ตอนที่ 291 ฆ่าวิญญาณกระดูก
เมื่อแสงสีขาวหายไป ร่างของวิญญาณกระดูกก็ปกคลุมไปด้วยหมอกขาว ทันใดนั้น ลมก็พัดและเผยให้เห็นส่วนหัวของมัน หลิน ฮวงเห็นหัวของมันที่เสียเนื้อหนังที่สร้างก่อนหน้าไป สิ่งที่เหลืออยู่คือกระโหลกสีขาว อย่างไรก็ตาม มันกลับห่อหุ้มด้วยหมอกขาว เขาสามารถเห็นได้ว่ายังมีประกายสีทองในดวงตามัน มันยังไม่ตาย!
รูม่านตาของหลิน ฮวงหดแคบลงและเขาก็ตัดสินใจ เขาตบเบาๆไปที่อินทรีอเล็กซานเดรี้ยน
“ไป!”
อินทรีอเล็กซานเดรี้ยนกระพือปีกมันและพุ่งไปทางวิญญาณกระดูกโลหิต มันเร็วราวกับสายฟ้าและทุกคนสามารถเห็นได้เพียงเส้นสายสีขาวเท่านั้น
“การโจมตีของเซียนดาบไร้ปราณีต้องผลาญพลังงานส่วนใหญ่ของมันไป พวกเราไม่อาจปล่อยให้มันฟื้นตัวได้ เราต้องฆ่ามันเดี๋ยวนี้!”
หลิน ฮวงจับดาบแน่นขณะที่พลังชีวิตไหลลงไปในดาบเขา หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้ากงล้อ!ครั้งนี้ นอกจากการเก็บพลังชีวิตไว้สัก1หรือ2เสาชีวิต หลิน ฮวงได้ใส่พลังชีวิตทั้ง5กงล้อลงไปในดาบเขา แสงสีทองที่ปลายดาบเขาเปล่งรัศมีราวกับดวงอาทิตย์ยามบ่าย วิญญาณกระดูกโลหิตไม่ได้ทำปฏิกิริยากับมันและดูเหมือนว่ามันจะไม่สังเกตเห็นสิ่งที่หลิน ฮวงกำลังทำ
ในไม่ช้า อินทรีอเล็กซานเดรี้ยนก็มาถึงตรงหน้าวิญญาณกระดูก จากนั้นหลิน ฮวงก็กระโดดลงจากหลังมัน พร้อมกับกางปีกเบาๆเพื่อที่เขาจะสามารถร่อนลงได้อย่างราบรื่น ความเร็วเขาเร็วเสียยิ่งกว่าอินทรีอเล็กซานเดรี้ยน
“เจ้ามนุษย์!”วิญญาณกระดูกตะโกน ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีพลังพอจะใช้งานทักษะใดๆ มันสามารถทำได้เพียงยกมือขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของหลินฮวง เนื้อที่งอกบนมือมันได้หายไปจากการโจมตีของเซียนดาบไร้ปราณี ตอนนี้พวกมันดูเป็นกระดูกสีขาวที่เปราะบาง เก่า
โดยไม่ได้พูดอะไร หลิน ฮวงไม่ได้หลบมือของวิญญาณกระดูกและพุ่งใส่มันโดยไม่ลดความเร็วลง ปลายดาบเขาปะทะกับมือของวิญญาณกระดูกโลหิต ไม่มีเสียงระเบิดตามที่หลิน ฮวงคาดไว้ บางทีมันอาจไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่ในมือมัน ซึ่งระเบิดทันทีที่พวกมันสัมผัสกับดาบของหลิน ฮวง ภายในไม่กี่วินาทีหลังจากการทำลายผ่านมือกระดูก ดาบของหลิน ฮวงก็ปะทะกับหัวมัน แสงสีทองระเบิดราวกับซูเปอร์โนว่าและลำแสงก็ยิงไปทั่วทุกทิศ ไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่หลิน ฮวงสามารถเจาะดาบเข้าไปในกระโหลกมันเพียงครึ่ง ครั้งนี้ดาบเขาได้เฉือนผ่านกระโหลกมันง่ายๆราวกับมีดร้อนที่ตัดเนย เหลือเพียงด้ามดาบเท่านั้นที่อยู่ด้านนอกกระโหลกของมัน
พื้นดินในรัศมี1กิโลเมตรยุบตัวลง ไม่เพียงแค่นั้น รูขนาดใหญ่ภายในเมฆยังถูกควบคุมโดยเนฟิลิก เสียงแตกของกระโหลกวิญญาณกระดูกยิ่งดังกว่าเสียงของฟ้าคำราม เสียงมันดังไกลไปนับพันกิโลเมตรและผู้เข้าร่วมคนอื่นต่างก็กังวลเมื่อพวกเขาได้ยินมัน ในไม่ช้า เสียงแตกก็ยิ่งดังตามมาเรื่อยๆ หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางที่อยู่ๆไม่ไกลก็ได้ยินมันเช่นกัน กระโหลกของวิญญาณกระดูกเริ่มแตกราวกับใยแมงมุมด้วยแสงสีทองที่เปล่งออกมาตามรอยแตก
ภายในไม่กี่วินาที ดวงตาสีทองของวิญญาณกระดูกก็หม่นแสงลง แสงสีทองอันไร้สิ้นสุดพรั่งพรูออกจากรอยแตกในกระโหลก ดวงตา จมูกและปากมัน ในที่สุด กระโหลกของมันก็ระเบิด ร่างไร้หัวของมันล้มลงกระแทกกับพื้นเสียงดัง ร่างของหลิน ฮวงเองก็เริ่มล่วงหล่นเช่นกัน แสงสีเงินได้ตกลงจากฟ้า เนฟิลิกได้อุ้มร่างหลิน ฮวงไว้ในอากาศ เนฟิลิกนั้นสูง2.5เมตร ดังนั้นมันจึงดูไม่แปลกสำหรับเธอที่จะแบกหลิน ฮวง เขาไม่เต็มใจที่จะต้องถูกแบกแต่เมื่อเขาต้องการจะให้เธอปล่อยเขาลง เขาก็ได้ยินการแจ้งเตือนจากเสี่ยว เฮย
“ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับการ์ดมอนสเตอร์ระดับสุดยอด-วิญญาณกระดูกโลหิต”
หลิน ฮวงตกตะลึงเพราะเขาไม่คิดว่าเขาจะได้รับการ์ดมอนสเตอร์สมบูรณ์ เขาลืมเกี่ยวกับการถูกแบกไปและมองไปที่การ์ดทันที
"การ์ดมอนสเตอร์"
“ความหายาก : สุดยอด”
"ชื่อมอนสเตอร์: วิญญาณกระดูกโลหิต"
"ระดับพลัง : ระดับเพลิงขาว"
"ทักษะ 1: การลงทัณฑ์”
"ทักษะ 2: การคืนชีพ"
"ทักษะ 3: การยับยั้ง"
"ทักษะ 4: การพิพากษา"
"ทักษะ 5: การควบคุมลาวา"
"สิทธิ์การอัญเชิญ : เปิดใช้งาน"
"หมายเหตุการ์ด : ใช้ได้”
“การลงทัณฑ์ : เป็นความสามารถที่เทียบได้กับสมบัติ การลงทัณฑ์จะมาในรูปแบบของโซ่เพลิง เป้าหมายที่ถูกจับโดยโซ่จะถูกผนึกพลังชีวิตชั่วคราว”
“หมายเหตุ : สามารถเรียกโซ่ได้สูงสุด9อัน”
“การคืนชีพ : ทักษะพิเศษสำหรับมอนสเตอร์วิญญาณ จะทำให้มอนสเตอร์เปลี่ยนกลับเป็นสิ่งที่มีชีวิต ผลของทักษะจะกระตุ้นให้ระดับพลังของมอนสเตอร์ไปถึงจุดสูงสุด มันไม่เพียงแต่จะคงทักษะทั้งหมดที่มันมีตอนร่างวิญญาณเอาไว้ แต่ยังจะฟื้นคืนทักษะทั้งหมด ประสบการณ์การต่อสู้และส่วนอื่นของความทรงจำมันเมื่อมันยังมีชีวิต”
“หมายเหตุ 1 : ระยะเวลาจำกัดคือ1ชั่วโมง”
“หมายเหตุ 2 : หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ความทรงจำจะหายไป”
“หมายเหตุ 3 : 48ชั่วโมงหลังจากใช้งานทักษะ ผู้ใช้จะไม่อาจใช้พลังชีวิตได้”
“การยับยั้ง : ทักษะในการยับยั้งวิญญาณที่ทรงพลังซึ่งจะปลูกฝังความกลัวในสิ่งมีชีวิตที่ระดับต่ำกว่าตัวมอนสเตอร์ มันยังสามารถทำให้สิ้นสติได้ชั่วคราว”
“การพิพากษา : ทักษะดาบอันทรางพลังที่จะทำให้สามารถซ่อนอาวุธและโจมตีได้โดยปราศจากการเตือน”
“ควบคุมลาวา : การควบคุมลาวาดั่งใจปราถนา ยิ่งระดับพลังสูงมากเท่าไร ระยะการควบคุมลาวาก็จะยิ่งกว้าง”
“หมายเหตุ : การควบคุมลาวาจะประกอบไปด้วยรูปแบบ อุณหภูมิและอื่นๆ”
หลังจากอ่านการ์ดแล้ว หลิน ฮวงก็สังเกตเห็นว่าตัวเขามายืนบนพื้นแล้วขณะที่หลี่ หลางและหยี่ เยว่หยู่กำลังบินมาหาเขา
“ว้าวว มันรู้สึกดีไหมที่ถูกอุ้มโดยผู้หญิง?มันน่าจะสบายจนนายไม่อยากจะลงมาเลยสิ”หยี่ เยว่หยู่ล้อเลียน
หลิน ฮวงเพิ่งตระหนักว่าเขายังคงถูกอุ้มไว้โดยเนฟิลิกราวกับเจ้าหญิง เขาดีดตัวออกทันทีและเรียกเนฟิลิกกลับ
“ขอโทษ ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับบางสิ่งอยู่”หลิน ฮวงยิ้มอย่างงุ่มง่าม
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก มอนสเตอร์อัญเชิญของนายมีร่างกายที่สุดยอดและเราทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชาย ฉันเข้าใจนายดี”หลี่ หลางตบไหล่หลิน ฮวงและขยิบตาให้เขา
‘เข้าใจกับตูดนายสิ!’ หลิน ฮวงอยากจะพูดออกมา จากนั้นหยี่ เยว่หยู่ก็มองทั้งคู่อย่างเอือมๆ
“ให้ฉันเรียกไทแรนด์ออกมาเพื่อเก็บศพละกัน”หลิน ฮวงเปลี่ยนเรื่องทันทีขณะที่จ้องมองหลุมขนาดมหึมาที่เขาทำ หลังจากที่อัญเชิญและออกคำสั่งกับไทแรนด์ ไทแรนด์ก็กระโดดลงไปในหลุม
“นายมีมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งกี่ตัวกันแน่?”หลี่ หลางถาม
หยี่ เยว่หยู่เองก็มองหลิน ฮวงเช่นกันเพราะเธอเองก็อยากรู้
“นายเห็นกี่ตัวละ?ฉันมีเท่านั้นแหละ”หลิน ฮวงขี้เกียจอธิบาย
เมื่อเห็นว่าหลิน ฮวงปฏิเสธที่จะตอบ ทั้งคู่ก็ไม่ต้องการซักถามเขาอีกและถามอย่างอื่นแทน
“ทำไมนายไม่บอกเราว่านายคือนักดาบอัจฉริยะ?”หยี่ เยว่หยู่ถาม
“เธอไม่ถาม ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฉันจะบอกเธอ เธอจะเชื่อฉันงั้นหรอ?”หลิน ฮวงถาม
ทั้งคู่คิดว่าสิ่งที่หลิน ฮวงพูดนั้นสมเหตุสมผล แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาคือนักดาบอัจฉริยะ พวกเขาก็คงจะไม่เชื่อเขาอยู่ดี
แม้ว่าหยี่ เยว่หยู่จะไม่พอใจกับคำตอบ เธอก็ยังยอมรับเขา“นายแม้กระทั่งสามารถฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้นได้ นายคืออัจฉริยะที่แท้จริง”
“หยุดเลย ฉันไม่อยากจะเผชิญกับมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งอีกแล้ว ครั้งนี้ฉันโชคดี”
หลิน ฮวงไม่สามารถจินตนาการได้ว่าหากเซียนดาบไร้ปราณีไม่ได้ใช้กระบวนท่าสุดท้ายเพื่อผลาญพลังชีวิตทั้งหมดของวิญญาณกระดูก มันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะฆ่าวิญญาณกระดูก เขาอาจจะตายแทน หลังจากที่คุยกันอยู่สักพัก หลิน ฮวงก็รู้สึกว่าพลังชีวิตเขากำลังวิ่งช้าลง ดังนั้นเขาจึงนั่งลงทันทีและเริ่มฟื้นฟูพลังชีวิตเขา หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางไม่ได้รบกวนเขาขณะที่นั่งข้างๆและรอให้หลิน ฮวงฟื้นตัว