ตอนที่แล้วตอนที่ 155 กระจายข่าว (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 157 เยี่ยมมาก (FREE)

ตอนที่ 156 เดิมพัน (FREE)


"..."

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้รีบร้อนที่จะไปเมืองหลวง เพราะถ้าเขาขี่ม้าป่ามังกรหิมะไปล่ะก็จะใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น

เขาจึงไม่ได้รีบร้อน

อย่างแรกเขาต้องการเตรียมความพร้อมในการทดสอบระดับจักรพรรดิ อย่างที่สอง เขาต้องการแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงความพยายามในการเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ของเขา

ฟาง เจิ้งจือ ออกเดินทางจากทะเลทรายเหนือไปยังเมืองหลวง ระหว่างทางเขาแวะตามเมืองต่างๆ ทั้งร้านอาหาร โรงชามากมายต่างพูดถึงเรื่องของเขาอย่างนับไม่ถ้วนโดยแต่ละเรื่องนั้นก็แตกต่างกันออกไป เด็กๆ ต่างร้องเพลงที่เกี่ยวกับการเข้าถึงระดับของเขา

ประเด็นคือ ฟาง เจิ้งจือ ผู้ที่มากจากหมู่บ้านที่ยากจนบนภูเขา แต่กลับสามารถเป็นผู้ชนะได้ในทั้งการสอบ ระดับมณฑลและระดับเมืองหลวง ทั้งยังเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ในอายุแค่ 15 ปี

ชื่อเสียงของเขาจึงโด่งดังไปทั่ว  ตอนนี้เขาเป็นแบบอย่างสำหรับเด็กทั่วทุกคน

เขาเป็นที่พูดถึงอย่างมากในหมู่คนรุ่นหลัง

เด็กๆมากมาย มักสวมชุดคลุมสีน้ำเงินและถือดาบไม้แล้วตะโกนออกมาว่า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ที่นี่แล้ว

ครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ รู้เรื่องนี้ เขาถึงกับตกใจ เด็กๆพวกนี้ดูผอมแห้ง แต่พวกเขาก็ยังทำเรื่องแบบนี้อย่างร่าเริง

เขาชื่นชมวิธีการของ ซูจิว

ที่โรงชา ...

ฃเพลงของพวกเด็กๆเป็นการกระจายข่าวที่รวดเร็วที่สุด

เขาหยุดพักตามเส้นทางมากมาย เพื่ออ่านหนังสือและเพลิดเพลินไปกับสิ่งเหล่านั้น ทุกครั้งที่เขาได้เห็นเขาก็ปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก เขาจึงหยุกพักผ่อนเพื่ออ่านหนังสือและจิบชาเบาๆ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เร่งรีบในการเดินทางนัก

ยังไงก็ตาม เขารู้สึกว่าควรจะสนุกสนานไปกับวิถีชีวิตแบบนี้ในขณะที่ยังมีมันอยู่ เมื่อเขาไปถึงเมืองแล้วเขาอาจจะต้องต่อสู้อย่างเดียว เพื่อเอาชีวิตรอด

แต่ถึงอย่างนั้น ม้าป่ามังกรหิมะก็พาเขาไปถึงเมืองหลวงภายในเวลา 2 เดือน มันเร็วกว่าที่เขาคิดไว้มาก

"ในที่สุดก็มาถึง ที่นี่... " เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่คำว่า "เมืองเหยียน" ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนท่าให้สบายตัวแล้วพยักหน้า ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ประตู

"ข้าคิดว่าโรงเตี้ยมที่นี้คงเต็มหมดแล้ว ทำไมเจ้าไม่มาอยู่กับข้าล่ะ?" เหยียน ซิว ตระหนักถึงความเป็นจริงที่ผู้คนแห่กันมาเข้าร่วมการทดสอบ

นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกๆปี

"อยู่กับเจ้า? ข้าคิดว่ามันคงจะมีปัญหาแน่ ในขณะที่พวกเราอยู่ที่นี่ เจ้าจะรับมือมันได้รึ " ฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่า เหยียน ซิว เอาเหตุผลมาอ้างเพื่อปกปิดความกังวลในใจที่มีต่อ ฟาง เจิ้งจือ

"ข้าจะพยายาม" เหยียน ซิว ตอบอย่างใจเย็น

"ได้เลย งั้นลองดู" ฟาง เจิ้งจือ ไม่ปฏิเสธ พวกเขาเป็นเพื่อนกัน จึงไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อม

"..."

ทั้งสองเดินผ่านประตูเมือง เมื่อเห็นม้าป่ามังกรหิมะของทั้งสอง ทหารยามที่ประตูก็ผงะไปชั่วครู่ พร้อมแววตาที่ส่องประกาย

ม้าป่ามังกรหิมะเป็นสัญลักษณ์ของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์

ข่าวที่ ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ขี่ม้าป่ามังกรหิมะนั้นแพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองที่ขี่ม้าป่ามังกรหิมะมาที่ประตูเมือง ทหารยามก็รู้ในทันที

"ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว มาถึงเมืองหลวงแล้ว!"

เมื่อมั่นใจแล้ว ทหารยามคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวเมืองเพื่อที่จะส่งข้อความ

ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว มองตามอย่างใจเย็น พวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกันนี้มาหลายต่อหลายครั้งตามเส้นทางที่เขาเดินทางมา จึงไม่ได้แปลกใจอะไร

"ไปกันได้แล้ว!"

"อืม"

"..."

โรงชาหอม เป็นโรงน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองหลวง ว่ากันว่าก่อตั้งมานานนับศตวรรษแล้ว ทั้งยังได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก

ที่ผนังนั้นมีบทกลอน บทกวี เขียนเอาไว้ บ้างก็กล่าวถึงทิวทัศน์ บ้างก็กล่าวถึงการแก้แค้นและกองทัพ

บทกวีบนผนังของโรงชาหอมเป็นที่ดึงดูดของเหล่าผู้คนที่มาเยือนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ที่พื้นยังได้รับการออกแบบอย่างประณีต

มีผู้ที่ร่ำรวยมากมายในเมืองเหยียน แต่มีไม่ถึง 20 คน ที่สามารถจองที่นั่งส่วนตัวในโรงชาแห่งนี้ได้

ตอนนี้มีคน 3 คนอยู่ในห้อง

หญิงสาว 2 คนและชายหนุ่ม 1 คน

และเหลือเพียงแค่ ชาย 1 หญิง 1 หลังจากที่สาวใช้ของโรงชาเสิร์ฟชาเสร็จสิ้น นางก็ออกไปอย่างรวดเร็ว

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาลอยขึ้นไปในอากาศ กลิ่นได้รับการขัดเกลามาอย่างไม่น่าเชื่อทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

"พี่9 ข้าไม่ค่อยสบาย!" หญิงคนนั้นร้องเสียงแหลม เสียงของนางช่างแหลมคม ไม่เข้ากับบรรยากาศเสียเลย

การแต่งหน้าของนางยิ่งไม่เหมือนใคร มันน่าประหลาดมาก ผมของนางรวบรัดด้วยที่รัดสีแดงสด นางสวมชุดคลุมสีแดงเข้ม และรองเท้าส้นสูงสีทองดวงตาของนางสดใสราวกับสายน้ำ

นางช่างดูสง่างามยิ่ง

ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับนางก็ดูสุภาพขึ้นมาในทันที เขาสวมชุดสีขาวและมีดอกไม้ปักอยู่ใบหน้าสีขาวซีด มันทำให้เขาดูอ่อนแอ

ถอนหายใจในขณะที่กำลังจ้องไปที่หญิงนางนั้น

"เจ้ารู็สึกไม่สบายตรงไหนรึ?"

"ในหัวใจของข้า!"

ถ้าเป็นในหัวใจล่ะก็ ข้าคงไม่สามารถทำอะไรได้ ปัญหาหัวใจสามารถรักษาได้โดยยารักษาโรคหัวใจเท่านั้น! " ชายหนุ่มตอบอย่างใจเย็น

"แต่เจ้ามียาใช่ไหม?" หญิงสาวถาม

"ฮึ่ม ... ข้าจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการ แต่ข้าไม่สามารถให้ ม้าป่ามังกรอัศนีย์..ได้! " ชายหนุ่มตอบอย่างรวดเร็ว เพราะเขารู้ถึงอุบายของหญิงสาวคนนี้ดี

"ข้า...พวกเราจะเดิมพันกันหน่อยไหม?" หญิงสาวเอาขาขึ้นพาดโต๊ะ แววตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง

"ไม่มีใครยินดีจะเดิมพันกับเจ้าหรอก" ชายหนุ่มส่ายหัว

"แต่เจ้าต่างจากพวกเขา เจ้าตามใจข้ามาก ตั้งแต่ข้ายังเด็ก เจ้าก็ดีกับข้ามากเจ้าเป็นเหมือนพี่ชายของข้าเลย ... "

"เอาล่ะ เอาล่ะ บอกข้ามาว่าเจ้าจะเดิมพันอะไร" ชายหนุ่มพูดแทรกด้วยความขุ่นเคือง

"เจ้ารู้จัก ฟาง เจิ้งจือ หรือไม่?" เมื่อชายหนุ่มยินยอม หญิงสาวก็รีบวิ่งเข้าไปนั่งข้างๆด้วยแววตาที่เป็นประกาย

"อืม..ข่าวคราวกระจายไปทั่วเรื่องที่เขาเข้าถึงระดับสะทอนสวรรค์ได้ แล้วข้าจะไม่รู้จักได้ยังไง?" ชายหนุ่มเอนตัวไปข้างหลัง จากนั้นก็ยกแก้วชาขึ้นมาจิบเบาๆ

"เจ้ามีความเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้"

"ข้าไม่ได้คิดอะไร ยังไงก็ตามเขาคงต้องเก่งมาก ฉือ กูเหยียน ถึงกล้าประกาศเรื่องการแต่งงานต่อหน้าผู้คนจากเมืองหลวงทั้ง 5 จากความสามารถที่ได้แสดงให้เห็นในการทดสอบทั้งสองระดับที่ผ่านมา ทั้งยังเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี เรื่องพวกนี้มันทำให้เขาน่าทึ่งไม่น้อยทีเดียว " ชายหนุ่มจิบชาอีกครั้ง

"เอาล่ะ ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้" ชายหนุ่มไม่พูดอะไรอีก

"...เจ้าดีที่สุดสำหรับข้าแล้ว! ในเมื่อเจ้าคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนน่าทึ่ง งั้นมาใช้เขาเป็นการเดิมพันระหว่างพวกเรากัน " หญิงสาวพูด

"ใช้ ฟาง เจิ้งจือ? ยังไง?" ชายหนุ่มถาม

"ข้าคิดว่าถ้าเขาได้พบกับข้าเขาจะต้องเต็มใจช่วยเหลือข้าเป็นแน่ และข้าใจทำให้เขากลายเป็นคนใช้ของข้า" หญิงสาวกระพริบตาอย่างมั่นใจ

"คนรับใช้? ข้าไม่คิดอย่างนั้น ข้าได้ยินมาว่าเขาได้ท้าทายและกลายเป็นลูกเขยของกองตรวยการศักดิ์สิทธิ์แล้ว แม้ว่าเขาจะมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ข้าก็คิดว่าเขาเป็นคนมีหลักการเขาคงจะไม่มัวเมาในเงินทองหรอก"

"ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อ เจ้าจะเดิมพันหรือไม่"

"แน่นอน แต่ถ้าเจ้าแพ้เดิมพัน ข้าจะไม่ขออะไรตอบแทน ขอแค่เจ้าหยุดความคิดที่จะขอ ม้าป่ามังกรอัศนีย์...ของข้าก็พอแล้ว ตกลงหรือไม่?"ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วพูดด้วยความสงบ

"แน่นอน!" หญิงสาวกระโจนเข้าหา "รักษาคำพูดของเจ้าด้วยล่ะ ข้าได้ยินมาว่า ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว มาถึงที่นี้แล้ว ข้าจะไปหาพวกเขาเสียหน่อย ฮ่าฮ่าฮ่า.."

ขณะที่นางกำลังจะออกไป นางก็หันหลับมามองที่ชายหนุ่ม

"อันที่จริง ข้ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ข้าฉลาดไหมล่ะ?" และนางก็หันกลับไปก่อนที่จะเดินจากไป

ชายหนุ่มมองเงาที่ค่อยๆห่างออกไปของนาง  ยังไงก็ตามเขารีบส่ายหัวแล้วแหงนมองไปบนท้องฟ้าที่กำลังมืด เขารู้กังวลใจมากขึ้น

"เห้อ...ต้องมีเรื่องตามมาอย่างแน่นอน!"

...

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด