SGS บทที่ 26 – แม่ลูกเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน!
วันต่อมา วู่หยานก็เตรียมมื้อเช้าตามปกติ เสร็จแล้วก็เรียกครอบครัวฮินะงิคุลงมา พ่อแม่และเธอเริ่มเพลิดเพลินไปกับอาหาร
ส่วนยูคิจิ เธอเป็นครูของฮาคุโอ ดังนั้นปกติเธอจะอาศัยอยู่ที่โรงเรียนแทนบ้าน โชคดีที่เธอไม่อยู่ ไม่งั้นถึงแม้ที่นี่จะมีฮินะงิคุ แต่เขาก็ยังต้องคิดหนัก ถ้าจะมาอยู่ที่นี่ด้วย
ทั้งสี่คนทานอาหารอย่างสบายใจ ก่อนที่พ่อฮินะงิคุจะไปทำงาน คนแม่ก็ไปดูข่าวที่ห้องนั่งเล่น ส่วนตัวฮินะงิคุก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะกินข้าวด้วยสีหน้าจริงจัง บางครั้งก็จะแอบเหลือบมองวู่หยาน
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั่นเลยไม่มีเรียน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงสามารถนั่งเล่นด้วยท่าทางผ่อนคลายได้ แต่ไม่นานนักก็.....
“นี่ เดียวฉันจะออกไปข้างนอกสักพักนึงนะ ประมาณบ่ายก็คงกลับแล้วละ” วู่หยานบอกเธอหลังจากล้างจานเสร็จแล้ว
ได้ยินปุป ฮินิงะคุก็เอ่ยปากถามว่า “นายจะไปไหนเหรอ?”
ขณะที่เช็ดมือด้วยผ้าเช็ดหน้า วู่หยานก็มองฮินิงคุขำๆ “หรือว่าเธอจะลืมไปแล้ว? เมื่อวานฉันรับปากคุณหนูซากิโนะมิยะว่าจะไปบ้านเธอไง”
“อิสึมิ?” ฮินะงิคุสตันก่อนจะทำหน้าคิดอะไรบางอย่าง
ไม่นานเธอก็ลุกขึ้น แล้วพูดว่า “ฉันก็จะไปด้วย!”
วู่หยานทำหน้าสงสัยมองฮินะงิคุ ก่อนที่จะค่อยๆเผยรอมยิ้มซุกซน
เห็นรอมยิ้มวู่หยาน ฮินะงิคุก็หน้าแดง ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจว่า “อย่าเข้าใจผิดละ ก็แค่.....ก็แค่อยู่บ้านเฉยๆมันน่าเบื่อนี่นา ดังนั่นฉันเลยนึกอยากไปเที่ยวบ้านอิสึมิก็เท่านั่นเอง!!”
ถึงปากเธอจะพูดแบบนั้น แต่ด้วยใบหน้าแดงๆนั่นมันก็ไม่น่าเชื่อถือเลย ดูเธอสะบัดมือไปมา วู่หยานถอนหายใจ ก่อนจะพูดตรงๆว่า
“ถ้าเธอกังวลว่าฉันจะไปทำตัวเจ้าชู้กับผู้หญิงคนอื่นก็พูดออกมาตรงๆสิ ฉันไม่หัวเราะหรอกน่า!”
ฮินะงิคุตัวแข็งทื่อก่อนจะเถียงข้างๆคูๆ“คะ...ใครจะไปสนว่านายจะไปทำตัวเจ้าชู้กันห่ะ นะ..นายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันสักหน่อย ฉันก็แค่....ก็แค่กังวลว่านายจะไปทำตัวรุ่มร่ามกับอิสึมิก็เท่านั่น ใช้ ใช้ เป็นแบบนี้แหละ!”
นี่มันซึนเดเระสินะ? ต้องใช้แน่!
“ถ้างั้นละก็ วันนี้ฉันไม่ไปบ้านอิสึมิละ ลองออกไปจีบสะ.....” วู่หยานยังไม่ทันพูดจบก็โดนฮินะงิคุหยิกอย่างแรงตรงเนื้ออ่อนที่เอว ทำให้วู่หยานร้อง
มองวู่หยานอย่างไม่พอใจ ฮินะงิคุทำเสียงขึ้นจมูกดัง ฮึ
ไอ้บ้านี่ รู้จักแต่การแกล้งคนอื่น.....
หันตัวเดินตรงไปที่ประตู
“รีบไปกันได้แล้ว!”
เอามือลูบเอว วู่หย่านส่ายหน้าอย่างจนใจ
ตอนแรก เขาก็ไม่เชื่อว่าเทคนิคหยิกเนื้ออ่อนนี้จะร้ายกาจอะไร แต่ตอนนี้เขาเชื่อแล้ว.....
..........
“ที่นี่บ้านอิสึมิเหรอ? ใหญ่จัง!”
วู่หยานกับฮินะงิคุยืนอยู่หน้าประตูบ้านอิสึมิ มองดูประสูงใหญ่ตรงหน้า ฮินะงิคุอดประหลาดใจไม่ได้
ถึงแม้เธอจะเคยประตูฮาคุโอที่ใหญ่กว่านี้เป็นประจำ แต่นั่นมันโรงเรียนจะเอามาเทียบกับประตูบ้านของคนๆหนึ่งได้ไง?.....
“สมแล้วที่เป็นตระกูลร่ำรวย” วู่หยานพยักหน้า แล้วเดินเข้าไกล้ประตู ก่อนจะกดออด
“ที่นี่บ้านตระกูลซากิโนมิยะค่ะ!” ไม่นานนักก็มีสียงดังออกมา ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร แต่เขาก็ตอบกลับไปว่า
“สวัสดี ฉันชื่อวู่หยาน เป็นคนที่คุณหนูซากิโนะมิยะเชิญมา!”
“รอสักครู่นะคะ!”
เมื่อเห็นพูดกันเสร็จแล้ว ฮินะงิคุก็เดินมาขข้างๆ “ไม่ใช่เสียงอิสึมิเหรอ?”
“น่าจะไม่ใช่...” วู่หยานเกาแก้ม แล้วพูดว่า “คงเป็นเมดที่มีหน้ารับแขกละมั้ง ยังไงก็เป็นตระกูลชั้นสูงนี่นา”
ฮินะงิคุพยักหน้าเข้าใจ
ขณะที่ทั้งสองคุยกัน ประตูก็ค่อยๆเปิดออก อิสึมิเดินออกมา ยืนตรงหน้าวู่หยานและฮินะงิคุ
“ท่านวู่หยาน คุณฮินะงิคุ อรุณสวัสดิ์ค่ะ!” อิสึมิโค้งให้
“อรุณสวัสดิ์ คุณหนูซากิโนะมิยะ” วู่หยานที่เป็นคนง่ายๆสบายจึงแค่โบกมือตอบ
“อรุณสวัสดิ์ อิสึมิ!” ถึงแม้เธอจะไม่ได้สนิทกับอิสิมิ แต่ท่าทางเธอก็ดูดีกว่าวู่หยาน
“ทั้งสองคนกรุณาตามฉันมาค่ะ ตอนนี้ท่านแม่กำลังรออยู่ที่ห้องรับแขกค่ะ”
ระหว่างพูดสีหน้าเธอปกดี แต่พอพูดถึงท่านแม่เธอก็ยื้มฝืนๆออกมา
วู่หยานหัวเราะในใจ เพราะเขารู้ว่าแม่เธอมีนิสัยยังไง เลยไม่แปลกใจกับท่าทางอิสึมิ
สามารถให้กำเนิดลูกสาวที่สามารถเดินหลงได้ตลอดเวลากับมีนิสัยป้ำๆเป๋อๆแบบนี้เนีย แม่เธอก็คงนิสัยไม่ต่างจากเขาคิดสักเท่าไหร่
อิสึมินำทั้งสองไปห้องรับแขกที่ใหญ่มาก ในห้องมีผู้หญิงที่เหมือนอิสึมิตอนโตแต่ผมไว้ผมสั้นกำลังนั่งอยู่ สายตามองวู่หยานกับฮินะงิคุโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตา
ทั้งสองรู้สึกอึดอัดที่โดนจ้อง ขณะที่อิสึมิยกแขนเสื้อมาปิดหน้าที่กำลังเขินอายอยู่ เธอก้าวเท้าเล็กๆตรงไปหาแม่เธอ
“ท่านแม่คะ...”
ได้ยินเสียงอิสึมิ เธอหันหน้าไปมองตามเสียง ก่อนจะเอียงหัวไปด้านข้างด้วยท่าทางมึนงง แล้วยิ้มออกมาพูดว่า “ตายจริง นี่อิสึมิไม่ใช่เหรอจ๊ะ เข้ามาตอนไหนกันเอ่ย?”
“ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ท่านแม่!” อิสึมิหันไปมองวู่หยานกับฮินะงิคุด้วยท่าทางอายๆ ก่อนจะหันกลับมาพูดอย่างไม่พอใจ
“งั้นเหรอจ๊ะ?” เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกมือมาลูบหัวอิสึมิ
“จริงเหรอจ๊ะ? เด็กดีห้ามโกหกคนอื่นนะรู้ไหม คนที่โกหกคนอื่นจะเป็นเด็กไม่ดีนะจ๊ะ.....”
“ท่านแม่!!”
วู่หยานละฮินะงิคุมองสบตากันสามารถเห็นความอึ้งได้ในสายตาอีกฝ่าย พูดไม่ออก หันไปมองอิสึมิด้วยสายตาสงสาร
มีแม่แบบนี้คงลำบากน่าดูเลยสินะอิสึมิ.....
โดยเฉพาะฮินะงิคุที่รู้สึกเหมือนเจอเพื่อนชะตากรรมเดียว เพราะที่บ้านเธอก็มีพี่ที่ชอบทำตัวบ้าบอเป็นประจำเหมือนกัน.......
“คุณนายซากิโนะมิยะ ยินดีที่รู้จัก ผมชื่อวู่หยาน มาที่นี่ในวันนี่ก็เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องบางอย่างกับคุณ!”
แม่อิสึมิหันมามองวู่หยานด้วยสีหน้าว่างเปล่า ก่อนจะพูดว่า “ปรึกษากับฉัน? ถามเคล็ดลับวิธีคงความสาวงั้นเหรอจ๊ะ?”
“…………จริงๆแล้ว ผมอยากปรึกษาคุณนายว่ารู้จักคริสตัลอันนี้ไหม!”
วู่หยานทำเป็นไม่ได้ยินแล้วพูดออกมาตรงๆแทน มือก็ดึงเอาคริสตัลออกมาโชว์ จริงๆเขาก็ไม่คาดหวังว่าแม่อิสึมิจะรู้จักแต่อย่างน้อยก็.....
“...รู้จ๊ะ....”
วู่หยานพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะพูดออกมาโดยไม่คิดว่า “ไม่รู้จริงๆสินะครับ งั้นผมมีเรื่องอยากจะขอร้อง......”
วู่หยานยิ้มค้าง สักพึงจะรู้สึก ถามด้วยรอยยิ้มกว้าง “คุณนายช่วยพูดประโยคเมื่อกี่อีกครั้งได้ไหมครับ ขอร้องละ!”
เธอยังคงลูบหัวอิสึมิอยู่ ก่อนจะค่อยๆพยักหน้า
“ถามเคล็ดลับคงความสาวใช้ไหมจ๊ะ?”
“…….” ฮินะงิคุเอามือก่ายหน้าผาก ถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นคนคุย แต่ยังรู้สู้สึกเหนื่อยแทน
“ท่านแม่!” อิสึมิอยากจะหารูมุดหนีความอายนี่ ตอนนี้เธอมีความคิดเดียว น่าขายหน้ามาก
วู่หยานไม่สนใจ ตอนนี้เขากำลังจมไปกับความสุข แม้ตอนนี้ฮินะงิคุจะเปลืองผ้าต่อหน้าเขาก็ไม่สน ตอนนี้ใจกำลังโห่ร้องดีใจ
ในที่สุดเควสสุดท้ายก็ได้เบาะแสสักที จะไม่ทำให้วู่หยานมีความสุขได้ไง ดังนั่นเขาจึงรีบร้อนถาม
“คุณนายพูดจริงใช้ไหม คริสตัลนี่...”
ยืนคริสตัลไปด้านหน้าแม่อิสึมิซึ่งห่างจากหน้าเธอแค่หนึ่งเซนติเมตร วู่หยานไม่สามารถเก็บหน้าตื่นเต้นได้
“คุณรู้จักเจ้านี่จริงๆใช้ไหม?”
“หยาน....” ฮินะงิคุเห็นวู่หยานเสียมารยาท เอามือกระตุกชายเสื้อวู่หยาน ขณะเดียวก็หันหน้าไปยิ้มขอโทษแม่อิสึมิ
แม่อิสึมิไม่ได้ใส่ใจ เธอเป็นคนแปลกๆอยุ่แล้ว แม้เขาจะแก้ผ้าเต้นต่อหน้าเธอ มากสุดเธอก็แค่ยิ้มขณะยกชาดื่มมองดูโชว์ตรงหน้า
“ฉันจำเสษคริสตัลนี่ได้....”
นิ้มจิ้มคริสตัลตรงหน้า เธอตอบเขาด้วยท่าทางเรียบเฉย
ถูกฮินะงิคุกระตุกเสื้ออีกครั้ง วู่หยานก็รู้ว่าตัวเองกำลังเสียมารยาท ยิ้มให้เธอก่อนจะทำสีหน้าจริงจัง
“ในเมื่อคุณนายรู้จักคริสตัลนี่ ขอร้องละช่วยบอกผมด้วย มันสำคัญกับผมมาก ดังนั่น....”
“ท่านแม่ ได้โปรดช่วยท่านวู่หยานด้วย เขาก็เคยช่วยหนูเหมือนกัน...ปราบภูติผีนั่น...” เสียงอิสึมิเบาจนทุกคนแทบไม่ได้ยิน มองใบหน้าแดงๆของอิสึมิ วู่หยานซาบซึ้ง แม่อิสึมิพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่ฮินะงิคุรู้สึกไม่ค่อยดี (@หึง?)
“ได้สิ...” เธอหยิบชาบนโต๊ะขึ้น ค่อยๆบรรจงจิบไปคำนึง ราวกับว่ากำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ แล้วค่อยๆเปิดปากพูด “คริสตัลนี่มันชื่อคริสตัลลึกลับก็จริง แต่ฉันชอบเรียกมันว่าคริสตัลผนึกมากกว่า”
“คริสตัลผนึก?”
“อืม เพราะข้างในคริสตัล มีปีศาจร้ายถูกปิดผนึกไว้!”
“ปิดผนึกปีศาจร้าย?” วู่หยานขมวดคิ้ว ยกคริสตัลขึ้นมาดู
คริสตัลที่ผนึกปีศาจ? ทำไมระบบถึงให้เควสรวบร่วมคริสตัลผนึกปีศาจ?
“ทำไมปีศาจถึงถูกปิดผนึกในคริสตัล?” วู่หยานหัวหน้าไปหาแม่อิสึมิ
เธอหยิบคริสตัลจากวู่หยาน ก่อนจะเอียงหน้ามองมัน
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....”
อดทนไว้ตัวฉัน....อย่าตบมุขเชียว....
วู่หยานพูดในใจขณะหยิกต้นขาตัวเองไม่ให้เผลอตบมุข ฮินะงิคุเห็นก็หัวเราะแห้งๆ วู่หยานรีบกลับมานั่งตัวตรง
“ในสมัยโบราณ เป็นช่วงเวลาที่ภูตผีปีศาจเรืองอำนาจ ตอนนั่นอารยธรรมมนุษย์ยังอยู่ในช่วงพัฒนา และภายใต้การคุกคามของพวกปีศาจ มนุษย์ได้แต่ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความหวาดกลัว แต่แล้ววันหนึ่งปีศาจที่ทรงพลังก็ถือกำเนิด ตอนนั่นพลังของราชาปีศาจยังคงมากกว่า จึงมีความคิดที่จะกลืนกินมัน เพื่อเพิ่มพลังให้ตนเอง”
“เพื่อให้ได้เลือดเนื้อของปีศาจตนนั่น ราชาปีศาจได้ส่งลูกสมุนทั้งหมดไป ไม่เพียงเพราะต้องการจับเป็นปีศาจตนนั่น แต่ยังเป็นเพราะต้องการบันทองพลังของมันลง แต่ราชาปีศาจได้ประเมินพลังของมันผิดพลาดไป ทำให้ลูกสมุนทั้งหมดตายเพราะปีศาจตนเดียว แม้จะบันทอนพลังได้จริง แต่แค่พลังที่เหลืออยุ่ ราชาปีศาจก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี สุดท้ายกลายเป็นตัวเองที่ถูกกิน”
“เวลานั่นเองก็มีตระกูลนักปราบปีศาจได้ค้นพบศึกครั้งนั่นด้วยพอดี ดังนั่นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปีศาจตนนั่นก่อหายให้แก่โลกมนุษย์ ผู้นำตระกูลจึงได้ตัดสินใจนำคนของตระกูลตัวเองเข้าต่อสู้เพื่อปิดผนึกขณะมันยังอ่อนแออยู่”
“และสิ่งที่เป็นตัวผนึกปีศาจก็คือคริสตัลลึกลับอันนี้!”
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล