแกร่งมาก แต่ว่าแน่นอนว่าในสถานการณ์นี้มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาคุยกันสบายๆ ยูอิลฮานจึงตอบกลับไปสั้นๆและพุ่งตัวออกไป ในมือของเขามีเสาต้นที่สี่อยู่ในมือ
"นี่!"
ปัง! ยูอิลฮานได้ปักเสาลงไปกับพื้นอย่างชำนาญ หลังจากที่เสาปักลงไปแน่นแล้วเขาก็หยิบเอาฉมวกอันที่สี่ขึ้นมาเล็งไปทางเสือดาวที่เพิ่งจะทรงตัวขึ้นมา
[กรรรรรรรร!]
เสือดาวก็ดูจะไม่สามารถจัดการผลช็อคจากไฟฟ้าได้แม้ว่ามันจะทรงตัวขึ้นมาก็ตาม มันได้เสียแม่ไปก่อนที่จะเกิดด้วยซ้ำ และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มันก็ยังถูกตรึงเอาไว้ด้วยกระดูกและหนังของแม่ตัวเอง นี่มันเป็นฉากที่น่าสงสารอย่างจับใจ
เพราะแบบนี้ยูอิลฮานจึงตัดสินใจที่จะทำให้มันจบลงให้เร็วที่สุด
"ฮึบ!"
[กรรรรรรรรรรร!]
ฉมวกอันที่สี่ได้เจาะเข้าไปในอุ้งเท้าซ้ายของเสือดาวอย่างไม่ผิดพลาดใดๆ ในตอนที่ดเขาขว้างหอกออกไปและเข้าเป้า ยูอิลฮานก็ยังตกใจไปพักนึงเนื่องจากเธอยังเข้าใจในสถานการณ์นี้ไม่ได้
"เมื่อไหร่เธอถึงจะโจมตีมันล่ะ แล้วก็เจ้าเสือดาวนั่นมันแข็งแรงมากดังนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เสาจะถูกดึงออกมา"
"มันดูไม่เหมือนว่าเสาจะถูกดึงออกมาเลยนะ"
ยูอิลฮานได้ขยับตัวต่อไปโดยไม่สนในคำพูดของคังมิเรย์เลย ถึงแม้ว่าจะมีฉมวกสี่อันปักอยู่ในร่างของเสือดาวถึง 4 ทาง แต่ว่ามันก็ยังไม่พอที่จะตรึงเสือดาวเอาไว้อย่างเต็มที่
สิ่งที่สำคัญคือมานาของเสือดาวยังไม่ได้หมดลงไป! เหมือนกับว่ามันได้ตัดสินใจที่จะหนีไปจากการตรึงก่อนเป็นอย่างแรกทำให้มันแยกเขี้ยวออกมาและยิงใบมีดสายลมเข้าใส่เชือกอย่างต่อเนื่อง
[กรรรรรรรรรรรรร!]
ยูอิลฮานได้ตรวจสอบในสภาพของมันในขณะที่ปักเสาต้นที่ห้าลงไปบนพื้น ถ้าหากว่าเสือดาวในตอนนี้สามารถใช้พลังของมันผ่านการจ้องมองได้ยูอิลฮานก็คงจะตายไปแล้ว ความเป็นศัตรูที่มากมายและจิตสังหารที่ไม่สิ้นสุดของเสือดาวได้พุ่งมาที่ตัวของเขาอย่างเต็มที ถึงแม้ว่าการโจมตีของคังมีเรย์จะสร้างความเสียหายให้มันอย่างมากแต่มันก็ดูจะไม่สนใจเธอเลยสักนิด
[กรร..... กรรรรรรรรรร....]
"แกอยากจะให้เราตายไปด้วยสินะ"
เขาเคยเจอกับการจ้องมองแบบนี้มาไม่กี่ครั้งเท่านั้นในตอนที่เขาไปออกล่าสัตว์เพื่อที่จะฝึกการชำแหละให้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างก็เห็นชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและทำทุกๆอย่างเพื่อที่จะปกป้องชีวิตของมันก็ตาม แต่ว่ามันจะมีบางช่วงเวลาที่มันจะเห็นการช่วงชิงชีวิตอื่นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการมีชีวิตรอดเช่นกัน
ช่วงเวลานั้นสิ่งมีชีวิตจะเปล่งประกายออกมามากที่สุดอยู่พักหนึ่ง มันจะเหมือนกับเพลิงที่ลุกไหม้อย่างร้อนแรงก่อนที่จะดับลงไป
ยูอิลฮานได้โยนฉมวกอันที่ห้าออกไปเข้าใส่ตาซ้ายของเสือดาว เลือดของมันได้ไหลออกมาเหมือนกับน้ำพุ
"มันจะโจมตีแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะโจมตีได้สักที?"
"ถ้าคุณต้องการให้ฉันโจมตีเดี๋ยวนี้ก็ได้เลยแล้วก็ฉันสามารถจะใช้การโจมตีที่ทรงพลังได้ในอีก 2 นาที!"
"โอเค ถ้างั้นถ้าเธอใช้การโจมตีนั่นได้แล้วก็บอกฉันก่อนนะ"
หลังจากเขาพูดจบก็ได้มีดใบมีดลมพุ่งเข้ามาหาเขาทันที เขาได้จัดการแทงอุ้งตีนหน้าของมันทั้งสองข้างเพื่อจะผนึกใบมีดลมของมันแล้วแต่ว่ามันก็เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิด มันยังคงเหวี่ยงอุ้งตีนหน้าได้อยู่
แต่ว่าอุ้งตีนหน้าของมันก็ยังไม่สามารถจะทนกับแรงกระแทกได้ทำให้เลือดของมันได้ไหลออกมาเหมือนกับน้ำพุ แต่ว่าความน่ากลัวของสิ่งนี้คือมันได้ย้อมใบมีดลมไปด้วยเลือดทำให้มันดูน่ากลัวอย่างแท้จริง
[นี้มันยังถูกเรียกว่าบัฟโลหิต แต่... พูดง่ายๆก็คือมันคลั่งไปแล้ว ระวังเอาไว้ด้วยมันแข็งแกร่งขึ้น]
"ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นแบบนั้น"
ยูอิลฮานได้กลิ้งตัวไปกับพื้นทันทีที่เห็นแบบนี้ พื้นคอนกรีตที่อยู่ตรงที่ที่เขายืนอยู่เมื่อตะกี้นี้ได้ถูกเจาะลึกลงไป เสียงรถหุ้มเกราะของคังมิเรย์ก็ยังส่งเสียงดังขึ้นมาราวกับตกใจจากฉากนี้
"ฉันไม่คิดว่าฉันจะเข้าไปใกล้ได้เลย....!"
ขณะที่ยูอิลฮานกลิ้งไปกับพืนยูอิลฮานก็กอดเสาต้นที่หกเอาไว้อยู่ เขาได้เดาะลิ้นขึ้น ใบมีดเรียดได้อันตรายมากยิ่งขึ้นและลอยผ่านไปในทุกๆที่ที่เขาผ่าน เชือกหนังที่ตรึงมันเอาไว้ก็ได้ค่อยๆไปถึงขีดจำกัดและส่งเสียงที่น่าเป็นห่วงออกมา
มันไม่ได้สนใจเลยแม้ว่าฉมวกที่เจาะร่างกายของมันอยู่จะฉีกกล้ามเนื้อและกระดูกของมันในตอนที่มันเคลื่อนไหว มันได้ขยับร่างกายไปอย่างอิสระไม่สนใดๆทั้งสิ้น การเคลื่อนไหวของมันนี้ก็คือการยอมแลกกับชีวิตตัวเองเพื่อเอาชีวิตของศัตรูไปพร้อมๆกัน
คังมิเรย์ที่อยู่บนรถหุ้มเกราะก็ยังยิงสายฟ้าออกมาเช่นกันแต่ว่าเธอก็ไม่สามารถจะทำให้มันมึนงงเหมือนกับในตอนนั้นได้ เขาจำเป็นต้องยื้อเวลาไปอีก 2 นาที
"ฟู่"
ใช่แล้ว เขาไม่เคยคิดว่ามันจะง่ายตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่ว่าเสือดาวนี่มันอยู่คลาส 3 งั้นหรอ? มันจะถูกเรียกว่าเป็นคลาส 3 ได้ยังไงถ้าหากว่ามันถูกหยุดการโจมตีเอาไว้ด้วยการตจรึงแบบนี้และตายไปแค่การโจมตีแบบนี้และถูกช็อตด้วยสายฟ้า? หากเป็นแบบนั้นก็เรียกมันว่ากระสอบทรายยังจะดีซะกว่า
"เธอใช้สกิลที่แข็งแกร่งเพื่อหยุดมันหน่อยไม่ได้หรอ!?"
"ลองนี่เป็นไงล่ะ!?"
เสียงตอบสั้นๆได้ดังขึ้นมา และตามมาด้วยปืนกลที่โผล่ออกมาจากหน้าต่างของรถหุ้มเกราะและเริ่มยิงเข้าใส่เสือดาวสีดำอย่างบ้าครั้ง ยูอิลฮานได้แต่พูดออกไปแค่คำเดียวเมื่อเห็นแบบนี้
"อ่า!"
[คุณกลัวว่าหนังของมันจะเสียหายใช่ไหม?]
ไม่ว่ายังไงก็ตามกระสุนก็ไม่สามารถทำได้แม้แต่สร้างรอยขึ้นบนหนังของมันเลยด้วยซ้ำ และเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของเสือดาวทำให้กระสุนกว่าครึ่งพลาดเป้าไป การโจมตีนี้มันไร้ซึ่งพลังและเทคนิคเอามากๆ ยังไงก็ตามถ้าหากเป็นตัวยูอิลฮานมันอาจจะต่างออกไป
"เอาปืนกลมาให้ฉันยืนที!"
"คุณใช้ได้แม้แต่ปืนด้วย!?"
คังมิเรย์ได้ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจซึ่งมันหาได้ยากจากเธอ แต่แน่นอนว่ายูอิลฮานไม่ใช่แค่เชี่ยวชาญในปืนเท่านั้นแต่เขาก็ยังเชี่ยวชาญในอาวุธทุกๆอย่างด้วยซ้ำไป เขาได้มั่นใจว่าเขายิงปืนได้ดียิ่งกว่ามนุษย์คนใดบนโลกด้วยซ้ำไป
นอกไปจากนี้เพราะการที่มอนสเตอร์ตัวนี้วิ่งไปรอบๆพื้นที่ทำให้เขาไม่สามารถจะใช้หอกของเขาหรือการต่อสู้ระยะประชิดโดยไม่มีความเสี่ยงได้ มันดูเหมือนว่าฉมวกที่เหลืออยู่ของเขาในตอนนี้มันจะใช้ไม่ได้แล้ว ถ้าหากว่ามันจะมีอะไรที่เป็นไปได้ล่ะก็....!
"แค่ส่งปืนมาให้ฉันเถอะน่า"
"เฟร็ดส่งปืนให้เขา"
แม้ว่าเขาจะคิดเอาไว้แล้วว่าถึงแม้เสือดาวจะถูกปืนกลยิงไปทั่วทุกๆที่ แต่ดูเหมือนว่าผลของปืนกลจะไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้
หลังจากที่มีคลื่นใบมีดเลือดลอยเข้ามาหาเขา ตอนนั้นยูอิลฮานก็ได้อยู่ใกล้กับรถหุ้มเกราะแล้ว เข็มขัดกระสุนได้ถูกส่งออกมาก่อนเป็นอย่างแรก ในขณะที่เขารับเอาเข็มขัดกระสุนมา เขาก็ม้วนตัวหนึ่งครั้งพร้อมกับใส่เข็มขัดลงไปจากนั้นก็รับปืนที่ถูกโยนออกมาจากประตู
"แต่ว่าปืนกลมันได้ผลไม่มากนัก......."
แม้ว่าเฟร็ดชายหนุ่มผมสีน้ำตายจะพูดออกมาด้วยความสับสนในขณะที่ส่งปืนไปให้กับยูอิลฮาน แต่ว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้สนใจตัวเขาและวิ่งไปอีกด้านหนึ่ง ใบมีดเลือดที่ลอยมาได้ตัดเข้าที่ประตูของรถหุ้มเกราะ
"ระวัง!"
ในขณะเดียวกันที่คำเตือนของคังมิเรย์ดังออกมา ในท้ายที่สุดเสือดาวสีดำก็ได้ดึงเสาหลุดออกมาสองต้น นี่มันหมายความว่ามันได้ทุ่มกำลังลงไปอย่างมากจนพอที่จะดึงเสาออกมาถึงแม้ว่าเชือกหนังจะไม่ขาดก็ตาม
"ถึงแบบนั้นฉันก็ทำฉมวกกับเชือกมาได้ดีจริงๆ มันถึงกับทนต่อแรงที่มหาศาลแบบนี้ได้เลยใช่ไหมล่ะ?"
[นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้นะ]
เนื่องจากการสมดุลการตรึงได้ถูกพังลงไปทำให้เสาต้นอื่นๆก็ยังน่ากังวลขึ้นมาเหมือนกัน มีเวลาอีกแค่ไม่นานนักก่อนที่มันจะได้อิสระภาพคืนมา!
แม้ว่าเขาจะพูดเล่นออกมา แต่สองมือของยูอิลฮานก็ยังขยับตรวจสอบสภาพปืนอย่างวุ่นวาย เขาได้เชื่อมต่อเข็มขัดกระสุนและรีโหลดก่อนจะกลิ้งตัวไปกับพื้นอีกครั้งหนึ่ง
ในตอนนี้เสือดาวได้อยู่ห่างไปจากเขาแค่ไม่กี่เมตร เชือกที่ดึงมันจากอีกด้านก็ดูเหมือนจะอันตรายแล้วด้วยและเสาต้นนั้นก็ได้ถูกดึงออกมาทีละน้อย
ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็เล็งไปที่มันอย่างไม่รีรอทันที ใช่แล้ว เขาได้ใช้ปืนเล็งไปที่มัน
"กินกระสุนนี่ไปซะเจ้าเอเลี่ยน!"
[ถึงแม้ว่ามอนสเตอร์นี่จะมาจากโลกเนี้ยนะ?]
เมื่อกระสุนปืนกลได้ถูกยิงออกจากปากกระบอกปืนข้อความชุดหนึ่งก็โผล่ออกมา
[คุณได้ปลุกสกิลการยิงปืนเลเวลสูงสุด]
หลังจากนั้นลูกกระสุนก็ได้ปะทะเข้ากับตาซ้ายที่ฉมวกปักอยู่ในทันที
[กรรรรรรรรรรร!]
"ฮ่าห์!"
ไม่ว่าเอิลต้าจะคิดว่าเสียงตะโกนนี้มันแปลกยังไงก็ตาม ยูอิลฮานก็ได้ยิงปืนออกไปอย่างไม่สนใจใดๆ แต่แม้ว่าเขาจะยิงกระสุนออกไปอย่างต่อเนื่องแต่กระบอกปืนก็ไม่ได้สั่นเลย
การยิงปืนออกไปในจุดๆเดียวที่ต้องการโดยที่ไม่สนใจการแรงดีดเลยนี่มันยากขนาดไหนกัน? แต่ยังไงก็ตามความยากแบบนี้มันเป็นไปได้สำหรับยูอิลฮาน
กระสุนปืนกลที่พุ่งเข้าไปเข้าไปในดวงตาของเสือดาวอย่างต่อเนื่องนี้มันนับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่แตกต่างไปจากการในตอนที่เฟร็ดใช้ปืนกลอย่างแท้จริง
เลือดจำนวนมากได้ไหลออกมา เสือดาวสีดำได้กลิ้งไปกับพื้นในขณะที่ร้องออกมา แต่ถึงแม้แบบนั้นยูอิลฮานก็ไม่ได้หยุดยิง เขาได้กลิ้งตัวกับพื้นตามเสือดาวไปและเล็งยิงตาซ้ายของเสือดาวต่ออีกครั้ง
กระสุนปืนกลได้ทำลายกระดูกของเสือดาวด้วยการยิงไปในจุดๆเดียวอย่างช้าๆ ถ้าหากว่ามันไม่ได้เป็นมอนสเตอร์คลาส 3 แล้วดีไม่ดีสมองของมันก็อาจจะถูกทำลายไปเพราะอย่างนี้แลวด้วยซ้ำ
"....มันมีบัฟใช้กับปืนที่ฉันไม่รู้จักหรือป่าวนะ?"
คังมิเรย์ได้พึมพัมขึ้นเงียบๆอย่างตกใจเมื่อเห็นฉากๆนี้ ภาพของมนุษย์ตัวเล็กๆที่กำลังหยุดเสือดาวด้วยปืนกลมือเพียงกระบอกเดียวซึ่งดูราวกับว่าเป็นฉากอารยธรรมสมัยใหม่ที่กำลังใช้พละกำลังสุดท้ายเพื่อดิ้นรนต่อหน้าการเปลื่ยนแปลงไปของสภาพแวดล้อม
"เวทย์!"
ยูอิลฮานได้ตะโกนออกมา
"ตอนนี้เธอใช้มันได้ยัง!?"
"อีก 7 วินาที!"
"โอเค! โจมตีมันให้เร็วที่สุดเท่านที่ทำได้เลย!"
"โอเค!"
โชคดีที่เขามีกระสุนมากพอ ยูอิลฮานได้ยิงกระสุนไปใส่ต่างมันในขณะที่ขยับหลบใบมีดสายลมรอบๆอย่างใจเย็น และเมื่อเขาคิดว่ามันได้ผ่านไปประมาณ 5 นาทีแล้ว เขาก็โยนปืนกับเข็มขัดกระสุนทิ้งและกระโดดไปตรงที่ที่เสาต้นที่หกอยู่
[กรรรรรรรรรรรรรรร!]
ในจังหวะนั้นเองเสือดาวก็ได้ดึงเสาทั้งหมดหลุดออกมาจากพื้นและกระโดดขึ้นมา ในตอนนั้นเอง
"สายฟ้าสามเท่า!"
เมื่อเสียงตะโกนของคังมิเรย์ได้ดังขึ้นมาภาพที่ยูอิลฮานเห็นก็กลายไปเป็นสีทอง สายฟ้าที่แข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผลนี้ได้ลอยผ่านอากาศและปะทะเข้ากับเสือดาวดำ
ยูอิลฮานเห็นได้เลยว่ามันกำลังจะหมดแรงและล้มลงไป แต่ยังไงก็ตามเสียงของคังมิเรย์ก็ดังขึ้น
"การปกปิดตัวตน!"
มอนสเตอร์คลาส 3 น่าทึ่งจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะถูกโจมตีไปมาขนาดนั้นแต่มันก็ยังมีจิตใจมาวางแผนการต่อสู้อีกนี่มัน นอกจากนี้การปกปิดตัวตน? มันดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของยูอิลฮานจะผิดไป มันได้พยายามที่จะหลบหนีออกไปจากที่นี้ด้วยอะไรก็ตามที่เป็นไปได้ หลังจากที่มันตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขามันได้พยายามที่จะหนีและหาโอกาสครั้งหน้า
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ไม่สนใจ
[กรรรรรรรรรรรร]
ในเวลาสั้นๆที่เสียงมันร้องออกมา เสาต้นที่หกได้ตอกเข้าไปในดวงตาซ้ายของมันทำให้การทำงานของการปกปิดตัวตนได้ถูกยกเลิกไปทันที!
ยูอิลฮานได้เดาะลิ้นพึมพัมออกมา
"ฉันบอกแล้วไงว่ามันไม่ได้ผลตั้งแต่แรก"
ปัง! เสือดาวสีดำและยูอิลฮานได้ตกลงมาบนพื้นพร้อมๆกัน ยูอิลฮานได้ม้วนตัวเมื่อลดแรงกระแทกแต่ว่ากับเสือดาวที่ถูกโจมตีสองครั้งติดทำให้มันไม่อยู่ในสภาพที่จะเยือกเย็นได้อีกแล้ว
ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ไม่ได้หยุดแค่นั้นและขยับต่อ เขาได้เริ่มมัดมัดด้วยเชือกที่เชื่อมต่อกันระหว่างเสากับฉมวก
"เขา... มองผ่านการปกปิดตัวตน...."
เธอต้องตกใจมากแค่ไหนกันถึงจะพอใจกันนะ? ในขณะที่คังมิเรย์ที่เอนตัวไปกับเก้าอี้รถอย่างหมดพลังหลังจากใช้การโจมตีครั้งใหญ่ไป ยูอิลฮานก็ได้มัดทั้งตัวของเสือดาวด้วยเชือกของเขาอย่างเด็กขาดและดันฉมวกเข้าไปที่ก้นมันอย่างรุนแรง
[คุณได้เรียนรู้สกิลการมัด]
[คุณก็ฆ่ามันไปเลยโดยไม่ต้องมัดไม่ได้หรอ...?]
เอิลตามได้ถามขึ้นอย่างสงสัย แต่ยูอิลฮานก็ได้ส่ายหัวของเขาและทิ้งระยะห่างออกมาจากเสือดาวที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาคังมิเรย์ที่กำลังมองมาที่เขาอย่างตกตะลึงอย่างช้าๆ
"อะ อะไรหรอ?"
คังมิเรย์ที่รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่งของเขาได้ถามขึ้นด้วยเสียงที่หวาดกลัวเล็กน้อย ถ้าหากว่าคนที่รู้จักเรื่องจักรพรรดินีมาได้ยินแบบนี้เขาคนๆนั้นจะต้องตกใจมากแน่ๆ เฟร็ดที่อยู่ถัดไปจากเธอก็ยังตกใจเอามากๆ
ยังไงก็ตามยูอิลฮานที่ไม่ได้รู้จักชื่อเสียงของจักรพรรดินีและเขาก็ไม่สนใจด้วย เขาได้ประกาศขึ้นอยย่างมั่นใจกับเธอที่กำลังจะหนีไป
"พวกเรายังไม่ได้ตั้งปาตี้ไม่ใช่หรอ? เธอจะให้ฉันกินค่าประสบการณ์ทั้งหมดคนเดียวอีกงั้นหรอ?"
ยูอิลฮานโตพอที่จะไม่ทำพลาดซ้ำสองแล้ว