ตอนที่ 168 หอกเปลวไฟ ฉีหลิน (FREE)
เกี่ยวกับคำว่า "องค์จักรพรรดิ" นั้น ฟาง เจิ้งจือ คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี ในชีวิตก่อนหน้าของเขา เขาพบกำคำนี้มานับไม่ถ้วน
ในประวัติศาสตร์มีราชันที่โดดเด่นบันทึกอยู่ในพงศาวดารมากมาย
อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่เขาเคยอ่านแค่ในหนังสือเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะไดพบกับจักรพรรดิจริงๆบนโลกใบนี้
ราชาต้วน และเจ้าหน้าที่รวมถึงชนชั้นสูงทุกคน ลุกขึ้นยืน
องค์จักรพรรดิมาหา ปิง หยาง นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ฉือ กูเหยียน นั้นอยู่ในความสงบ ปิง หยาง เองก็เช่นกัน ในความสงบเผยร่องรอยแห่งความอิ่มเอมใจ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามากนัก
ไม่นานจากนั้น เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนก็ดังขึ้น
ร่างหลายๆร่างเริ่มปรากฎตัวขึ้น
มีทหารคอยนำทางไม่มีนางสนมหรือกองทหารมากมายใหญ่โต มีเพียง 9 คนเท่านั้นที่เดินมา
หน้าสุดเป็นชายที่สวมชุดคลุมสีทอง มังกร 5 ตัวถูกปักเป็นลวดลายอยู่บนชุด บนหัวประดับด้วยมงกุฎทองคำ มันเป็นชุดที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจักรพรรดิ
ด้านหลังของชายคนนี้ ตามมาด้วยชายหนุ่มทั้ง 8 คน
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่สวมชุดจีนโบราณก็ปรากฎตัวขึ้นมาทันที
"ยินดีต้อนรับท่านพ่อ!"
"ยินดีตอนรับ องค์จักรพรรดิ"
"ยินดีต้อนรับ องค์ชาย!"
หลังจากที่ชายหนุ่มในชุดจีนคนนั้นคุกเข่าลง เจ้าหน้าที่และชนชั้นสูงคนอื่นๆก็ทำตามในทันที
ฉือ กูเหยียน ไม่คุกเข่า นางก้มหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อแสดงความเคารพต่อองค์จักรพรรดิ ปิง หยาง เองก็เช่นกันนางไม่คิดจะแสดงความเคารพแม้แต่น้อย
ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะคุกเข่า แต่ราวกับหัวใจของเขาถูกฉีกออก เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้เพราะแขนที่เกาะเขาอยู่ทั้ง 2 ข้าง
"นี่คือองค์จักรพรรดิในปัจจุบัน?"
ฟาง เจิ้งจือ อ้าปากค้างด้วยความโง่เขลา นี่่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกตกใจมาก เขายังไม่ตกใจขนาดนี้ตอนที่ ฉือ กูเหยียน ประกาศมั่นกับเขาที่กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์
เขาเหลือบมอง ปิง หยาง และองค์ชายที่กำลังคุกเข่าลงอยู่ที่พื้น
มีเพียงความคิดเดียวที่วิ่งผ่านหัวของเขา
"ปิง หยางและชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าสุดนั้น ... นางเป็นลูกของเขาจริงๆงั้นรึ?! "
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่คนที่ไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้ แต่องค์จักรพรรดิข้างหน้าเขานี้เด็กเกินไป เด็กจนน่ากลัว
ฟาง เจิ้งจือ พยายามนึกถึงความเป็นไปได้ ปิง หยาง และเจ้าชายองค์อื่นๆน่าจะอายุประมาณ 24-25 ปี
แต่…
แต่องค์จักรพรรดิในปัจจุบัน ไม่มีทางที่จะมีอายุเกิน 20 ปี!
ดวงตาสดใสเปล่งประกาย ผมดกดำเต็มหัวไม่มีผมขาวแม้แต่น้อย เขาจะเป็นองค์จักรพรรดิที่มีบุตรหลานมากมายได้อย่างไร?
ใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ เผยความสับสนออกมาจากหัวใจ สายตาของเขามองไปที่ องค์จักรพรรดิในปัจจุบัน หลิน มู่ไป่ อย่างไรก็ตามตอนนี้ข้างๆเขาเป็นคนที่องค์จักรพรรดิทรงโปรดปรานมากที่สุด
ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง
แต่ใบหน้าของ องค์จักรพรรดิ ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ราวกับเขามองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เขาเพียงแค่มองผ่านๆไปยัง ฟาง เจิ้งจือ และมองเลยไปที่ชายหนุ่มที่นั่งคกเข่าอยู่ด้านหลัง
"โอ้ ซิงจู! เจ้ามาถึงเร็วกว่าข้าเสียอีก!"
"ขอบคุณท่านพ่อ!" เขาลุกขึ้นในทันที
"เทียนหลง วันๆเจ้าเอาแต่ยุ่งกับงานทางการเมือง เจ้าควรออกมาเดินเล่นข้างนอกบ้าง ไม่ใช่หลบอยู่แต่ในพระราชวังทิศตะวันออก เจ้าลองดูราชาต้วนเป็นตัวอย่างสิ! " องค์จักรพรรดิทรงกล่าวออกมา สายตาของเขาหันไปเห็นชายหนุ่มในชุดผ้าไหมที่ประดับไปด้วยลายมังกรขาว
ณ ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ สังเกตุเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังองค์จักรพรรดิ เขามีคนตาที่ยาวและดวงตาที่แคบ คุณสมบัติของเขาทำให้เขาดูเป็นผู้หญิงเล็กน้อย ส่วนประกอบของเขาทำให้หน้าตาของเขานั้นคล้ายผู้หญิงเล็กน้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือเจ้าชายรัชทายาท
เจ้าชายรัชทายาท หลิน เทียนหลง ยกหน้าขึ้นในทันที หลังจากได้ยินคำพูดของพ่อของตัวเอง
"คำแนะนำของท่านพ่อช่างชาญฉลาดยิ่ง ข้าจะเรียนรู้จากพี่ซิงจูให้มากขึ้น! " เจ้าชายรัชทายาทเตรียมคุกเข่าลง แต่มือขององค์จักรพรรดิได้มาขวางไว้ก่อน
จากนั้นองค์จักรพรรดิก็เลิกพูดคุยกับเหล่าเจ้าชาย และเริ่มพูดคุยกับคนที่กำลังนั่งคุกเข่าแทน
"ลุกขึ้น! วันนี้ข้ามางานเลี้ยง ทุกคนไม่จำเป็นต้องมากพิธี! "
"ขอบคุณมากองค์จักรพรรดิ!" เจ้าหน้าที่และชนชั้นสุงลุกขึ้นในทันที
เมื่อเห็นทุกๆคนลุกขึ้น องค์จักรพรรดิจึงยิ้มออกมาด้วยความอ่อนโยน
"พ่อ!" ปิง หยาง ตะโกนออกมา ก่อนจะดึง ฉือ กูเหยียน ไปกับนางด้วย
"ฮ่า ฮ่า...ปิง หยาง เจ้าได้โตขึ้นอีก 1 ปีแล้ว เจ้ายิ่งงดงามขึ้นเรื่อยๆ เจ้าอาจะสวยกว่าแม่ของเจ้าเร็วๆนี้แล้ว! ข้ามาที่นี่พร้อมกับของขวัญ หวังว่าเจ้าคงไม่ไล่ข้ากลับเหมือนปีที่แล้ว? "
"ก็ต้องดูก่อนว่าเป็นของขวัญอะไร!"ปิง หยาง เม้มปาก
"หอกเปลวไฟ ฉีหลิน เจ้าชอบมันไหม?" มุมปากขององค์จักรพรรดิยกขึ้นทันทีเมื่อพูดถึงหอกนั่น
เมื่อทุกคนได้ยินชื่อหอกนั้น ทุกคนพลันเงียบไปทันที ปีศาจแห่งเมืองเหยียน จะได้ครอบครอง 1 ในสมับติอันยิ่งใหญ่ของอณาจักรเซี่ย
แล้วอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะมีชีวิตรอดได้ยังไง?
"ท่านพ่อจะให้หอกเปลวไฟ ฉีหลิน กับข้าจริงๆงั้นหรือ? " เมื่อ ปิง หยาง ได้ยินเกี่ยวกับ หอกเปลวไฟ ฉีหลิน นางดีใจเป็นอย่างมาก จนแทบไม่สามารถหุบยิ้มได้เลยแม้แต่น้อย
"กูเหยียน ยินดีที่ได้พบองค์จักรพรรดิ!" กูเหยียน พบว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะเปิดปากพูด
"อืม ... กูเหยียน เจ้านี่แย่จริงๆ 1 ปีที่แล้ว ข้าได้ไปเยี่ยมที่ศาลาเต๋าสวรรค์ แต่เจ้านั้นกลับไม่แม้แต่จะมาพูดคุยกับข้า แต่ตอนนี้เจ้าลงมาด้านล่าง มาที่เมืองเหยียน หลังจากมาเยี่ยมข้าเพียงครั้งเดียว เจ้าก็ไม่เคยมาเยี่ยมข้าอีกเลย?"ต่อให้น้ำเสียงขององค์จักรพรรดินั้นจะเหมือนต่อว่า แต่ท่าทีของเขานั้นราวกับพ่อที่มองลูกชาย
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ชายอายุเพียง 20 ปีแสดงความรักกับลูกสาวอายุไล่เลี่ยกันนั้นเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการ
"องค์จักรพรรดิพูดถูกเป็นข้าที่ผิดเอง" ฉือ กูเหยียน ก้มหัวลงเล็กน้อย แต่นางไม่ได้พูดออกมาสักนิดว่าจะไปเยี่ยมเขาที่วัง
ใบหน้าขององค์จักรพรรดิเผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาและหันไปหา ฟาง เจิ้งจือ แทน
ทุกคนเองก็มองตามสายตาขององค์จักรพรรดิไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
ณ จุดนี้ ผู้คนก็พึ่งตระหนักได้ ...
ฟาง เจิ้งจือ ยังคงยืนหั่วโด่อยู่ตลอดเวลาและไม่ได้นั่งลงแม้แต่น้อย
"งั้น เจ้าคือ ฟาง เจิ้งจือ ?"องค์จักรพรรดิวิเคราะห์ ฟาง เจิ้งจือ อย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
"ใช่แล้ว" ฟาง เจิ้งจือ กำลังตกตะลึงกับองค์จักรพรรดิอยู่ จึงลืมที่จะคุกเข่า แต่ตอนนี้ทุกคนลุกขึ้นแล้วเขายังต้องคุกเข่าอยู่หรือ?
"กล้าหาญเกินไปแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่คุกเข่าต่อหน้าองค์จักรพรรดิ? " เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ยอมคุกเข่าจึงพูดขึ้นมาทันที
องค์จักรพรรดิมองไปที่เจ้าหน้าที่คนนั้นแล้วโบกมือให้หยุดพูด หลังจากนั้นเขาก็เดินไปหา ฟาง เจิ้งจือ ทันที
"ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของเจ้า เกิดในหมู่บ้านบนภูเขา ไม่เคยเข้าไปศึกษาในหอแห่งเต๋ามาก่อน แต่ตอน 6 ขวบเจ้ากลับสามารถไขปริศนาภาพแห่งการสรรค์สร้างได้ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ชนะทั้งสองด้านในการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับมณฑลและเมืองหลวง ตอนนี้เจ้าอายุแค่ 15 ปี แต่มีพลังระดับสะท้อนสวรรค์ ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ถือเป็นโชคของอณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ที่มีเจ้าอยู่! "
องค์จักรพรรดิเผยความชื่นชมออกมา
"ขอบคุณสำหรับคำชม องค์จักรพรรดิ!" ฟาง เจิ้งจือ รีบแสดงความเคารพทันที
เขาไม่รู้การปฏิบัติของโลกนี้เท่าไรนัก แต่เขาก็พยายามทำให้สุภาพมากที่สุด
"ถึงแม้ว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจงจำคำในกฎแห่งเต๋าให้ขึ้นใจ! นับตั้งแต่ที่ข้าได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึงตอนนี้ก็มากกว่า 30 ปีแล้ว ข้าเห็น 2-3 คนที่มีศักยภาพอันยอดเยี่ยมราวกับดวงดาวอันสดใส แต่มันกลับเปล่งประกายได้ไม่นาน และทำลายตัวมันเอง เพราะชื่อเสียงที่เขามี เจ้าต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต และพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่หยุดยั้ง ! " องค์จักรพรรดิพูดขึ้นมา เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ แสดงความเคารพให้แก่เขา
"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ องค์จักรพรรดิ!" ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามความคิดในหัวของเขากำลังตีกันวุ่นวาย สืบทอดบัลลังก์มาตั้งแต่อายุ 18 ปี?
ตอนนี้อายุอย่างน้อยต้อง 50 ปี?!
ในขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็มองไปยังชายหนุ่มข้างหน้า เขาอยากจะถามเหลือเกินว่าท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่?
โชคดีที่ องค์จักรพรรดิไม่สามารถอ่านใจ ฟาง เจิ้งจือ ได้ หลังจากได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูด ก็หันไปหาที่นั่งในทันที
ตั้งแต่ตั้นจนจบองค์จักรพรรดิไม่ได้พูดถึงการหมั้นหมายของ ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน แม้แต่น้อย
เขาเพียงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองเท่านั้น
เจ้าหน้าที่รวมถึงชนชั้นสูงในงาน ต่างมีอารมณ์ที่แตกต่างกัน บ้างอิจฉา บ้างเยาะเย้ย
ดวงตาของ ฮัน ฉางเฟิง เต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย ดูเหมือนเขากำลังวิเคราะห์คำพูดขององค์จักรพรรดิอย่างหนัก
ในทางตรงกันข้าม ราชาต้วนกลับยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา " ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่ท่านพ่อของข้ายังไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมาย แล้วเจ้ายังจะสามารถผ่านการทดสอบระดับจักรพรรดิได้งั้นรึ?"
เพจหลัก : Double gate TH