SGS บทที่ 22 – ก้างขวางคอที่พระเจ้าส่งมาล่ะ!!
“ท่านวู่หยาน ก็เป็นนักปราบภูตผีปีศาจเช่นกันเหรอคะ?” อิสึมิเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หันไปมองฮินะงิคุที่กำลังหัวเสีย วู่หยานหัวเราะอย่างขมขื่น
“ไม่ ฉันไม่ได้เป็นนักปราบภูตผีปีศาจ ฉันแค่มีพลังบางอย่างทำให้สามารถฆ่าพวกภูติผีได้”
“ภูตผีนี่....มีตัวตนอยู่จริงๆงั้นเหรอ?....” ฮินะงิคุเก็บสีหน้าโกรธไป แล้วถามด้วยน้ำเสียงกลัวๆ นอกจากเธอ นางิเองก็เป็นเหมือนกัน แต่ก็กำลังพยายามตั้งสติอยู่
เจอคำถามฮินะงิคุ วู่หยานก็ไม่รู้จะตอบยังไงจึงหันไปหาอิสึมิเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันมองไปรอบๆ ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุย
“ท่านวู่หยาน ไปเจอผู้นำภูตผี ที่ไหนเหรอคะ?” อิสึมิรีบเอ่ยถามดึงความสนใจจากสองสาว
วู่หยานก็ชี้ไปที่ ฮาคุโอ ทั้งสามคนต่างทำสีหน้าประหลาดใจ
“ท่านวู่หยานจะบอกว่า คุณพบผู้นำภูติผีในฮาคุโอ?” อิสึมิสตัน จากนั่นก้มหน้าลงด้วยสีหน้ามืดมน ในฐานะนักปราบภูตผี แต่เธอกลับไม่สังเกตเจอทั้งๆที่มาโรงเรียนทุกวัน นี่เราประมาทเกินไป
“ในฮาคุโอมีผี มุขนายตลกมาก หยาน” ฮินะงิคุพูดด้วยรอยยิ้มฝืนๆ
เห็นวู่หยานพยักหน้า นางิเป็นคนแรกที่โวยวาย “ฉันก็บอกแล้วไงว่าโรงเรียนมันมีปีศาจ มีแม้กระทั้งผี ฮือๆแต่มาเรียก็ยังบังคับฉันให้มาอีก ฉันจะไม่มามันอีกแล้วโรงเรียนเนี่ย ฮือ.....”
วู่หยานปวดหัวขณะที่มือก็เอื้อมไปจับคอเสื้อด้านหลังนางที่กำลังจะวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา
“ฉันจัดการพวกมันที่อยู่ในโรงเรียนไปหมดแล้ว ดังนั่นสบายใจได้”
“โกหก! นายคิดว่าฉันโง่มากรึไง?” นางิพยายามดิ้นให้หลุดจากวู่หยานขณะปากก็โวยวาย
วู่หยานอยากจะบอกเธอมาก ไอคิวเธอสูงก็จริงแต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอไม่โง่ นางิเธอเป็นอัจฉริยะประเภทโง่
“ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆค่ะ ท่านวู่หยาน” อิสึมก้มโค้ง45องศา
“ถ้าคุณไม่จัดการพวกภูตผี พวกมันจะทำร้ายผู้คนบริสุทธ์ถ้าพวกมันหนีไปได้ คงจะเป็นตราบาปของฉัน ขอบคุณมากค่ะ”
วู่หยานกระอักระอ่วนยิ้มรับขณะในใจก็ตบมุข พี่ชายคนนี้ไม่ใช่ฮีโร่ที่ชอบปกป้องผู้คนหรือโลก พี่ชายแค่เข้าไปทำเควส ดังนั่นเธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณ
“ที่ที่ท่านวู่หยานจัดการผู้นำภูตผี อยู่ที่ไหนงั้นเหรอคะ?” วู่หยานสามารถเห็นได้ลางๆว่าในตาของอิสึมิกำลังมีเพลิงลุกใหม้ที่ชื่อว่า ‘กู้หน้าคืน’
“อยู่ที่อาคารเก่า”
จริงๆวู่หยานเองก็กังวลอยู่เหมือนกัน เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยพลังหยินเขากลัวว่าสักวันจะมีวิญญาณมาสิงสู่อีก ดังนั่นถ้าอิสึมิไปขุดรากถอนโคนได้หมดก็คงดี
“อาคารเก่า? ข่าวลือที่พวกนักเรียนว่าอาคารนั่นเป็นอาคารผีสิงก็เป็นเรื่องจริงั้นสิ?” ฮินะงิคุพูดแทรกขึ้นมา
วู่หยานพูดไม่ออกกับจิตใจที่แข็งแกร่งของเธอที่สามารถยอมรับว่ามีสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่ได้ในระยะสั้นๆแบบนี้ นางิถือปรณีพิเสษเพราะก่อนหน้านี้บ้านเธอก็ถูกผีสิงและก็ได้อิสึมิเป็นคนปัดเป่าให้ แต่ฮินะงิคุเป็นมนุษย์ธรรมดาของแท้ ที่ตั้งแต่เกิดจนโตไม่เคยสัมผัสเรื่องเหนือธรรมชาติ
ไม่คิดเลยว่าในเวลาสั้นๆก็สามารถยอมรับตัวตนภูตผีได้ คงต้องพูดว่าสมแล้วที่เป็นท่านประธานสินะ?...
“เข้าใจแล้ว อาคารเก่าสินะค่ะ ฉันก็ได้ยินข่าวลือมาเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็คิดอยู่ว่าเดียวมีเวลาจะลองไปตรวจสอบดู แต่ฉันก็ไม่คิดเลยว่าที่นั่นจะมีผู้นำภูตผี...” อิสึมิขมวดคิ้วจนเป็นปม
มองดูอิสึมิที่กำลังโทษตัวเอง วู่หยานอดรู้สึกผิดไม่ได้
การที่ทำให้เด็กสาวที่มีเซ้นส์ด้านทิศทางพังแถมยังทำแต่สีหน้างุนงง เขาช่างเป็นผู้ชายที่บาปหนาจริงๆ....
“ท่านวู่หยาน ฉันคงต้องขอตัวลาก่อนนะค่ะ ส่วนเรื่องอาคารเก่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเองค่ะ” ได้ยินเสียงน่ารักๆ วู่หยานก็พยักหน้าตอบ ทำให้อิสึมิยิ้มแบบป้ำๆเป๋อๆ
โอ้ สาวน้อยหัวเถิกโดยธรรมชาติกลับมาเป็นปกติแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว
“เดียวก่อน” เมื่ออิสึมิกำลังจะเดินเข้าฮาคุโอ วู่หยานรีบร้อนหยุดเธอ
“คะ?..” อิสึมิหันหน้ากลับมา
“ได้โปรด เอาเจ้าตัวนี้ไปด้วย” วู่หยานยื่นนางิที่กำลังดิ้นไปมาไปด้านหน้าอิสึมิ
“นายสิตัว! ครอบครัวนายเป็นตัวกันหมด!” นางิที่ได้ลืมเรื่องผีไปจนหมด เธอแยกเขี้ยวโกรธใส่วู่กยาน เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำล่ะนะ จะกลัวหรือจะโกรธก็เหมือนกับหิน อยากโยนทิ้งก็โยน
อิสึมิเหงื่อแตกเต็มหน้า จากนั้นก็ลากนางิที่ยังไม่เลิกคิดหนีและเมินคำพูดขอความเมตตาของเธอ เข้าฮาคุโอไป
“คุณซากิโนะมิยะ ถ้าได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับคริสตัลนั่น ได้โปรดช่วยบอกฉันด้วยนะ!”
เขาตะโกนบอกเธอที่กำลังเดินห่างออกไป
“เข้าใจแล้วค่ะ ท่านวู่หยาน”
อิสึมิกับนางิเดินจากไป วู่หยานกับฮินะงิคุก็เดินเข้าโรงเรียนเหมือนกัน ทำให้ญี่ปุ่นมุงที่หน้าประตูลดจำนวนลง
ระหว่างทางไปยังหอนาฬิกาที่ห้องสภานักเรียน ทั้งสองก็เดินเงียบไม่ได้เอ่ยปากพูดแม้แต่คำเดียว
แต่วู่หยานสามารถสัมผัสได้ถึงหายนะที่กำลังจะกินหัวเขา
ข้างๆเขาฮินะงิคุเดินไปมือทั้งสองก็เท้าเอว และเธอก็จ้องหน้าเขาเขม็งด้วยดวงตาที่สวยดุจอัญมณี ราวกับจะจ้องจนหน้าเขามีรู
เห็นฮินะงิคุที่กลับคืนเป็นเหมือนเดิมแล้ว เขาไม่รู้สึกดีใจสักนิด
“หยาน นายไม่มีอะไรจะบอกฉันบ้างเหรอ?” เธอทำหน้ายิ้มแต่ก็เหมือนไม่ยิ้มให้เขา
วู่หยานรู้สึกถึงอะไรไม่ดีบางอย่าง ที่ถ้าเขาไม่อธืบายให้เคลียร์ มันคงมาถึงตัวแน่
วู่หยานหัวเราะแห้งนัยน์ตามีประกายแสงแวบ แล้วพูดว่า “ธะ.เธออยากให้ฉันพูดอะไรเหรอ?”
“ฮื้ม!” ฮินะงิคุทำเสียงในลำคอด้วยความเย็นชา ทำให้วู่หยานสะดุ้งกลัว เมื่อเขาคิดว่าเธอจะดึงมีดมากระซ้วก แต่เธอกลับเงียบไป ดวงตาเริ่มมีหยดน้ำเอ่อล้น
เขาตื่นตระหนกทันที “ฮินะ..ฮินะงิคุ...ขอร้องละอย่าร้องไห้เลยนะ ได้โปรด....” หัวหน้าหนีมือก็ปาดน้ำตาทิ้งไป ปากพึมพำ
“ฉันมัน..กับนายฉันมันไม่น่าไว้ใจขนาดนั่นเลยงั้นเหรอ?”
เขาเงียบลงทันที
เห็นวู่หยานไม่ตอบ ฮินะงิคุก็โมโห เธอก้าวเท้าคิดจะวิ่งหนี แต่ก็ถูกวู่หยานจับมือไว้
ฮินะงคุสตันจากนั่นก็พยายามสะบัดมือ “ปล่อยฉัน! ปล่อยเดียวนี้นะ!”
วู่หยานจับไม่ปล่อย เขารู้ ถ้าปล่อยให้เธอวิ่งหนีไป เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด
ทำให้ผู้หญิงร้องไห้.....ช่างน่าผิดหวังอะไรขนาดนี้นะ...ตัวฉัน...
วู่หยานออกแรงดึงฮินะงิคุเข้ามา แล้วกระชับแขนกอดเธอไว้แน่น
ฮินะงิคุช็อค เธอไม่คิดเลยว่าวู่หยานจะกอดตัวเอง นอกจากพ่อเธอ เธอก็ไม่เคยแม้แต่สัมผัสผู้ชายคนอื่น ไม่แม้แต่จับมือ ส่วนกอดพ่อเธอก็ไม่เคยทำ ดังนั่นสถานการณ์นี้จึงแปลกใหม่สำหรับเธอ
นี้ทำให้ฮินะงิคุลืมความรู้สึกโกรธไปหมด ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ เธอพยายามดิ้นในอ้อมกอดเขาขณะที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป
“นาย.....นายคิดจะทำอะไร....ปล่อยฉันนะ..”
วู่หยานหัวเราะ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ปล่อย ถ้าปล่อยไปแล้ว เธอดันวิ่งหนีไปอีกฉันจะทำยังไงละ”
มือทั้งสองข้างของฮินะงิคุวางบนหน้าอกวู่หยาน เธอหลบสายตาเขาแล้วพูดว่า “ไม่หนี ฉันไม่หนีแล้ว เพราะงั้น..รีบปล่อยฉันเดียวนี้นะ”
ใครจะไปคิดว่าวู่หยานกลับกอดแน่นขึ้น เขาพูดอย่างหน้าไม่อายว่า “ฉันไม่เชื่อ ใครจะรู้เธอาจจะโกหกก็ได้ ในจีนเรามีคำพูดอยู่ว่า ‘ผู้หญิงนั่นไม่มีเหตุผล’”
“นาย....” ฮินะงิคุได้ยินก็โมโห แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้(@เตะไข่มันเลย) เธอแรงเยอะมากกว่าผู้ชายทั่วไปก็จริง แต่กับวู่หยานเลเวล30เธอยังห่างไกลนัก
ใช้แรงก็สู้ไม่ได้พูดโน้มน้าวก็ไม่เชื่อ เธอทำได้แค่ขอร้อง “ฉันไม่หนีจริงๆ สัญญาเลย เพราะงั้นได้โปรด อยู่แบบนี้ต่อไปเดียวก็มีคนอื่นมาเห็น....”
“หึ แล้วไง ก็ให้พวกมันเห็นไปสิ!” ยังกับเผด็จการ เขากดหัวเธอเข้ากับอกเขา แล้วก็กอดเธอต่อไป เขาไม่ต้องการปล่อยเธอไปจริงๆ ดังนั่นเขาจึงทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ
ดิ้นอีกไม่กี่ครั้งผลก็เหมือนเดิม เธอทำแค่ถอนหายใจแล้วปิดตา ฟังเสียงหัวใจเขา หน้าเธอเริ่มร้อนขึ้น
..ของเธอ...นี่เปนครั้งแรกของเธอ...
ได้กลิ่นหอมโชยมาจากผมของฮินะงิคุ เขาลูบหัวเธอและลังเลสักพักก่อนที่จะเปิดปากอธิบาย
“ขอโทษนะฮินะงิคุ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถบอกเธอได้ เพราะฉันจำเป็นต้องทำภารกิจที่สำคัญมากให้เสร็จก่อน แต่ฉันสัญญาหลังจากทำสำเร็จแล้วฉันจะบอกเธอทุกอย่างเอง”
เธอลืมตา แล้วเงยหน้ามองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา และพูดเบาๆด้วยนัยน์ที่เปร่งประกาย
“นายพูดแล้วนะ ห้ามโกหกฉันอีกล่ะ...”
นี่ไม่ใช่ว่า....เธอให้อภัยเราแล้ว?
วู่หยานหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แล้วพูดหยอกเธอ
“ถึงแม้ว่าคุณธรรมของฉันจะเสียหายไปเยอะ แต่ฉันจะไม่ทำอะไรที่น่ารังเกียจอย่างเช่นโกหกผู้หญิงขณะที่กำลังกอดเธออยู่หรอกนะ!”
ได้ยินดังนี้ฮินะงิคุก็หัวเราะ “อะไรคือ คุณธรรมของฉันเสียหายไปเยอะ กันนะ พูดอะไรแปลกๆ..”
เขาเอียงคอไปที่เธอ
“เป็นงั้นเหรอ? แต่มันก็ดีไม่ใช่รึไง อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอหัวเราะออกมาได้....”
ฮินะงิคุก้มหน้าอย่างอึดอัด “ฉันไม่ได้อยากให้นายทำให้หัวเราะซะหน่อย...”
มือลูบเนื้อนุ่มๆที่เอวของเธอ เขากระชับอ้อมกอดและหลับตาลง ฮินางิคุก็ปิดตาของเธอลงเหมือนกัน ทั้งสองต่างก็เพลิดเพลินไปกับไออุ่นของกันและกัน
บางทีอาจจะเป็นพระเจ้าที่ไม่สามารถทนดูบรรยากาศสีชมพูแบบนี้ได้ต่อไป ดังนั่นจึงส่งทูตแห่งความยุติธรรมมาช่วยสาวน้อยที่กำลังตกอยู่ในกำมือหมาป่า
“อ้า!!”
เสียงร้องโหยหวนอันน่าสงสารดังขึ้น สิ่งลึกลับรูปร่างมนุษย์ได้ล่วงหล่นจากต้นไม้ที่ไม่ไกลจากวู่หยานและฮินะงิคุ ทำให้ทั้งคู่สะดุ้งโหยง
ฮินะงิคุรีบผลักเขาออกไปในขณะที่หน้าแดง วู่หยานเม้มปากด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่จะหันไปมองคนที่มารบกวนเขาที่กำลังจะได้หัวใจสาวน้อยมาครอง
ผมสีน้ำเงินสั้น สวมชุดพ่อบ้านสไตล์ตะวันตก พร้อมด้วยสีหน้าอนาถ ผู้ชายคนนี้เอามือลูบหัวตัวเองขณะที่ปากบ่น ดูเหมือนว่าเขากำลังกอดอะไรบางอย่างอยู่
อายาซากิ ฮายาเตะ : เลเวล16
อืม ชัดแล้วว่าใครมาเป็นกว้างขวางคอเขา เป็นตัวเอกของเรื่องนี้นี่เอง
“ทำไมนายถึงได้ตกลงมาจากฟ้าได้?” วู่หยานทำหน้าเซ็งๆ ส่วนฮินะงิคุก็มองฮายาเตะด้วยความอยากรู้
ฮายาเตะปฏิเสธ “ผมไม่ได้ตกลงมาจากฟ้า แต่เป็นต้นไม้ต่างหาก..”
วู่หยานเอามือก่ายหน้าผาก แล้วพูดอย่างเหนื่อยใจ “…..อืม คุณคนที่ตกจากต้นไม้ งั้นโทษทีทำไมนายถึงตกจากต้นไม้กัน?”
ฮายาเตะลูบหัวตัวเองอย่างลำบากใจที่จะตอบ
“ผมแค่จะช่วยลูกแมวที่ติดอยู่บนตันไม้แล้วลงดันเองไม่ได้ ตอนที่ผมขึ้นไปถึงข้างบน อยู่ๆลูกแมวมันก็ข่วนหน้าผมจนร่วงลงมา”
จากนั่นฮายาเตะก็กางแขนออก เผยให้เห็นลูกแมวข้างใน แสดงให้เห็นว่าตัวเองพูดเรื่องจริง
เจ้าแมวทันทีที่เป็นอิสระก็กระโดดขึ้นไปข่วนหน้าฮายาเตะ
“จ้าก!”
“…….”
ขณะที่ฮินะงิคุรู้สึกสงสาร วู่หยานก็รู้สึกสมน้ำหน้ากับความซวยของคนอื่น
เหอะ ใครใช้ให้แกมาขัดจังหวะเลิฟๆของตูกันละ......
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล