ตอนที่ 304 หลิน ฮวงปะทะฟีนิกส์เพลิง
ฟีนิกส์เพลิงคือมอนสเตอร์หลุดพ้นกลายพันธ์สองครั้ง มันเคยพบเจอกับมนุษย์มาก่อนดังนั้นมันจึงเข้าใจภาษามนุษย์ มันยิ่งโกรธกว่าเดิมเมื่อหลิน ฮวงกล่าววาจาท้าทายมัน!แม้ว่ามันจะไม่รู้ว่าเศษผ้าสีดำที่เขาใช้เพื่อป้องกันการโจมตีแรกมันคืออะไร มันก็ยังประหลาดใจที่เขาสามารถป้องกันการโจมตีมันได้ อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่การโจมตีที่ทรงพลังสุดของมัน มันไม่คิดว่าโล่ดำจะสามารถป้องกันหลิน ฮวงได้ในการโจมตีถัดไป
ในขณะเดียวกัน หลิน ฮวงไม่เคยต้องการใช้โล่ทมิฬเพื่อสู้จนจบ เป้าหมายของเขาคือการเข้ามาในมิตินี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตน แม้ว่าฟีนิกส์เพลิงจะทรงพลัง มันก็ยังไม่ทรงพลังจนถึงขั้นที่เขาต้องวิ่งหนี ในทางกลับกัน มันยังเป็นประโยชน์ต่อเขาเมื่อต้องเผชิญกับการต่อสู้เสี่ยงตายเช่นนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงท้าทายฟีนิกส์เพลิง
หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางที่อยู่บนภูเขาไฟไม่อาจได้ยินสิ่งที่หลิน ฮวงพูด ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงอ้าปากค้างไปแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความโกรธของฟีนิกส์เพลิง หรือพูดให้ถูกว่ามันคลั่ง เพราะทั้งคู่เห็นหาง9สีอันงดงามของมันที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสนิท มันเป็นสัญญาณว่ามันกำลังคลั่ง หลิน ฮวงรู้ดีขณะที่มองฟีนิกส์เพลิง
เมื่อหางของฟีนิกส์เพลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด มันก็กู่ร้องเสียงดังขณะที่ส่ายหางมัน แส้เพลิงทั้ง9ปรากฏขึ้น พวกมันพุ่งใส่หลิน ฮวงที่ยืนอยู่ไกลออกไปนับร้อยเมตร แส้เร็วมาก ความเร็วของมันได้ทำลายกำแพงเสียง ก่อให้เกิดการระเบิดในอากาศ จากการมองดูมัน หลิน ฮวงรู้ดีว่าเขาไม่อาจป้องกันมันได้ หากเขาถูกแส้ตวัดใส่สักครั้ง เขาคงจะบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป
โดยไม่คิดซ้ำสอง หลิน ฮวงใช้ความเร็วฑูตสวรรค์รวมถึงท่าเท้าเมฆาขณะที่แส้พุ่งใส่เขา เขาแม้กระทั่งใช้เขตแดนระวังภัยร่วมกับเนตรไร้ขอบเขต หลิน ฮวงดูราวกับกำลังร่ายรำอยู่บนปลายดาบขณะที่ถูกโอบล้อมโดยแส้ทั้ง9 แส้ไม่ได้หยุดโจมตีเขาแม้แต่วินาทีเดียว แต่ทว่า เขากลับไม่ถูกแส้สัมผัสสักครั้ง ไม่แม้แต่จะโดนชายเสื้อเขาด้วยซ้ำไป
พื้นด้านใต้ภูเขาไฟถูกแต้มด้วยรอยไหม้สีดำจากแส้ รอยแต่ละรอยจะยาวกว่าร้อยเมตรและลึกหลายเมตร รอยเหล่านี้ถูกทิ้งไว้โดยแส้เพลิง โชคดี พื้นรอบพวกมันนั้นหนามาก หากนี่เกิดขึ้นกับพื้นที่อื่นของมิติบรรพกาล พื้นคงจะทรุดตัวลงตั้งแต่ต้นแล้ว หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางที่เฝ้าดูจากด้านบนเป็นกังวล พวกเขาสามารถมองเห็นการต่อสู้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้นเพราะความเร็วที่ทั้งสองใช้นั้นรวดเร็วเกินไป หากพวกเขาถูกโจมตีโดยแส้ พวกเขาคงจะถูกตัดเป็นชิ้นๆภายในเสี้ยววินาที
ในความเป็นจริง แม้ว่าหลิน ฮวงจะมีเนตรไร้ขอบเขต เขาก็ยังเพียงมองเห็นเงาของแส้เท่านั้น เขาสามารถหลบแส้ได้โดยการใช้เขตแดนระวังภัย มันถูกอัพเกรดจากวงกลมระวังภัยและมันยังมีความสามารถในการตรวจจับ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งภายในรัศมี100เมตรและนั่นทำให้เขาสามารถหลบแส้ได้ก่อนที่มันจะถึงตัวเขา ด้วยความช่วยเหลือของความเร็วฑูตสวรรค์ เขาสามารถหลบการโจมตีได้โดยง่าย
เมื่อเห็นเขากำลังหลบแส้โดยง่าย หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางก็ตกใจ
“เขาทำได้ยังไง?!”หลี่ หลางไม่อาจเข้าใจได้ว่าหลิน ฮวงสามารถทำได้ยังไงในเมื่อเขาเพิ่งจะเลื่อนเป็นระดับทองขั้น3
“ฉันเองก็ไม่รู้ ความเร็วและการตอบสนองทำให้เขาดูเหมือนคนที่อยู่ในระดับเพลิงสวรรค์ นอกจากนี้ ฉันยังไม่อาจมองการเคลื่อนไหวของแส้ได้ทัน ฉันเห็นเพียงแค่เงา เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถเห็นวิถีการโจมตีของแส้ได้”หยี่ เยว่หยู่คิดว่ามันไม่น่าเชื่อเช่นกัน
“นี่ต้องเป็นอัจฉริยะในตำนาน….”หลี่ หลางร้องตะโกน
“อัจฉริยะทั่วไปจะไม่ทรงพลังเช่นนี้ พี่ชายฉันใกล้เคียงกับอัจฉริยะแต่ถึงแม้กระนั้น เมื่อเขาอยู่ในระดับทองสมบูรณ์ เขาก็เพียงสู้กับมอนสเตอร์ระดับเพลิงขาวทั่วไปได้เท่านั้น แม้กระทั่งอัจฉริยะก็ไม่อาจสู้กับมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งระดับเพลิงขาวได้ แต่ทว่า ฟีนิกส์เพลิงนี้กลับไม่ใช่มอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น หลิน ฮวงยังอยู่ในระดับทองขั้น3เท่านั้น ก่อนที่จะเลื่อนเป็นผู้หลุดพ้น เขายังเหลืออีกขั้นหนึ่งเพื่อพัฒนาความสามารถเขา.....”หยี่ เยว่หยู่รู้ว่าอัจฉริยะสามารถทอะไรได้เพราะเธอเคยเห็นหยี่ เสิ่นต่อสู้มาก่อน หากเป็นนักล่าระดับเดียวกัน ความสามารถของหลิน ฮวงก็ได้ก้าวข้ามหยี่ เสิ่นไปแล้ว
ในความเป็นจริง หลิน ฮวงนั้นอ่อนแอกว่าฟีนิกส์เพลิงมาก อย่างไรก็ตาม เขามีทักษะมากมายที่สามารถใช้เพื่อป้องกันฟีนิกส์เพลิงได้และยังไม่ได้สู้ด้วยความสามารถของเขา สิ่งที่หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางกำลังมองแท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตา หากพวกเขาต่อสู้ด้วยความสามารถของพวกเขาจริงๆ มันคงจะต่างออกไป สิ่งที่หลิน ฮวงใช้ตั้งแต่เริ่มคือทักษะมอนสเตอร์ เขากำลังหลบการโจมตีของฟีนิกส์เพลิง ขณะที่ฟีนิกส์เพลิงไม่ได้รับบาดเจ็บจากปืนเขาเลย หากการต่อสู้ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ในไม่ช้าหลิน ฮวงคงถูกโจมตี
อย่างไรก็ตาม หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางที่เฝ้าดูจากระยะไกลไม่ได้รู้เช่นนี้ ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างหลิน ฮวงและฟีนิกส์เพลิงก็ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อสังเกตเห็นว่าหางมันไร้ผล ฟีนิกส์เพลิงก็ตกใจ มันคิดว่าหลิน ฮวงเพียงโชคดีที่สามารถหลบขนของมันได้ก่อนหน้า แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะมีโชคมาเกี่ยวข้อง ภายในหนึ่งนาที มันได้โจมตีหลิน ฮวงมากกว่าพันครั้งแต่ไม่มีสักครั้งที่จะโดนตัวเขาเลย
“ความสามารถที่น่ากลัวและทักษะเคลื่อนไหวแสนโดดเด่น มันเพียงแค่พลังโจมตีเขาที่อ่อนด้อย โดยรวมมนุษย์ผู้นี้ถือว่าเก่งกาจมาก!”ฟีนิกส์เพลิงคิดกับตัวมัน อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะปล่อยเขาไป สำหรับมอนสเตอร์ ยิ่งมนุษย์ทรงพลังมากเพียงใด ภัยคุกคามต่อพวกมันก็ยิ่งมากเท่านั้น ชายที่ยังไม่ถึงระดับเพลิงสวรรค์กลับสามารถทำได้ถึงเพียงนี้ มันไม่อาจจินตนาการถึงวันที่เขากลายเป็นผู้หลุดพ้นได้เลย หากฟีนิกส์เพลิงไม่ฆ่าเขาเดี๋ยวนี้ เขาคงจะกลับมาหามันในอนาคตเมื่อเลื่อนเป็นผู้หลุดพ้น ฟีนิกส์เพลิงไม่ต้องการปล่อยเมล็ดพันธ์เช่นนี้ไปและประกายสังหารในดวงตาสีฟ้ามันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น!