ตอนที่ 306 ความทะเยอทะยานของชุดคลุมเลือด
มอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งน้อยมากที่จะครอบครองทักษะต้องห้าม ทักษะเช่นนี้จะแตกต่างกับทักษะอื่นเพราะมันจะมีเงื่อนไขการใช้ที่ค่อนข้างโหดร้ายและมักจะเกิดผลข้างเคียงต่อผู้ใช้
ทักษะเพลิงของฟีนิกส์เพลิงจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวหลังจากที่สะสมพลังงานไฟมากว่าร้อยปี แม้ว่ามันจะทรงพลัง มันก็ยังถูกจำกัดด้วยปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม
นี่เพราะมันเป็นทักษะต้องห้ามที่ต้องพึ่งพาการดูดกลืนพลังงานความร้อนภายนอกเพื่อสร้างพลังมัน มันจะยิ่งทรงพลังขึ้นด้วยสถานที่ที่มีพลังงานความร้อนเพียงพอ ในทางกลับกัน ในดินแดนที่อุณหภูมิต่ำ การโจมตีคงจะไม่อาจทำอะไรกับคู่ต่อสู้ได้เพราะผลของมันอาจเบาบางยิ่งกว่าทักษะทั่วไป
อย่างไรก็ตาม มันมีทะเลลาวาและภูเขาไฟนับร้อยรอบที่ฟีนิกส์เพลิงกำลังปลดปล่อยไฟ พลังงานความร้อนจะเพียงพอกระตุ้นเพลิงประกายให้ถึงขีดสุด การโจมตีดังกล่าวจะครอบคลุมรัศมีกว่า10000ตารางกิโลเมตร
นอกเหนือจากหลิน ฮวง หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางที่อยู่ด้านบนภูเขาไฟก็คงไม่รอด
แม้ว่าหลี่ หลางจะไม่เคยอ่านสารานุกรมมอนสเตอร์ เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงพลังของทักษะต้องห้ามนี้ แน่นอน หยี่ เยว่หยู่รู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับมันเพราะฟีนิกส์เพลิงคือเป้าหมายเธอและเธอก็ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับมันมาก่อน
เมื่อเห็นเพลิงประกายถูกปลดปล่อย ในหัวของทั้งคู่ก็กลายเป็นขาวโพลน
“ทักษะต้องห้ามเพลิงประกาย....นี่เกิดขึ้นได้ยังไงกัน?ตามบันทึก ฟีนิกส์เพลิงจะไม่มีทางใช้ทักษะต้องห้ามมัน...”หยี่ เยว่หยู่ตกตะลึง
“ระยะมันสั้นเกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี ทันทีที่เพลิงประกายถูกปลดปล่อย พลังจะพุ่งไปถึงจุดสูงสุดในเวลาไม่ถึง10วินาที จากนั้น ทั่วทั้งพื้นที่ในรัศมี10000ตารางกิโลเมตรจะกลายเป็นเถ้าธุลี” เห้อ หยี่ เยว่หยู่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“ฉันไม่คิดเลยว่าจะต้องมาตายที่นี่...”
ในขณะนั้นเอง แม้หลิน ฮวงจะถูกล้อมรอบด้วยเปลวไฟ เขาก็ยังสามารถสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของฟีนิกส์เพลิงได้ผ่านโล่ทมิฬ
ลำแสงสีทองที่มีขนาดเล็กราวกับหิ่งห้อยดูเหมือนจะไม่มีนัยสำคัญ แต่ทว่า สีหน้าของหลิน ฮวงกลับเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นมัน
“ฉันพูดกับมันเร็วเกินไป”เขาตกตะลึงอยู่สักพักก่อนจะติดต่อกับวิญญาณกระดูกในใจ
“ฉันไม่สนใจว่ามันจะค้นพบหรือไม่ รีบลงมือเดี๋ยวนี้!”หลิน ฮวงสั่งการโดยไม่ลังเล ในตอนแรก เขาต้องการจะให้วิญญาณกระดูกโจมตีก็ต่อเมื่อฟีนิกส์เพลิงไม่ตระหนักถึงมัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับไม่เอื้ออำนวยเขา
ฟีนิกส์เพลิงเหยียดกรงเล็บของมันไปในอากาศและคว้าเพลิงประกายเอาไว้ ฉีกชั้นนอกของมันเพื่อปลดปล่อย
ทันใดนั้นเอง โซ่ลงทัณฑ์จำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกจากลาวาและตัดผ่านท้องฟ้าใส่ฟีนิกส์เพลิง
โซ่ลงทัณฑ์พุ่งด้วยความเร็วสูงสุดของมันขณะที่มาถึงด้านหลังฟีนิกส์เพลิงในชั่วพริบตา
อย่างไรก็ตาม ฟีนิกส์เพลิงดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ มันกระพือปีกในทันทีและทะยานขึ้นสูงหลายร้อยเมตรเพื่อหลบหลีกโซ่ลงทัณฑ์
“บัดซบ!”หัวใจของหลิน ฮวงตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที
ด้านบนภูเขาไฟ หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางต่างก็มีความหวังเมื่อพวกเขาเห็นการปรากฏของโซ่ลงทัณฑ์ แต่ทว่า ฟีนิกส์เพลิงกลับสามารถหลบมันได้และนั่นก็ทำให้รอยยิ้มของพวกเขาหายไป
“พวกเราจบสิ้นกันแล้ว!”หลี่ หลางกำมือแน่นขณะที่ไม่กล้ามองการต่อสู้อีกต่อไป
แต่แล้วในขณะนั้นเอง โซ่ก็ปรากฏโดยไม่มีสัญญาณใดๆและเพลิงประกายก็ถูกฉุดลากลงไปในทะเลลาวาด้วยความเร็วสายฟ้า
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนฟีนิกส์เพลิงไม่อาจตอบสนองได้ทันท่วง เพียงเห็นว่าเพลิงประกายของมันถูกพรากไป
“ฮี่ๆๆ...”เมื่อเสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งดังขึ้น วิญญาณกระดูกก็ค่อยๆโผล่ออกมาจากลาวาพร้อมกับประกายสีทองที่ถูกปลดผนึกไปครึ่งหนึ่งในมือมัน
“เจ้านกโง่ ขอบคุณสำหรับของขวัญ!”วิญญาณกระดูกทำท่าเยาะเย้ยใส่ฟีนิกส์เพลิง
“เจ้า!”ฟีนิกส์เพลิงตะโกน กระพือปีกมันหนีจากหลิน ฮวงและพุ่งใส่วิญญาณกระดูก
“ฮี่ๆ มันสายเกินกว่าที่จะพรากมันไปจากข้า!”วิญญาณกระดูกยิ้มอย่างคลุมเครือ มันใส่เพลิงประกายกึ่งผนึกไปในดวงตามันโดยไม่ลังเล
และอึดใจต่อมา การแจ้งเตือนก็มาจากเสี่ยว เฮย
“ขอแสดงความยินดีด้วย การ์ดมอนสเตอร์ระดับสุดยอด-วิญญาณกระดูกโลหิตได้รับทักษะใหม่-เพลิงประกาย”
หลิน ฮวงตกตะลึงเมื่อได้ยิน เขาไม่คิดว่าวิญญาณกระดูกจะสามารถยึดทักษะไปได้ด้วยวิธีเช่นนี้
“ฉันคิดว่ามีเพียงมอนสเตอร์ประเภทเดียวกันท่านั้นจึงสามารถยึดครองทักษะมอนสเตอร์อื่นได้?”หลิน ฮวงพึมพำด้วยเสียงต่ำ
“ไม่จำเป็น หากทักษะทรงพลังพอ มันสามารถถูกยึดครองได้โดยมอนสเตอร์ธาตุเดียวกัน”ในไม่ช้า เจ้าแดงก็ตอบกลับในหัวหลิน ฮวง เตือนให้เขานึกถึงเจ้าแดง
เมื่อเห็นว่าฟีนิกส์เพลิงและวิญญาณกระดูกกำลังปะทะกัน หลิน ฮวงก็เริ่มปวดหัว“แม้ว่าชุดคลุมเลือดจะฉวยเอาเพลิงประกายไปและแก้ไขสถานการณ์ แต่ฉันก็ยังสูญเสียโอกาสที่จะผนึกฟีนิกส์เพลิงด้วยโซ่ลงทัณฑ์ ดังนั้นหยี่ เยว่หยู่จึงไม่อาจฆ่ามันได้ตามแผนที่วางไว้...”เขาคิด
“หากไม่มีโอกาส งั้นเราก็ต้องสร้างมันขึ้นมาเอง วิญญาณกระดูกจะไม่สามารถล้มฟีนิกส์เพลิงได้แต่ท่านยังสามารถเรียกเนฟิลิกมาเพื่อควบคุมและผนึกมันได้”เจ้าแดงแนะนำ
“นั่นคือทางเลือกเดียวที่เรามี มันควรจะไม่เป็นไรหากปล่อยฝั่งไทแรนด์ไว้สักพัก…”หลิน ฮวงรู้ว่าในบรรดาการ์ดมอนสเตอร์ทั้งหมดของเขา มีเพียงวิญญาณกระดูกและเนฟิลิกเท่านั้นที่อยู่ในระดับเพลิงขาว พวกมันสามารถสู้ในอากาศและด้วยความสามารถของพวกมัน พวกมันจึงสามารถถ่วงเวลาฟีนิกส์เพลิงได้ เมื่อเทียบกับพลังของมอนสเตอร์ตัวอื่นที่ด้อยกว่าและไม่อาจบินได้ พวกมันเพียงจะถูกกดดันโดยฟีนิกส์เพลิงเท่านั้นหากสู้กัน
เนื่องจากหลิน ฮวงไม่อาจบินหรือโจมตีใส่ฟีนิกส์เพลิงจากระยะไกลได้ เขาจึงทำได้เพียงเบี่ยงเบนความสนใจจากฟีนิกส์เพลิงเท่านั้น
“ดูเหมือนฉันจะต้องเรียนรู้ทักษะโจมตีระยะไกลหรือหาทักษะมอนสเตอร์ซะบ้าง ไม่อย่างนั้น ฉันก็ต้องหาสมบัติปืนและเสริมด้วยทักษะลับปืนสังหาร”หลิน ฮวงคิดอย่างแน่วแน่
เมื่อเห็นว่าเพลิงด้านนอกโล่ทมิฬเริ่มเบาบาง หลิน ฮวงก็เรียกไคลี่กลับเป็นการ์ดโดยไม่ลังเล และในไม่ช้า เธอก็ถูกอัญเชิญออกมาอีกครั้ง(นั่งเฝ้าไทแรนด์อยู่)
ไคลี่หดตัวอยู่ในเกราะสีเงินของเธอ สร้างความตกตะลึงให้แก่หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางที่เพิ่งจะตระหนักถึงเธอ
โล่ทมิฬของหลิน ฮวงได้หายไปและเขาก็ออกคำสั่งใหม่แก่ไคลี่“ไคลี่ จงช่วยชุดคลุมแดงควบคุมฟีนิกส์เพลิงและผนึกมันให้ได้”
ไคลี่เหลือบมองหลิน ฮวง โดยไม่พูดอะไร เธอกระพือปีกและหายตัวไป......