ตอนที่ 300 ฆ่าแมงป่องผลึกไฟ
เมื่อเจ้าแดงเห็นฟีนิกส์เพลิง หลิน ฮวงจึงวางแผนที่จะออกไปอย่างเงียบ ๆ อย่างไรก็ตามแมงป่องผลึกไฟเห็นการปรากฏตัวของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไป
"เราไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้ว" หลิน ฮวงขุ่นเคืองขณะที่เรียกวิญญาณกระดูกโลหิตออกมา มันเป็นมอนสเตอร์ระดับเพลิงขาวและมีพลังมากกว่าแมงป่องผลึกไฟ แต่แมงป่องผลึกไฟมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมาก หากพวกมันสู้กัน มันจะต้องใช้เวลานาน หลิน ฮวงอัญเชิญมันออกมาเพื่อช่วยแทนที่จะต่อสู้
"ใช้โซ่ลงทัณฑ์เพื่อจับมันและฉันจะจัดการส่วนที่เหลือเอง" หลิน ฮวงสั่ง แมงป่องผลึกไฟสัมผัสได้ถึงพลังกลิ่นอายกลายพันธุ์สองครั้งของวิญญาณกระดูกโลหิต และลังเลที่จะเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นแมงป่องผลึกไฟยืนนิ่งอย่างลังเล วิญญาณกระดูกก็เปิดใช้งานโซ่ลงทัณฑ์ โซ่เพลิงทั้ง9ก็พุ่งใส่แมงป่องผลึกไฟ มันสายเกินไปที่จะวิ่ง โซ่โอบล้อมมันและพลังชีวิตมันก็ถูกผนึก โดยไม่มีพลังชีวิต ไม่สำคัญว่ามันจะดิ้นรน มันก็ไร้ประโยชน์
ในขณะเดียวกัน หลิน ฮวงก็ถือดาบสมบัติในมือด้วยพลังชีวิตสองกงล้อที่ใส่ลงไปในมัน เขาพร้อมที่จะสำแดงกระบวนท่าไม้ตาย-ผลาญโลกา เขากระโดดไปในอากาศและแทงใส่หัวของแมงป่องผลึกไฟ แสงสีทองระเบิดไปทั่วและแมงป่องผลึกไฟก็ล้มลงทันที มันไม่อาจหลบหนีความตายไปได้ด้วยการต่อสู้ที่กินเวลาไม่ถึงครึ่งนาที จากนั้นหลิน ฮวงก็เก็บศพแมงป่องผลึกไฟและเรียกวิญญาณกระดูกกลับขณะที่อัญเชิญอินทรีอเล็กซานเดรี้ยน
หลิน ฮวงกระโดดขึ้นไปบนหลังของอินทรีอเล็กซานเดรี๊ยนและกล่าว "ไปหาหยี่ เย่วหยู่และบอกเธอเกี่ยวกับฟีนิกส์เพลิง จากนั้นเราจะออกไปด้วยกัน" โดยไม่มีอุปกรณ์สื่อสารนี่เป็นวิธีเดียวที่จะแจ้งให้หยี่ เย่ว หยู่ทราบ
"เจ้าแดงช่วยทำเครื่องหมายพิกัดของฟีนิกส์เพลิงให้ด้วย”
อินทรีอเล็กซานเดรี๊ยนกระพือปีกของมันและมุ่งหน้าไปที่ที่หยี่ เย่วหยู่และหลี่ หลางอยู่ ขณะที่พวกเขาอยู่ในอากาศเจ้าแดงก็ทำเครื่องหมายพิกัดของฟีนิกส์เพลิง
"โชคดีที่มันไปทางเดียวกับหยี่ เย่วหยู่" หลิน ฮวงกล่าวขณะที่มองดูแผนและรู้ว่ามันอยู่ในทิศทางเดียวกับที่หยี่ เย่วหยู่อยู่ แม้ว่าจะไม่ใช่ทางตรง แต่มันก็ไม่ไกลเกินไป หลังจากยืนยันแล้ว หลิน ฮวงใช้การ์ดกักเก็บพลังชีวิตเพื่อให้อินทรีอเล็กซานเดรี้ยนบินเร็วขึ้น เขาได้ใช้กงล้อชีวิตไปสองอันก่อนหน้านี้เพื่อฆ่าแมงป่องผลึกไฟ เขาต้องการใช้การ์ดกักเก็บพลังชีวิตเพื่อเติมพลังชีวิตที่สูญเสียไป ไม่อย่างนั้นมันอาจเป็นเรื่องลำบากหากสู้กับฟีนิกส์เพลิงโดยที่ไม่พร้อม ไม่ว่าจะยังไง ฟีนิกส์เพลิงก็ยังเป็นมอนสเตอร์หลุดพ้นกลายพันธ์สองครั้งที่มีเลือดฟีนิกส์ มันอยู่ในระดับเดียวกับมังกรฟ้า ในโลกของมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง ความสามารถมันถือว่าอยู่บนจุดสูงสุด เมื่อเทียบกับวิญญาณกระดูกโลหิต มันยังเหนือกว่า
ขณะที่เขาเปิดใช้การ์ดกักเก็บพลังชีวิต เขาก็รู้สึกได้ถึงกงล้อชีวิตสองอันที่ถูกเติมเต็มด้วยความเร็วแสง ความรู้สึกเหมือนกับการยืนอาบแสงอาทิตย์ในหน้าหนาว มันเป็นความอบอุ่นที่ไหลซึมไปทั่วร่าง ในเวลาไม่ถึงสองวินาที กงล้อชีวิตสองอันที่ว่างเปล่าก็เต็ม เหลือกงล้อชีวิตเพียง3อันบนการ์ดกักเก็บพลังชีวิต
"มันเร็วมาก มันน่าแปลกใจที่ไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย”หลิน ฮวงมองดูพลังชีวิตในร่างเขา ทุกสิ่งดูปกติ
"การ์ดนี้สุดยอดมาก!”หลิน ฮวงดีใจเมื่อมองดูการ์ดกักเก็บพลังชีวิตในมือเขาส
เขาเริ่มคิดแผนการที่จะต่อสู้กับฟิลิกส์เพลิงหลังจากเก็บการ์ดลงไป
"ถ้าฉันใช้โซ่ลงทัณฑ์ของวิญญาณกระดูกโลหิตเพื่อปิดผนึกพลังชีวิตของฟินิกส์เพลิง มันก็น่าจะฆ่าได้ง่ายกว่า แต่การจะอธิบายว่าทำไมฉันถึงมีวิญญาณกระดูกโลหิตคงเป็นปัญหาหลัก”
"วิญญาณกระดูกโลหิตเป็นมอนสเตอร์กลายพันธุ์สองครั้งและแม้ว่ามิติบรรพกาลจะเหมาะสมแก่การอยู่อาศัยของวิญญาณกระดูก โอกาสที่จะพบตัวที่สองก็ยังยาก นับประสาอะไรกับการบอกทั้งคู่ว่าฉันโชคดี....”
"ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้ควบคุมยังมีข้อกำหนดกับมอนสเตอร์อัญเชิญพวกเขาและการฝึกที่เชื่องช้า มันจะต้องใช้เวลา1-2สัปดาห์กับตัวที่เรียนรู้เร็วและประมาณ2-3เดือนสำหรับตัวที่ช้า มีเพียงผู้ควบคุมที่ทรงพลังจึงสามารถควบคุมมอนสเตอร์อัญเชิญได้ทันที”
"ถ้าฉันปรากฏตัวพร้อมกับวิญญาณกระดูกโลหิตเมื่อพบกับหยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลาง พวกเขาคงจะสงสัยเกี่ยวกับวิญญาณกระดูกโลหิตที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้า..."
"นั่นไม่น่าจะดีแน่ ทางเดียวที่ทำได้คือบอกว่าคุณฟู่จับวิญญาณกระดูกโลหิตนี่ให้ฉัน!" หลิน ฮวงตัดสินใจที่จะผลักทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณฟู่เป็นคนทำ เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้รับคำยืนยันกับคุณฟู่ในเรื่องนี้
“อย่างไรก็ตาม ไม่สำคัญว่าฉันจะช่วยมากแค่ไหน คนที่จะฆ่าฟีนิกส์เพลิงก็ต้องเป็นหยี่ เยว่หยู่ หากไม่ใช่ เธอคงไม่สามารถสกัดเมล็ดพันธ์ธาตุไฟเพื่อจุดเพลิงชีวิตและเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์ได้”
“แต่แม้ว่าพลังชีวิตมันจะถูกผนึก ร่างของฟีนิกส์เพลิงก็ยังคงทรงพลัง หากมันไม่ถูกควบคุมโดยหยี่ เยว่หยู่ เธออาจจะไม่สามารถสู้มันได้...”
หลิน ฮวงกำลังคิดถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในการต่อสู้ ขณะที่เขาคิด เขาก็ตระหนักว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับหยี่ เยว่หยู่ที่จะเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์
“ไม่เป็นไร ฉันควรจะหยุดคิด ไม่ว่าจะเลื่อนได้หรือไม่ ฉันก็ต้องช่วยเธอในฐานะเพื่อน ส่วนที่เหลือจะต้องขึ้นอยู่กับโชคของเธอ”
ชั่วโมงครึ่งต่อมา ในที่สุดเขาก็มาถึงที่ที่หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางอยู่ ทั้งคู่กำลังฟื้นพลังชีวิตของตัวเองอยู่ และลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกระพือปีกจากอินทรีอเล็กซานเดรี้ยน
“ตามฉันมา!ฉันพบฟีนิกส์เพลิงแล้ว!”หลิน ฮวงตะโกนใส่ทั้งคู่ก่อนที่อินทรีจะร่อนลง ทั้งคู่ตกใจเมื่อได้ยิน พวกเขาหยุดสิ่งที่กำลังทำและยืนขึ้นทันที
“แน่ใจนะว่ามันคือฟีนิกส์เพลิง?”หยี่ เยว่หยู่พบว่ามันยากที่จะเชื่อเพราะหลิน ฮวงเพียงหายไปไม่กี่ชั่วโมงและกลับมาพร้อมกับข่าวดี
“ไม่ผิดแน่ ฉันจะอธิบายให้เธอรู้ระหว่างทาง มาเร็วเข้า!”ด้วยเวลาที่รัดตัว หลิน ฮวงจึงออกบินขณะที่หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางอัญเชิญมอนสเตอร์บินของพวกเขาออกมาและตามหลังอินทรีอเล็กซานเดรี้ยนไป...