บทที่ 5 การจับกุม
ฟาง ซิงเจี้ยน ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดข้างๆอาคารสาธารณะหลายชั้น เขาพยายามทำตัวกลมกลืนบนผู้คนบนถนนที่เงียบสงบมีผู้หญิงสูงกว่า 1.8 เมตร มีผมสีทองซึ่งเข้ากับใบหน้าที่ขาวทำให้เธอดูเด่นเมื่อยืนอยู่ข้างถนนที่คนเดินผ่านไปผ่านมา
"น่าจะปลอดภัยแหะ"ฟาง ซิงเจี้ยนคิด
ด้วยกล้องส่องทางไกลของ ฟาง ซิงเจี้ยน ได้มองไปทางเจสซิก้าที่ยืนอยู่ข้างถนนหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเมื่อ ฟาง ซิงเจี้ยนเช็คบริเวณรอบๆแล้วไม่มีใครเขาก็เดินตรงไปหาเธอ
"ไม่มีใครตามนายมาใช่มั้ย"เจสซิก้าพูกถามขึ้นเมื่อเห็นฟาง ซินเจี้ยนเดินเข้ามา
"แน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าฉันมาพบกับเธอที่นี่"เขาตอบขณะที่มองไปรอบๆอีกครั้ง
"ห้าตระกูลใหญ่มีวิธีการซ่อนตัวของตัวเองในการเดินทางไปยังโลก มิราเคิล เวิร์ล ฉันคิดว่าเธอคงจะใช้วิธีของตระกูลเมดิชิ สินะ "ฟาง ซิงเจี้ยน กล่าวขึ้นดูเหมือนเขาจะไม่ได้แค่ขอร้องให้คนอื่นช่วยเหลือเขาเพียงฝ่ายเดียว
ตระกูลเมดิชิคือตระกูลของเจสซิก้า สถานการณ์ของเธอคล้ายกับฟาง ซิงเจี้ยนแม้ว่าเธอจะเกิดมาในตระกูลใหญ่ แต่เธอก็ไม่ค่อยมีคุณค่าในตระกูลของเธอเท่าไหร่นัก
"นายมีเงินติดตัวมาเท่าไหร่?"ได้ยินคำพูดของฟาง ซิงเจี้ยนเจสซิก้าขมวดคิ้วและถามกลับ
"บัญชีของฉันถูกระงับ เงินที่ฉันมีอยู่ในมือตอนนี้เหลือประมาณสองล้าน " ฟางซิงเจี้ยนตอบ
"น่าจะพอ" เจสสิก้าพยักหน้า "ฉันจะเพิ่มไปอีกหนึ่งล้าน เพื่อนายจะได้ใช้เรือในคืนพรุ่งนี้ นายก็แค่ไปตามเส้นทางทะเลแล้วนายก็จะถึง มิราเคิล เวิร์ล เอง"
"มีสัตว์ร้ายมากมายตามเส้นทางทะเลรวมทั้งคลื่นสึนามิที่เกิดจากพายุในช่วงนี้ด้วย มันจะไม่อันตรายหรอ"เมื่อได้ยินเจสสิก้าพูดฟาง ซิงเจี้ยนมีความลังเลเล็กน้อยแล้วจึงถามกลับ
"ถ้ามันไม่ใช่เส้นทางที่อันตราย นายมีทางเลือกอื่นงั้นหรอ" เจสสิก้าหันไปและพูดว่า "มาเถอะ นายสามารถพักค้างคืนที่บ้านฉันได้ พวกเขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราหรอก"
ไม่กี่นาทีต่อมาฟาง ซิงเจี้ยนและเจสสิก้าก็มุ่งหน้าไปยังรถเล็ก ๆที่จอดอยู่ และทั้งสองก็มาถึงอาคารอพาร์ตเมนต์สูงฟาง ซิงเจี้ย ตามเจสสิก้าไปที่แฟลตของเธอ เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปเขามองเห็นขวดไวน์นับสิบขวดวางอยู่บนโต๊ะอาหารจานและภาชนะต่างๆก็วางอยู่ในอ่างล้างจาน
"จัดให้มันเป็นระเบียบหน่อยมั้ย?"ฟาง ซิงเจี้ยนบ่น เมื่อเห็นสภาพห้องของเพื่อนตัวเอง
เจสสิก้าเตะรองเท้ากีฬาของเธอ และล้มตัวนอนลงบนโซฟา พร้อมกับคว้ากระเป๋าและหยิบขนมออกมากิน
"นายควรจะดีใจนะที่ได้พักคืนนี้ หยุดวิจารณ์บ้านฉันแล้วนอนพักเถอะน้า...นายกินมั้ย? "เธฮตอบกลับแบบไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของฟาง ซิงเจี้ยน
ฟางซิงเจี้ยนกรอกตาไปมาและย้ายชุดชั้นใน, กางเกงใน และอื่นๆบนโซฟาออก ก่อนที่จะนั่งลง ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีอะไรอยู่ใต้ก้นของเขา เขาเอื้อมมือออกไปคว้ามันและพบว่าตัวเองถือเครื่องสั่นอยู่มือ
ฟาง ซิงเจี้ยนมองตากับเจสสิก้าอีกครั้ง"นี่คนมาบ้านเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี้ย"
เจสสิก้ารีบคว้าเครื่องสั่นออกจากมือของฟาง ซิงเจี้ยนและพึมพำ "ฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวแถมยังอยู่ในวัยรุ่นด้วยอายุก็ยี่สิบเองฉันควรที่จะมีอะไรคลายเครียดบ้างสิ"เธอตอบหน้าตาย
เธอโยนเครื่องสั่นลงในห้องของเธอและออกมาจากห้องโดยใส่แค่ชุดชั้นในของเธอ "ฉันจะไปอาบน้ำนะ นายหาอะไรกินได้เลย"
ด้วยการเผยให้เห็นเรือนร่างของเธอสัดส่วนที่กำลังดีของหน้าอกที่ไม่ได้เล็กจนเกินไปและใหญ่จนเกินตัวทำให้น่าหลงไหลไม่น้อย ต้นขาที่ขาวนวลเดินไปรอบๆตรงหน้าฟาง ซิงเจี้ยนเขาก็อดที่จะมองไม่ได้
"เดี๋ยวก่อนนะ ฉันไม่รู้ว่านายจะกลับมามั้ย หลังจากที่นายไปที่มิราเคิลเวิลด์ในวันพรุ่งนี้ เพราะงั้นเรามีเซ็กส์กันมั้ยเพื่อความทรงจำที่ดีต่อกัน นายยังบริสุทธิ์อยู่ใช่มั้ยละ "เจสสิก้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่ทันใดนั้นเธอก็โผล่หัวออกมาอีกครั้งยิ้มและพูดขึ้น
"เธอจะบ้าหรอ" ฟาง ซิงเจี้ยน คว้ากล่องกระดาษทิชชูข้างเขาและโยนมันไปที่เธอขณะที่เธอหัวเราะออกมาดังๆและหลบเข้าไปในห้องน้ำ
"เห่อ ผู้หญิงคนนี้พรหมจรรย์ของเธอ ไม่สิเธอคงจะฉีกมันด้วยตัวเองไปแล้วแหละ "ฟางซิงเจี้ยน ส่ายหัวอย่างช่วยอะไรไม่ได้และนอนหงายลงโซฟา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมายังคงอยู่ในหัวของเขา ความชั่วร้ายของยายของเขาความสามารถของฉิงเชนการที่เขาช่วยอะไรไม่ได้เลยและภาพของแม่ของเขาฉากต่างๆยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขาจนหลับไปในที่สุด
"เจ้าปรารถนาสิ่งใด"
ท่ามกลางความมืดฟาง ซิงเจี้ยนเปิดตาของเขาในขณะที่เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
"คุณคือใคร? ที่นี่ที่ไหน?"
เมื่อเขาตั้งสติได้เขากำลังถามใครสักคนที่อยู่ในความมืดแต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินเขาหรือแกล้งไม่ได้ยินกันแน่ เสียงนั้นไม่ได้ตอบคำถามเขากลับมาแต่กลับถามคำถามเดิม
"เจ้าปรารถนาสิ่งใด" ในขณะเดียวกันก็มีเปลวไฟสีม่วงวูบวาบอยู่ในความมืดมิด เปลวไฟสีม่วงรอยอยู๋กลางอากาศถ้ำกลางความว่างเปล่าตรงหน้าของฟาง ซิงเจี้ยน
ฟาง ซิงเจี้ยนมองไปที่เปลวไฟสีม่วงด้วยความตกตะลึงและยังคงมีเสียงถามว่าอีกครั้งว่า
"เจ้าปรารถนาสิ่งใด"
ไม่นานหลังจากนั้นเปลวไฟสีม่วงก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง สถานที่แห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟสีม่วงอีกครั้งนั้นทำให้ฟาง ซิงเจี้ยนตะลึงกับสิ่งที่เห็นความร้อนจากไฟสีม่วงที่ตอนนี้ไม่ใช่แค่เปลวไฟอีกต่อไปความรู้สึกของเขาตอนนี้คือเหมือนติดอยู๋กลางเพลิงขนาดใหญ่ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันตั้งตัวเขาก็รู้สึกตัวสะก่อน ตอนี้เขากำลังนั่งอยู่บนโซฟาหน้าผากและคอของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาตามร่างกาย
เสียงเทน้ำดังออกมาจากห้องครัว
"ตื่นได้แล้ว! เมื่อคืนฉันเห็นว่านายหลับไปบนโซฟา เลยไม่ได้ปลุก"เจสสิก้าพูดขึ้นธอถือถ้วยกาแฟออกมาแล้วมองฟาง ซิงเจี้ยนที่กำลังเหงื่อแตกและถามว่า "นายเป็นไรรึเปล่า"
"ไม่เป็นไร ฉันแค่ฝันร้ายนะ "ฟาง ซินเจี้ยนคอบขณะที่กำลังเช็ดเหงื่อที่ใบหน้า
"เอาล่ะฉันต้องไปทำงานแล้ว วันนี้นายอยู่ที่นี่ไปก่อนนะดูแลตัวเองมีอาหารในตู้เย็นนะ ถ้านายหิว! ก็ตามสบายเลยนะ"เจสซิก้ากล่าวก่อนที่เธอจะรีบออกจากห้องไปเพื่อไปทำงาน
ฟางซิง เจี้ยน อยู่ที่บ้านของเจสสิก้าตลอดทั้งวันและยังคงติดตามข่าวออนไลน์เกี่ยวกับตัวเขาเอง อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าทุกสื่อนั้นไม่มีข่าวเกี่ยวกับเขาเลย แม้ว่าเขาจะกังวลเล็กน้อยเพราะความฝันของเขาในคืนก่อนหรือภาพลวงตาอะไรก็ตามที่เขาได้เห็นในที่แห่งนั้น เขาไม่สามารถหาคำตอบได้เลยว่าคืออะไรแม้ว่าจะได้หาข้อมูลทางเน็ตแล้วก็ตาม
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง
ฟางซิง เจี้ยนขึ้นรถเจสสิก้าไปที่ท่าเรือมีแสงไฟกระพริบอยู่ในความมืดรอบๆ ท่าเรือจากเรือประมงแถวๆที่จอดเรือตรงที่ทอดสมอติดริมฝั่ง
"นี่มัน" ฟาง ซิงเจี้ยนถามขึ้นด้วยความสับสน
"อ๋อ ฉันได้ทำข้อตกลงทั้งหมดให้แล้วนาย เอาไปยื่นได้เลย "เจสสิก้ากล่าว
"ขอบคุณมากนะ ที่ช่วยฉันไว้ทุกเรื่องๆเลย"ฟาง ซิงเจี้ยนหันไปมองเจสสิก้าและขอบคุณเธอ
"ฉันตรวจสอบแล้วฟาง ฉิงเชนมีพรสวรรค์ที่จะกลายเป็นนักเวทย์และภายใต้ข้อตกลงของคุณยายของนายฟาง ฉิงเชนอาจกลายเป็นศิษย์ของราชานักเวทย์ถ้าจะให้ดีนายไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกจะดีกว่านะ "เจสสิก้ายิ้มให้กับคำพูดของฟาง ซิงเจี้ยนแต่เธอก็ได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่กังวลไม่น้อย
หลังจากได้ยินคำพูดนั้นฟาง ซิงเจี้ยนก็กำกำปั้นของเขาทันที
ราชานักเวทย์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้ไปมิราเคิลเวิร์ลและมีระดับถึง 30 และเป็นนักเวทย์ที่มีอำนาจของพระเจ้าถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่งของเมืองอสูรปีศาจ จากข้อมูลที่เขาได้เรียนรู้มาระดับของนักเวทย์ที่อยู่ระดับ 30 และระดับของนักรบที่ระดับ 30 นั้นไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย
เงาของฟาง ซิงเจี้ยน ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวในขณะที่เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า "แล้วฉันจะกลับมา" หลังจากพูดเสร็จก็ก้าวออกจากรถและจากไป
เจสสิก้าส่ายหน้าและมองไปที่หลังของฟาง ซิงเจี้ยน เมื่อเขาจากไปเขาเดินอยู่คนเดียวในความมืดราวกับว่าเขาจะถูกกลืนกินเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมัน สายตาของความสงสารแวบวาบขึ้นมาในตาของเธอและเธอก็เปิดปากเหมือนต้องการจะพูดอะไร แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเธอทำแค่เพียงถอนหายใจออกมา
อีกด้านหนึ่งฟาง ซิงเจี้ยนเดินไปที่เรือประมงและสังเกตเห็นชายผิวดำคนหนึ่งยืนจ้องมองเขาอยู่ สายตาของชายผิวดำจ้องมองโดยไม่กระพริบตาเหมือนเขากำลังตรวจสอบฟาง ซิงเจี้ยนอยู่
"ฟาง ซิงเจี้ยนใช่ไหม"ชายผิวดำที่จ้องมองเขาถามขึ้น
"เขารู้จักชื่อของฉันได้ยังไง"ฟาง ซิงเจี้ยนรู้สึกตกใจไม่น้อยที่มีคนแปลกหน้ารู้จักตัวตนของเขาแต่ที่น่าตื่นตระหนักกว่านั้นก็คือ
ในเสี้ยววินาทีต่อมาเขาได้ยินเสียงลมพัดและมีกลิ่นอายของการฆ่าฟัน ฟาง ซิงเจี้ยนพยายามที่จะขยับตัวหลบออกมาจากสิ่งที่พุงเข้ามาหาเคขา แต่การโจมตีของชายคนนี้มันเร็วมาก และมีปราณดาบมากกว่า 10 อันเฉือนผ่านทางอากาศตรงมาที่เขา ปราณดาบพวกนั้นเป็นคลื่นปราณที่เกิดขึ้นจากการฟันคมดาบผ่านอากาศ และชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของปราณดาบนั้นเร็วมากและผลกระทบของมันนั้นก็แรงมากเช่นกัน
ขณะที่ฟาง ซิงเจี้ยนกำลังดิ้นรนเพื่อที่จะออกมาจากตรงนั้นเขาก็ถูกปราณดาบฟันลงบนขาและที่หน้าอกของเขา กล้ามเนื้อที่หน้าอกของเขาถูกตัดออกและเสื้อผ้าของเขาค่อยๆเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผล
ความเจ็บปวดที่แสนทรมาณและเนื้อที่แตกแยกของเขาทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วเรือนร่าง
ฟาง ซิงเจี้ยนเห็นคนรอบตัวของเขามีจำนวนมากกว่าสิบคนแต่ละคนมีผิวสีดำและสวมชุดดำราวกับว่าพวกเขาเป็นนินจา
"พวกแกคือผู้ควบคุมสายลมหรอ พวกแกมาจากตระกูลโอนาซิสใช่มั้ย"ฟาง ซิงเจี้ยนพูดอย่างเยือกเย็นขณะที่พยายามจ้องไปที่พวกเขา เขายังคงกัดฟันและอดทนต่อความเจ็บปวด
ตระกูลโอนาซิสเป็นตระกูลที่อยู่ในเงามืดเพียงตระกูลเดียวในบรรดาตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าตระกูลและเป็นเพียงตระกูลเดียวที่ควบคุมสายลมได้
ก่อนหน้านี้ปราณดาบหรือคลื่นดาบในอากาศ หรือแม้กระทั่งการฟันที่รวดเร็วมาก เป็นความสามารถและทักษะพิเศษของผู้ควบสายลม
"ฮ่าๆๆๆ" เสียงหัวเราะดังก้องและมีหญิงสาวเดินออกมาผิวที่เรียบเนียนของเธอมีสีเหมือนข้าวสาลีและด้วยโทนสีผิวของเธอคอที่เรียวและคางแหลมคมของเธอทำให้เธอดูมีเสน่ห์
แคโรไลน์ โอนาซิส จากตระกูลโอนาซิสมองไปที่ฟาง ซิงเจี้ยน
"เอาตัวเขาไป"เธฮพูดขึ้นขณะที่ยิ้มให้ฟาง ซิงเจี้ยน
เมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งชายผิวดำได้เคลื่อนมาที่หลังของฟาง ซิงเจี้ยนเขาใช้การสับที่หลังคอเพื่อให้เป้าหมายหมดสติ จากการโจมตีครั้งนี้ทำให้ฟาง ซิงเจี้ย รู้สึกเจ็บมากที่หลังคอและหมดสติไปในที่สุด สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังยิ่มให้เขาภายใต้แสงจันทร์ที่ส่งลงมา