ตอนที่ 285 โครงกระดูกต้องสาป
ประกายสีแดงของระเบิดปกคลุมทั่วท้องฟ้า แรงระเบิดกระจายคล้ายกับระลอกน้ำ มันถาโถมใส่ทั้งสามคนที่อยู่ไกลออกไปสามกิโลเมตร พวกเขารีบขี่มอนสเตอร์ของพวกเขาและหนีด้วยความเร็วแสง ความเร็วของคลื่นระเบิดไม่ได้ช้าไปกว่าอินทรีอเล็กซานเดรี้ยน โชคดี พวกเขาหนีได้ตรงจังหวะและคลื่นระเบิดก็ช้าลงในไม่กี่นาทีต่อมา ในที่สุดการกระจายตัวก็หยุดลง
ความร้อนไล่ตามหลังพวกเขามาเพราะลมแรงได้พัดพลังงานระเบิดมาทางพวกเขา พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบเพราะพวกเขาได้ตระเตรียมสมบัติป้องกันไว้เพื่อสู้กับมอนสเตอร์หลุดพ้น ขณะเดียวกัน นอกจากอินทรีอเล็กซานเดรี้ยนของหลิน ฮวงแล้ว มอนสเตอร์บินอีกสองตัวก็ยังได้รับบาดแผลพุพองเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ยืนยันว่าพวกเขาออกมาไกลจากผลกระทบพอแล้ว พวกเขาก็สั่งให้มอนสเตอร์ของพวกเขาหันกลับไป
หลิน ฮวงมองไปที่ภูเขาไฟที่ระเบิดไกลออกไปนับสิบกิโลเมตร รวมถึงเมฆรูปเห็ดด้านบน และจ้องเขม็งไปที่หลี่ หลาง
"ฉันจำได้ว่านายบอกว่ามันครอบคลุมรัศมีไม่เกิน3กิโลเมตร!แต่ไม่ใช่ว่านี่คือ30กิโลเมตร?!นายไม่ควรใช้ระเบิดถ้านายไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง นายเกือบจะฆ่าพวกเรา! " หยี่ เย่วหยู่ประณามหลี่ หลางอย่างไร้ความเมตตา เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หางสีสวยของนกกระจอกสายรุ้งกลับถูกไฟไหม้
หลี่ หลางรู้ว่าเขาเป็นคนผิด เขาจึงยอมรับคำด่าของหยี่ เย่วหยู่โดยไม่พูดอะไร เมื่อมองระยะทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์ โครงกระดูกต้องสาปต้องถูกระเบิดจนตายแน่ๆ นั่นหมายความว่าภารกิจของพวกเขาจะล้มเหลวและหลิน ฮวงก็จะต้องหามอนสเตอร์อื่น...
เพียงเมื่อหลิน ฮวงเปิดแผนที่เพื่อมองหาโครงกระดูกต้องสาปใหม่อีกครั้ง เขาก็ได้ยินเสียงคำราม เขาหันไปมองรอบๆทันที หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางก็มองตามเช่นกัน เสียงดังมาจากทิศทางของภูเขาไฟที่ถูกระเบิด
“มันยังไม่ตาย?!”หยี่ เยว่หยู่ถามหลิน ฮวงอย่างไม่เชื่อ
"มันไม่น่าจะเป็นไปได้ มันสามารถทนแรงระเบิดได้ยังไง?" หลี่ หลางตกใจมากเช่นกัน เสียงมาจากภูเขาไฟที่ระเบิดและกลายเป็นที่ราบลุ่ม
"แต่เสียงมันฟังดูเหมือนโครงกระดูกต้องสาปจริงๆ....”หลิน ฮวงพยักหน้า เขาตกใจเมื่อได้ยินเสียงคำรามเช่นกันเพราะการระเบิดดูเหมือนจะทำลายทุกสิ่งรอบภูเขาไฟไป พวกเขาไม่รู้ว่ามันรอดชีวิตมาได้ยังไง
"เราควรจะไปดูไหม?" หลี่ หลางถามอย่างไม่แน่ใจ ถึงแม้เขาจะไม่แน่ใจว่าระเบิดนิวเคลียร์ทำลายอะไรไปบ้างก็ตาม แต่พวกเขาทุกคนต่างเห็นถึงพลังทำลายล้างของมัน ไม่มีใครคิดว่าโครงกระดูกต้องสาปจะยังมีชีวิตรอด
“ทำไมถึงจะไม่ไปล่ะ?แม้ว่าจะมันจะไม่ตาย แต่ว่าก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!” หยี่ เย่วหยู่ตอบโดยไม่ได้คิดทบทวน
"เย่วหยู่พูดถูกแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะฆ่าโครงกระดูกต้องคำสาป ไม่ว่ามันจะป้องกันตัวเองได้ดีแค่ไหน แต่ตามสถานการณ์แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่มอนสเตอร์จะยังสมบูรณ์อยู่" หลิน ฮวงกล่าว
"นั่นหมายความว่าฉันทำถูกแล้วที่ทิ้งระเบิด?!" หลี่ หลางงตื่นเต้นมาก
"ถูกหรอ?ถูกก็บ้าแล้ว!" หลิน ฮวงจ้องไปที่หลี่ หลาง
"งี่เง่า!" หยี่ เย่วหยู่กลอกตากับสิ่งที่หลี่ หลางพูด
เมื่อพวกเขาตกลงกันได้ โครงกระดูกต้องคำสาบที่อยู่ภายใต้ลาวาสีแดงก็ปรากฏตัวขึ้นจากเศษซากที่พังทลาย แทนที่จะวิ่งหนี หลิน ฮวงและอีกสองคนกลับขึ้นขี่มอนสเตอร์ของพวกเขาและมุ่งหน้าไปทางโครงกระดูกยักษ์ พวกเขาสามารถบินข้ามระยะ30กิโลเมตรได้ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากพื้นไม่ถึง20เมตร พวกเขาก็กระโดดลงจากหลังพวกมันและเรียกกลับ
พื้นที่ปกคลุมไปด้วยรังสีนิวเคลียร์เข้มข้นซึ่งเป็นอันตรายต่อคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม รังสีกลับไม่อาจเข้าไปในร่างพวกเขาเพราะถูกขวางกั้นโดยพลังชีวิต ซึ่งคอยแบ่งแยกความร้อนจากการระเบิดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขี้เถ้าและกลิ่นเหม็นกำมะถันในอากาศก็ยากจะรับได้ เมื่อระงับอาการคลื่นไส้ได้ หลิน ฮวงก็มองทั้งคู่พลางขมวดคิ้ว หลี่ หลางรีบนำหน้ากากมาปิดปากและจมูกขณะที่หยี่ เยว่หยู่กลอกตาเธอใส่เขาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้สวมหน้ากาก หลี่ หลางก็ส่งหน้ากากให้พวกเขา หลิน ฮวงส่ายหัวปฏิเสธขณะที่หยี่ เยว่หยู่รับมันมาหลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก
เมื่อทั้งสามคนกำลังร่อนลง โครงกระดูกต้องสาปก็มองมาในทิศทางพวกเขาอย่างโกรธแค้น แม้ว่าสติปัญญามันจะต่ำ มันก็ยังรู้ว่าพวกเขาคือคนที่เกือบจะฆ่ามันด้วยระเบิดก่อนหน้าเพราะไม่มีใครอื่นในบริเวณนี้ หลังจากที่ยืนยันว่าทั้งสามคือคนร้าย โครงกระดูกต้องสาปก็สะบัดตัวหลุดจากซากระเบิดขณะที่คำรามใส่ทั้งสามคนอย่างอาฆาต
ทั้งสามยืนนิ่งขณะที่รอให้โครงกระดูกต้องสาปรุกคืบมา พวกเขากลัวว่าหากพวกเขาโจมตีก่อน โครงกระดูกต้องสาปจะหลบซ่อนในลาวาซึ่งเป็นการยากต่อการฆ่า ขณะที่พวกเขายืนนิ่งเพื่อสังเกตมอนสเตอร์ มอนสเตอร์กลับสามารถเห็นได้ตั้งแต่ส่วนไหล่ขึ้นไปเท่านั้นและเพียงแค่ส่วนนั้นก็ยังสูงกว่า5เมตร มันใหญ่มาก!แม้ว่าร่างกายส่วนใหญ่ของมันจะอยู่ในลาวา พวกเขาก็ยังสามารถเห็นได้ชัดว่ามันมีสีขาวไร้ที่ติราวกับงานเครื่องดินเผาชิ้นโบแดง
“อาจารย์จะต้องชอบมันหากฉันทำชุดชงชาด้วยกระดูกของมัน.....”หลิน ฮวงกำลังคิดว่าเขาควรจะนำเอากระดูกส่วนไหนไป มันไม่ใช่ความคิดแปลกๆเพราะสิ่งของส่วนใหญ่ในโลกนี้ล้วนถูกสร้างจากมอนสเตอร์รวมถึงชุดชงชาชั้นสูง จานและงานประติมากรรม ไม่เหมือนกับโลก โลกนี้มีมอนสเตอร์มากเกินไป ดังนั้นมันจึงไม่มีกฏหมายที่กำจัดการล่ามอนสเตอร์ ในความเป็นจริง รัฐบาลกลางยังสนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าวด้วยซ้ำไป มันไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหายทางระบบนิเวศเนื่องจากตาเสมือนจะเปิดขึ้นในทุกๆวัน หากไม่มีใครฆ่ามอนสเตอร์เหล่านี้ โลกนี้ก็อาจจะถูกคุกคามโดยจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของพวกมัน
“พวกเราสามารถยืนยันด้วยศพได้ แต่ฉันอยากจะเก็บกระดูกไว้สักชิ้น!”หลี่ หลางตะโกนออกมา เขาต้องมีความคิดเหมือนๆกันกับหลิน ฮซง
“ฉันก็ขอสักชิ้นเหมือนกัน!”หลิน ฮวงตะโกนกลับ
หยี่ เยว่หยู่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้น ในที่สุดโครงกระดูกต้องสาปก็ออกมาจากรู มันสูงกว่า30เมตร ด้วยทั่งร่างมันที่แช่อยู่ในลาว่า คลื่นความร้อนจึงถูกปลดปล่อยออกจากร่างมัน เปลวไฟสีทองลุกขึ้นรอบดวงตามันขณะที่กวาดตามองต่ำมาที่ทั้งสามคน....