ตอนที่ 301 ความสัมพันธ์ระหว่างมอนสเตอร์
ระหว่างทางที่จะไปล่าฟินิกส์เพลิง หลิน ฮวงก็บอกหยี่ เย่วหยู่กับหลี่ หลางว่าทำไมพวกเขาถึงต้องรีบไป
"นายเจอฟินิกส์เพลิงมาเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว เราจะมั่นใจได้ยังไงว่ามันยังจะอยู่ที่ตำแหน่งเดิม" หยี่ เยว่หยู่ถามหลังจากฟังคำอธิบายของหลิน ฮวง
"นั่นก็จริง ฟินิกส์เพลิงพบปรสิตของเจ้าแดงและทำลายมันไปแล้ว ไม่มีทางที่เราจะสามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนได้ในตอนนี้" หลิน ฮวงพยักหน้า
"ฉันมาหาพวกนายเร็วที่สุดทันทีที่เจอฟินิกส์เพลิง ฟินิกส์เพลิงบินได้ถึง 2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”
"อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึง?" หยี่ เย่วหยู่ถาม
"ไกลจากตรงนี้ประมาณ 1,000 กิโลเมตร น่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง"
"เราจะฆ่าฟินิกส์เพลิงยังไง ถ้าเราไปถึงที่นั่นแล้ว? นี่คือมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง ซึ่งมีพลังมากกว่าวิญญาณกระดูกโลหิตที่เราเจอล่าสุดอีกนะ" หลี่ หลางถามคำถามที่ทุกคนมองข้าม
“มันจะไม่เป็นไรหากเธอสามารถควบคุมมอนสเตอร์ได้ด้วยร่างกาย แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ได้ผล เราควรจะทำยังไง?”
หลิน ฮวงและหยี่ เย่วหยู่นิ่งไปทั้งคู่ หนึ่งชั่วโมงต่อมาความเงียบก็หายไปเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงจุดหมาย เมื่อทั้งสามคนลงถึงพื้น พวกเขาก็เรียกมอนสเตอร์บินของตัวเองกลับ
"เมื่อฉันมองไปรอบๆจากด้านบน มันดูเหมือนจะไม่มีมอนสเตอร์อะไรเลย”หลี่ หลางกล่าวกับหลิน ฮวง
"ไม่ต้องห่วง" หลิน ฮวงเรียกเจ้าแดงที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ
"เจ้าแดงตำแหน่งที่แกเจอฟินิกส์เพลิงอยู่ตรงไหน?"
เนื่องจากพิกัดที่เจ้าแดงทำเครื่องหมายไว้เป็นเพียงพื้นที่โดยประมาณไม่ใช่ตำแหน่งที่แน่นอน ตอนนี้พวกเขาจึงจำเป็นต้องให้เจ้าแดงบอกตำแหน่งที่แน่นอน เจ้าแดงโผล่หัวออกมาจากแขนเสื้อของหลิน ฮวงและมองไปรอบ ๆ จากนั้นมันก็กระจายดอกไม้สีม่วงออกมาและขณะที่พวกมันลอยไปรอบๆ ก็มีบางอย่างเข้ามาในหัวของหลิน ฮวง
"ตามดอกไม้ไปเงียบๆอย่าเรียกมอนสเตอร์บินออกมา” หลิน ฮวงส่งต่อข้อความจากเจ้าแดงให้หยี่ เย่วหยู่และหลี่ หลางขณะที่เดินนำหน้า
หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางเดินตามหลังเขาไป ขณะที่พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ พวกเขาก็เดินมาถึงที่ที่มีภูเขาไฟมากมาย มีภูเขาไฟที่กำลังพ่นควันมากมาย มีทั้งลูกใหญ่และเล็ก สูงและต่ำ มันเป็นภาพที่ค่อนข้างน่าจดจำ
"มันซ่อนอยู่เบื้องหลังภูเขาไฟอย่างงั้นหรอ?" หลี่ หลางเดาขณะที่กำลังเดินอยู่
หลิน ฮวงทำมือบอกให้เงียบ "ชู่ว!"
ทั้งสามเดินตามดอกไม้สีม่วงไปอย่างเงียบๆและมาถึงยอดภูเขาไฟในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อเห็นว่าดอกไม้ลอยผ่านยอดเขาและลงไป พวกเขาก็เดินตามไปที่ขอบปล่องภูเขาไฟและเดินไปอีกฝากของภูเขาไฟ สิ่งที่พวกเขาเห็นคืออีกฝั่งของภูเขาไฟ มีทะเลสาบลาวาขนาดใหญ่ที่ถูกบดบังไว้โดยภูเขาไฟมากมาย การจะเรียกมันว่าทะเลสาบคงไม่ถูกเพราะมันทอดยาวสุดลูกตา มันต่างจากลาวาทั่วไป มันยาวกว่า100กิโลเมตรและควรจะเรียกว่าทะเลลาวามากกว่าทะเลสาบ
"ทะเลทื่ทำจากลาวา... " ทั้งสามคนตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นลาวาก็เริ่มหมุนวน เงามหึมาพรวดพราดออกมาจากทะเลลาวา มันเป็นนกยักษ์ที่มีหงอนสีทองและหางเก้าสี สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาคือจระเข้ขนาดยักษ์ที่มีคราบเลือดและกรงเล็บสีทองม่วงของมัน จระเข้มีความยาว 70 ถึง 80 เมตร มันมีขนาดไม่เล็กไปกว่านกยักษ์และถูกปกคลุมไปด้วยโลหะสีดำที่ดูแข็งอย่างมาก แต่ทว่า คอของมันกลับถูกยึดจับไว้โดยนักยักษ์ ไม่ว่ามันจะดิ้นรนแค่ไหน มันก็ไม่อาจหลุดจากกรงเล็บของนักยักษ์ไปได้
"นั่นคือจระเข้เพลิง?”หลี่ หลางถามหลิน ฮวงอย่างตกใจ
“ใช่”หลิน ฮวงกังวลเมื่อเห็นมัน หยี่ เย่วหยู่เองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เธอดูไม่ดีนัก นกยักษ์ที่มีหางเก้าสีและหงอนสีทองคือเป้าหมายของพวกเขา มันคือฟินิกส์เพลิง จระเข้เพลิงเป็นมอนสเตอร์ที่กลายพันธ์จากธาตุไฟ มันคือมอนสเตอร์หลุดพ้นกลายพันธ์สองครั้งที่เหี้ยมโหด มอนสเตอร์หลุดพ้นกลายพันธ์ขนาดยักษ์เช่นมันกลับถูกจับไว้โดยฟีนิกส์เพลิง มันดูไม่เหมือนจะมีพลังพอสู้กลับด้วยซ้ำไป สิ่งที่พวกเขากำลังดูอยู่ทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความสามารถของฟีนิกส์เพลิง
ด้วยจระเข้เพลิงในกรงเล็บมัน ฟินิกส์เพลิงบินขึ้นไปภูเขาไฟที่พวกเขาทั้งสามคนอยู่ พวกเขาก้มลงในทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฟินิกส์เพลิงมองเห็น โดยแอบลอบเงยหน้าขึ้นมาดู จระเข้เพลิงพยายามจะกระโดดลงพื้น ดูเหมือนมันจะรู้ว่ามันไม่สามารถเอาชนะฟินิกส์เพลิงได้และพยายามจะกระโดดลงไปในทะเลลาวา แต่ยังไงคอของมันก็ยังถูกฟินิกส์เพลิงยึดไว้ และถูกดึงไปในอากาศอีกครั้ง
มันพยายามดิ้นรนโดยการขยับหางและลำตัวของมัน แต่มันไม่สามารถหลบหนีจากกรงเล็บสีม่วงทองของฟินิกส์เพลิงได้ ฟีนิกส์เพลิงจ้องมองมันด้วยดวงตาสีฟ้า มันไม่ได้คิดจะกินจระเข้เพลิงเพราะมันเพียงก้มมองจระเข้เพลิงที่พยายามหลบหนีในอุ้มมือมัน ในไม่ช้า มันก็รู้ตัวว่ามันไม่อาจหลบหนีได้ ลำตัวโลหะสีดำเริ่มเปลี่ยนสีและลาวาก็เข้าปกคลุมร่างมัน ในตอนแรกโลหะดำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ในไม่ช้ามันก็กลายเป็นสีแดงเข้ม จระเข้เพลิงดูคล้ายกับผลึกสีแดงในชั่วพริบตา
"มันทำอะไรนะ?" หลี่ หลางถามหลิน ฮวงเบา ๆ
"นี่คือทักษะการตกผลึกของมัน ด้วยเหตุนี้ พลังป้องกันมันจะขึ้นจุดสูงสุด”หลิน ฮวงอธิบายเบาๆ
เมื่อหลิน ฮวงกล่าวเช่นนั้น ฟีนิกส์เพลิงก็ใช้กรงเล็บอื่นเพื่อตะคุบหลังจระเข้เพลิง ทะลวงผ่านการป้องกันไปในแผ่นหลังมัน ในร่างผลึก จระเข้เพลิงดูเหมือนจะดิ้นรนอยู่สักพักเนื่องจากความเจ็บปวดก่อนจะหยุดนิ่งไปโดยสมบูรณ์ เพลิงสีแดงบนร่างมันดับหายลงอย่างรวดเร็ว กลับสู่สภาพเดิมภายในเสี้ยววินาที
"มันตายแล้วหรอ?" หลี่ หลางถาม
"ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ ... " หลิน ฮวงรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เขาเห็น เขายังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของจระเข้ยักษ์อยู่ หลังจากนั้นฟีนิกส์เพลิงก็เอากรงเล็บออกจากหลังจระเข้เพลิง ฟินิกซ์เพลิงกระพือปีกขึ้นและบินขึ้นไปในอากาศโดยทิ้งจระเข้เพลิงเอาไว้ จระเข้เพลิงพลิกหางมันและดำลงไปในทะเลลาวาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
"มันสามารถกินจระเข้เพลิงได้ ทำไมมันถึงปล่อยไปล่ะ?" หลี่ หลางงไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเห็น
หลิน ฮวงเดาว่า "ฉันคิดว่ามันไม่ได้คิดที่จะกินอยู่แล้ว มันแค่จะสกัดเอาพลังงานจากจระเข้เพลิงเท่านั้น ... " สิ่งที่พวกเขาเห็นไม่เคยถูกบันทึกไว้มาก่อนในสารานุกรมมอนสเตอร์ ในสารานุกรมมอนสเตอร์เพียงบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างมอนสเตอร์อย่างการกินหรือการพึงพาอาศัยกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาได้เห็นกลับไม่เป็นเช่นนั้น มันดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างมอนสเตอร์จะซับซ้อนเกินกว่ามนุษย์จะสามารถเข้าใจได้.....