ตอนที่ 148 อับอาย (FREE)
ลู่ ยู่เฉิน และเด็กทั้ง 7 คนต่างมองไปที่คำพูดที่ปรากฎขึ้นกลางอากาศ ด้วยความตกตะลึง มันเป็นสิ่งที่ยืนยันชั้นดีที่บอกได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นอยู่ในระดบัสะท้อนสวรรค์
"เขา...อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์?!"
"เป็นไปได้ยังไงกัน?"
"เขาอายุแค่ 15 ปีเท่านั้น เท่าที่จำได้มีแค่ ฉือ กูเหยียน เท่านั้นที่เข้าถึงระดับนี้ได้ตั้งแต่อายุต่ำกว่า 15 ปี ... "
เด็กทั้ง 7 คนต่างมองหน้ากันและกันพวกเขานึกถึงตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกองตรวจการเมื่อคืนที่ผ่านมา คำสัญญา 2 ปี ระหว่าง ฟาง เจิ้งจือ และ ฉือ กูเหยียน
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์แล้วจริงๆ?!
เขาอาจจะทำสำเร็จก็เป็นได้!
ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวของพวกเขาทั้ง 8 คน ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถเอาชนะ ฉือ กูเหยียน ได้
แต่ตอนนี้...
พวกเขาเริ่มเกิดความลังเลในใจ
ความต่างของพลังระดับ ผนวกดารา และ สะท้อนสวรรค์ นั้นมีมากเกินไป ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ได้
แต่...
การทะลวงผ่านระดับพลังครั้งนี้ของเขาเป็นไปได้ด้วยดี สามารถเขาสู่ระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นต้นได้อย่างราบรื่น โอกาสที่เขาจะเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูงได้ภายใน 2 ปีนั้นมีมากกว่า 20 เปอร์เซนต์!
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังไม่มีใครเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถเอาชนะ ฉือ กูเหยียน ได้ภายในเวลา 2 ปี เพราะนางเป็น "ร่างสถิตเต๋าสวรรค์" ซึ่งเป็นพลังพิเศษที่สามารถเอาชนะคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้
อย่างไรก็ตามการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ได้มีแต่ความสิ้นหวังอีกต่อไป
แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อย ...
แต่ก็ยังมีหวังสำหรับ ฟาง เจิ้งจือ !
"ตอนนี้ เจ้ามี 2 ทางเลือก 1 ยอมตาย หรือ 2มีชีวิตรอดต่อไป เจ้าจะเลือกอะไร?" ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังครุ่นคิด
"แน่นอนว่าพวกเราเลือกที่จะมีชีวิตอยู่!" เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะโกนออกมา เขาเป็นศิษย์จากสำนักที่มีชื่อเสียง แต่เขาไม่ค่อยมีประสบการณ์การนองเลือดหรือการสู้รบเท่าไรนัก
เป็นธรรมดาที่เขาจะเกรงกลัวต่อความตาย
"แต่พวกเจ้าทั้งหมดไล่ตามข้ามาตั้งแต่ที่สวนฤดูใบไม้ผลิแล้ว คิดว่าข้าจะปล่อยไปง่ายๆงั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ มองพวกเขาด้วยสายตารังเกียจ
"ท...ทำอะไรงั้นรึ?"
"เอ...อยู่ดีๆข้ารู้สึกอยากปล้นขึ้นมา!" ฟาง เจิ้งจือ กล่าวอย่างใจเย็น
"ปล้น?!"
ลู่ ยู่เฉิน และเด็กทั้ง 7 คนตัวแข็งค้างในทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดพวกเขาคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนานา แต่ก็ไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะปล้นพวกเขา
อะไรมีค่ามากกว่ากัน?
ตราบใดที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ...
เงินทองก็เป็นแค่ของนอกกาย!
"ได้เลย นายน้อยฟาง นายน้อยฟางช่างมีเมตาเหลือเกิน ข้าจะให้ทุกอย่างที่ข้ามี! "
"ข้ามีเงินไม่มาก แต่ข้าจะให้อาวุธทั้งหมดที่มี ข้ามีเครื่องประดับผมด้วย มันเป็นไข่มุกที่ดีที่สุดจากก้นทะเลลึก!"
"นายน้อยฟาง กำไลข้อมือของข้าก็ไม่เลวที่เดียวนะ เมื่อสวมใส่จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่กำลังอ่านหนังสือมันจะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น "
เด็กทั้งหมดต่างค้นสิ่งมีค่าในร่างกายออกมากันเรื่อยๆเพื่อที่จะมอบให้ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเชื่อฟัง และพยายามประจบประแจง
ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเยาะ
การปล้นคนอื่นและถูกประจบประแจงไปในเวลาเดียวกันทำให้เขาพอใจขึ้นมาทันที
"แล้วเจ้าล่ะ?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ ลู่ ยู่เฉิน
"เจ้าไม่ฆ่าข้าจริงๆรึ?" ลู่ ยู่เฉิน ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด
"ข้ายังไม่ได้บอกสักหน่อย แต่ถ้าเจ้าไม่มีของมีค่าให้ข้าปล้นละก็... "
"ข...ข้ามีอยู่แล้ว!" ลู่ ยู่เฉิน กัดฟันแน่น เขาหยิบกล่องสีม่วงแวววาวขึ้นมาแล้วเปิดออก มันส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว
"ยาร้อยศึก!" ดวงตาของ เหยียน ซิว เต็มไปด้วยความตะลึงเมื่อได้เห็นยาพวกนั้น
ฟาง เจิ้งจือ งงงวย
มันคืออะไรกัน?
เหยียน ซิว ตกใจขนาดนั้น ต้องเป็นของดีแน่ๆ!
ใครสนกัน? เป็นอะไรก็ช่าง เอามาก่อน
ฟาง เจิ้งจือ คว้ากล่องมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็ว
"ข้างในกล่องมีทั้งหมด 3 เม็ด ข้าใช้เวลากว่าหลายปี... โปรดเหลือให้ข้าไว้สักเม็ดหนึ่ง... " ลู่ ยู่เฉิน ยื่นมือ ออกมาอย่างนุ่มนวลและมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
"ไปซะ หุปปาก หรือจะให้ข้าฆ่าเจ้าแทน!" ฟาง เจิ้งจือ พูด
ลู่ ยู่เฉิน หุปปากลงในทันที ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ราวกับว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
...
หลังจากที่ปล้นพวกเขาแล้ว ฟาง เจิ้งจือ พูด อีกครั้ง
"เจาทั้งหมด มัดเขาไว้กับ...เสาน้ำแข็งนั่น!" ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปทาง ลู่ ยู่เฉิน และเสาน้ำแข็งที่อยู่ใกล้ๆ
พวกเขาอยากจะต่อต้าน แต่ตอนนี้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในมือของ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาต้องทำตามเท่านั้น
หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ พวกเขาก็เริ่มทำตามคำสั่ง
"ถ้าเจ้าไม่ทำให้เขาล่อนจ้อนเสียก่อน พวกเจ้าเตรียมใจล่อนจ้อนแทนเขาได้เลย!" ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างสงบนิ่งในขณะที่กำลังเฝ้าดูการกระทำของพวกเขา
ในชั่วพริบตาเดียวเหล่าเด็กหนุ่มทั้ง 7 คน ก็แปรเปลี่ยนจากลูกแกะที่อ่อนโยนเป็นหมาป่าที่ดุร้าย
เด็กสี่คน จับแขนและขาทั้งสองข้างกางออก อีกสามคนฉีกเสื้อผ้าของเขา ช่างเป็นเรื่องที่ดูโหดร้ายเป็นอย่างมาก
เสียงที่ฉีกขาดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกเขาไม่คิดจะใช้วิธีธรรมดาอย่างการถอดเสื้อทั่วไป พวกเขาฉีกออกอย่างไม่หยุดยั้ง
"พวกเจ้า..." ลู่ ยู่เฉิน พยายามขัดขืน แต่เขาก็กลัวว่า ฟาง เจิ้งจือ จะเล่นอะไรอีก ดังนั้นเขาทำได้เพียง ร้องออกมาอย่างสงบเสงี่ยม
หลังจากที่ร่างของเขาถูกมัดเอาไว้กับเสาเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่ต้นจนจบ ลู่ ยู่เฉิน กัดฟันของเขาแน่นด้วยความอับอาย เมื่อร่างของเขาสัมผัสถูกเสาน้ำแข็งแล้ว ถึงกับกรีดร้องออกมา
เพราะว่า…
เสาน้ำแข็งนั้นเย็นเกินไป
"เอาล่ะ ตอนนี้ถึงคราวของพวกเจ้าแล้ว!" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่เด็กหนุ่มทั้ง 7
"นายน้อยฟาง ไม่ได้บอกให้มัดแค่เขางั้นหรือ?" เด็กหนุ่มคนหนึ่งถอยหนีด้วยความกลัว
"ข้าพูดอย่างนั้นรึ?"
"..." เหล่าเด็กหนุ่มทั้ง 7 คน ต่างมองหน้ากัน
"เจ้าจะทำมันด้วยตัวเองหรือต้องการให้ข้าทำเจ้า?"
"พวกเราจะทำมันเอง!"
เด็กหนุ่มทั้ง 7 คน ต่างเริ่มเปลือยกายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ช่วยกันมัดตัวเองไว้กับเสาน้ำแข็ง ด้วยเศษผ้าของพวกเขา
ไม่นานนัก ทั้งเจ็ดคนก็ร้องไห้และกรีดร้องออกมา ...
...
หลังจากที่คนทั้ง 8 ถูกมัดเอาไว้กับเสาเป็นที่เรียบร้อย เหยียน ซิว ก็พูดขึ้นว่า
"จริงๆข้าก็มั่นใจว่าเจ้าจะสามารถเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้แน่ แต่ข้าก็ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเร็วขนาดนี้ !" เหยียน ซิว พูดด้วยความตกใจ ด้วยความเป็นเพื่อน เขายินดีกับ ฟาง เจิ้งจือ เป็นอย่างมาก
"เร็วไปรึ? ข้าไม่คิดอย่างนั้น " ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเล็กน้อย
"มันไม่เร็วหรือ?" เหยียน ซิว ถามอีกครั้ง
"ถ้าเจ้าเข้าถึงระดับผนวกดาราได้ตั้งแต่ 8 ขวบ เจ้าจะยังคิดเช่นนี้อยู่รึ?" ฟาง เจิ้งจือ หันมองไปที่ เหยียน ซิว
"เข้าถึงผนวกดาราได้ตั้งแต่ 8 ขวบ ปีนี้ข้าก็ 16 แล้ว ตั้งแต่ 8 ขวบ..เดี๋ยวก่อนสิ เจ้าจะบอกว่าเจ้าเข้าถึงระดับผนวกดาราได้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบงั้นรึ?! " เหยียน ซิว ตะโกนถามขณะที่กำลังจะตอบคำถาม ฟาง เจิ้งจือ
ไม่ใช่แค่ เหยียน ซิว ที่อ้าปากค้างกับความจริงนี้ ทั้ง 8 คนที่ถูกมัดอยู่ต่างก็ตกตะลึงไปกับเรื่องนี้ด้วย
"ผนวกดารา ตั้งแต่ 8 ขวบ...?"
"... มันเป็นไปได้ยังไงกัน?"
"เท่าที่ข้ารู้ ฉือ กูเหยียน เข้าถึงวิถีแห่งเต๋าได้ตอน 4 ขวบ และนางเข้าถึงผนวกดาราได้ตอน 8 ขวบ! เขาบอกว่า เขาเข้าถึงผนวกดาราได้ตั้งแต่ 8 ขวบ เขากำลังพูดอะไรกัน ? "
ลู่ ยู่เฉิน และเด็กหนุ่มทั้ง 7 ต่างไม่เชื่อหูตัวเอง ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงผนวกดาราได้ตั้งแต่ 8 ขวบ แล้วทำไมถึงใช้เวลายาวนานนักในการเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์?
พวกเขารู้สึกว่ามันแปลกๆ ...
ไม่ว่าจะยังไง ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ตอนอายุ 15
ฟาง เจิ้งจือ เห็นใบหน้าที่ตกใจของ เหยียน ซิว และถอนหายใจด้วยความรู้สึกโกรธ "ฮึ่ม.. เข้าถึงระดับผนวกดาราตอน 8 ขวบ และใช้เวลาอีก 7 ปี ในการเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ มันช่างน่าอับอายเสียจริง"
"เข้าถึงผนวกดาราได้ตอน 8 ขวบ และใช้เวลาอีก 7 ปีในการเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์"
"ถ้าเรื่องนี้น่าอาย ... "
คนทั้ง 8 ที่ถูกมัดไว้กับเสาน้ำแข็ง ต้างอ้าปากค้าง เมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจ
ถึงแม้ว่าจะกำลังทรมานจากความหนาวเย็นของเสาน้ำแข็ง แต่ใบหน้าของพวกเขากลับ...
เจ้าอย่าทำแบบนี้ได้หรือไม่? ช่วยไว้หน้าพวกข้าหน่อยได้หรือไม่? เจ้าอาจจะคิดว่า การที่เข้าถึงระดับผนวกดาราได้ตั้งแต่ 8 ขวบ แล้วเข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ในอีก 7 ปีหลังจากนั้น เป็นความน่าอับอาย
แต่ว่า...
สำหรับพวกเขา ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
เข้าถึงระดับผนวกดาราได้ตั้งแต่ 8 ขวบ
เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ได้ตอนอายุ 15 ?
แต่เขายังคงถอนหายใจและรู้สึกเศร้าใจ มันจะอวดดีเกินไปแล้ว
ลู่ ยู่เฉิน และเด็กหนุ่มทั้ง 7 คน ต่างคิดเหมือนกัน พวกเขายินดีที่จะเห็น ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ มากกว่าได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ถอนหายใจด้วยความหดหู่ออกมาเสียอีก
ถ้าเจ้าอับอาย แล้วพวกข้าละ?
เพจหลัก : Double gate TH