ตอนที่ 145 เงาสะท้อน (FREE)
ใครเป็นคนกำหนดเรื่องเหล่านี้?
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในใจ ฟาง เจิ้งจือ ตลอดเวลา
เขามองไปที่ ทะเลสาบอีกครั้ง สายลมพัดเบาๆที่พื้นผิว ภาพสะท้อนเองก็สั่นไหวเล็กน้อย
เป็นเพราะลม? การเชื่อมต่อระหว่างโลกภายนอกและภายในมิติพิเศษ เป็นภาพสะท้อน...
ฟาง เจิ้งจือ พยายามหาความเชื่อมโยงกัน
“เจิ้งจือ...ดูนั่น?!” ทันใดนั้นเสียงของ เหยียน ซิว ก็ดังขึ้นมา นิ้วชี้ไปที่ ดวงจันทร์
เขาเห็น เหยียน ซิว ชี้ไปที่เงาจางๆ
“ข้างบนนั่น?” ฟาง เจิ้งจือ ยกหัวดูอย่างสงสัย
มันเป็นสิ่งเดียวกับที่เขาเห็นในโลกก่อนหน้านี้
เหมือนรูปร่างของบางสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่บนดวงจันทร์
แต่ทันใดนั้นเขาก็เบิกตาขึ้น
เพราะเงานั้นไม่ใช่อาวุธอย่างเดิม
แต่กลับเป็นเงาผู้หญิงกำลังเต้นรำอยู่!
“นั่นเป็นผู้หญิงที่เจ้าเห็น?” เหยียน ซิว มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
“ไม่ที่ข้าเห็นไม่ได้เป็นเงา ข้าเห็นคนจริงๆ...” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเขาไม่แน่ใจว่าที่เขาเห็นเป็นคนจริงๆหรือเปล่า แต่เขาแน่ใจว่าไม่ใช่เงาแน่นอน
“คนจริงๆ?” เหยียน ซิว สับสนอีกครั้ง
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะเข้ากำลังตกอยู่ในความสับสนเช่นเดียวกัน
อะไรคือความเชื่อมโยงกันระหว่างเงานี้...กับผู้หญิงในโลกเก่าที่เขาเห็น?
หรือนี่คือเงาของนาง?!
เงาที่สะท้อนลงมายังทะเลสาบ?
ต่อให้จะพยายามหาคำอธิบาย มันก็ดูแปลกอยู่ดี ร่างกายจริงของนาง แยกออกจากเงาที่ปรากฎนี้
ถ้าเป็นแบบนี้ เงาของนางได้เปลี่ยนแปลงเป็นเงาของอาวุธอันหลากหลาย...
ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังดวงจันทร์แล้วก้มลงมองที่ทะเลสาบ เขาเกิดความกล้าหาญขึ้นมาทันที
“ข้าจะลงไปอีกครั้งเพื่อยืนยันความคิดของข้า” ฟาง เจิ้งจือ มอง เหยียน ซิว ด้วยความจริงจัง
“งั้นข้าไปด้วย!” เหยียน ซิว ตอบทันที
“ไม่เจ้าต้องรออยู่ที่นี่ ข้าจะเอาเชือกผูกเอวไว้ ถ้าข้าหยุดเคลื่อนไหว...ให้เจ้ารีบดึงขึ้นมาทันที!” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
“เจ้าคิดจะทำอะไรกัน?” เหยียน ซิว พยายามคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ต้องการทำอะไรกันแน่ แต่ก็คิดไม่ออก
“ข้ายังไม่รู้ตอนนี้ ข้าจะรู้ได้เมื่อลองลงไปก่อน” ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้จะบอกยังไง
“อืม” เหยียน ซิว พยักหน้า
ฟาง เจิ้งจือ มองไปรอบๆ เพื่อหาวัสดุมาทำเชือก
เขาเห็นต้นหวายจำนวนมาก จึงนำมันมาทำเชือกหวายด้วยความช่วยเหลือของ เหยียน ซิว
ในที่สุดเขาก็ได้เชือกที่ความยาวเหมาะสม...
เขาลองดึงมันดูเพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง
ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าให้ เหยียน ซิว ก่อนจะกระโดดลงไป
เหยียน ซิว ที่จับเชือกอยู่ในมือ ยืนนิ่งไปที่ทะเลสาบ ไม่ได้ขยับไปไหน
“พลุ้บ!”
ทันใดนั้น มีหัวขึ้นมาโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ
แน่นอนว่า เหยียน ซิว ต้องได้ยิน เขาหันหน้าไปมองทิศทางนั้นทันที
เมื่อเขาเห็นคนที่โผล่ขึ้นมา ท่าทีของเขาเปลี่ยนเป็นดูไม่ดีทันที
“เหยียน ซิว?!” คนที่อยู่ในทะเลสาบก็เห็น เหยียน ซิว เช่นเดียวกัน เขาแสดงความแปลกใจออกมา ยิ่งมองไปยังสวนผลไม้ที่อยู่หลัง เหยียน ซิว เขายิ่งแปลกใจกว่าเดิม
คนที่โผล่มาคือ ลู่ ยู่เฉิน ที่ตอนนี้กำลังพูดไม่ออก
การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบๆทำให้เขาต้องใช้เวลาในการเรียกสติกลับคืนมา
เขามองไปรอบๆด้วยความไม่เชื่อ
การแสดงออกของ เหยียน ซิว ยิ่งดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ
เพราะว่า....
ตอนนี้เขากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ เหยียน ซิว ไม่สามารถวิ่งหนีไปได้เพื่อความปลอดภัยของ ฟาง เจิ้งจือ เขาไม่สามารถปล่อยเชือกได้
ลู่ ยู่เฉิน คิดว่า เหยียน ซิว จะวิ่งหนีไปทันทีที่เห็นเขา แต่ เหยียน ซิว กลับจ้องมองเขาอย่างใจเย็น
“หืม?” ลู่ ยู่เฉิน นิ่งเงียบ หรืออาจจะมีกับดักอีก?
เรื่องที่เกิดขึ้นในป่าคือ ลู่ ยู่เฉิน พบเจอกับกับดักมากมาย ยิ่งตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆ เหยียน ซิว ทำให้เขายิ่งมันใจว่านี่คือกับดักแน่นอน
“ฟาง เจิ้งจือ ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” ลู่ ยู่เฉิน มองไปรอบๆ แต่หา ฟาง เจิ้งจือไม่พบ เขาจึงหันกลับไปมองที่ เหยียน ซิว อีกครั้ง
เขาหยุดนิ่ง
เขาพึ่งรู้ว่า เหยียน ซิว กำลังถือเชือกอยู่
“เข้าไปดูสิ!” ลู่ ยู่เฉิน สั่งผู้ติดตามข้างหลัง
ยังไงกับดักของ เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ ก็ทำได้แค่ถ่วงเวลาพวกเขาเท่านั้น
แล้วถ้าได้รับบาดเจ็บ?
มันก็เป็นแผลเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เด็กหนุ่มที่ติดตามเขามาทุกคนอยู่ในระดับผนวกดาราทั้งนั้น แผลเล็กน้อยไม่มีทางทำให้พวกเขาถึงตาย
ผู้ติดตามทั้ง 7 ลังเล แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน ลู่ ยู่เฉิน
ท่าทีของ เหยียน ซิว ยิ่งตึงเครียดกว่าเดิม เมื่อเห็นทั้ง 7คนเข้ามาใกล้ พัดสีทองถูกกางขึ้นมาทันที
ลู่ ยู่เฉิน จ้องเขม็งทันที
แน่นอนเขารู้ว่าพัดนี้เป็น 1 ในสมบัติทั้ง 5 ของตระกูลเหยียน ยังไงก็ตามพลังของ เหยียน ซิว นั้นมีไม่มากนัก พลังของพัดจึงไม่ได้น่ากลัวเท่าไร
นี่เป็นโอกาส...
ถ้าพวกเขาทั้งคู่อยู่ในระดับผนวกดาราเหมือนกัน ลู่ ยู่เฉิน คงไม่กล้าทำอะไรมากนัก แต่ถ้าเป็นระดับสะท้อนสวรรค์ก็อีกเรื่อง
ลู่ ยู่เฉิน สร้างน้ำวนขึ้นในทะเลสาบทันที
เหยียน ซิว เม้มปาก สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือในมิติพิเศษของ ลู่ ยู่เฉิน มีดวงดาวแห่งน้ำอยู่ ซึ่งมันก็เป็นตามที่เขาคิด
ลู่ ยู่เฉิน สามารถเชื่อมต่อกับน้ำในทะเลสาบได้
ถือเป็นเรื่องที่เสียเปรียบมาก ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากสู้ที่นี่เลยแม้แต่น้อย
แต่....
เขาทำอะไรไม่ได้
ลู่ ยู่เฉิน โจมตี พร้อมกับผู้ติดตามทั้ง 7 พวกเขาเกือบจะมาถึงฝั่งแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับความสามารถของพวกเขานัก
“กลับโลกสวรรค์!” เหยียน ซิว ไม่ลังเล สีสันมากมายระเบิดออกมาจากพัดของเขาในทันที
เขตแดนภูเขาและแม่น้ำปรากฎขึ้นมาทันที
เหล่าผู้ติดตามทั้ง 7 รีบวิ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว แต่เมื่อมาถึงเขตแดนพวกเขากลับช้าลงทันที
ทำให้ ลู่ ยู่เฉิน ต้องใช้น้ำโจมตี เหยียน ซิว ก่อน
“ฟุบ!”
เหยียน ซิว โบกพัดลง
คลื่นพลังสีแดงปรากฎขึ้นและตัดผ่านคลื่นน้ำที่เข้ามาโจมตีทันที
แต่น้ำที่ถูกตัดผ่านั้นกลับเข้าโจมตีใส่ทั้ง 2 ข้างของ เหยียน ซิว แทน
...
ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่ใต้น้ำ สังเกตุเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านบน แต่เขายังคงมุ่งมั่นที่จะลงไปให้ถึงก้นทะเลสาบ
ความมืดมิดรอบๆ ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่กล้าลดการป้องกันตัวลง
ดวงตาของเขาเปิดอยู่ แต่มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง
ฟาง เจิ้งจือ ดำลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆ แรงกดดันจากน้ำยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งเขาอาจจะทนมันได้ แต่อากาศของเขานั้นก็เริ่มลดน้อยลงทุกที
การที่จะสร้างถังออกซิเจนนั้นก็ดูไม่น่าเป็นไปได้
...
แต่ ต่อให้เขาไม่สามารถสร้างถังออกซิเจนได้ แต่เขาก็ยังสามารถหาออกซิเจนได้
ฟาง เจิ้งจือ เปิดปากออกและปล่อยฟองอากาศออกไปบนผิวน้ำ ก่อนจะควบคุมมันมาที่เขาอีกครั้งหนึ่ง
เขาดำลึกลงไปเรื่อยๆ
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ความลึกเท่าไรแล้ว
แต่ในที่สุดเขาก็สัมผัสโดนกับบางอย่างแข็งๆ มันไม่ใช้โคลนหรือก้นทะเลสาบ มันมีพื้นผิวราบเรียบและแข็ง
นี่มัน!
หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ เต้นรัว เอาหน้าเข้าไปใกล้วัตถุนั้น เพราะตอนนี้รอบๆตัวเขามืดมาก การที่จะมองเห็นสิ่งนั้นให้ชัดจะต้องเอาหน้าเข้าไปใกล้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...
เพจหลัก : Double gate TH