ตอนที่แล้วSGS บทที่ 28 – เพื่ออิสึมิจัง! เป้าหมายเปลี่ยน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSGS บทที่ 30 – อัญเชิญครั้งแรก! มิซากะ มิโคโตะ มาแล้ว!

SGS บทที่ 29 – ระเบิดความรู้สึก! พิชิตใจท่านประธานได้แล้ว!


“เอ่อ..ฮินะงิคุ”

 

“ฉันจะไป!”

 

“ไม่ คือมันออกจะ...”

 

“ฉันจะไป!”

 

“แต่ว่า....”

 

“ฉันจะไป!”

 

มองดูฮินะงิคุที่แม้แต่จะฟังเขาพูดให้จบ วู่หยานอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

 

เขารู้ว่าการที่รับปากไปสถานที่อันตรายแบบนั้น เธอจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เป็นเรื่องปกติ

 

หลังออกมาจากบ้านของอิสึมิ เขาก็คิดใจใน ‘ตายเป็นตายวะ’ และเขาก็เตรียมตัวเตรียมใจโดนท่านประธานลงโทษ

 

แต่ทว่าหลังออกมาจากบ้านอิสึมิ ฮินะงิคุก็เอาแต่พูด ‘ฉันจะไป!’ ท่าเดียว

 

ตอนแรกเขาก็คิดไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะโดนเธออัด ไม่ก็ทำตัวเย็นชาใส่ หรืออวยพรให้โชคดี เขาคิดแม้แต่ฉากโดนเธอเอามีดมาแทง

 

แต่ใครจะไปคิดละว่าเธอดันขอไปด้วย!

 

ครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่อสูรไร้หัวกากๆ และแถมมันยังอันตรายกว่าตอนห้องโถงใต้ดินมาก การที่วู่หยานรับปากว่าจะไปอย่างใจเย็น มันไม่ใช่แค่เพราะเขามีระบบอย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะเขาเคยอยู่อาศัยที่ป่าสัตว์อสูรมาก่อน ดังนั้นเขาจึงสามารถจัดการอะไรแบบนี้ได้

 

ตามแผนการที่เขาคิดไว้ไม่ได้มีฮินะงิคุ ถ้าเธอไปด้วยมันจะเป็นปัญหามากๆ ด้วยเลเวลสิบแปดของเธอ กับภารกิจครั้งนี้มันไม่ใช่อะไรที่เธอจะช่วยได้ อย่างน้อยๆมอนมันก็ต้องเลเวลยี่สิบขึ้นไป แถมยังไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เพราะเขากำลังจะไปบุก ‘รัง’ ของมัน แล้วแบบนี้ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะส่งตัวเองไปเป็นอาหารพวกมันหรอกเหรอ?

 

ดังนั้นวู่หยานจึงทำได้แค่พยายามโน้มน้าวเธอสุดความสามารถ “ฮินะงิคุครั้งนี้มันอันตรายมากจริงๆนะ ฉันยังไม่คิดว่าจะดูแลตัวเองได้เลย แล้วจะให้เธอไปได้ยังไง....”

 

ฮินะงิคุหันหน้ามาทันที ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง “ก็เพราะมันอันตรายไง ฉันถึงต้องไปด้วย!”

 

“แต่ว่า.....”

 

“นายไม่ชอบฉันเพราะคิดว่าฉันเป็นตัวปัญหา และคิดว่าฉันเป็นตัวถ่วงสินะ!!” ฮินะงิคุตะโกนเสียงดัง

 

เข้าใจผิดแล้ว วู่หยานรีบหส่ายหัวโบกมือเป็นพัลวัน “ไม่ใช่แบบนั้นนะ ฉันแค่กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ.....”

 

“ฉันไม่สน! ถ้านายไป ฉันก็จะไปด้วย!”

 

วู่หยานลังเล ฮินะงิคุไปฟังเขาเลย ถ้าเธอได้ตัดสินใจอะไรไปแล้วอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ถ้าเขาทิ้งเธอไป ด้วยนิสัยฮินะงิคุโอกาสที่เธอจะตามเขาไปมีหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นเต็ม

 

แต่ถ้าให้เธอไปด้วย มันก็จะ......เฮ้อ.....

 

“ช่วยฟังฉันสักครั้งไม่ได้เหรอ?” วู่หยานพูดอย่างจนปัญญา

 

ฮินะงิคุจ้องหน้าวู่หยานเขม็ง ไม่นานนัยน์ตาเธอก็เริ่มเปียกชื้น

 

เห้ย เดียวดิ.....คงไม่ใช่ว่า.....

 

วู่หยานตัวแข็งทื่อหน้าเหวอมองฮินะงิคุ มาแบบนี้คงอยากบอกนะว่าจะว่าร้องไห้? ตูไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้นะเฟ้ย โดยเฉพาะคนที่ชอบ

 

คนที่รู้จักฮินะงิคุ จะพูดเป็นเสียงกันว่าให้พวกผู้ชายใส่กระโปรงมาโรงเรียนยังง่ายกว่าทำให้ฮินะงคุร้องไห้เสียอีก แต่วู่หยานที่รู้จักเธอมาได้แค่เดือนกว่าๆกับทำให้เธอร้องไห้ถึงสองครั้ง!

 

ถ้าเธอร้องจริงๆ มันจะเป็นตราบาปในใจเขาไปอีกนานเลย

 

มองฮินะงิคุอย่างระมัดระวัง วู่หยานพูดเสียงอ่อนๆว่า “ฮินะงิคะ เธอ.....”

 

“ฉันกลัว” อยู่ๆฮินะงิคุก็เปิดปากพูดขัดวู่หยาน ทำให้เขางุนงง

 

เธอยกมือปาดน้ำตา ก่อนจะเงยหน้ามองวู่หยาน แล้วพูดเบาๆว่า “ฉันกลัว กลัวมากจริงๆ กลัวว่านายไปที่นั่นแล้วไม่กลับออกมา ฉันกลัวจริงๆ”

 

พูดถึงตรงนี้ ตาเธอก็เริ่มมีน้ำตาคลออีกครั้ง

 

“ดังนั้นฉันถึงอยากไปกับนายด้วย อย่างน้อยฉันก็สามารถระวังหลังให้นายได้......”

 

ได้ยินเธอพูด วู่หยานก็เงียบไป

 

เขาลืมไปสนิท ตัวเขาสามารถยืดอกเผชิญหน้ากับอันตรายต่างๆได้อย่างมั่นใจ แต่ฮินะงิคุละ? เธอสามารถดูเขาไปเจออันตรายได้อย่างมั่นใจมั้ย? ในโลกนี้คนที่แคร์เขามากที่สุดก็คือฮินะงิคุ

 

แต่กับตัวเขาที่คิดแต่จะไปอัพเลเวล จะไปเข้าใจหัวอกของฮินะงิคุงั้นเหรอ?

 

ก้มหน้าลง วู่หยานพูดประชดตัวเอง “ใช้แล้ว ตัวฉันรับปากคนอื่นอย่างเห็นแก่ตัว โดยไม่คิดถึงเธอบางเลย ฉันนี่มัน...น่าผิดหวังจริงๆ....”

 

ฮินะงิคุตัวสั่นเล็กๆ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่อกวู่หยาน วู่หยานสะดุ้ง รีบอ้าแขนกอดเธอไว้ ขณะที่ยังคงทำหน้าเหลอหลา

 

นี่...เป็นไปได้เหรอที่ท่านประธานจะเป็นเริ่มกอดด้วยตัวเอง?

 

หัวหมุนอย่างสับสน นี่มันเหนือความคาดหมายของเขาทั้งหมด

 

ฮินะงิคุเองก็รู้สึกเขินอายมาก จริงๆเมื่อกี้เธอทำไปโดยไม่รู้ตัว รางกายมันขยับไปเอง พอรู้ตัวอีกที หูเธอก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเขาแล้ว

 

หลับตาลงด้วยใบหน้าร้อนผ่าว ตัวเธอสั่นเล็กน้อย ในเมื่อเผลอตัวทำไปแล้ว ก็ไปให้สุดเลยละกัน

 

“ฉันไม่รู้ว่าทำไมนายถึงยอมเสี่ยงอันตรายขนาดนี้เพื่อคริสตลนั้น แต่นายมีเหตุผลของนาย ฉันก็มีเหตุผลของฉัน ดังนั้นให้ฉันไปด้วยนะ ขอร้องละ!”

 

วู่หยานที่กำลังเคลิ้มกับกลิ่นผมหอมๆ เมื่อได้ยินเสียงฮินะงิคุ เขาก็ได้ถอนหายใจยาว

 

“เธอไม่ต่อว่าฉันหน่อยเหรอ? เพื่อคริสตัล ฉันถึงกับต้องพาพากเราทั้งคู่ไปเจออันตราย.....”

 

ฮินะงิคุส่ายหน้าแล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนจะกล่าวว่า “นายไม่ได้พูดเหรอว่า วันหนึ่งจะบอกฉันทุกอย่างน่ะ นี่เป็นสัญญาของพวกเราไง ดังนั้นฉันเชื่อใจนาย ว่านายต้องมีเหตุผลของตัวเองแน่!”

 

ได้ยินดังนี้ วู่หยานอดที่จะกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นไม่ได้ ให้ตัวเขาทั้งสองคนใกล้ชิดกว่าเดิม ในใจวู่หยานรู้สึกซาบซึ้งมาก

 

เขาเป็นโอตาคุ ชอบสาวสวย2D แค่ชอบเท่านั้นไม่มีอะไรมากกว่านี้ คนที่เป็นโอตาคุถึงจะเข้าใจ

 

และตอนนี้ผู้หญิงที่เขาชอบเชื่อใจเขาปฏิบัติกับเขาแบบนี้ แล้วถ้าถามว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง? สำหรับคนอื่นเขาไม่รู้แต่เขาค่อนข้างมั่นใจกับความรู้สึกตัวเอง

 

ฉันตองบอกเธอ....ความรู้สึกนี้...

 

“ฮินะงิคุ ฉันชอบเธอ ไม่สิ...รักเธอ ฉันรักเธอมากๆ”

 

ฟังคำบอกรักของวู่หยาน ฮินะงิคุตัวสั่นและกัดริมฝีปากตัวเองแน่นพยายามไม่ให้ความรู้สึกในใจระเบิดออกมา แต่มันกลับพ่วงพุ่งมาที่ตาเธอแทน น้ำตาไหลอาบแก้ม

 

เดิมทีวู่หยานเป็นคนกลัวน้ำตาผู้หญิง แต่ตอนนี้เขากลับยิ้มให้เธอ เพราะเขารู้....รู้ความหมายของหยาดน้ำตานี้.......

 

เธอยกเรียวแขนคล้องคอวู่หยานไว้ แล้วซุกหน้าลงอกแกร่งอย่างไร้เสียงตอบสนองความรู้ตัวเอง น้ำตายังคงหลั่งไหลไม่หยุด ริมฝีปากเธอโค้งขึ้น ปรากฏเป็นรอยยิ้มน่ารักสดใส

 

วู่หยานยกมือปาดน้ำตาเธอ แล้วพูดว่า “รู้อะไรมั้ย? จริงๆแล้วฉันไม่ใช่คนของโลกนี้”

 

ฮินะงิคุอดที่จะเงยหน้าขึ้นมามองไม่ได้ เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ในดวงตาเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

 

“ฉันมาจากโลกอื่นที่คล้ายกับโลกนี้มาก เป็นโลกที่ไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่มีนักปราบภูตผี เป็นโลกที่ธรรมดามาก แต่แล้วสี่เดือนก่อนฉันก็ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองมาอยู่ต่างโลกแล้ว โลกใบนั้นเต็มไปสัตว์อสูรและคนที่แข็งแกร่ง แต่ว่าฉันมีระบบ......”

 

เขาค่อยๆเล่าเรื่องตัวเอง สีหน้าเธอเปลี่ยนไปจากสงสัย ประหลาดใจ ช็อค แล้วก็กลายเป็นว่างเปล่า แต่ใครจะว่าเธอได้? เรื่องที่เขาพูดมันไม่น่าเชื่อจริงๆ เธอได้เปลี่ยนสีหน้าไปมาแต่ที่ไม่มีคือไม่เชื่อ

 

หลังจากล่าถึงเควสที่จำเป็นต้องทำในโลกนี้ เขาก็ถามออกมาว่า “ไอ้เรื่องที่หลุดโลกแบบนี้ เธอไม่สงสัยอะไรบ้างเลยเหรอ”

 

กับคำถามของวู่หยาน ฮินะงิคุอ้าปากแก้มอดที่จะแดงไม่ได้ แล้วพูดเบาๆว่า “นายไม่ได้พูดเหรอว่าวันหนึ่งจะบอกเรื่องพวกนี้กับฉันน่ะ? ดังนั้นฉันเลยเตรียมตัวเตรียมใจไว้รอแล้ว ยิ่งกว่านั่นนายไม่ได้พูดเหรอว่า ตอนกอดผู้หญิงจะไม่พูดโกหกน่ะ?”

 

วู่หยานช็อคจากคำพูดเธอ ความรู้สึกเขาระเบิดออกมา วู่หยานยกหน้าฮินะงิคุขึ้น แล้มก้มลงไปจูบเธอทันที

 

“……..” ฮินะงิคุเบิกตากว้างด้วยความช็อค ตัวแข็งทื่อ ไร้การตอบสนองอย่างสิ้นเชิง

 

มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ถึงเธอจะพูดว่าได้เตรียมตัวเตรียวใจรอเรื่องที่เขาจะบอก แต่กับจูบแรกนี่ ความคิดที่จะเตรียมตัวยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

 

และเมื่อเธอได้สติ ลิ้นวู่หยานก็ได้เข้าไปในปากเธอแล้ว ลิ้นตวัดไปทั่วปาก ทำให้เธอตาโตกว่าเดิม

 

ภายใต้การรุกของวู่หยาน ตัวเธอก็เริ่มผ่อนคลาย ในที่สุดก็ทิ้งตัวเข้าไปในอกวู่หยาน ลืมตาสัมผัสถึงความรู้สึกที่ลิ้นเธอส่งมา

 

หนึ่งวิ?หนึ่งนาที?หรือหนึ่งชั่วโมง? ทั้งสองคนได้ลืมเลือนเวลาไป

 

เมื่อวู่หยานได้ถอนปากออกมา ฮินะงิคุก็ยังคงใจลอยอยู่

 

จูบแรก เสียไปแบบนี้.......

 

วู่หยานแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง แล้วพูดขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มๆ “อืม หวานดีจริงๆ.....”

 

เสียงวู่หยานได้ทำให้ฮินะงิคุหลุดจากภวังค์ทันที และเมื่อเธอเห็นใบหน้ายิ้มชั่วร้ายของวู่หยาน เธอก็รู้ตัวสักทีว่า เมื่อกี้เธอโดนทำอะไรไป

 

ฮินะงิคุหน้าขึ้นสีอย่างรวดเร็ว ในดวงตาที่ใสสะอาดกำลังเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ค่อยๆอ้าปากฮินะงิคุร้องแล้วผละออกมาจากตัววู่หยาน แล้วยกนิ้วสั่นๆชี้ไปด้านหน้า “นะ..นะ...นาย....”

 

“ฉันทำไมเหรอ?” วู่หยานมองฮินะงิคุอย่างขบขัน ท่าทางแบบนั้นของเธอ เขาคิดว่ามันน่าสนใจมาก

 

“นาย...ทำไมนายถึง....ทำไมนายถึงทำแบบนี้....” ในหัวเธอมีคำพูดมากมาย แต่สุดท้ายก็กลั้นใจพูดออกมาได้แค่นี้

 

“ทำไมฉันถึงทำไม่ได้ละ?”

 

“นาย......ไม่ได้ถามความสมัครใจฉัน...แล้วทำแบบนั้น...” บิ่งมองใบหน้ากวนๆขอวู่หยาน เธอยิ่งรู้สึกใกล้บ้าเข้าไปทุกที

 

“เอ๊ะ?ไม่ได้เหรอ?” เอียงหัวด้วยท่าทางสับสนก่อนจะอมยิ้มพูดว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด มีคนบางคนพูดไว้ว่าเมื่อฉันทำตามสัญญา แล้วใครบางคนจะตอบแทนฉัน ใช้มั้ย? ฉันบอกเรื่องตัวเองทั้งหมดไปเมื่อกี้แล้ว ดังนั้นฉันจะรับเอารางวัลไป มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”

 

ปากพูดไปแบบนั้น แต่ในใจคิดอีกอย่าง ‘ฉันบอกเธอไปทุกอย่างก็จริง แต่ยกเว้นเรื่องตัวเธอเป็นตัวละคร2Dละนะ’

 

เขาไม่กล้าบอกฮินะงิคุ ว่าตัวเธอเป็นตัวละครในอนิเมะ ใครจะไปรู้หลังจากบอกไปแล้วท่านประธานจะมีอาการยังไง เธออาจจะคลั่งขึ้นมาก็ได้....

 

ได้ยินคำแก้ตัวของวู่หยาน ฮินะงิคุได้แค่หุบปากอย่างเศร้าใจ นึกถึงจูบเมื่อกี้ เธอก็รู้สึกอายขึ้นมาอีกครั้ง อายถึงขั้นไม่กล้ามองหน้าวู่หยาน

 

ดังนั้นฮินะงิคุจึงหลับตา แล้วก้มหน้าลง ก่อนจะหันตัววิ่งหนีไปทางตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

 

วู่หยานยกมือขึ้นมาแตะปากตัวเอง เขาไม่สามารถบรรยายความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพลานนี้ได้

 

เมื่อนึกย้อนกลับไป เขาเองก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน ที่เขาจูบเธอไปเป็นเพราะตอนนั้นเขาถูกกระตุ้นจกคำพูดฮินะงิคุ ในหัวมีแต่ภาพฮินะงิคุ ขณะที่กำลังคิดว่าทำยังไงถึงจะแสดงความรู้สึกที่มีออกไปได้ กว่าเขาจะรู้ตัวว่าทำอะไรลง ก็ได้ชิงเอาจูบแรกชองฮินะงิคุไปแล้ว

 

ดังนั้นวู่หยานจึงทำได้แค่หยอกล้อเธอ เพื่อซ่อนหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม.....

 

นี้ก็เป็นจูบแรกของเขาเหมือนกันนะ! แต่วู่หยานก็ไม่โง่พอที่จะไปบอกเรื่องน่าอายแบบนี้

 

ฮ่าๆ เป็นคนที่ขี้อายจริงๆเลยน้าท่านประธาน หึๆ ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ต้องจับมา ‘ ฝึก ’ กันสักหน่อยแล้ว.....

 

ขณะที่ในกำลังคิดเรื่องไร้ยางอาย เขาก็อมยิ้มอย่างขบขัน จากนั้นก็รีบวิ่งไล่ตามฮินะงิคุไป

 

เพราะเธอกำลังไปผิดทาง............

 

ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล  มีกลุ่มลับแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด