GE12 นิกายเทียนหลีโม่และคนผู้รนหาที่ตาย
Chapter 12 นิกายเทียนหลีโม่และคนผู้รนหาที่ตาย
ซื่อถูถอยหลังกว่า 10 ก้าวก่อนหยุดยืนได้อย่างมั่นคง เจตจำนงค์กระบี่เมื่อครู่รวดเร็วกระทั่งฟาดฟันออกถึง 3 กระบี่ภายในพริบตา
ซื่อถูจ้องมองสีหน้าของหนิงฝาน เจตจำนงค์กระบี่แปรสภาพเป็นเพลิง เพียงแต่เจตจำนงค์กระบี่ของหนิงฝานนั้นกลับมีปราณกระบี่ของสตรีนางหนึ่งที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอยู่
เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ซื่อถูกเคยพ่ายให้กับมือกระบี่ที่เป็นสตรีนางหนึ่ง ตลอดทั้งชีวิตของซื่อถูก เขานับถือคนเพียง 2 คน หนึ่งคือปีศาจเฒ่าหาน ส่วนอีกหนึ่งคือมือกระบี่หญิงแห่งแคว้นเยว่
ซื่อถูทุ่มเทศึกษาการแปรเจตจำนงค์กระบี่ให้กลายเป็นเพลิงมานานหลายปี แต่ยังไม่อาจบรรลุได้ เมื่อเห็นเจตจำนงค์กระบี่ที่แปรเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่ของหนิงฝาน ซื่อถูจึงตกตะลึง!
“เจตจำนงค์กระบี่ของข้าด้อยกว่าเจ้า แต่หากต่อสู้กันจริง ข้าสามารถสังหารเจ้าได้ในสามกระบี่”
แม้จะกล่าวอย่างมั่นใจ แต่ผู้ที่รู้จักซื่อถูดีย่อมรู้ว่าซื่อถูประเมิณหนิงฝานไว้สูงมาก
ซื่อถูเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญกระบี่ หากต้องสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณขั้นต้น เขาสามารถสังหารได้ภายในกระบี่เดียว หากเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบประสานวิญญาณขั้นกลาง เขาสามารถสังหารได้ใน 2 กระบี่ แต่กับหนิงฝาน ซื่อถูต้องใช้ถึง 3 กระบี่!
ซื่อถูเลิกดูแคลนหนิงฝาน เขารู้สึกนับถือหนิงฝานจากใจจริง
ไม่แปลกที่เด็กคนนี้สามารถบัญชาการกององค์รักษ์เหมยได้… ยอดเยี่ยม!
แต่เมื่อซื่อถูหันมองเหล่าองครักษ์เหมยที่ติดตามหนิงฝานมา เขากลับต้องตกตะลึง
40 ปีมานี้ องครักษ์เหล่านี้มีระดับการบ่มเพาะก้าวหน้าเพียงเล็กน้อย ทั้งยังไม่สามารถทะลวงจุดตีบตันได้ แต่นี่ยังไม่ถึงเดือน...กลับสามารถทะลวงไปยังขอยเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 6 ได้
ที่เป็นเช่นนี้… หรืออาจเกี่ยวกับหนิงฝานที่เป็นผู้บัญชาการกององครักษ์เหมย?
“เจ้าทำอะไรกับองครักษ์เหมยเหล่านี้...” ซื่อถูกกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ข้าปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ให้กับองครักษ์เหล่านี้ทั้งหมด” หนิงฝานกล่าวอย่างไม่แยแส
“อะไรนะ! โอสถผันแปรที่ 3!!”
ซื่อถูสูดหายใจลึก เขาคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ทั้งยังปรุงโอสถให้เหล่าองครักษ์ทั้ง 100 คนนี้ด้วยตัวเอง
โอสถผันแปรที่ 3 สามารถทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำยอมทำตามคำสั่ง ต่อให้เป็นซื่อถูยังยากที่จะได้กินโอสถผันแปรที่ 3
แต่เด็กนี่… นอกจากเต๋าแห่งกระบี่จะไม่ธรรมดาแล้ว เต๋าแห่งโอสถยิ่งทำให้ผู้อื่นตกตะลึงยิ่งกว่า เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหนิงฝานได้ช่วยเหลือเหล่าองครักษ์เหมยให้สามารถทะลวงจุดตีบตันได้
แต่สิ่งที่ซื่อถูไม่ทราบคือหนิงฝานได้ใช้สมุนไพรที่หานหยวนจี๋ให้จนไม่เหลือ
“เจ้าเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำของกององครักษ์เหมย… ข้าซื่อถู ขอยอมรับเจ้าในฐานะนายน้อยแห่งเมืองฉีเหม่ย งานแรกของนายน้อยคือการเป็นประธานในงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า ส่วนข้าจะเป็นผู้นำ 3 องครักษ์ปีศาจและสี่ตระกูลที่เหลือมาเป็นกำลังให้!”
สีหน้าซื่อถูกดูจริงจังอย่างที่สุด สำหรับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 นั้น บางขุมกำลังยกย่องเชิดชูราวกับผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ ในเมื่อหนิงฝานมีคุณสมบัติข้อนั้นอยู่ อย่าว่าแต่เป็นนายน้อยเมืองฉีเหม่ย ต่อให้สร้างเมืองฉีเหม่ยขึ้นมาใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ยามนี้ ซื่อถูคาดหวังให้หนิงฝานช่วยเขาทะลวงจุดตีบตัน เขาจ้องมองหนิงฝานเงียบๆเพื่อเฝ้ารอคำชี้แนะ
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับซื่อถูกทำให้หนิงฝานพอใจเป็นอย่างมาก
กองทัพสามเทพปีศาจจะเข้าร่วมกับหนิงฝาน จะเหลือก็เพียงกององค์รักษ์น้ำแข็งเท่านั้น หากยังมีโอกาส หนิงฝานก็อยากไปพบคนเหล่านั้น
“เจตจำนงกระบี่ของท่านทรงพลัง แต่ยังขาดจิตวิญญาณ... ขอบเขตประสานวิญญาณคือการผสานรวมเป็นหนึ่งกับจิตวิญญาณ ในเมื่อกระบี่ของท่านไร้ซึ่งจิตวิญญาณ ท่านจึงไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของขอบเขตประสานวิญญาณได้...”
คำกล่าวเพียงเล็กน้อยของหนิงฝานเปรียบเหมือนสายฟ้าแห่งสวรรค์ชั้น 9 ฟาดผ่า ทำให้ซื่อถูกระจ่างอย่างรวดเร็ว
“เป็นเช่นนี้นี่เอง... เป็นเช่นนี้... ที่ข้าฝังกระบี่เอาไว้เพียงเพื่อดูดซับเจตจำนงแห่งกระบี่ แต่ข้ากลับพลาดที่ไม่ได้ดูดซับจิตวิญญาณของมัน...”
ขณะกล่าว แรงกดดันของซื่อถูก็เพิ่มพูนอย่างฉับพลัน พื้นดินสั่นสะเทือน แสงจำนวน 105 เส้นผุดขึ้นจากโลงศพของกระบี่ พุ่งผสานเข้ากับร่างกายของซื่อถูก
ซื่อถูคำราม แรงกดดันเพิ่มพูนอย่างก้าวกระโดดกระทั่งทำให้เขาบรรลุสู่ขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสุดท้าย!
“ขอบคุณนายน้อยที่ชี้แนะ!” แม้ซื่อถูจะกล่าวเพียงเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเขากลับแฝงด้วยคำขอบคุณ
“ท่านสุภาพเกินไปแล้ว... จริงสิ ข้าได้ยินหัวหน้ายุ่ยฉีกล่าวว่าตำหนักของท่านมีหญ้าทมิฬ..” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว
“หากนายน้อยต้องการ เชิญนำไปได้ตามต้องการ!”
...
หลังจากกลับมาออกมาจากตำหนักซื่อถู หนิงฝานก็ผ่อนคลายมากขึ้น ยุ่ยฉีนับถือในตัวสหนิงฝาน พี่รองของเขาเป็นผู้ที่เย็นชาอย่างที่สุด แต่หนิงฝานทำให้พี่รองของตนนับถือ ทั้งยังช่วยให้พี่รองทะลวงจุดตีบตันได้
อิจฉา! จู่ๆคำๆนี้ก็ปรากฏขึ้นมาในใจของยุ่ยฉี เขารู้สึกอิจฉาอย่างที่สุด!
“นายน้อย ข้าเองก็ต้องการทะลวงขอบเขตประสานวิญญาณ ขอท่านช่วยชี้แนะ” ยุ่ยฉียิ้มพลางกล่าวอย่างกระหาย
“เจ้าเนี่ยนะ?” หนิงฝานมองสำรวจยุ่ยฉีพลางส่ายหน้า
หากให้กล่าวตามจริง หลายปีที่รั้งตำแหน่งผู้นำกององครักษ์ฉีเหม่ย ปราณสังหารของยุ่ยฉีได้สลายไปจนหมดสิ้น ความโหดเหี้ยมอัมหิตภายในใจไม่เหลือ ผิดกับเจตจำนงค์กระบี่ของซื่อถูที่ไม่ธรรมดา กล่าวคือยุ่ยฉีไม่มีจุดเด่น เขาทำได้แค่เพียงเลี้ยงหมูเท่านั้น
ช้าก่อน...เลี้ยงหมู!
“กลับไปตำหนักข้า ข้าจะเขียนวิธีบ่มเพาะที่เหมาะสมให้เจ้า!”
ในหัวของหนิงฝานปรากฏทักษะ ‘การแปลงหยินหยาง’ ของจักรพรiดิสวรรค์ที่มีการบ่มเพาะหลายๆลักษณะบันทึกไว้
หนึ่งในนั้นคือ ‘ทักษะลับประสานอสูร’ เป็นการบ่มเพาะโดยที่ผู้บ่มเพาะต้องฝึกบ่มเพาะผสานร่วมกับสัตว์
ดูเหมือนยุ่ยฉีจะชื่นชอบหมูอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นก็ให้บ่มเพาะกับหมูไป
10 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หนิงฝานกลับคืนสู่ตำหนักซื่อฟานและเขียนวิธีการบ่มเพาะ 2 ชนิด
หนึ่งคือ ‘ทักษะลับประสานอสูร’ ซึ่งคนที่ต้องบ่มเพาะผสานกับสัตว์ เมื่อยุ่ยฉีได้เห็นทักษะ เขาตกตะลึง! ทักษะบ่มเพาะผสานกับสัตว์นั้นเป็นวิธีการที่สุดโต่ง แต่หากบ่มเพาะได้จริง ยุ่ยฉีมั่นใจว่าภายใน 10 ปี เขาจะบรรลุขอบเขตแก่นทองคำอย่างแน่นอน!
ยุ่ยจากไปพร้อมกับหมูนภาที่เลี้ยงด้วยอารมณ์หลากหลาย เขายังไม่มีภรรยาเป็นของตน แต่หมูที่อยู่กับเขายามนี้จะกลายเป็นภรรยาในอนาคต
“โชคดีที่ข้าเป็นผู้เลี้ยงเจ้ามาจึงพอทำใจบ่มเพาะผสานกับเจ้าได้ แต่ก็...อี๋ น่าเกลียด!”
เมื่อยุ่ยฉีกลับถึงบ้าน เขาก็เร่งทดลอง ‘ทักษะลับประสานอสูร’ ในทันที ผลที่ได้จากทักษะเป็นที่น่าตื่นตะลึง และระหว่างการบ่มเพาะก็เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายซึ่งไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง
ทักษะที่ 2 ที่หนิงฝานเขียนขึ้นมาคือ ‘ทักษะลับประสานหยินหญิงงาม’ เป็นการบ่มเพาะผสานที่หนิงฝานเตรียมให้กับจื่อเฮ่อ
การบ่มเพาะผสานจะทำให้จื่อเฮ่อที่ครอบครอง ‘ร่างทรงเสน่ห์’ ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด แต่ส่วนสำคัญของทักษะนี้คือการที่จื่อเฮ่อสามารถสะกดปราณหยินภายในร่างกายของนางได้ ต่อให้นางไม่มีเพศสัมพันธ์กับหนิงฝาน นางก็อยู่ได้โดยไม่เป็นอันตราย
แต่สิ่งที่น่าเสียใจที่สุดของทักษะนี้คือ ระหว่างการบ่มเพาะ 3 เดือนแรก ห้ามนางมีสัมพันธ์ทางเพศกับบุรุษเด็ดขาด
ส่งผลให้แผนการบ่มเพาะผสานระหว่างหนิงฝานและจื่อเฮ่อต้องหยุดไว้ชั่วคราว
ยามนี้จื่อเฮ่อน้อยกำลังเก็บตัวบ่มเพาะ นางต้องใช้เวลา 3 เดือนต่อจากนี้
ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา หนิงฝานก็เก็บตัวบ่มเพาะเช่นเดียวกัน เขาใช้พลังของตนเพื่อเปิดเส้นลมปราณในร่าง
เมื่อโอสถเปิดเส้นโลหิตหมดลง การเปิดเส้นโลหิตก็ทำได้ยากขึ้น ในช่วง 10 วันนี้ หนิงฝานสามารถเปิดเส้นโลหิตของทั้งร่างรวมได้เพียง 34 เส้นเท่านั้น
หากไร้ซึ่งโอสถ ไร้ซึ่งการบ่มเพาะผสาน ความเร็วในการบ่มเพาะจะช้าลงมาก
ยามนี้ปีศาจเฒ่าปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ล้มเหลวทั้งยังทำกระถางโอสถระเบิด แม้ปีศาจเฒ่าจะเริ่มการปรุงโอสถครั้งใหม่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จเช่นเดิม
ในช่วง 10 วันมานี้ ศาลาไร้ธรรมในเมืองฉีเหม่ยได้สร้างพระราชวังที่หรูหรางดงาม นามว่า ‘วังเทพน้ำแข็ง’ ซึ่งจะใช้จัดงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า
ในช่วง 10 วันมานี้ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมและฝ่ายปีศาจจากแคว้นเยว่จำนวนมาก ได้มุ่งหน้ามายังเมืองฉีเหม่ยเพื่อเข้าร่วมงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า ระดับการบ่มเพาะของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะอยู่ในขอบเขตประสานวิญญาณ
กองทัพสามเทพปีศาจและกององครักษ์น้ำแข็งรับหน้าที่ดูแลผู้เชี่ยวชาญที่มา
ยามนี้ หนิงฝานได้รับข่าวบางอย่างจากกององครักษ์ฉีเหม่ยซึ่งทำให้เขาโกรธเคือง
เพราะหนึ่งในแขกเหรื่อที่มาเยือนเมืองฉีเหม่ยคือ ‘นิกายเทียนหลีโม่’!
นิกายเทียนหลีโม่! เฉินเซี่ยงเฝ้าฝันที่จะได้ทำลายพวกมัน!
“ผู้อาวุโสนิกายฝ่ายนอกแห่งนิกายเทียนหลีโม่... ‘หวู่ตงหนาน’ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณ นักปรุงโอสถผันแปรที่ 2... แต่อีกสถานะคือสามีของชาเจี่ยวยู่แห่งนิกายเหอฮวน...”
ภายในตำหนักซื่อฟาน หลังจากหนิงฝานได้ทราบข่าว แววตาของเขาเผยเจตนาสังหาร
นิกายเทียนหลีโม่... คำๆนี้ทำให้หนิงฝานรู้สึกเกลียดชัง ทำให้เจตนาสังหารปรากฏ ทำให้เกิดความต้องการที่จะสังหารผู้อาวุโสหวู่ผู้นั้น
“จื่อเฮ่อคือภรรยาของข้า... ในเมื่อเจ้ากล้าคิดร้ายกับนางก็เท่ากับรนหาที่ตาย!” หนิงฝานกล่าวอย่างเย็นชา
...
ภายในตำหนักองค์รักษ์น้ำแข็ง... หัวหน้าหนิงกงได้รับข่าวจากผู้เยาว์ในชุดคลุมดำ
ผู้เยาว์คนนั้นสีหน้าไร้อารมณ์ น้ำเสียงแหบแห้ง แม้ใบหน้าจะดูเยาว์ แต่คนผู้นั้นแท้จริงกลับเป็นปีศาจเฒ่าอายุ 200 ปี
คนผู้นี้คือผู้ที่สะกดรอยจื่อเฮ่อด้วยหนูสะกดรอย มันคือผู้อาวุโสฝ่ายนอกแห่งนิกายเทียนหลีโม่ หวู่ตงหนาน!
“นิกายเหอฮวนคือนิกายย่อยของนิกายเทียนหลีโม่ของข้า... แต่หานหยวนจี๋กลับหาญกล้าทำลายนิกายเหอฮวนจนสิ้น ทั้งยังช่วงชิงสนมของข้าราวกับไม่เห็นนิกายเทียนหลีโม่อยู่ในสายตา!” ผู้อาวุโสหวู่กล่าวน้ำเสียงเชิงข่มขู่
“ฮ่าฮ่า... นิกายเทียนหลีโม่คือนิกายปีศาจอันดับหนึ่งของแคว้นเยว่ เหตุใดเจ้าเมืองหานของเราจะกล้าลบหลู่และช่วงชิงสนมของผู้อาวุโสหวู่ไป..” หนานกงโบกพัดในมือเบาๆพลางหัวเราะ
“กล่าวไปก็ไม่มีประโยชน์ ส่งตัวจื่อเฮ่อมาซะดีๆ! ก่อนหน้าข้าได้ส่งหนูสะกดรอยไปสืบค้นพบตัวนางที่ตำหนักซื่อฟานแล้ว!”
เมื่อกล่าวถึงตำหนักซื่อฟาน แววตาของหวู่ตงหนานพลันเผยให้เห็นความระแวดระวัง มันได้ยินมาว่าปีศาจเฒ่าหานเก็บตัวบ่มเพาะ แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด
แม้หวู่ตงหนานจะกล้าดูหมิ่นหนานกงและกององครักษ์ฉีเหม่ย แต่มันไม่กล้าดูถูกหานหยวนจี๋ หานหยวนจี๋เป็นถึง 1 ใน 10 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเยว่ ไม่ว่ายังไง มันจะไม่ยอมเผชิญหน้ากับปีศาจเฒ่าหานตรงๆ
“ตัวท่านสมควรมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า มิใช่มาเพื่อก่อเรื่องในเมื่องฉีเหม่ยแห่งนี้...” แววตาของหนานกงเผยถึงความเย็นชา
“ข้าขอเตือนเจ้า... จงส่งตัวจื่อเฮ่อมาก่อนที่งานประมูลผลไม้แห่งเต๋าจะเริ่มขึ้น ไม่อย่างนั้น...ฮึ่ม!”
หวู่ตงหนานแค่นเสียงก่อนจะจากไป ปล่อยให้หนานกงโกรธเคือง
“มันกล่าวหวังจะล่วงเกินนายหญิงน้อย... หากเป็นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ข้าหนานกงย่อมไม่ยอมให้มันได้พ้นจากเมืองฉีเหม่ยเด็ดขาด แต่ยามนี้...”
หนานกงหุบพัดในมือพลางถอนหายใจด้วยสีหน้าสลด
40 ปีล่วงเลย ชื่อเสียงของปีศาจทมิฬก็ดูราวกับหายไปตามกาลเวลา ชื่อเสียงของหนานกงที่เคยโด่งดังก็ถูกลืมเลือนจนแทบหมดสิ้น
“ไม่ทราบว่านายน้อยหนิงฝานจะจัดการกับหวู่ตงหนานเช่นไร... จะยอมก้มหัวให้มันและปล่อยภรรยาออกจากอ้อมอก... หรือจะเลือกสังหารมัน นายน้อยจะเลือกทางใด...”
ในสายตาของหนานกง มันเป็นความหวังที่เลือนราง
บางที หากกองทัพสามเทพปีศาจอยู่ในมือของหนิงฝาน ชื่อเสียงของกองทัพคงเพิ่มพูนขึ้นมาก!
ในวันที่ 11 งานประมูลผลไม้เต๋าได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ และในวันนี้ จะเป็นวันที่ปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำทั้ง 3 จะมาเยือนเมืองฉีเหม่ย!
ภายในวังน้ำแข็งนอกศาลาไร้ธรรม สถานที่แห่งนี้ถูกเนรมิตรความงดงามและหรูหราจนยากหาที่ใดเปรียบ!
ในวันนี้ เหล่าปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำจะมาร่วมประมูลผลไม้แห่งเต๋า!
หากมนุษย์ธรรมดาได้กินผลไม้แห่งเต๋าอาจทำให้คนผู้นั้นบรรลุสู่ขอบเขตประสานวิญญาณในทันที แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสุดท้าย ผลไม้แห่งเต๋าจะช่วยให้คนผู้นั้นทะลวงไปยังขอบเขตแก่นทองคำ แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ แม้ผลลัพธ์ที่จะไม่มากนัก แต่ก็ช่วยลดการการบ่มเพาะไปได้ถึง 100 ปี!
แต่ราคาของผลไม้แห่งเต๋าก็น่าสะพรึงกลัวเช่นเดียวกัน!...