ตอนที่2 เด็กที่ไม่มีใครต้องการ
เขามองแผ่นหลังแม่ของเขาตอนที่เธอหันไปที่อ่างล้างจานกำลังล้างจานและถ้วยที่สกปรก
เขาเดินไปที่กองกระดาษที่ที่มีหนังสือพิมพ์อยู่อย่างเงียบๆ เขาหยิบและเปิดหน้าที่เป็นหัวข้อทางธุรกิจตามที่แม่ของเขาดูก่อนหน้านี้
สายตาของเขาเลื่อนผ่านๆปเห็นรูปภาพเล็กๆที่อยู่บนหน้ากระดาษ เห็นเป็นหน้าของนักธุรกิจที่คุ้นตา เขาเคยเห็นคนๆนี้ในทีวีมาก่อน นักธุรกิจคนนี้ค่อนข้างดังในประเทศนี้แต่เขากลับไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ของเขาถึงต้องดูเศร้าสร้อยและเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นรูปของชายคนนี้
มองไปที่ดวงตาสีเทาบนหน้ากระดาษ เขาสงสัยว่าผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นใครสักคนนึงที่แม่อาจจะรู้จักก็ได้ เขาอาจจะรู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อ และอาจรู้ที่อยู่ของพ่อรึเปล่านะ เขาเดินออกจากห้องครัวแล้วไปที่ห้องนอน เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้าที่แม่ของเขาเตรียมไว้เมื่อคืน
‘สกาย ?’
‘กำลังไปครับแม่ !’เขาพูดแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตใส่ แล้ววิ่งออกจากห้องแล้วไปหาแม่ของเขา
แม่ของเขากำลังยุ่งอยู่กับการเช็คเมลล์ในโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นเห็นลูกชายของเธอกำลังพยายามจัดเสื้อของเขาให้มันดูดีขึ้น เสียงหัวเราะเงียบๆหลุดออกมาจากปากของเธอ หน้าของเด็กน้อยกำลังพยายามทำอะไรสักอย่าง
‘มานี้มา’ ริรินะเรียกและคุกเข่าลงต่อหน้าเขาจัดกระดุมที่ลูกของเธอได้เริ่มพลาดเอาไว้ หน้าของเด็กชายแดงก่ำไปด้วยความอับอาย
‘ขอโทษฮะ’ เขาพึมพ่ำ
‘ไม่เป็นไรจ้ะลูก ไม่ต้องกังวลอะไรหรอก ไม่เห็นมีอะไรน่าอายเลย’ เธอกระซิบ แล้วจุ้บหน้าผากเขาทีนึงก่อนจะใส่เสื้อโค้ชให้เขา
‘เอาล่ะ’ ริรินะพึมพ่ำ นิ้วของเธอค่อยๆกรีดกรายลงไปบนเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราว อยากได้สีไหนดีจ้ะ
‘ไปได้ยังครับแม่ ผมเหนื่อยแล้ว’ สกายพูด เขาลองเสื้อมาหลายตัว กางเกงหลายตัวและเสื้อโค้ชอีกหลายตัว ที่แม่ของเขาเลือกให้เขา และเขาก็เหนื่อยที่วิ่งไปกลับห้องเปลี่ยนเสื้อ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตาให้แม่ของเขา
‘อีกตัวนึงน่าลองเสื้อตัวนี้หน่อย ต้องหาอะไรของลูกใส่ในงานของอาจินนี่’ ริรินะยิ้มให้กับเขาแล้วพาเขากลับเข้าห้องแต่งตัว ลูกตัวน้อยของเธอใส่เสื้อที่เธอส่งไปให้ เขาส่ายหัวและคิดว่าเขาไม่มีทางเข้าใจผู้หญิง และความหลงใหลในการช้อปปิ้งของเธอ เขาให้แม่ของเขาเข้ามาดูเมื่อเขาแต่งตัวเสร็จแล้ว ริรินะยิ้มด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นลูกชาย เสื้อชูทสีดำนี้เหมาะกับเขาจริงๆ มันยิ่งทำให้เขาเหมือนพ่อขึ้นมาทุกวันๆ ตอนที่เธอจัดโบว์สีแดงบนคอขอเขา ริรินะไม่สามารถห้ามใจตัวเองเลยไม่ให้คิดถึงอดีตที่เคยจัดแต่งเนคไทของพ่อของเขาตอนที่เขากำลังเตรียมอาหารเมื่อค่ำ
‘นี้มันไม่แพงไปหน่อยเหรอแม่’เด็กชายถาม
เขารู้เสื้อชูทแบบนี้มันมีราคาแพงกว่าเสื้อผ้าที่เราเคยซื้อก่อนหน้านี้ แม่ของเขาหัวเราะเล็กน้อย อายุแค่นี้ก็ยังเป็นห่วงเรื่องการใช้จ่ายเสียแล้ว
‘ไม่ต้องห่วงหรอกสกาย แม่จะให้ทุกอย่างที่ลูกต้องการ ตราบใดที่ลูกยังมีความสุขอยู่’เธอตอบ
ดวงตาของเธอดูอ่อนโยนลงเมื่อมองลูกชาย‘เอาละพร้อมจะไปกินขนมก่อนที่เราจะไปสวนรึยัง’
หน้าเด็กชายเปล่งประกายไปด้วยความสุขทันทีที่ได้คิดถึงขนมโปรดและเฝ้ารอเวลาที่จะได้เล่น แม่ของเขารวบรวมเสื้อผ้าไปจ่ายเงินหลังจากที่เขาเปลี่ยนเป็นชุดปกติแล้ว สกายตามแม่ของเขาไปที่ช่วงแคชเชียร์ด้วยรอยยิ้มแป้นบนใบหน้า ริรินะรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขทุกครั้งที่มองลูกชาย ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรเขาก็ยิ่งดูเหมือนพ่อของเขามากเท่านั้น เธอได้แต่หวังว่าเธอคงไม่ผิดหวังถ้าเขาได้รู้เรื่องพ่อของเขา
...
‘ความหมายของสิ่งเหล่านี้คืออะไรคะ อีไล ’
เสียงนักข่าวในทีวีจากสำนักพิมพ์ต่างๆสัมภาษณ์อีไลและครอบครัวดังมถึงโต๊ะข้างๆของซีอีโอ S&S Enterprises Gamaliel Park
เขาเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ เมื่อเห็นพ่อของเขา
‘พ่อ’ พ่อของเขาตอนนี้ได้หยุดบริหารบริษัทนี้แล้ว หลายปีมานี้เขาทำการหนักเพื่อจัดการความเรียบร้อยของบริษัท เขาสามารถขึ้นแท่นผู้บริหารเพียงอายุ28ปี แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรหัวปีและเป็นทายาทโดยชอบธรรมของ บริษัท แต่เขายังเชื่อว่าการทำงานหนักนั้นดีกว่าการรอพ่อเกษียณถึงจะได้เป็นผู้นำ เขาพยายามอย่างหนักในการหาจุดยืนของตัวเอง
‘นี้คุณกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ? แล้วทำไมไม่บอกฉันสักคำ’
เขามองหนังสือพิมพ์ที่พาดหัวข่าวเกี่ยวกับเขา และอ่านมันอย่างผ่านๆ
‘S&S Enterprises CEO เลิกกับ นางแบบดังแล้ว ’
คิ้วของเขากระตุกด้วยความขยะแขยง แน่นอนละว่าคาริสซ่ายังยืนยันที่จะต้องการคำตอบจากปากของเขา ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาพยายามที่จะเลิกความสำพันธ์ห่วยแตกแบบนี้ตั้งนานแล้ว แต่นังผู้หญิงเพศยานี้ก็เกาะเขาแน่น สลัดไม่หลุด แล้วก็พยายามขูดเลือดขูดเนื้อจากตัวเขา คิดว่าเขาเป็นเหยื่อที่น่าเล่นด้วย เขาควรที่จะทิ้งเธอตัวแต่เมื่อปีก่อนที่เธอพยายามจะฆ่าริรินะของเขาโดยอุบัติเหตุทางรถยนแล้ว แต่นังนี้มันร้าย เธอเล่นเกมเป็น
น่าสมเพศ
ถ้ามันขึ้นอยู่ที่เขาคนเดียว เขาคงฝังลูกตะกั๋วไว้บนหัวของเธอไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้เอาแต่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา บ่อนทำลายภาพลักษณ์ที่เขาสร้างมาเป็นปี มันคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการนั่งดูผลประกอบการของบริษัทเติบโตไปพร้อมกับกำไรที่มากขึ้นเรื่อยๆหรอก แต่ถึงอย่างงนั้น ข่าวลือนี้แน่นอนว่ามันคงต้องเป็นคาริสซ่าเองที่เป็นคนปล่อยข่าวให้มันกระทบกับผู้ลงทุนรายอื่นของบริษัท
‘นี้มันก็แค่ข่าวลือและหน่า จะใส่ใจไปทำไม ไม่มีมูลความจริงเลยด้วยซ้ำ แล้วก็นะไม่มีเหตุผลอะไรที่คนแบบฉันต้องเสียเวลากับผู้หญิงแบบนี้!’
....
ริรินะถอนหายใจในความผิดหวัง เธอกอดอกเเล้วครุ่นคิดเมื่อครูโฮมรูมของสกายเลอร์อธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ลูกของเธอโดนกลั่นเเกล้งมาตั้งเเต่เขาอายุ4ขวบ เธอไม่เคยเข้าใจหรอกว่าทำไม สกายเลอร์ก็เป็นเด็กดีความคิดดีทำดี เขาไม่เคยไม่เคารพผู้ใหญ่เเม้เเต่ตอนโกรธก็ตาม ถึงเเม้เขาจะมีจุดเดือดต่ำเหมือนพ่อของเขาก็ตาม เเต่เขาไม่เคยทำร้ายใครก่อน เว้นเเต่ว่าโดนขู่หรือโดนยั่วโมโห
"มีอะไรที่เราสามารถทำได้บ้าง อาย่า" เธอถาม อาย่าเป็นเพื่อนที่อยู่กันมานาน พอๆกับจินนี้เเล้วก็เอลิก้า ในขณะที่จินนี้ตอนนี้ก็มั่นกับน้องชายคนเล็กสุดของอีไล ริรินะก็ไม่มั่นใจว่าเธอยังอยู่ในชีวิตของอีไลในเเบบไหน เป็นเเค่คนรักคนนึงหรืออาจจะเป็นเเค่คู่นอนรึเปล่า เอลิก้าตอนนี้ก็เเต่งงานกับเพื่อนสมัยมัธยมของเราที่ชื่อหลุย
ส่วนอาย่าตอนนี้เป็นเเม่ม่ายเเล้วก็ทำงานเป็นครูอนุบาล ลูกของเธอก็อายุพอๆกับสกายนี้ละ
อดีตสามีของเธอเป็นคนชอบทำร้ายร่างกายเเล้วก็เป็นนักธุรกิจที่ฉ้อโกง ริรินะเองก็ได้ยินข่าวลือถึงเขากับอีไลเหมือนกัน จนถึงตอนนี้เธอก็ไม่ค่อยตกใจเท่าไร เพราะตอนที่เธออยู่กับอีไล เธอก็เห็นเขาทำงานเเข่งกับคู่เเข่งของเขาบ่อยๆ
กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบันของเธอ อายาบอกเธอว่า สกายถูกรังแก เพราะเขาไม่ค่อยเล่นหรือคุยกับเพื่อนๆ เขามักจะอยู่คนเดียวตามลำพัง เด็กที่อายุมากกว่ารังแกเขาและดูถูกว่าเขาเป็นลูกไม่มีพ่อ ขนาดพ่อแท้ๆยังไม่รับผิดชอบเลย และยังดูถูกอีกว่าเขาเป็นเด็กที่โง่เขลา สกายโกรธมากที่มีคนดูถูกแม่ของเขา เขาเลยต่อยเด็กคนนั้นเลยเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทขึ้น ริรินะกำลังคิดว่านี้เธอคิดผิดรึเปล่าที่เลือกย้ายมาจากที่เนเธอร์เเลนด์
ทำไมที่นี้หัวโบราณงี้ มันไม่ใช่ความผิดของเด็กที่ไม่มีพ่อ แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอเป็นแม่เลี้ยงเดียว
‘ริรินะ เธอรู้ไหมว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ ?’ เสียงของอายาเรียกความสนใจของเธอให้กลับเขาสู่ประเด็น เธอมองอายา เธอรู้ว่าตอนนี้อายากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เธอขอแกล้งทำเป็นไม่รู้จะดีกว่า
‘ไม่’
‘เธอบอกอีไลเรื่องสกายรึเปล่า เด็กต้องการพ่อนะ ริรินะ’ ริรินะจ้องมองเธอ แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมีคนพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งที่เธอพยายามที่จะเก็บมันไว้ลึกๆแล้วก็ตาม
‘ฉันไม่ต้องการให้ผู้ชายคนนี้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตฉัน อายา เธอรู้ไหมว่าทำไมตอนนั้นฉันถึงหนีมาจากอีไลทั้งๆที่ตอนนั้นฉันกำลังท้องสกายอยู่ แต่เพราะอะไรนั้นเหรอ เพราเขาไม่ต้องการเด็กคนนี้ไงละ ! ’