ตอนที่ 305 แหย่มากเกินไป
แส้เพลิงทั้ง9ตวัดข้ามฟ้า เกิดเป็นรอยแตกลึกยาวกว่าร้อยเมตรบนพื้น
หางแส้ของฟีนิกส์เพลิงมีพลังพอจะทำลายโลหะในทุกๆการโจมตี
แต่การโจมตีดังกล่าวกลับไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อหลิน ฮวง นับประสาอะไรกับการบาดเจ็บ หางแส้มันโจมตีอย่างไร้ประโยชน์ต่อไปนานหลายนาที ด้วยจิตสังหารที่ท่วมท้น ฟีนิกส์เพลิงปล่อยเสียงคำรามออกมาหลายครั้ง เมื่อมันเปิดปากกว้าง มันก็มีลำแสงสีแดงบีบอัดกันที่จงอยปากมัน
ไกลออกไปหลายร้อยเมตร หลิน ฮวงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลที่กำลังผันผวนอยู่ภายในจงอยปากมัน
หลิน ฮวงตื่นกลัวเพราะเขาเข้าใจพลังของฟีนิกส์เพลิงดี แน่นอน เขารู้ว่าเขากำลังจะเผชิญกับการโจมตีประเภทไหน
ในจงอยปากฟีนิกส์เพลิง บอลพลังงานถูกบีบอัดจนถึงขีดสูง ก้อนพลังงานไฟหมุนวนเป็นรูปทรงข้ามโพด เล็งมาทางหลิน ฮวงราวกับสว่านไฟฟ้า
มันคือเพลิงผลาญนรก ทักษะซึ่งถูกพิจารณาให้เป็นทักษะที่ทรงพลังสุดของฟีนิกส์เพลิง นอกจากหากแส้ที่คอยจำกัดพื้นที่ของหลิน ฮวงแล้ว มันยังพยายามฆ่าหลิน ฮวงด้วยการผสานทักษะเหล่านี้!
เมื่อตระหนักว่าหางแส้มันไม่อาจทำอันตรายต่อหลิน ฮวงได้ ฟีนิกส์เพลิงจึงใช้ทักษะควบคู่เช่นนี้แทน มันได้จำกัดพื้นที่ของหลิน ฮวงด้วยหางแส้ของมันก่อนและจะฆ่าเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเมื่อหลิน ฮวงไม่มีพื้นที่ให้หลบ
หลิน ฮวงสังเกตเห็นพื้นที่รอบตัวเขาที่กำลังหดแคบลง จากนั้นเขาก็เห็นว่าฟีนิกส์เพลิงกำลังรวบรวมพลังงานเพื่อปลดปล่อยเพลิงผลาญนรก เขาเข้าใจถึงเจตนาของฟีนิกส์เพลิงทันที
“จงอย่าประมาทมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง”หลิน ฮวงขมวดคิ้ว เขารู้ว่าหากนี่ไม่ใช่ทักษะต้องห้าม มันก็ต้องเป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุดของฟีนิกส์เพลิง เขาไม่แน่ใจว่าโลทมิฬของเขาจะต้านทานมันได้นานแค่ไหน
“คิดหรอว่าจะจำกัดพื้นที่ฉันได้?!”หลิน ฮวงแสยะยิ้ม
ชั่ววินาทีที่เพลิงผลาญนรกพุ่งออกจากปากมัน หลิน ฮวงก็เปลี่ยนจากท่าเท้าเมฆาเป็นท่าเท้าอัสนีบาตในบัดดล เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าเท้าอัสนีบาตขณะที่ใช้ความเร็วฑูตสวรรค์เพื่อกระตุ้นความเร็วจนถึงขีดสุด หลุดจากกรอบพื้นที่ที่ถูกขังไว้โดยแส้ทั้ง9
บูมมม!
อึดใจต่อมา การระเบิดครั้งใหญ่ก็ดังขึ้นและภูเขาไฟที่เคยตั้งตระหง่านอยู่ก็ได้หายไป
ไม่เพียงแต่เพลิงผลาญนรกจะทะลวงผ่านภูเขาไฟยักษ์ ภูเขาขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลกว่า10กิโลเมตรยังถล่มลง ก่อให้เกิดภาพฉากอันน่าหวาดสะพรึง
ที่ด้านบนภูเขาไฟลูกหนึ่ง หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางต่างตกใจเพราะทั้งคู่รู้ดีว่าพวกเขาคงจะตายแบบไม่เหลือเศษซากหากถูกการโจมตีนั้นเข้า
“พลังทำลายของแกค่อนข้างดีแต่แกก็ยังช้าอยู่ดี!”หลิน ฮวงกำลังยืนอยู่บนที่ที่ห่างไกลออกไปร้อยเมตร มองมาที่ฟีนิกส์เพลิงและตะโกนใส่มันอย่างเย็นชา
“หาที่ตาย!”
ฟีนิกส์เพลิงกู่คำราม มันมักจะไม่พูดภาษามนุษย์แต่มันไม่อาจทนการยั่วยุของหลิน ฮวงได้ แม้ว่ามันจะพูดราวกับคนเมา แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะพูดออกมา
“เห้ แกช่วยทำให้ลิ้นตรงก่อนจะพูดได้ไหม?แกไม่แม้แต่จะแยกแยะระหว่างพยัญชนะหรือการออกเสียง แกอยากให้ฉันสอนแกไหม?!”หลิน ฮวงทำสีหน้าเยาะเย้ย“พูดตามฉันสิ เธอขายเปลือกหอยบนชายทะเล เปลือกหอยที่เธอขายคือเปลือกหอยจริงๆ ดังนั้น หากเธอขายหอยบนชายทะเล ฉันก็มั่นใจว่าเธอขายเปลือกหอยชายทะเล”(เหมือนคุณยายกินลำไยอะไรทำนองนั้นฮ่าๆ)
“ตาย!”
อารมณ์ของฟีนิกส์เพลิงทะลุเกินขีดจำกัด มันเปิดปากขนาดใหญ่ขึ้นอีกครั้งและพ่นไฟออกมาอย่างบ้าคลั่ง
อากาศได้รวมตัวกันแน่น เปลวไฟสีแดงดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น ในเวลาอันสั้น เปลวไฟก็ได้โถมลงมาจากฟ้า ห่อหุ้มพื้นดินด้วยเปลวไฟ
เพลิงไร้ขอบเขตคือการโจมตีระยะไกล มันเทียบได้กับขนเพลิงอุกกาบาตที่มันใช้ก่อนหน้า แต่ทักษะนี้กลับปกคลุมพื้นที่ใหญ่กว่าและหลิน ฮวงก็ไม่มีพื้นที่ให้หลบหนีเลย
“ไม่มีอะไรที่ฉันสามารถทำได้นอกจากสู้!”แน่นอน หลิน ฮวงรู้ถึงลักษณะของทักษะนี้ดี และอีกครั้ง เขาเปิดใช้งานโล่ทมิฬซึ่งเปลี่ยนเป็นลูกบอล เพื่อให้มันสามารถปกคลุมทั่วทั้งตัวหลิน ฮวง
ทั่วทั้งพื้นที่ดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟหลังจากที่หลิน ฮวงเปิดใช้งานโล่ทมิฬ อย่างไรก็ตาม เพลิงอันร้อนแรงก็เหมือนจะถูกขวางกั้นโดยโล่ทมิฬของหลิน ฮวงและไม่อาจแทรกเข้าไปได้ แม้กระทั่งคลื่นความร้อนก็ยังถูกสกัดกั้นเอาไว้โดยโล่ทมิฬ
ด้านนอกของโล่ทมิฬคือม่านสีดำที่ดูเหมือนอีกชั้นหนึ่ง ไม่มีใครสามารถเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในโล่ทมิฬ แต่ทว่า หลิน ฮวงสามารถมองผ่านโล่ได้ราวกับมันเป็นกระจกโปร่งใส
เมื่อมองทะเลเพลิงด้านนอกซึ่งถูกแยกจากเขาโดยแผ่น’แก้ว’ หลิน ฮวงก็รู้สึกโล่งอก
เขาไม่รู้ว่าโล่ทมิฬสามารถป้องกันได้ถึงระดับไหน แม้จะด้วยคำอธิบายทักษะที่บอกว่าตราบเท่าที่พลังของคู่ต่อสู้ไม่มากไปกว่าผู้ใช้สิบเท่า โล่จะไม่พัง แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเพียงการคาดการณ์คร่าวๆและไม่แม่นยำ
หากหลิน ฮวงดึงพลังชีวิตทั้งหมดทั้ง5กงล้อเพื่อปลดปล่อยผลาญโลกา พลังจะรุนแรงพอฆ่ามอนสเตอร์ระดับเพลิงขาวเกือบทุกตัวในโลก เมื่อคิดว่าเขากำลังถูกโจมตีด้วยพลังที่มากกว่านั้นสิบเท่า เขาก็อดที่จะหนาวสั่นถึงกระดูกไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงจึงไม่ได้กำลังทดสอบขีดจำกัดของพลังป้องกันเขาต่อหน้าศัตรูแต่เพราะมันจำต้องทำ ดังนั้น เขาจึงหลบการโจมตีครั้งแรกของฟีนิกส์เพลิง และจำต้องใช้โล่ทมิฬเพื่อป้องกันตัวเขาจากการโจมตีระยะไกล
เนื่องจากทะเลเพลิงได้ถูกแยกออกจากโล่เขา หลิน ฮวงจึงรู้สึกค่อนข้างปลอดภัย เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นฟีนิกส์เพลิงกำลังเตรียมจะใช้ทักษะต่อไป รูม่านตาเขาพองตัวขึ้นทันทีและใบหน้าเขาก็กลายเป็นปั้นยาก
ในอากาศ หลังจากที่พ่นเพลิงออกจากปากมันเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาสีฟ้ามันก็ทอประกายความบ้าคลั่ง
ลำแสงสีทองพวยพุ่งออกจากหัวฟีนิกส์เพลิง ลอยอยู่ตรงหน้าร่างมัน มันคล้ายกับประกายสีทองขนาดเล็กและมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น
“อ่า ทักษะต้องห้าม....”หลิน ฮวงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความวิตกกังวล เขารู้ดีว่าทักษะไฟนั่นคืออะไร
เพลิงสีทองที่มีติดตัวฟีนิกส์เพลิงมาแต่กำเนิด-เพลิงประกาย
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ฟีนิกส์เพลิงจะต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อสร้างเพลิงประกายขึ้น ดังนั้น มันจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ทักษะนี้
เพลิงประกายปกติจะอยู่ในท้องของฟีนิกส์เพลิงและเกือบตลอดเวลา เพลิงประกายจะถูกปลดผนึกเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เมื่อเพลิงประกายปลดปล่อยออกจากร่างมัน มันจะถูกซับพลังงานความร้อนรอบตัวมันอย่างรวดเร็ว สร้างเป็นบอลเพลิงระเบิดขนาดมหึมา ยิ่งปริมาณความร้อนมากเพียงใด พลังงานที่อัดแน่นในบอลเพลิงก็จะยิ่งมากเพียงนั้น
หากพลังงานถูกดูดซับจนเพียงพอ เพลิงประกายจะมีพลังทำลายล้างครอบคลุมรัศมีกว่า10000กิโลเมตร ทำให้มันเทียบได้กับระเบิดปรมาณูบนโลก
“ฉันคงแหย่มันมากเกินไป....”แผ่นหลังของหลิน ฮวงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะเขามั่นใจว่าโล่ทมิฬคงแตกสลายทันทีที่บอลเพลิงกระทบกับพื้น