ตอนที่ 1 สิ่งที่เหลือไว้
ตอนที่ 1 สิ่งที่เหลือไว้
“แก๊ก..คลืด..” เสียง ยกย้ายของของพนักงานขนย้าย ดังทุกมุมบ้านของตระกูล เทวาทรัพย์ มีชายหนุ่ม หน้าตาดี ยืนมองเหตุการณ์ด้วยสายตาเหม่อลอย.. และอาการใจลอยก็ถูกขัดจังหวะโดยพนักงานขนย้าย “คุณนิค ครับ ช่วยเซนเอกสารจากธนาคารด้วยครับ” ชายหนุ่ม ที่ถูกเรียก ถูกดึงจากภวังค์หันมามองคนที่อยู่ตรงหน้า นิค หรือ นิคกี้ เทวาทรัพย์ หนุ่มลูกครึ่งไทย อเมริกัน อายุ 20 ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังปี 2 ที่มีเปิดเรียนเฉพาะลูกนักธุรกิจและนักการเมือง ที่ต้องการให้ลูกสืบทอดกิจการต่อเท่านั้น ซึ่งค่าเทอมแพงติดเพดานบน “ครับ”นิคตอบรับและเซนชื่อในเอกสารพร้อมยังคงมองสิ่งที่เคยเป็นบ้านของตนด้วยแววตาที่ไม่อาจบรรยายได้ “ของใช้ของคุณนิค ได้นำไปส่งที่แมนชั่น ตามที่อยู่ที่คุณให้มาแล้วนะครับ และภายในเย็นนี้ ทางธนาคารจะปิดล๊อคบ้านหลังนี้ครับ”พนักงานขนย้ายพูดเสร็จก็เดินจากไปโดยไม่รอให้นิคพูดอะไรตอบกลับมา เมื่อผู้คนที่เคยเดินยกของคับคั่งได้พากันกลับไปเหลือเพียงความเงียบเหงากับแดดยามบ่าย นิคเดินออกจากรั้วประตูแล้วหันกลับไปมอง “บ้าน” ที่เคยอยู่กับพ่อแม่มาตลอด 20 ปี ตอนนี้เขาไม่เหลือใคร และไม่เหลืออะไรอีกแล้ว..
ย้อนกลับไป 1 เดือน ก่อนหน้านี้ พ่อและแม่ของนิคไปดูโรงงานเครื่องจักกลสาขาต่างประเทศ นิคไม่ได้ไปด้วยเพราะติดสอบ กลางภาค ซึ่งน้อยครั้งนักที่พ่อจะไม่พานิคไปด้วยเพราะต้องการให้นิคเข้าใจและศึกษาวิธีการทำงานของบริษัทตนแต่ครั้งนี้ นิคติดสอบจึงไม่ได้พาไปด้วย ในหว่างเดินทางเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินขัดข้องระเบิดระหว่างลงจอดทำให้พ่อแม่ของนิคเสียชีวิต นิคลูกชายเพียงคนเดียวไม่สามารถดำเนินกิจการต่อจากพ่อของเขาได้เนื่องจากโรงงานสาขานั้นมีมากกว่า 11 ประเทศและยังใช้เงินหมุนเวียนในการจัดซื้อจัดจำหน่าย ลูกค้าที่เคยสั่งสินค้าพากันถอนใบสั่งซื้อกว่า 70% เนื่องจากกลัวโรงงานที่ไม่มีผู้บริหารผลิตสินค้าไม่ทันตามกำหนดการจึงถอนใบสั่งซื้อเป็นจำนวนมากส่งผลกระทบให้โรงงานปิดตัวและต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้สั่งซื้อสินค้าส่วนที่เหลือ ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูล เทวาทรัพย์ต้องเข้าธนาคารเพื่อนำเงินมาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด นิคเหลือเพียงเงินจำนวนหนึ่งที่พอไปซื้อแมนชั่นใกล้มหาลัย และเงินติดตัวอีก 50,000 บาทเท่านั้น โชคยังดีที่ พ่อของนิคได้จ่ายค่าเทอม 2 ให้นิคก่อนไปต่างประเทศ นิคจึงยังสามารถเรียนที่มหาลัยแห่งนี้อีก 1 เทอม
จากสูงสุดคืนสู่สามัญ จากเคยมีรถรับส่ง ตอนนี้นิคต้องนั่งรถเมล์แทน และเดินเข้าซอยจากถนนใหญ่ประมาณ 500 เมตร ก็ถึงแมนชั่นที่นิคซื้อไว้ นิคจะนั่งวินเข้ามาหน้าแมนชั่นก็ได้แต่นิคต้องการฝึกตนให้อยู่ได้ เพราะต้องใช้ชีวิตแบบนี้อีกนาน ห้องของนิคอยู่ขั้น4 พอเข้าห้องนิคก็ล้มลงบนเตียงและหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย “ก๊อกๆ...ก๊อกๆ”เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้เสียงเคาะประตูดังอยู่หลายหน นิคตื่นขึ้น พร้อมดีดตัวลงจากที่นอนตรงไปที่ประตูทันที ทันทีที่ประตูเปิด มีชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูเตรียมที่จะเคาะอีกครั้ง "สวัสดีครับ นี่ห้องของคุณ นิคกี้ เทวาทรัพย์ ใช่รึป่าวครับ" "ใช่ครับ ผม นิคกี้ เทวาทรัพย์" ชายหนุ่มสงสัยยังมีใครที่ต้องตามหาเขาอีกหนอ ในเมื่อเขาไม่เหลือใครอีกแล้ว "สวัสดีครับผมเป็นพนักงาน จากบริษัท "second life " สาขาประเทศไทย เมื่อหนึ่งเดือนก่อน คุณ พิทักษ์พงศ์ เทวาทรัพย์ ได้ลงทะเบียน ซื้อเครื่องเล่นเกมส์รุ่น vip เอาไว้ ผมนำส่งไปตามที่อยู่แต่พบว่า ที่อยู่ดังกล่าวถูกจำนองเข้าธนาคารแล้ว ผมจึงขอที่อยู่สำรองมาครับ" เพียงได้ยินชื่อ พิทักษ์พงศ์ หัวใจ นิคก็ไหววูบ นาย พิทักษ์พงศ์ เทวาทรัพย์ เป็นพ่อของนิคนั้นเอง "ครับ ไม่ทราบว่าเป็นเครื่องเกมส์อะไรหรอครับ" ชายหนุ่มมองข้ามไปด้านหลัง มีกล่องขนาดเท่าตัวคนอยู่ด้านหลังพนักงานดังกล่าว "เป็นเครื่องเล่นเกมส์ second life online ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่รู้จักและฮิตมากในระดับโลก ถ้าได้ลองเล่นแล้วจะรู้ครับ แต่ว่าตอนนี้ ผมจะติดตั้งเครื่องได้ตรงไหนครับ จะได้ติดตั้งไปคุยไปไม่เสียเวลา" นิคเดินนำพนักงานติดตั้งไปที่ห้องนอนของตน เพื่อติดตั้ง เครื่องเล่นเกมส์แบบแคบซูล สีเงิน ขนาดเท่าตัวคน ผ่านไป 2 ชั่วโมง เครื่องเกมส์ก็ติดตั้งเสร็จ หองนอนดูเล็กไปถนัดตา นิคไม่ได้ถามเกี่ยวกับเครื่องเล่นเกมส์กับพนักงานต่อเพื่อความรวดร็วในการติดตั้ง นิคให้พนักงานได้ทำงานอย่างเต็มที่ เมื่อพนักงานติดตั้งกลับไปเหลือไว้เพียงคู่มือและซองจดหมาย นิคนั่งลงที่ขอบเตียงหยิบซองจดหมายขึ้นมาแกะดู ทันทีที่ได้อ่านบรรทัดแรก นัยน์ตา 2 ข้างของนิคเต็มเปลี่ยมไปด้วยน้ำตา
"ถึงนิค เจ้าลูกรัก
นิคแกคงเซอร์ไพร์ใช่ไหมที่เห็นเครื่องเกมส์นี้ พ่อลงทะเบียนสั่งจองไว้เพื่อมาเซอร์ไพร์วันเกิดแก ปีนี้แกก็อายุ 20 ปีแล้วนะ อย่ามัวแต่ทำหน้าเครียดให้แม่แกต้องหนักใจ ผ่อนคลายซะบ้างเจ้าลูกรัก หวังว่าลูกคงจะชอบนะ (ปล.เกมส์นี้คนเล่นกันเยอะ อย่าลืมหาลูกสะใภ้ในพ่อ นะลูก)
พ่อและแม่ รักลูกมาก "
ชายหนุ่มล้มตัวลงนอน ทั้งหลับตาลงพร้อมคราบน้ำตา.....นี่คือสิ่ง ที่เหลืออยู่ สิ่งสุดท้ายที่พ่อและแม่ของชายหนุ่มเหลือไว้ให้.........