ตอนที่ 151 หาความจริง (FREE)
กำแพงน้ำแข็งยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่ในดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ นั้น เขาได้เริ่มศึกษารูปแบบของจุดสีขาว
เขาเริ่มเชื่อมโยงวิชาที่ยุ่งเหยิงราวกับพวกมันเป็นกลุ่มดาวต่างๆ
จากนั้น..
เขาก็พบว่าที่อยู่ด้านหน้าเขาเป็นภาพวาดขนาดใหญ่!
เขาเข้าใจถูกใช่ไหม?
...
ฟาง เจิ้งจือ เองก็ไม่รู้ คนพันคนสามารถตีความสิ่งหนึ่งได้ออกเป็นพันแบบ แต่เขาอยากรู้เพียงแค่การตีความของเขานั้นถูกต้องหรือไม่?
ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆลากเส้นตามจุดสีขาว
รูปภาพค่อยๆปรากฎขึ้นอย่างช้าๆ
มันดูเหมือนสนามรบอย่างที่ เหยียน ซิว ได้บอกไว้ แต่ว่า...
ทั้งหมดดูเหมือนกำลังติดตามคนคนหนึ่ง
ที่จริงแล้วมันเป็นเหมือนการฆาตกรรมหมู่ของคนคนเดียวมากกว่า เพราะในภาพเป็นการบันทึกการกระทำของคนคนเดียวในสนามรบ และเขานั้นฆ่าผู้คนบนสนามรบรอบๆด้วยวิชาอันหลากหลายของเขา
"นี่มัน..."
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ถึงมันจะดูเหมือนสนามรบ แต่อีกด้านก็ดูเหมือนรูปแบบของอะไรบางอย่าง
ไม่!
นี่ไม่ใช่สนามรบ!
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่ามันเหมือนเป็นรูปแบบของวิชา สนามรบนั้นเหมือนถูกใช้เพื่ออธิบายการใช้วิชาต่างๆ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากวิชาต่างๆให้ได้มากที่สุด...
นี่เป็นวิชาสำหรับการต่อสู้
แต่ใครคือบุคคลในภาพกัน?
ทำไมภาพนี้ถึงไม่สมบูรณ์?
ภาพทั้งหมดจริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่?
ฟาง เจิ้งจือ เองก็ไม่รู้ แต่เขาจำได้ทุกอย่างดูดซับความรู้ราวกับฟองน้ำแห้ง
ในขณะที่เขาเรียนรู้ เขาก็พยายามฝึกฝนเลียนแบบวิชาต่างๆภายในจิตใจของเขา
ทันใดนั้น เหยียน ซิว ก็ลุกขึ้น จากนั้นก็เริ่มวาดรูปด้วยพัดในมือของเขา
"หรือเขาก็รู้แล้ว?"
ฟาง เจิ้งจือ อยากจะถาม แต่ เหยียน ซิว กำลังใจจดใจจ่อเป็นอย่างมาก มันคงไม่ดีเท่าไรที่ไปทำลายสมาธิของเขาตอนนี้
นอกจากนี้ ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าแต่ละคนนั้นต่างเข้าใจในรูปแบบของตัวเองซึ่งอาจจะดีกว่าให้คนอื่นมาบอกหรือสอน ยิ่งไปกว่านั้น ฟาง เจิ้งจือ เองก็ไม่รู้ว่าที่ตัวเองคิดนั้นถูกหรือไม่?
ในขณะที่คิด ฟาง เจิ้งจือ เองก็พบสถานที่ฝึกเช่นกัน
...
ประตูของหอสมบัติสวรรค์จะเปิดอีกรอบในอีก 6 ชั่วโมง
ฉือ เฮา กำลังนั่งรอเงียบๆอยู่บนม้านั่งตัวใหญ่ มองไปบนท้องฟ้า ตัดสินว่าตอนนี้นั้นถึงเวลาแล้ว จากนั้นเขาก็เหลือบตาไปหาคนรับใช้
สาวรับใช้บางคนเริ่มเตรียมตัว
จากการที่ ฉือ เฮา ลุกขึ้นยืน นั้นหมายความว่าไม่จำเป็นต้องรอ ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ออกมาอีกต่อไป
เขาสามารถรอให้พวกนั้นนั่งเรียนรู้ไปได้อีกสักพักและออกมากล่าวขอบคุณเขา
แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง...
ฉือ เฮา คิดว่าถ้ายังนั่งรอพวกนั้นเรียนรู้อยู่เฉยๆเขาคงไม่ได้เจอหน้า ฟาง เจิ้งจือ อีกต่อไป
"เขาอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์? เขาเข้าถึงระดับนี้ในตอนไหนกัน? หรือเขาเข้าถึงในตอนที่อยู่หอสมบัติสวรรค์?" ฉือ เฮา มีคำถามนับไม่ถ้วน
แน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
เขาต้องการจะยืนยันความสารถของ ฟาง เจิ้งจือ
...
หลังจากผ่านไปนาน เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ เห็นรอยแยกมิติเกิดขึ้นที่ด้านข้าง เป็น ฉือ เฮา และ เหล่าสาวใช้ที่เดินออกมา
"ท่านคงเตรียมสาวใช้ไว้เพื่อต้อนรับพวกเรา?"
"ฟาง เจิ้งจือ รับนี่ไป!"
ในขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ได้ทำอะไร ฉือ เฮา ก็เข้าโจมตีทันที
"..." ฉือ เฮา พูดไม่ออก "ขอชาให้ข้าดื่มสักถ้วยก่อนได้ไหม?"
ในความเป็นจริง เขาคิดถึงความเป็นไปได้มากมายหลังออกจากหอสมบัติสวรรค์ อาจจะมีเด็กรับใช้สองสามคนพาเขาไปขอบคุณ ฉือ เฮา หรือให้สถานที่เขาพักผ่อน
แต่...
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกบังคับให้สู้กับ ฉือ เฮา?!
ไร้ยางอาย! ข้าก็เป็นได้แค่ของเล่นของ ฉือ เฮา ช่วยดูระดับของตัวเองก่อนได้ไหม แล้วมาเทียบกับข้า? มันเหมือนการรังแกกันชัดๆ!
ข้าจะเอาชนะได้ยังไง?
แม้แต่ต่อยกลับข้าก็คงไม่สามารถทำได้
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าควรหนีเป็นอย่างแรก แต่เขาก็ปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อ ฉือ เฮา โจมตี สาวใช้ก็โจมตีเช่นเดียวกัน
แต่การโจมตีของพวกนางไม่ได้เหมือน ฉือ เฮา พวกเขาแค่รีบยิงตาข่ายเหล็กออกมา
ตาข่ายเหล็กดำโผล่ขึ้นบนหัวของ ฟาง เจิ้งจือ แน่นอนว่า ฉือ เฮา เองก็อยู่ในตาข่าย เขาพุ่งหา ฟาง เจิ้งจือ ในทันที
เหยียน ซิว เองก็มองเห็น ฉือ เฮา ที่พุ่งเข้ามา จากนั้นเขาก็ค่อยๆถอยไปหลบหลัง ฟาง เจิ้งจือ
"..."
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็น เหยียน ซิว ถอย ฟาง เจิ้งจือ เศร้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ผิดหวัง
"งั้นเป็นไงเป็นกัน!"
ฟาง เจิ้งจือ กัดฟัน วิ่งหนีไม่ใช่ตัวเลือกของเขาในตอนนี้ ทางเลือกของเขาคือต้องสู้อย่างเดียวในตอนนี้
เขาโจมตี
อย่างไรก็ตาม...
ร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ปรากฎในที่ที่ ฉือ เฮา คิดไว้ แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับพุ่งเข้าไปหามือของ ฉือ เฮา แทน
การกระทำนี้ทำให้เหล่าสาวใช้สับสนมาก
เขาอยากตายหรือไงกัน?
ในขณะที่เหล่าสาวใช้กำลังคิดอยู่นั้น ตาของ ฉือ เฮา ลุกวาวและรอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นมา
เขาไม่ได้หลบ แต่ยื่นมือที่กลายเป็นกรงเล็บไปที่คอของ ฟาง เจิ้งจือ มันรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ฟาง เจิ้งจือ ถูกจับ แต่ไม่ได้ถูกจับที่คอ แต่เป็นที่ไหล่
ในช่วงเวลาแห่งความตาย เขาได้เคลื่อนตัวเบาๆ มันเป็นวิชาเงาสายลมที่เรียนรู้มาจาก เหยียน ซิว อย่างไรก็ตามต่อให้ใช้วิชานี้เขายังแทบจะหลบ ฉือ เฮา ไม่พ้น
ฉือ เฮา ตกใจเล็กน้อย เขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ เข้ามาโดยคิดว่ามีโอกาส1/2 ที่เขาจะไม่ฆ่า ฟาง เจิ้งจือ
แต่เขาไม่ได้คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะหลบได้
"วิชาตระกูลเหยียน เงาสายลม?"
"ท่านเฮาช่างแข็งแกร่งและชาญฉลาด แต่การเอาชนะของท่านนั้นดูไม่ค่อยมีเกียรติเท่าไร เพราะท่านอาศัยการลอบโจมตี ข้ายังไม่ทันตั้งตัวได้ใช้วิชา 13 ไม้เท้าตระกูลฟางเลย!"
"13 ไม้เท้าตระกูลฟาง? งั้น...เจ้าต้องการไม้เท้า?"
"ใช่!"
"สาวใช้ เอาไม้เท้ามาให้เขา!" ฉือ เฮา ออกคำสั่ง
หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าที่ไหล่เริ่มหายเจ็บแล้วนั้น เขาก็มองไปที่ ฉือ เฮา อย่างจริงจัง
"ท่านเฮา ข้าพึ่งออกมาจากหอสมบัติ และข้าเจออะไรบางอย่าง แต่ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร ข้าหวังว่าท่านจะช่วยอธิบายให้ข้ารู้?" ฟาง เจิ้งจือ ค้นตัวขณะที่ถาม
"อืม...เอาออกมาให้ข้าดู!" ฉือ เฮา พยักหน้า
มันถือเป็นคำขอที่มีเหตุผล เพราะมีคนมากมายที่คอยขอคำแนะนำจากเขา นอกจากนี้พวกสมบัติที่อยู่ในหอล้วนอยู่ในการดูแลของกองตรวจการศักดิสิทธิ์
จากนั้น ฉือ เฮา ก็เห็น ฟาง เจิ้งจือ ดึงถุงเล็กๆออกมา?
ขณะที่กำลังคิด ฟาง เจิ้งจือ ก็เปิดถุงผ้าออกและพลิกมือกลับมา ผงสีเทาปลิวเข้าใส่หน้าเขาทันที
ฉือ เฮา ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็ตอบสนองได้ทัน เขายื่นมือไปข้างหน้า เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาข้างหน้า ผงสีเทาตกลงพื้นทันที
"เป็นการพยายามที่ดี เจ้ากล้าโจมตีข้างั้นรึ!" ฉือ เฮา ตะโกน และพุ่งไปจับคอ ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง
เพจหลัก : Double gate TH