ตอนที่ 308 ไฟปะทะสายฟ้า
สายฟ้าสีม่วงอมทองกระจายตัวราวกับพายุฝนฟ้าคะนองที่ซัดกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้า ฟีนิกส์เพลิงที่มักจะไม่สนใจเกี่ยวกับการโจมตีธาตุสายฟ้ารีบกระพือปีกมันเพื่อหลบเพราะมันไม่กล้าที่จะสู้หลังจากที่ถูกสายฟ้าฟาดใส่ในครั้งแรก
ฟีนิกส์เพลิงดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหวที่ดี ทุกครั้งที่มันกระพือปีก มันจะหายไปในทันที หลบสายฟ้า แม้ว่ามันดูเหมือนการใช้วิชาจำพวกก้าวพริบตา แต่แท้จริงแล้วมันเพราะความสามารถเทเลพอร์ตของฟีนิกส์เพลิงที่ไปถึงระดับสูงสุดแล้ว
ปีกของมันยังคงกระพืออย่างต่อเนื่องและฟีนิกส์เพลิงก็เปลี่ยนตำแหน่งของมันในอากาศอยู่ตลอดเวลาเพื่อหลบสายฟ้า
หลังจากที่มันหลบการโจมตีได้ หลุมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายเมตรก็ปรากฏขึ้นบนหินภูเขาไฟ
นอกจากนั้น สายฟ้าสีม่วงอมทองยังส่งผลให้โครงสร้างภายในหินภูเขาไฟหลอมละลายเนื่องจากพลังงานความร้อนสูง มีรอยจำนวนนับไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นเพราะสายฟ้าและพื้นรอบๆ
หินที่มีลวดลายที่เกิดจากสายฟ้าความร้อนสูงจะถูกเรียกกันในโลกว่าหินอัสนีบาต มันหาได้ยากและถือเป็นของสะสมชั้นสูงสำหรับพวกคนรวย มันกล่าวได้ว่ามีเพียงนักสะสม3คนในเขต7เท่านั้นที่ครอบครองมัน
แน่นอน หลิน ฮวงไม่รู้เกี่ยวกับมันนักแต่หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางต่างรู้สึกโลภเพียงแค่มองพวกมัน
“มีหินอัสนีบาตมากมายที่นี่ หากเราสามารถเอาพวกมันไปและขายให้กับโรงประมูล เราจะสามารถทำเงินได้มาก เราจะกลายเป็นมหาเศรษฐี!”น้ำลายของหลี่ หลางไหลย้อยลงจากปาก
“เอาสักอันไปให้ท่านปู่ เขาจะต้องชอบมันแน่ๆ...”หยี่ เยว่หยู่พึมพำพลางลูบคางเธอ
ทั้งคู่ดูเหมือนจะลืมเลือนสถานการณ์ไปขณะที่เอาแต่จับจ้องหินอัสนีบาตจนหัวขาวโพลน
แม้ว่าการต่อสู้จะยังคงรุนแรง ฟีนิกส์เพลิงไม่ได้หยุดหลบแต่มันก็ไม่มีพลังพอจะโจมตี
แม้จะมีความสามารถในการเทเลพอร์ตที่มอบความเร็วขั้นสุดยอดให้ มันก็ยังไม่อาจหลบสายฟ้าได้จนหมด มันยังคงถูกสายฟ้าสีม่วงอมทองฟาดใส่ในบางครั้ง ทุกครั้งที่มันถูกโจมตี มันจะประสบกับความเจ็บปวดสุดแสนจะทนซึ่งตามมาด้วยอาการชา จุดที่ถูกโจมตีจะเปลี่ยนเป็นรอยไหม้สีดำ แม้ว่ามันจะมีความสามารถในการฟื้นฟู มันก็ยังไม่อาจฟื้นฟูได้ง่ายๆ
หลังจากที่ถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง ความคิดที่จะถอยหนีก็ผุดขึ้นในหัวมัน การติดอยู่ในพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยเมฆมืดในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี มันต้องการจะออกไปจากเมฆมืดและรอให้พวกมันสลายหายไป
มันกระพือปีก และบินหนีไปทางทะเลลาวา
ในขณะนั้นเอง โซ่เพลิงก็พุ่งผ่านท้องฟ้า เปลี่ยนเป็นตาข่ายขนาดยักษ์และขวางกั้นเส้นทางมัน
เมื่อรู้ว่านั่นคือโซ่ลงทัณฑ์ ฟีนิกส์เพลิงก็ไม่กล้าจะสัมผัสมัน มันรีบหันหลังและบินไปอีกทางหนึ่ง และอีกครั้ง โซ่ลงทัณฑ์ได้ปรากฏขึ้นเพื่อปิดกั้นเส้นทางมัน
ความเร็วของโซ่ลงทัณฑ์เทียบได้กับความเร็วในการบินของฟีนิกส์เพลิง เหตุผลที่ว่าทำไมมันไม่ถูกจับก็เพราะโซ่ลงทัณฑ์ไม่อาจคาดเดาทิศทางและมุมหลบได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่าฟีนิกส์เพลิงตั้งใจที่จะหลบหนี มันก็เป็นการง่ายที่จะจับมันด้วยโซ่ตราบเท่าที่มันบินไปในทิศทางที่กำหนดไว้
“ฮี่ๆๆๆ....ช่างเป็นหาได้ยากนัก ฟีนิกส์เพลิงกลับเลือกที่จะหลบหนีการต่อสู้?น่าอัปยศนัก!”วิญญาณกระดูกเยาะเย้ย“หากเจ้ายินดีจะมอบเลือดฟีนิกส์ให้แก่ข้า ข้าจะปล่อยเจ้าไป...”
“ไอเจ้านี่...”หลิน ฮวงพูดไม่ออกเมื่อได้ยิน ทัศนคติของวิญญาณกระดูกแย่เหมือนกับตอนก่อนจะถูกฆ่า มันกลับกล้าประกาศว่ามันจะปล่อยฟีนิกส์เพลิงไปต่อหน้าหลิน ฮวง แต่ทว่า หลิน ฮวงรู้ดีว่าแม้มันจะทำเช่นนั้น มันก็ไม่มีทางขัดคำสั่งหลิน ฮวงได้เพราะมันถูกจำกัดโดยกฏของการ์ดมอนสเตอร์
อย่างไม่คาดคิด ฟีนิกส์เพลิงไม่ได้โกรธ มันเมินเฉยการยั่วยุของวิญญาณกระดูก ในขณะเดียวกัน มันก็หลบสายฟ้าขณะที่คิดหาวิธีแก้ปัญหา
ทันใดนั้นเอง มันก็เหลือบมองไคลี่ที่ยืนอยู่นอกวงต่อสู้ ร่างของไคลี่กำลังเปล่งประกายสีทอง
“เจ้าคือคนที่ทำเช่นนั้น เนื่องจากข้าไม่อาจออกไปจากพื้นที่นี้ได้ งั้นข้าก็ต้องฆ่าเจ้าก่อน!เมื่อเจ้าตาย สายฟ้าก็จะหายไป!”
ขณะที่ความคิดแล่นผ่าน ฟีนิกส์เพลิงก็โผบินใส่ไคลี่ทันที
เมื่อเห็นฟีนิกส์เพลิงกำลังบินมาทางเธออย่างไม่สนใจสายฟ้า ไคลี่ก็หยิบหอกขึ้นมาและเตรียมสู้โดยไม่มีร่องรอยของความกลัว
หอกยาวม่วงในมือได้ปะทะกับกรงเล็บของฟีนิกส์เพลิงอีกครั้ง
แม้จะมีขนาดที่แตกต่างกันมาก การปะทะก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าทั้งคู่มีพลังที่เท่าเทียมกัน
เห็นได้ชัดว่าฟีนิกส์เพลิงเลือดคู่ต่อสู้ระยะประชิดผิดไป ในแง่ของการต่อสู้ ไคลี่ยังเหนือยิ่งกว่าวิญญาณกระดูก เธอแม้กระทั่งหลุดจากการควบคุมของปีศาจตัวตลกได้ ฟีนิกส์เพลิงมีขนาดที่ใหญ่และน่ากลัว แต่ในความเป็นจริง มันคือมอนสเตอร์ที่เน้นการโจมตีระยะไกล การใช้จุดอ่อนของตนเพื่อสู้กับจุดแข็งไคลี่ แน่นอน มันย่อมไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ฟีนิกส์เพลิงสังเกตเห็นข้อผิดพลาดของมันอย่างรวดเร็ว ขนหางทั้ง9ของมันสั่นเล็กน้อยและในไม่ช้า หางแส้ทั้ง9ก็ปรากฏในอากาศและโจมตีไคลี่
ไคลี่คือระดับเพลิงขาว เมื่อความเร็วฑูตสวรรค์ถูกเปิดใช้งาน เธอจะเร็วกว่าหลิน ฮวงตอนใช้ความเร็วฑูตสวรรค์ควบคู่กับท่าเท้าอัสนีบาตหลายเท่า ราวกับเงาที่แหวกว่ายในอากาศ เธอสามารถหลบหางแส้โดยง่าย เธอคว้าหอกม่วงไว้แน่นและโต้ตอบ
แม้ว่าหลิน ฮวงจะไม่อาจร่วมการต่อสู้ด้วยได้ แต่เขาคือคนควบคุมสายฟ้าที่พาดผ่านท้องฟ้าพร้อมกับไคลี่ขณะที่เธอสู้
ไคลี่กำลังต่อสู้ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจควบคุมสายฟ้าได้อีกต่อไป แน่นอน หลิน ฮวงไม่มีทางทิ้งขว้างโอกาสนี้ไป เขาควบคุมสายฟ้าสีม่วงอมทองและโจมตีฟีนิกส์เพลิงทันที
เมื่อเผชิญกับการโต้ตอบของไคลี่ ฟีนิกส์เพลิงจึงถูกโจมตีโดยสายฟ้าอยู่หลายครั้ง ความเจ็บปวดและอาการชาที่ตามมาได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวมัน
ไคลี่ใช้โอกาสที่ฟีนิกส์เพลิงละความสนใจจากเธอ เธอปลดปล่อยหอกลงทัณฑ์เต็มกำลังใส่คอของมัน
เลือดที่คล้ายกับเปลวไฟไหลรินออกจากบาดแผล มันเป็นครั้งแรกที่ฟีนิกส์เพลิงรู้สึกบาดเจ็บ
ไคลี่ยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนหอกเธอเป็นลำแสงและยิงพวกมันใส่ฟีนิกส์เพลิง
วิญญาณกระดูกเองก็ใช้โอกาสนี้เพื่อโจมตีเช่นกัน ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของฟีนิกส์เพลิงด้วยโซ่
ในเวลานั้นเอง ขนของฟีนิกส์เพลิงก็เริ่มเผาไหม้และในพริบตา มันก็เปลี่ยนเป็นนกเพลิงขนาดมหึมา
หอกของไคลี่กลับทะลวงผ่านตัวมันไป
“การแปลงธาตุ!”
หลิน ฮวงขมวดคิ้ว หลังจากที่ผ่านการแปลงธาตุ ร่างของฟีนิกส์เพลิงจะไม่แสดงลักษณะปกติของมันอีกต่อไป ผลของการโจมตีกายภาพจะไร้ประโยชน์ แม้ว่าหอกของไคลี่จะทะลวงผ่านร่างมัน ผลของมันก็จะไร้ผล หากเธอโจมตีมันด้วยพลังชีวิต ผลของมันก็จะถูกจำกัดเอาไว้เช่นกัน
“ฟีนิกส์เพลิงถูกบังคับให้ต้องผ่านการแปลงธาตุ มันยากที่จะจัดการกับมันแล้ว...”หยี่ เยว่หยู่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยขณะที่จ้องมองพวกมัน เธอรู้สึกอายที่ไม่อาจล่าฟีนิกส์เพลิงได้
จากนั้น ลำแสงสีทองก็ปลดปล่อยจากร่างของไคลี่ ในพริบตา เธอก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าที่ราวกับมนุษย์ทอง เธอได้ผ่านการแปลงธาตุเช่นกัน....