ตอนที่ 282 เริ่มการฝึกรอบสอง!
หลังจาก24ชั่วโมง ซือ คงเจี้ยนก็เหลือบมองเวลาบนแหวนหัวใจจักรพรรดิเขา ร่างเขาค่อยๆลอยขึ้นไปในอากาศและเสียงของเขาก็ดังไปทั่วพื้นที่
“ครบกำหนดเวลา24ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ฉันจะประกาศผลของการฝึกรอบแรก”
“จำนวนผู้ที่ผ่านการฝึกคือ978คน มีเพียง3คนที่สามารถมาถึงจุดหมายได้ใน3นาที ทั้งสามก็คือหยี่ เยว่หยู่ หลิน ฮวงและหลี่ หลาง พวกเขาทั้งสามคนจะได้รับ1000แต้มจากการฝึกรอบแรก”
“มี4คนที่สามารถมาถึงได้ใน4-10นาทีและพวกเขาจะได้รับ500แต้ม”
“มี28คนที่มาถึงภายใน10-30นาทีและพวกเขาจะได้รับ300แต้ม”
“มี89คนที่มาถึงภายใน30นาที-1ชั่วโมง พวกเขาจะได้รับ200แต้ม”
“ภายใน1-3ชั่วโมง มี238คนที่มาถึงและพวกเขาจะได้รับ100แต้ม”
“มี539คนที่มาถึงภายใน3-5ชั่วโมง ดังนั้นพวกเขาจะได้รับ50แต้ม”
“มี29คนที่มาถึงภายใน5-24ชั่วโมง คนเหล่านี้จะไม่ได้รับแต้มใดๆ”
“ส่วนที่เหลือที่มาไม่ถึงภายในเวลาที่กำหนดจะตกรอบ!”
ทันทีที่ซือ คงเจี้ยนประกาศถึงผลการประเมิน เขาก็พูดต่อ“ฉันหมดหน้าที่แล้ว ผู้คุมรอบสองจะมารับช่วงต่อจากฉันแทน”
ทันทีที่เขาพูดจบ ซือ คงเจี้ยนก็ค่อยๆลอยลงมาจากอากาศและชายร่างกำยำก็ลอยขึ้นไปในอากาศแทนที่เขา
เขาดูเข้มงวดและสูงอย่างน้อย2เมตร แม้ว่าเขาจะสวมชุดทหาร กล้ามของเขาก็ยังปริออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขามีขนาดใหญ่กว่าซือ คงเจี้ยนอย่างน้อย2เท่า
“ชื่อของฉันคือ จาง ปิงและฉันคือผู้คุมคนต่อไปของพวกเธอ ฉันไม่สนว่าพวกเธอใช้พลังชีวิตไปมากแค่ไหนในรอบแรก ฉันไม่สนว่าพวกเธอเป็นใครมาจากไหน ฉันไม่สนว่าพวกเธอมีใครหนุนหลังเพราะนั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน!ฉันไม่สนว่าใครหลายคนจะถูกกล่าวว่าเป็นอัจฉริยะ สำหรับฉัน หากพวกเธอไม่อาจทนรับการฝึกรอบสองได้ พวกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับขยะ!”
จาง ปิงปลูกฝังความกลัวแก่ทุกคน เมื่อเขาประกาศอย่างกราดเกรี้ยว หลิน ฮวงและคนอื่นก็บ่นเกี่ยวกับบุคลิกของผู้คุม
“หยุดพูดจาไร้สาระกันได้แล้ว ฉันจะพูดเกี่ยวกับกฏของรอบสอง”
พวกเขาเงียบลงในทันตาเห็น และเพ่งเล็งกับสิ่งที่เขาจะกล่าวเพราะพวกเขากังวลว่าพวกเขาอาจจะพลาดสิ่งสำคัญไป
“เป้าหมายของการประเมินนั้นง่ายมาก : นั่นคือการฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้น!”
เมื่อพวกเขาได้ยิน หลายคนก็อ้าปากหวอขณะที่คิดว่าพวกเขาหูฝาดไป
แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง การสั่งให้ระดับทองขั้น3หรือแม้กระทั่งระดับทองสมบูรณ์ฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้นก็ยังเป็นไปไม่ได้!บางทีอาจมีเพียงอัจฉริยะในอัจฉริยะที่สามารถกระทำได้ การประเมินรอบนี้เป็นสิ่งที่ยากเกินไป
ในขณะที่ทุกคนกำลังจะคัดค้าน จาง ปิงก็พูดถึงกฏต่อ“แน่นอน ฉันจะไม่ขอให้พวกเธอฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้นเพียงลำพัง หากฉันต้องการจะทำอย่างนั้น คงไม่มีใครในหมู่พวกเธอที่สามารถผ่านได้”
“ในระหว่างการประเมิน พวกเธอจะมีสิทธิ์จับกลุ่มกัน3-5คนเพื่อฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้น ระยะเวลาคือ10วัน หลังจาก10วัน จำนวนศพที่แต่ละกลุ่มสามารถหาได้จะต้องเป็น2เท่าของจำนวนสมาชิก! หากเธอจับกลุ่ม3คน พวกเธอก็จะต้องมีศพมอนสเตอร์หลุดพ้นในมือ6ศพ สำหรับกลุ่ม5คน พวกเธอก็จะต้องมีศพ10ศพ!หากกลุ่มไหนมีศพไม่ครบตามจำนวน ทุกคนในกลุ่มจะถือว่าตกรอบ!”
“เมื่อพวกเธอเลือกสมาชิกในกลุ่มแล้ว พวกเธอจะไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ สมาชิกกลุ่มจะไม่มีสิทธิ์ออกจากกลุ่ม แม้ว่าสมาชิกกลุ่มจะตาย กลุ่มก็จะยังคงต้องหาศพให้ครบจำนวนดั่งเดิม ไม่มีการลดใดๆ มิฉะนั้น พวกเธอจะถูกพิจารณาให้ตกรอบ!”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเป็นการฝึกแบบกลุ่ม พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจ แต่ทว่า หลังจากที่ฟังต่อไป พวกเขาก็ตระหนักว่าการประเมินไม่ใช่เรื่องง่าย
เวลาที่จำกัดและจำนวนมอนสเตอร์ที่จะต้องฆ่า ทุกคนต่างเลือกตั้งกลุ่ม5คนเพราะโอกาสในการล่ามอนสเตอร์หลุดพ้นจะสูงกว่า
อย่างไรก็ตาม มีเวลาเพียง10วันสำหรับการประเมิน ยิ่งจำนวนสมาชิกสูงมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งต้องฆ่ามากเท่านั้น หากพวกเขาตั้งกลุ่ม5คน นี่ก็หมายความว่าพวกเขาต้องฆ่ามอนสเตอร์หลุดพ้น10ตัวใน10วัน โดยเฉลี่ยนแล้ว พวกเขาจะต้องฆ่าวันต่อวัน หากพวกเขาตั้งกลุ่ม3คน พวกเขาจะต้องฆ่าเพียง6ตัวใน10วัน ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ตัวหนึ่งได้ใน1.5วัน มันก็จะไม่ใช่ปัญหา
ข้อกังวลอีกอย่างคือเกณฑ์การประเมิน เมื่อกลุ่มถูกตั้งขึ้น พวกเขาจะต้องทำงานร่วมกันเท่านั้น พวกเขาจะต้องกลมเกลียวกัน ทำงานร่วมกันอย่างสามัคคีเพื่อให้ผ่านการประเมิน
ดังนั้น การเลือกสมาชิกจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ หากมีข้อขัดแย้งใดในหมู่พวกเขาหรือพวกเขาพบว่าสมาชิกค่อนข้างอ่อนอแอ พวกเขาก็จะตกอยู่ในปัญหา
จากนั้นหลิน ฮวงก็สงสัยว่าเขาควรจะออกจากกลุ่มและบรรลุภารกิจเพียงลำพัง เนื่องจากเขาเพียงอยู่ในระดับทองขั้น2 มันคงจะไม่มีใครอยากอยู่กลุ่มเดียวกับเขา
ขณะที่เขากำลังคิด หยี่ เยว่หยู่ก็สบตากับหลี่ หลาง
“เราสามคนควรจะตั้งกลุ่มกัน?”หยี่ เยว่หยู่ชิงถามก่อน
“ใช่แล้ว ฉันเองก็คิดแบบนั้น!”หลี่ หลางเห็นด้วยกับเธอทันที
หลิน ฮวงเลิกคิ้วขึ้น มองไปที่ทั้งคู่“ไม่กลัวว่าฉันจะเป็นตัวถ่วงรึไง?”
“มันก็แค่การฝึก กรณีที่เลวร้ายสุดคือเราจะไม่ผ่านแต่เราก็ไม่ได้เสียอะไรสักหน่อย”หลี่ หลางดูไม่สนใจอะไร
“เขาไม่สนใจแต่ไม่ใช่ว่าเธอมาที่นี่เพื่อฟีนิกส์เพลิง?”หลิน ฮวงหันมามองหยี่ เยว่หยู่(ไม่เรียกผม คุณละกันมันดูไม่สนิท)
“ฉันไม่รู้แม้กระทั่งว่าฟีนิกส์เพลิงอยู่ไหน แม้ว่าฉันจะสามารถหามันพบ ฉันก็คงไม่สามารถฆ่ามันได้”หยี่ เยว่หยู่ส่ายหัว“ฉันจะมองหามอนสเตอร์อื่นเพื่อเลื่อนระดับหลังจากที่ออกจากที่นี่ เนื่องจากฉันรอมาครึ่งปีแล้ว ฉันคงไม่คิดอะไรหากต้องรอไปอีกสักเดือนหรือสองเดือน”
แน่นอน หลิน ฮวงรู้ว่าทั้งคู่เป็นห่วงเขา นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่ยอมแยกตัวออกไป แต่ทวว่า เขาก็ลังเลว่าควรจะเข้าร่วมด้วยไหม หากพวกเขาตั้งกลุ่มกัน เขาคงจะต้องแสดงความสามารถบางส่วนให้ทั้งคู่เห็นเว้นแต่เขาจะไม่ทำอะไรและปล่อยให้ทั้งคู่ลงมือ แน่นอน เขาคงจะรู้สึกแย่หากต้องทำเช่นนั้น
ขณะที่หลิน ฮวงยังคงลังเล กลุ่มชายหนุ่มที่สวมชุดกองกำลังพิฆาตอสูรก็เดินมาทางหยี่ เยว่หยู่
“คุณหยี่ มาตั้งกลุ่มเพื่อฆ่าตำแหน่งของฟีนิกส์เพลิงกันเถอะครับ”หัวหน้ากล่าวโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองหลิน ฮวงและหลี่ หลาง
“ฉันได้เลือกสมาชิกกลุ่มของฉันแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่อาจร่วมกลุ่มกับพวกคุณได้”หยี่ เยว่หยู่ปฏิเสธ
พวกเขาตกตะลึง ในไม่ช้า พวกเขาก็สังเกตเห็นหลิน ฮวงและหลี่ หลางที่ยืนข้างเธอ หัวหน้าสามารถระบุได้ทันทีว่าหลิน ฮวงเพียงอยู่ในระดับทองขั้น2เท่านั้น
“คุณหยี่ เพื่อนของคุณเพียงอยู่ในระดับทองขั้น2 แม้ว่าเขาจะมีทักษะเคลื่อนไหวที่ดี แต่นั่นคงเป็นทั้งหมดที่เขามี เมื่อเผชิญกับมอนสเตอร์หลุดพ้น เขาคงจะทำอะไรไม่ได้ นอกจากเป็นตัวถ่วง...”
“คุณไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นต่อการตัดสินใจของฉัน”หยี่ เยว่หยู่พูดขัดขึ้น เธอโกรธกับทัศนคติเขาที่มีต่อหลิน ฮวงเพราะเธอกลัวว่าหลิน ฮวงจะรู้สึกไม่ดี“โปรดออกไปด้วย ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของพวกคุณ!”
“นี่...มันยากสำหรับเราที่จะอธิบาย”ใบหน้าของชายคนนั้นกลายเป็นปั้นยาก พวกเขาคือส่วนหนึ่งของกองทัพและสมาชิกของกองทัพต่างถูกผูกมัดด้วยหน้าที่ ก่อนที่จะเข้าร่วมการฝึก พวกเขาได้รับภารกิจเพื่อช่วยหยี่ เยว่หยู่ในการเลื่อนระดับ อย่างไรก็ตาม เพราะหยี่ เยว่หยู่กล่าวเช่นนั้น มันจึงทำให้พวกเขาตกอยูในที่นั่งลำบาก
“คุณไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ฉันจะอธิบายมันต่อปู่ฉันเอง ฉันเป็นคนที่กล่าวว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือเอง!”หยี่ เยว่หยู่พูดด้วยสีหน้าเย็นชา
แม้ว่าเธอจะกล่าวเช่นนั้น พวกเขาก็ยังไม่กล้าเดินหนีไปเพราะพวกเขากังวลว่าหยี่ เยว่หยู่จะตำหนิพวกเขา หากนั่นเกิดขึ้น ตำแหน่งของพวกเขาในกองกำลังพิฆาตอสูรคงไม่มั่นคง หยี่ ตงไล่คือผู้ก่อตั้งกองกำลังพิฆาตอสูร หัวหน้าของกองทัพคือลูกศิษย์ของลูกศิษย์เขา
ในขณะนั้นเอง จาง ปิงก็กระแอมลำคอและกล่าว“พวกเธออาจสร้างกลุ่มได้ในทีหลัง หากพวกเธอมีคำถามอะไร โปรดยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้”
หลิน ฮวงยกมือขึ้น
เมื่อเห็นว่าคนที่ยกมือขึ้นคือชายหนุ่มระดับทองขั้น2 จาง ปิงก็เหลือบมองซือ คงเจี้ยนและพยักหน้า“โปรดพูดมา”
“ผมสามารถใช้ทักษะใดได้บ้างในระหว่างการประเมิน?มีข้อจำกัดอะไรไหมครับ?”หลายคนอยากรู้เช่นกัน
“เธอสามารถใช้ได้ทุกทักษะที่เธอต้องการและไม่มีข้อจำกัอะไร แม้ว่าเธอจะมีอาวุธระดับเทพในมือ เธอก็สามารถใช้มันได้”
หลังจากการตอบกลับ หลิน ฮวงก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง
“มีคำถามอะไรอีกงั้นหรอ?”จาง ปิงถาม
“ผมสามารถไม่เข้าร่วมกลุ่มใดและฆ่ามอนสเตอร์เพียงลำพังได้ไหม?”หลิน ฮวงถาม
จาง ปิงหรี่ตาและมองหลิน ฮวงขณะที่คนอื่นต่างหัวเราะใส่เขา พวกเขาต่างคิดว่าที่หลิน ฮวงถามเช่นนี้เพราะเขาคงรู้ว่าไม่มีใครอยากจะร่วมกลุ่มเดียวกันกับเขา อย่างไรก็ตาม ซือ คงเจี้ยนกลับไม่คิดเช่นนั้นเพราะเขาดูมั่นใจ
“ไม่ เธอไม่สามารถ มันคือการประเมินแบบกลุ่ม หากเธอไม่อาจตั้งกลุ่มได้ เธอจะตกรอบ!”จาง ปิงปฏิเสธ
หลิน ฮวงขมวดคิ้ว มันไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะค้นพบลาวาที่มีพลังวิญญาณ แน่นอน เขาไม่ต้องการจะตกรอบโดยเร็ว
“นายพอใจกับคำตอบไหม?จะสร้างกลุ่มกับเราได้รึยัง?”หลี่ หลางเลิกคิ้วขึ้นและถามหลิน ฮวง
“คงงั้น”
เมื่อได้ยินคำตอบของเขา อารมณ์ของหยี่ เยว่หยู่ก็ดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเธอก็บอกกับพวกกองกำลังพิฆาตอสูรว่า“ฉันจะไม่ตามพวกคุณ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในรอบนี้ หลังจากการประเมินรอบนี้ ฉันจะติดต่อพวกคุณไปหากมันจำเป็น”
พวกเขาก้มหัวให้เธอและจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป กลุ่มคนจากสมาคมนักล่าก็มาหาหลี่ หลาง แต่ทว่า หลี่ หลางก็ได้ปฏิเสธพวกเขาไปเช่นกัน
กลุ่มของทั้งสามคนจึงถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ