SGS บทที่ 3 – ฆ่างูวายุอับโชค
ณ พื้นที่โล่งซึ่งวู่หยานอยู่เมื่อกี้ ได้มี 'แขกที่ไม่ได้รับเชิญ' บุกเข้ามา
งูยักษ์สีเขียวลายดำค่อยๆเลื่อยออกมาจากในป่า
มันมีลำตัวยาวประมาณ4เมตรและมีเส้นผ่าศูนย์กลางครึ่งเมตร มีเขี้ยว2เขี้ยวขนาดพอๆกับกิ่งไม้ชิ้นเล็กๆ บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างูตัวนี้ไม่ได้เป็นมังสวิรัติแน่นอน
วู่หยานแอบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้อย่างหน้าด้านๆ ขณะที่สายตาก็สังเกตงูตัวนี้อย่างระมัดระวัง
เมื่อกี้ตอนที่ได้ยินคำเตือน เขาแทบจะหัวใจวายตาย งูนี่ไม่ว่าบนโลกก่อนของเขาจะมีมันหรือไม่เขาก็ไม่รู้แต่ๆที่แน่ ตูไม่เคยเห็นเฟ้ย! จะมาหวังอะไรกับตูที่เคยเห็นแต่ลูกแมวลูกหมาแถวบ้านกันห๊ะ?
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่มีตัวช่วยอย่างระบบล่ะก็ ป่านนี้ตูคงเผ่นป่าราบไปนานแล้ว
ดูงูยักษ์ที่กำลังเลื่อยไปมา เขาอดคิดไม่ได้ว่า สมแล้วจริงๆที่เป็นสัตว์ที่ออกมาจากป่าสัตว์อสูร
ในเวลาเดียวกัน แสงกระพริบก็แวบเข้ามาในสายตาของเขา เห็นบนเหนือหัวของงูมีข้อความปรากฏขึ้น
งูสายลม : เลเวล10
นี่เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของระบบ ที่สามารถเห็นรายละเอียดสิ่งที่อยู่ในวิสัยทัศน์ของเขาได้
แต่ข้อมูลที่บอกก็มีแค่ชื่อกับเลเวลอ่ะนะ
ยังไงก็ตามเถอะ เมื่อเห็นข้อมูลตรงหน้า ก็แทบทำให้ วู่หยาน ร้องไห้
ไอ้ระบบเฮงซวย บอกว่าตูมีโอกาสชนะ5% แต่ตูมีเลเวลแค่0คิดให้ตายยังไงโอกาศชนะก็มีไม่ถึง1%ชัดๆ!
วู่หยานถอนหายใจอย่างปลงๆ ก่อนจะเอามือไปจับดาบที่เอวพร้อมกับค่อยๆหลับตาระลึกถึงท่วงท่าเทคนิคต่างๆ และวางแผนต่อสู้ไปด้วย
ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามLV10ขณะที่เขาแค่LV0 ไม่ว่าคิดยังไงมองมุมไหนก็ไม่มีทางชนะ
มีแต่ต้องลอบโจมตีทีเผลอเท่านั่นถึงพอมีลุ้น ยิ่งกว่านั่นต้องครั้งเดียวตาย!! ไม่งั้นเขาจะม่องซะเอง....
ถ้าตีมันแล้วไม่ตาย เขาก็ต้องเผ่นลูกเดียวแล้วล่ะนะ
เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ วู่หยานการกลยุทธ์คือสิ่งที่คนฉลาดเค้าทำกัน!
ขณะที่จ้องมองงู ในใจของเขาก็เปิดระบบขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั่นก็ค้นหาไอเท็ม
สำหรับแต้มไอเท็ม ไม่ใช่ว่าถึงเวลาต้องใช้แล้ว? ถ้าไม่ใช้ตอนนี้ งั้นจะไปใช้ชาติไหนล่ะ?
ไม่นานนัก วู่หยานก็เจอสิ่งที่เขาต้องการ
ดอกไม้มึนเมานิรันดร์ : สามารถปลดปล่อยละอองเกสร ทำให้ผู้ที่โดนติดสถานะ มึนงุนงง และยังมีโอกาสเกิดอาการหลอนประสาท ; 1,000 แต้มไอเท็ม
มือขวาถือดาบ มือซ้ายถือดอกไม้ที่ดูค่อนข้างโบราณ แม้จะมีไอเทมที่ดีที่สุดอยู่ในหมวดไอเท็ม แต่เขาก็ยังจำเป็นที่ต้องเก็บแต้มไว้ นอกจากนั้น ดอกไม้อันนี้ก็เหมาะสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้มาก!
ยกดอกไม้ในมือขึ้นพร้อมกับปิดปากและจมูก ในใจวู่หยานแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วแกว่งมือที่ถือดอกไม้เบาๆ
ละอองเกสรที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าลอยไปที่งู ละอองเกสรนี้ไม่จำเป็นต้องมีลมช่วยในการลอย เพียงแค่ชี้ไปที่เป้าหมาย มันก็จะลอยไปเองโดยอัตโนมัติ
เกสรล่องลอยไปอย่างช้าๆ ทันใดนั่นด้วยสัญชาตญาณสัตว์ป่า มันก็สำผัสได้ถึงอันตรายดวงตาสีเขียวเจ้มตวัดมองไปรอบๆอย่างตื่นตัว มันแลบลิ้นเข้าๆออกๆไปด้วย
แต่อนิจจัง วันนี้มันมีชะตากรรมที่ต้องตายคามือวู่หยาน ด้วยสติปัญญาที่ไม่สูงนัก แล้วมันจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าศัตรูของมันแทนที่จะออกมาสู้กันตัวๆซึ่งๆหน้า แต่กลับซ่อนตัวอยู่และจัดการมันด้วยไอเทมถูกๆชิ้นหนึ่ง?
เวลาผ่านไป ม่านตาของมันก็เริ่มหนักขึ้นและเต็มไปด้วยน้ำตากระพริบตาปริบๆ ร่างกายของมันที่ตอนแรกมีพลังเต็มเปี่ยมก็สั่นไหวไปมา
เห็นดังนั้น วู่หยานก็โห่ร้องอย่างมีความสุขในใจ รู้ว่ากลยุทธ์ตัวเองสำเร็จแล้ว เอาจริงๆเขาก็กลัวว่ามันจะไม่ยอมเมา เพราะเขาก็ไม่รู้ว่างูมันเมายาเป็นมั้ย.....
ราวกับว่ารู้ชะตากรรมตัวเอง งูสายลมส่งเสียงร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ในหูของวู่หยานที่ได้ยินเสียงร้องอันน่าสงสารนี้ เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นเสียงเพลงที่ดีไพเราะมาก จากนั้นเขาก็รีบแกว่งดอกไม้แรงขึ้นด้วยความคึก!
จนกระทั้งมันไม่มีเสียงร้องแล้วเขาถึงหยุดแกว่ง บนพื้นหญ้าโล่งมีงูตัวหนึ่งที่กำลังจมดิ่งสู่ห้วงฝันอันแสนหวาน(?)
เห็นดังนั้น วู่หยานก็ทิ้งตัวลงจากต้นไม้ที่สูงประมาณ6-7เมตร ก่อนจะทรงตัวบนพื้นอย่างมั่นคง ด้วย ปรมาจารย์ดาบ แม้ร่ายกายเขาจะไม่เปลี่ยนมากนักแต่เทคนิคภายในเปลี่ยน แค่กระโดดลงแค่นี้มันเรื่องหมูๆ
วู่หยาน ค่อยๆเดินไปอย่างระมัดระวัง จนมาถึงด้านหน้าของมัน กลืนน้ำลายมองหัวงูที่สูงถึงหัวเข่าเขาเลย
มัน.....คงไม่อยู่ๆก็ตื่นใช้มั้ยอ่ะ?....
พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้วิ่งหนีไป วู่หยานตัดสินใจโจมตีก่อน ชักดาบคุซานางิออกมาแล้วเล็งไปที่หัวมัน
“อย่าโกรธกันเลยนะ ต้องโทษโชคชะตาที่ทำให้แกเกิดเป็นงู แกไม่มีสิทธิมนุษยชน จำไว้นะ เกิดใหม่ชาติหน้าต้องเป็น ‘คนดี’ ล่ะ!”
หลังยืนไว้อาลัยไปสามวิ วู่หยานก็เสือกแทงดาบลงไป ด้ววความคมของคุซานางิุ ทำใบดาบสามารถผ่านเกร็ดของมันไปได้ง่ายๆราวกับว่าเจาะกระดาษธรรมดาแผ่นหนึ่ง ดาบทะลุสมองโดยตรง ทำให้มันตายไปทันทีโดยไม่รู้สึกความเจ็บปวดเลย....
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี ยูสเซอร์เลเวลอัพ ปัจจุบัน เลเวล 1”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี ยูสเซอร์เลเวลอัพ ปัจจุบัน เลเวล 2”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี ยูสเซอร์เลเวลอัพ ปัจจุบัน เลเวล 3”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี ยูสเซอร์เลเวลอัพ ปัจจุบัน เลเวล 4”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี ยูสเซอร์เลเวลอัพ ปัจจุบัน เลเวล 5”
เสียงแจ้งเตือนดังอย่างต่อเนื่องในหัวของวู่หยาน ทำให้เขาเหม่อลอยไปเล็กน้อย หลังจากได้สติ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข โดยเมินความรู้สึกผิดบาปที่ฆ่าชีวิตน้อยๆของงูตัวหนึ่งไปซะสนิท....
สมแล้วที่เป็นมอนเลเวลสิบที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาเลเวลถึงห้าเลเวลเลย ตูนี่เทพจริงๆฮ่าๆ!!
ยกมือทั้งสองขึ้นแล้วกำมือหลวมๆ วู่หยานสามารถรู้สึกถึงพลังได้อย่างชัดเจน หลังจากเลเวลอัพร่างกายของเขาเบาขึ้นและแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกราวกับว่าได้เกิดใหม่อีกครั้งเลย กระดูกแข็งขึ้นและหัวก็โล่งสบายจริงๆ
แต่เดิมร่างกายเขาอ่อนแอมาก ก็เป็นโอตาคุอ่นะเรื่องปกติ มีแต่สกิลเทพดาบที่พอถูไถไปได้ แต่หลังจากเลเวลอัพ ร่างกายเขาก็ถูกปรับปรุงรากฐานให้แข็งแรงมากขึ้น!
ดูเหมือนว่าการเลเวลอัพแต่ละครั้ง พรสวรรค์และสภาพร่างกายของเขาก็จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าซื้อความสามารถจากระบบอีกครั้ง ในอนาคตการที่เขาจะระเบิดภูเขาถล่มทะเล ก็ไม่ได้เป็นแค่ความฝันอีกต่อไป!
“ปี๊บ! ตรวจพบ อินทรีย์วัตถุ ต้องการแลกเปลี่ยนกับระบบ เพื่อรับ IP(แต้มไอเท็ม) หรือไม่?”
“ปี๊บ! ตรวจพบ คริสตัลเวทมนตร์ ระดับ 10 ต้องการแลกเปลี่ยนกับระบบ เพื่อรับ AP(แต้มความสามารถ) หรือไม่?”
ขณะกำลังดีใจกับการเลเวลอัพ เสียงของระบบก็ดังขึ้น ทำให้หัวเขาว่างเปล่าไปชั่วครู่
อินทรีย์วัตถุ?คริสตัลเวทมนตร์? มันคืออะไรวะ?
สำหรับ คริสตัลเวทมนตร์ ก็พอจะเดาได้จากการที่เขาอ่านโนเวลมานับไม่ถ้วน สามารถแลกเพื่อรับAP นี่ทำให้วู่หยานประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังยอมรับได้
แต่ไอ้ อินทรียวัตถุ แม่งคือไรวะ?
หรือจะเป็นซากงูตรงหน้า?
วู่หยานขมวดคิ้วขบคิดสักพัก มองดูงูดวงซวย ก่อนจะตะโกนไปว่า “แลกเปลี่ยน!”
ซากงูค่อยๆโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักมันหายไปทั้งตัว ในเวลาเดียวกันเสียงระบบก็ดังขึ้น
“ปี๊บ! ได้รับ IP 3000 แต้ม และ AP 500 แต้ม!”
เชีย! แม่งได้จริงด้วย!
วู่หยาน โชว์รอยยิ้มจางๆ ถามด้วยความสงสัย “ระบบ เงื่อนใขในการแลกเปลี่ยนแต้มคืออะไร?”
“ยูสเซอร์ ต้องแลกเปลี่ยนวัตถุดิบให้ตรงกับแต้มที่ต้องการจะแลก!”
ได้ยินดังนี้ วู่หยานก็ยกมือเกาหัวด้วยสีหน้าสับสน เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองโง่ แต่จากคำพูดของระบบ เขาเข้าใจได้แค่นิดเดียวเอง
หลักจากถามตอบกับระบบไปสักพัก วู่หยานก็เข้าใจจนได้
อธิบายง่ายๆก็ แลกเปลี่ยน อุปกรณ์ ก็จะได้ แต้มอุปกรณ์ แลกเปลี่ยน ไอเทมและอินทรียวัตถุ ก็จะได้ แต้มไอเท็ม ร่างกายของงูตัวนี้ก็คือ อินทรียวัตถุ ถือได้ว่าเป็นไอเท็ม และการแลกพลังงานในร่ายกายมันก็จะได้ แต้มอบิลิตี้ ยกตัวอย่างก็เช่นคริสตัลเวทมนตร์ไง สามารถแลกเป็นแต้มอบิลิตี้ได้
“ถ้างั้น ระบบ ฉันต้องแลกเปลี่ยนอะไรถึงจะได้แต้มอัญเชิญ?”
ถึงแม้ว่าอย่างอื่นมันก็ดีอยู่หรอก แต่ที่แจ่มสุดก็ต้องเป็นสาวน้อยโมเอะ2Dนี้แหละ หรือจะเถียงว่าไม่ใช่? ถ้าไม่ใช่สาว2Dแล้วอะไรล่ะ? สาว3D? พ่องมึงเถอะ! โอตาคุคนไหนกันที่จะทำแบบนั่นวะ ถ้ามีจริงก็คงสมองมีปัญหาแล้ว!!
“ยูสเซอร์ต้องแลกเปลี่ยนกับยูนิตประเภทมีชีวิต ถึงจะได้แต้มอัฐเชิญ!”
“ยูนิตประเภทชีวิต? คงไม่ได้หมายถึงคนเป็นๆหรอกนะ....”วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ในขณะที่หนังหัวรู้สึกเย็นวาบ
“เตือนยูสเซอร์ ยูนิตประเภทชีวิตแบบมีสติปัญญาจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ต้องแบบไร้ปัญญาเท่านั้น ถึงจะแลกได้!”
“....ห๊ะ??” ขอดีๆดิไอ้เวร ตูไม่เข้าใจโว้ยย! วู่หยานก่นด่าในใจ
ในศตวรรษที่ 21 ถือเรื่องปกติที่จะใช้ศัพท์เทคนิค แล้วเขาจะไปเข้าใจศัพท์พวกนี้ของระบบได้ไง เดียว....หรือว่า...เราโดยมันดักควายเข้าให้?
“ระบบ นายพอจะช่วยยกตัวอย่างหน่อยได้ไหม?”วู่หยาน พูดด้วยความหงุดหงิด
“ยูนิตประเภทชีวิต ยกตัวอย่าง ไอเทมที่มีพลังงานชีวิตหรือก็คือไข่ของสัตว์อสูร!”
“ทำไมนายไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกล่ะ?” วู่หยานถอนหายใจด้วยความปวดหัว แม้ว่าเขาพอจะเดานิสัยมันได้จากการพูดของระบบ แต่มันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเวลาเขาคุยกับมันแต่ล่ะครั้งจะต้องสิ้นเปลืองพลังงานมาก! ทำให้วู่หยานแอบสรุปในใจว่า ทุกครั้งที่คุยกับระบบตนต้องปล่อยหัวให้โล่งเข้าไว้.....
หลังจากนั้น เขาก็ปิดระบบเมื่อดูเควส1และ2เสร็จแล้ว
ดูเหมือนว่าในอนาคต ตูคงต้องเข้าป่าไปเยี่ยมเยียนเหล่าหนูๆที่น่ารักทั้งหลายซะแล้ว...(ไปหาไข่) อย่างแรกเลยต้องเคลียเควสก่อน แล้วก็ไปหาสถานที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ด้วย อันนี้สำคัญเลยล่ะ
วู่หยานเลิกคุยกับไอ้ระบบ พูดกับมันแต่ล่ะครั้งทำเขาเครียดจนอยากเอาหัวโหม่งเต้าหู้ให้ตัวเองตายๆไปเลย....
แต่ก็คิดไม่ถึงจริงๆเลยแฮะ ว่าไข่ของพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้สามารถแลกเปลี่ยนกับแต้มอัญเชิญได้ หรือว่าบางที่เขาอาจจะต้องไปหารังของพวกมันบ้างแล้ว?
อืม......นี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่เลวเลย......