SGS บทที่ 27 – โลลิน้อย(?)ที่ร้ายเดียงสาล่ะ!
“คุณน้าจะบอกว่าในคริสตัลอันเล็กๆนี่มีปีศาจตัวนั่นอยู่?” มองคริสตัลบนมือวู่หยาน เมื่อเห็นแม่อิสึมิพยักหน้า ฮินะงิคุรีบถอยกรูดทันที
“………..” เห็นท่าทางฮินะงิคุ วุ่หยานมองบนใส่เธอ เขาเลยได้สายตาโกรธๆจ้องกลับมาแทน
บีบคริสตัลในมือ เขายังคงไม่เข้าใจว่าทำไมระบบถึงให้เขาเควสแบบนี้มา
ถึงจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่คิดมากอะไร เทียบกันแล้วทุกคนสามารถคิดร้ายต่อเขาได้ แต่ระบบจะไม่มีทำแน่นอน ตอนแรกเขาก็คิดว่ามีใครบางคนชักใยระบบอยู่เบื้องหลัง แต่พอเวลาผ่านไม่เขาก็เลิกคิด
ถ้าระบบคิดเอาชีวิตเขา ทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนเขาโดนส่งตัวมาป่าสัตว์อสูรละ ทำไมต้องรอจนถึงป่านนี้?.....
จะดีจะร้ายยังไงเควสนี้ระบบก็เป็นคนให้ ดังนั้นมันก็ไม่น่ามีอันตรายอะไร ไม่งั้นระบบคงไม่มีทางให้เควสแบบนี้มาแน่
อืมม~ถึงแม้เมื่อก่อนมันจะเคยให้เควสที่ทำเขาเจออันตรายมาก่อนก็เถอะ......
มองคริสตัลในมือ แล้วพูดว่า “ไม่คิดเลยว่า ข้างในนี้จะปีศาจ...”
“ใช้ เป็นเพราะแบบนี้ ทั้งปีศาจและมนุษย์ต่างก็เสียหายมหาศาล แต่ก็เพราะราชาปีศาจกับลูกสมุนตายไปเลยทำให้มนุษย์เอาชนะปีศาจได้”
เล่ามาถึงตรงนี้ แม่อิสึมิก็เริ่มบอกการคาดเดาของเธอ “แม้แต่ตอนนี้เอง ภูติผีปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนก็ยังกระหายเลือดเนื้อเหมือนราชาปีศาจในตอนนั้น ถ้าพวกมันสำผัสได้ถึงคริสตัลนี่ มันจะมาตามมาเอาแน่นอน”
วู่หยานได้ยินก็ตกใจ ก่อนจะกัดฟันแน่น
มิน่าละ.....ตั้งแต่เมื่อวาน ก็มีแต่ปีศาจมาโจมตีเรื่อยๆ เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง บัดซบ อยากอัดคนจังว้อย.....
ไม่แปลกที่วู่หยานจะโมโหขนาดนี่ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เล่นโดนโจมตีเป็นสิบๆครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นมา พอฆ่าหมดแล้วกลับไปนอนยังไม่ทันได้หลับดี มันก็มากันอีกละ
วู่หยานส่ายหน้า แล้วมองแม่อิสึมิด้วยหน้าจริงจัง “คุณนาย พอรู้ไหมว่าอีกครึ่งหนึ่งของคริสตัลอยู่ที่ไหน?”
“เดียวก่อน!” ฮินะงิคุตกใจจากคำพูดเขา รีบดึงตัววู่หยาน “นี่นายคิดจะรวบร่วมไอ้คริสตัลนี้จริงๆเหรอ ในนั้นมีปีศาจนะ!”
วู่หยานยกมือลูบหัวตัวเอง ก่อนจะยักไหล่ให้ฮินะงิคุ
“มันก็แค่ปีศาจ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอสักหน่อย...”
“แล้วทำไมนายยังคิดรวบร่วมมันอีกห่ะ ไอ้ของแบบนี้ที่เปลือกนอกดูสวยงามแต่ข้างในชั่วร้าย โยนมันทิ้งจะดีกว่า!” มองคริสตัลมือวู่หยาน จากตอนแรกที่ว่าคิดมันเป็นคริสตัลที่สวยมากๆ แต่ในสายฮินะงิคุตอนนี้มันไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดน่ากลัวเลย เธอจะกังวลก็เป็นเรื่องปกติ
วู่หยานกรอกตา ก่อนจะแสยะยิ้ม แล้วแกล้งโยนคริสตัลไปที่ฮินะงิคุ “เป็นอะไรไป?กลัวงั้นเหรอ?”
ฮินะงิคุสะดุ้งร้องว้าย ก่อนจะรีบขว้างกลับไปให้วู่หยาน แล้วถลึงตาใส่
เจ้าบ้านี่ ไม่รู้หรือไงว่าคนอื่นเขากลัวมากน่ะ......
“โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะ มีฉันอยู่ทั้งคน”
เห็นฮินะงิคุกลัวจริงๆ วู่หยานก็หยุดแกล้งแล้วพูดปลอบเธอ
สีหน้าโกรธของเธอหายไป ฮินะงิคุมองค้อนวู่หยานก่อนจะทำเสียงขึ้นจมูกดัง ‘ฮึ’ แล้วสะบัดหน้าหนี
วู่หยานจับมือฮินะงิคุ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆว่า “ไม่เอาน่าอย่าโกรธสิ ฉันมีเหตุผลต้องรวบร่วมมันนะ อีกไม่นานเธอก็รู้ เพราะงั้นเป็นเด็กดีนะ!”
ฟังวู่หยานที่พยายามง้อเธอเหมือนคนเป็นแฟนกัน ความโกรธเธอปลิวหายไปและเธอจับมือเขาด้วยใบหน้าแดงๆ ก่อนจะพยายามแงะมือวู่หยานออก
ทำเป็นซึนอีกละ.......
ขณะเดียวกันแม่อิสึมิก็มองทั้งสองคนด้วยใบหน้าสนุก เธอมองวู่หยานแล้วก็หันไปมองฮินะงิคุมองทั้งคู่สลับไปมา
สังเกตเห็นท่าทางแม่ตัวเอง อิสึมิที่ตอนแรกเกลียดนิสัยชอบหลงทางของตัวเองมาก แต่ตอนนี้เธอหวังจริงๆว่าทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่เดินหลงไปซะ ถ้าเธอหลงไป เธอจะได้ไม่ต้องพาทั้งสองคนมาเจอแม่ตัวเอง เธอจะได้ไม่ต้องจเอสถานการณ์แบบนี้ ฮึม...ท่านแม่นี่จริงๆเลย.......
เมื่อเห็นทั้งสองคนหยุดจู๋จี๋กัน แม่อิสึมิก็พูดด้วยรอยยิ้ม “พวกเธอทั้งสองคนคงเป็นคู่รักกันสินะ สายสัมพันธ์ดีมากเลย น่าอิจฉาจริงน่า~ เมื่อก่อนฉันกับพ่ออิสึมิก็......”
ได้ยินเธอพูดออกนอกเรื่องอีกครั้ง แถมยังพูดเรื่องน่าอายอีก ฮินะงิคุหน้าแดงแปร๊ด
“มะ..ไม่ใช่แบบนั่นนะ! คุณน้า พะ...พวกเราไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คนรัก หนูก็แค่....ก็แค่...แค่เป็นพี่สาวเขาเท่านั้น ใช่! เป็นแบบนี้แหละ!....”
อ่า~ ซึนเดเระละน่ารักจริงๆเลยนะ.....
ดูเหมือนการออกนอกเรื่องจะเป็นนิสัยปกติของแม่อิสึมิ ก่อนหน้านี้เธอยังพูดเรื่องประวัติภูตผีปีศาจ แต่ตอนนี้กลับมานั่งพูดประวัติความรักของตัวเอง ที่แย่ยิ่งไปกว่านั่นคือเธอดันลืมว่าพูดเรื่องนี่ไปแล้ว ยังวกกลับมาพูดเรื่องเดิมต่ออีกรอบอีก นี่ทำให้ฮินะงิคุที่ตอนแรกเขินอายกลายเป็นสีหน้าอึดอัด
จนปัญญา วู่หยานพยายามดึงเธอกลับเข้าเรื่องเดิม “คุณนายซากิโนะมิยะครับ รู้ไหมว่าครัสตัลอีกครึ่งอยู่ที่ไหน?”
“แหม่ๆ พวกเธอนะไม่รู้อะไร พ่ออิสึมิน่ะน่ารักมากเลยนะ~ เขาเป็นคนที่.......”
“……….”
เงยหน้ามองฟ้า แต่ที่เขาเห็นเป็นเพดาน ฮินะงิคุก็ทำท่าเดียวกับเขา แต่ต่างกันตรงที่เธอทำดูน่ารักกว่าเขามาก
“ท่านแม่!”
อิสึมิดึงมือแม่เธอ พยายามช่วยให้เธอหลุดออกมาจากเขาวงกตแห่งความทรงจำ วู่หยานและฮินะงิคุมองอิสึมิด้วยสายตาขอบคุณ พวกเขาทั้งสองรู้สึกเหมือนเป็นคนโดนช่วยมากกว่า......
กลัวเธอออกนอกเรื่องอีก เขารีบตบมือเสียงดังดึงความสนใจแม่อิสึมิ วู่หยานพูดด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้
“คุณนายซากิโนะมิยะครับ รู้ไหมว่าครัสตัลอีกครึ่งอยู่ที่ไหน?”
“รู้จ๊ะ.....”
ดี ตอบตรงคำถาม......
จากการกลับคืนหัวข้อเดิมอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนปรับตัวไม่ทัน ยกเว้นตัวคนพูดอ่ะนะ แม้แต่วู่หยานที่เป็นคนอยากได้คำตอบที่สุดก็ไม่ได้ดีใจ เลยแต่กลับรู้สึกแน่นหน้าอกแทน
ถอนหายใจ ขณะเดียวกันวู่หยานก็ได้ยินเสียงถอนหายใจอีกเสียงด้วย หันหน้าไปมองฮินะงิคุ ฮินะงิคุเองก็หันหน้ามามองวู่หยาน ทั้งสองคนสามารถเห็นความเหนื่อยใจได้ในสายตาของอีกฝ่าย
“ขอร้องละครับ คุณนายได้โปรดบอกผมทีว่าคริสตัลอีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่ไหน?”
วู่หยานพูดแต่ละคำด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะที่ในใจกำลังคิดว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้อาวุโส เขาจะเตะให้วิญญาณหลุดเลย แล้วใช้วิธีของตัวเองเพื่อเค้นเอาคำตอบ อย่างเช่น ทรมานอะไรแบบนี้......
“ผนึกคริสตัลก็คือคริสตัลลึกลับ หลังจากปิดผนึกเจ้าปีศาจนั้น เพื่อไม่ให้มันมีวันได้ออกมาก่อหายนะอีก ผู้นำตระกูลนักปราบปีศาจในเวลานั่นก็แบ่งคริสตัลเป็นสองส่วน ชิ้นหนึ่งเก็บไว้ที่ตระกูลตัวเอง ส่วนอีกชิ้นได้ใช้เป็นแกนกลางของพิธีปิดผนึกอีกแห่งหนึ่ง”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็ยิ้มให้เขา
วู่หยานสตัน ก่อนจะพูดอย่างไม่แน่ใจว่า “ใช้เป็นแกนกลางของพิธีปิดผนึกอีกแห่งหนึ่ง? หรือว่าจะเป็น.....?”
“ใช้แล้ว มันคือผนึกของเขตแดนที่มีพลังงานหยินหนาแน่นที่สุด ที่ตอนนี้ก็คือใต้ดินในอาคารเก่าของโรงเรียนฮาคุโอไงละ!”
วู่หยานเข้าใจทันที เป็นแบบนี้เอง ไม่แปลกเลยที่ใต้ดินนั่นจะเต็มไปด้วยภูตผีปีศาจ มันเป็นเขตแดนที่มีพลังงานหยินหนาแนนนี่เอง
มันก็สมเหตุสมผลดี เพราะมันสามารถดึงดูภูตผีได้มากขนาดนั่น แถมยังดึงดูดตัวตนระดับผู้นำภูติผีได้อีกต่างหาก
การที่พวกมันไม่ออกจากใต้ดินไปแถมยังไม่ถูกอิสึมิตรวจพบอีก ก็เป็นเพราะมีผนึกของคริสตัลอันนี้นี่เอง
แต่ยังมีบางอย่างที่ยังอธิบายไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ทำไมพอเขาฆ่าผู้นำภูติผีได้เจ้าคริสตัลนี่ถึงโผล่มา แต่วู่หย่านก็คร่านเกินไปที่จะคิด เขาสรุปสั้นๆว่ามันไอเท็มที่ดรอปหลังบอสตาย
วู่หยานถามต่อด้วยใบหน้าซีเรียส
“งั้นตอนนี้คริสตัลอีกครึ่งหนึ่งก็อยู่กับตระกูลนักปราบปีศาจใช้ไหมครับ?”
“ใช้จ๊ะ...”
“แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?”
“อยู่กับฉันเอง!”
“....ช่วยพูดใหม่อีกครั้งได้ไหม?”
“ฉันพูดว่ามันอยู่กับฉันเอง........”
ขณะที่กล่าว แม่อิสึมิก็หยิบเอาคริสตัลอีกครึ่งมาวางตรงหน้าวู่หยาน
“………….” วู่หยานปวดหัวจี๊ด เอามือนวดขมับ
ไม่รู้ทำไม แม้จะพบคริสตัลแล้ว แต่วู่หยานกลับไม่รู้สึกดีใจเลย กลับกันเขารู้สึดหงุดหงิด หงุดหงิดมากๆ
ว่าไงดีละ มันรู้สึกเหมือนเริ่มมาดีแต่ตอนจบบัดซบมาก!
เอามือตบหน้าเรียกสติตัวเอง ก่อนจะเดินมาตรงหน้าแม่อิสึมิ แล้วพูดด้วยความจริงใจ
“คุณนาย ช่วยยกคริสตัลชิ้นนี้ให้ผมได้ไหม มันสำคัญกับผมมาก!”
“ได้สิ...”
“……….”
ถึงแม้เขาจะมีภูมิต้านทานอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เขาช็อคจริง
“ถ้ายังงั้นผมไม่เกรงใจละ ขอบคุณมากครับคุณนาย!” ในใจวู่หยานรู้สึกโล่งอก ขณะเดียวก็ขอบคุณแม่อิสึมิจากใจจริง เพราะเขาไม่ได้ทำอะไร แต่กลับให้มาฟรีๆแบบนี้
ขณะที่วู่หยานกำลังจะยื่นมือไปรับคริสตัล เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น แม้จะไม่ดังแต่ก็ทำให้ทุกคนสะดุ้งตกใจ แต่จริงๆก็ไม่ใช่ทุกคนที่ตกใจ อิสึมิกำลังหันไปมองที่ต้นเสียง ส่วนแม่อิสึมิก็ยังคงทำสีหน้าเฉยชาเหมือนเดิมมือก็ยังคงส่งคริสตัลไปให้วู่หยาน
เงาหนึ่งแว๊บผ่านไป และก่อนที่วู่หยานจะทันรู้ตัวคริสตัลก็ได้หายไปแล้ว
วู่หยานรีบหันไปมอง จากนั่นริมฝีมากเขาก็กระตุก
“ท่านยายทวด ทำไมถึงอยู่ที่นี่” อิสึมิพูดด้สนสีหน้าว่างเปล่า
“ยะ...ยายทวด?...” ฮินะงิคุมองคนตรงหน้า ปากกระตุก
ไม่แปลกที่วู่หยานและฮินะงิคุจะทำสีหน้าแบบนี้ คนที่เข้ามามีผมสีขาวยาว สูงไม่ถึงร้อยสี่สิบเซนติเมตร กับแก้มนุ่มๆน่ารัก เธอดูเหมือนเด็กน้อยโลลิมากกว่า
แต่กลับเรียกโลลิน้อยว่ายายทวด แล้วจะให้ฮินะงิคุใจเย็นอยู่ได้ยังไง ส่วนวู่หยานเขารู้จักเอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าอยู่ดีๆจะโผล่มา
“หลานฉัน ทำไมถึงให้ของอันตรายกับเจ้าหนุ่มนี่ง่ายๆแบบนี้ ถ้าเจ้าปีศาจเป็นอิสระขึ้น แล้วพวกเราจะทำยังไง....”
โลลิน้อยกระโดดขึ้นลงด้วยความโกรธ
“แหม่ๆ” แม่อิสึมิยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “วู่หยานคุงออกจะเป็นเด็กดี เขาไม่ทำแบบนั่นหรอก.....”
เธอมองแม่อิสึมิด้วยใบหน้าโกรธๆ
“ใครจะไปรู้ มันอาจจะแกล้งทำหน้าโง่ก็ได้ จะทำยังไงถ้าโดนมันหลอก!”
“เขาไม่ทำค่ะ”
“ไม่ได้ ยังไงฉันก็ไม่ยอม! นอกเสียจากจะข้ามศพฉันไปก่อน!”
โลลิน้อยหันหน้าหนีไปอีกทาง ปากก็พูดแต่ ‘ไม่ยอมๆ’
แม่อิสึมิยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดว่า “ถ้าให้เขาช่วยเราเรื่องนั่นก็ยังไม่ยอมงั้นเหรอคะ?”
วู่หยานเห็นชัดเจนเมื่อเธอพูด ‘ให้เขาช่วยเราเรื่องนั่น’ ตาโลลิก็ส่องแสงด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะหมุนตัวมามองเขาแล้วพูดว่า
“ได้! ตกลง!”
“……….”
.....ยอมง่ายๆงี้เลย?..........แล้วไอ้ที่พูดว่า ให้ข้ามศพฉันไปก่อนละ?...................
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน111