EG บทที่ 168 ขั้นตอนแรกเสร็จสิ้นแล้ว (อ่านฟรี)
เฝิงหยู่นำเงินที่ได้มาจากการขายเครื่องจักรเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมเบา กำไรจากการขายเครื่องทำความชื้นในช่วงนี้ และแม้แต่กำไรจากบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวไปจ่ายค่าสายการผลิตรถจักรยานยนต์และเทคโนโลยี
ทั้งหมดนี้ทำให้เฝิงหยู่ต้องจ่ายไปสองสามล้านรูเบิ้ล อย่างไรก็ตาม เฝิงหยู่ไม่ได้ขาดทุนแน่นอน เมื่อมีการแปลงสภาพหุ้น เขาจะได้เงินเกือบ 10 ล้านรูเบิ้ลจากหุ้น ซึ่งถือว่ายังได้กำไรอยู่
เฝิงหยู่และหลี่หมิงเต๋อลงนามในหนังสือแจ้งความประสงค์ขั้นแรก เมื่อสายการผลิตมาถึงเมืองปิง พวกเขาจะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ฟู่กวางเจิ้งได้ยินข่าวก็รีบมาที่เมืองปิง ถ้าบริษัทเครื่องจักรเริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์ ก็จะต้องมีผลกำไรมากขึ้น แล้วเขาจะปล่อยให้ส่วนแบ่งของตัวเองหายไปได้อย่างไร?
เฝิงหยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จัดหาเครื่องจักรและเทคโนโลยี ส่วนรัฐบาลเมืองปิงนั้นจัดหาที่ดินและโรงงาน ตระกูลฟู่มีเงินมาก และเขาสามารถใช้เงินเพื่อปกป้องไม่ให้หุ้นของตัวเองมีมูลค่าลดลง
เฝิงหยู่นั่งอยู่ในสำนักงานใหม่ ฟู่กวางเจิ้งกำลังนั่งจิบชาอย่างผ่อนคลาย
“พี่เฝิง พี่นี่ฉลาดมากเลยนะ ถ้าไม่ได้ข่าวจากพี่ครั้งที่แล้ว ป่านนี้ลุงคนที่สองของผมต้องขาดทุนย่อยยับแน่ๆ เขาจัดการขายอสังหาริมทรัพย์ของเขาทั้งหมดในญี่ปุ่น ไม่งั้นตอนนี้ถ้าอยากจะขาย ก็คงขายไม่ออกแน่นอน”
สถานการณ์ฟองสบู่แตกในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นเกิดขึ้นก่อนเวลาที่คาดการณ์ไว้ จริงๆ มันน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี และตอนนี้ก็เพิ่งจะเดือนตุลาคมเอง
ตลาดหุ้นก็เหมือนกัน ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นก็เริ่มเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นไปตามที่เฝิงหยู่คาดการณ์ไว้
การคาดการณ์ของเฝิงหยู่เกี่ยกวับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นทำให้ตระกูลฟู่ประหลาดใจอย่างมาก เขาเชื่อจริงๆ แล้วว่าเฝิงหยู่ต้องมีความสัมพันธ์กับผู้นำระดับอาวุโสแน่ๆ บริษัทการค้าขนาดเล็กของเฝิงหยู่ไม่ได้มีนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ แล้วเขาสามารถคาดการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ได้อย่างไร?
ในขณะเดียวกัน ฟู่หยงจินก็จัดหาเงินทุนเพิ่มเติมให้ฟู่กวางเจิ้งเพื่อนำไปซื้อหุ้นของจีน เขาเลือกที่จะเชื่อเฝิงหยู่ ประเทศจีนกำลังจะมีตลาดหุ้นในไม่ช้าและมูลค่าของหุ้นที่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นในช่วงแรกก็จะสูงขึ้นอย่างมาก
“พี่ฟู่ พวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลของพี่ ผมก็คงไม่ได้เงินกู้ก้อนใหญ่จากธนาคาร ครั้งนี้พี่ก็ลงทุนกับหุ้นด้วยเหมือนกันใช่ไหมครับ? ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ พี่จะได้ผลกำไรคืนสองสามเท่าจากเงินทุนของพี่ภายในหนึ่งปีแน่นอน!”
เฝิงหยู่มั่นใจมาก เขาได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศจีนแล้ว แม้ว่าการลงทุนไปกับหุ้นของเขาจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็เทียบอะไรไม่ได้กับตลาดที่มีขนาดใหญ่มากเลย ซึ่งไม่ได้ส่งผลมากมายต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเกิดส่งผลกระทบ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
“ฮ่าๆๆ พี่เชื่อในตัวนาย การได้รู้จักกับนายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตพี่เลย สถานะของพี่ในตระกูลก็ดีขึ้น และตอนนี้แม้แต่พ่อพี่ก็คิดอยากจะส่งต่อธุรกิจมาให้พี่ทำต่อ แต่พี่ไม่เอาหรอก พี่อยากไปอยู่ประเทศจีน ที่นั่นเป็นยิ่งกว่าขุมทองเสียอีก!”
เนื่องจากฟู่กวางเจิ้งซื้อรถหรูมือสองจากเฝิงหยู่และลงทุนในบริษัทเครื่องจักรของเมืองปิง ต่อมายังเป็นตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศของเครื่องทำความชื้นยี่ห้อเฟิงหยู ทำให้สถานะของเขาในตระกูลเปลี่ยนไป และรายได้ของเขาก็เพิ่มขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทของพี่ชายเขาได้รับการจดทะเบียนในตลาดหุ้นและมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้าน ในตอนนั้น สินทรัพย์ของเขายังมีมูลค่าน้อยกว่า 10 ล้าน แต่ตอนนี้หุ้นของเขาในบริษัทจัดจำหน่ายของฮ่องกงและบริษัทเครื่องจักรของเมืองปิงมีมูลค่าเท่ากับพี่ชายของเขาแล้ว!
เขาสามารถควบรวมกิจการของพี่ชายได้ภายใน 1 ถึง 2 ปีนี้ เขาคิดที่จะควบรวมบริษัทของพ่อด้วย แต่หลังจากที่คิดพิจารณาอยู่นาน เขาก็รู้สึกว่าเขาไม่เหมาะที่จะทำ เพราะพี่ชายคนรองของเขาน่าจะเป็นคนที่ได้ครอบครองกิจการของพ่อ ความอิจฉาที่เขาเคยมีเมื่อสองปีก่อนหายไปแล้วเมื่อธุรกิจของเขาเองเริ่มดีขึ้น
ฮ่องกงเป็นเมืองเล็กๆ ถ้าไม่ใช่เพราะที่ตั้งของฮ่องกงและการช่วยเหลือจากประเทศอังกฤษ ฮ่องกงก็คงไม่ได้ประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้ แล้วลองคิดดูว่าประเทศจีนใหญ่ขนาดไหนล่ะ? ฟู่กวางเจิ้งเพิ่งจะลงทุนเงิน 10 ล้าน และเขาอาจจะได้เงินทุนคืนในอีกไม่ช้า แถมเขาจะยังได้ผลกำไรต่อเนื่องอีกในอนาคต
ภายใต้การปกครองของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ประเทศจีนกำลังพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ของประชากรและประเทศ ยังมีโอกาสมีมากมายที่จะสร้างรายได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ได้สนใจในธุรกิจของตระกูล
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เขาออกตัวว่าเขาจะไม่ทะเลาะกับพี่ชายเพื่อแย่งธุรกิจของตระกูล ความสัมพันธ์ระหว่างขากับพี่ชายก็ดีขึ้น แถมพ่อของเขายังทำตัวดีกับเขา และยังให้เงินส่วนตัวแก่เขาเพื่อไปซื้อหุ้นของประเทศจีนอีกด้วย
พ่อของเขายังให้เงินเขาเพิ่มเมื่อรู้ว่าฟู่กวางเจิ้งกำลังจะเพิ่มการลงทุนในบริษัทเครื่องจักร
ฟู่กวางเจิ้งยังมีงานที่สำคัญอีกอย่าง เครื่องทำความชื้นถูกผลิตในเมืองปิง และขนส่งโดยทางรถไฟมาที่เมืองเสิ่นเจิ้น และจากนั้นจึงค่อยถูกขนส่งไปยังฮ่องกงอีกที
เส้นทางดังกล่าวไกลมาและใช้เวลานานเกินไป ค่าขนส่งก็แพงมากด้วยเช่นกัน ตระกูลฟู่อยากถามเฝิงหยู่ว่าเฝิงหยู่มีความประสงค์ที่จะจัดตั้งโรงงานสาขาสักแห่งใกล้ๆ ฮ่องกงเพื่อผลิตเครื่องทำความชื้นเพียงอย่างเดียงเท่านั้นหรือไม่
เฝิงหยู่เคยคิดพิจารณาเรื่องนี้มาก่อน แต่เขามองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะทำ เขากำลังรอให้มีการพัฒนาพัดลมไร้ใบพัดอยู่ เมื่อพัดลมไร้ใบพัดประสบความสำเร็จแล้ว เขาจึงคิดจะจัดตั้งโรงงานสาขาทางภาคใต้เพราะอุปกรณ์การผลิตมีราคาไม่แพง ถ้าโรงงานมอเตอร์และโรงงานการบินไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เฝิงหยู่ก็อาจจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการยุติความสัมพันธ์กับพวกนั้น!
ฟู่กวางเจิ้งถามเรื่องนี้กับเฝิงหยู่แล้ว และเฝิงหยู่ก็บอกให้รอก่อน รออีกปีกว่าเขาจะไปจัดตั้งโรงงานสาขาในเมืองกวางตุ้ง เขาจะเอาสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายของยุโรปตะวันออกกลับคืนมาด้วย โรงงานมอเตอร์และโรงงานการบินจะต้องเห็นด้วยกับเรื่องนี้เพราะตลาดที่นั่นอิ่มตัวแล้ว
ฟู่กวางเจิ้งพยักหน้า ตระกูลฟู่กังวลว่าเฝิงหยู่จะเอาสิทธิ์การจัดจำหน่ายของพวกเขาคืนไปด้วย แม้ว่าพวกเขาจะเซ็นสัญญาเป็นเวลา 10 ปีแล้วก็ตาม แต่สัญญาระบุว่าบริษัทการค้าไท่หัวมีสิทธิ์ตัดสินใจสูงสุด ค่าปรับสำหรับการยกเลิกสัญญาเป็นเงินจำนวนไม่มากนัก เฝิงหยู่จะเขี่ยตระกูลฟู่ทิ้งเมื่อไรก็ได้ และยังมีนักธุรกิจอีกหลยคนที่รอจะเป็นหุ้นส่วนกับเฝิงหยู่ ซึ่งคนพวกนี้ก็ยินดีที่จะช่วยเฝิงหยู่จ่ายค่าปรับ
เฝิงหยู่อยากยึดสิทธิ์การจัดจำหน่ายในยุโรปตะวันออกกลับคืนมา ตระกูลฟู่ก็ไม่คัดค้านเรื่องนี้ จากสถานที่ตั้งแล้ว การขนส่งเครื่องทำความชื้นจากเมืองปิงไปยุโรปตะวันออกมีความคุ้มค่ามากกว่า
เมืองอยากจะประกาศเรื่องโครงการรถจักรยานยนต์ให้สื่อมวลชนรับทราบในระหว่างพิธีลงนามในสัญญา แต่พวกเขาก็พบว่าคนที่จะมาเซ็นสัญญาไม่ใช่เฝิงซิ่งไท่ แต่กลับกลายเป็นเฝิงหยู่ ดังนั้นเขาจึงให้นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ถ่ายรูปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อแก้ตัวของเฝิงหยู่ก็คือเครื่องจักรและเทคโนโลยีพวกนี้เป็นของตระกูลเขา และพ่อของเขาก็ยินดีที่จะให้ใส่ชื่อผู้ถือหุ้นเป็นชื่อเฝิงหยู่แทน ยิ่งไปกว่านั้น เฝิงหยู่ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการในนามของพ่อเขาได้และฝ่ายบริหารระดับสูงของบริษัทเครื่องจักรก็เคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ฟู่กวางเจิ้งก็คิดหนัก เรื่องนี้มันจะง่ายเหมือนที่เฝิงหยู่บอกไว้จริงหรอ?
หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หุ้นของบริษัทเครื่องจักรก็มีการจัดแบ่งใหม่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ยังคงเป็นรัฐบาลของเมืองปิง แต่ตอนนี้หุ้นของพวกเขากลายมาเป็น 40% จากเดิม 70% เฝิงหยู่ถือหุ้น 20% ฝิงซิ่งไท่ถือหุ้น 10% ฟู่กวางเจิ้งถือหุ้น16% และโรงงานการบินถือหุ้น 14%
โรงงานการบินอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลของเมืองปิง ซึ่งมีโครงสร้างที่ซับซ้อนมาก พวกทหาร รัฐบาลเมือง และกระทรวงบางแห่งมีอิทธิพลภายในโรงงาน ด้วยเหตุนี้ โรงงานการบินจึงไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลเมือง
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเวลาขายหุ้น โรงงานการบินไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมือง!
ในที่สุด ขั้นตอนแรกของแผนการที่เฝิงหยู่วางไว้ก็เสร็จสิ้นแล้ว!