Chapter 98 -ทุกคนกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
Chapter 98 -ทุกคนกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
ไม่มีใครคิดว่าซูซางเฟยจะถูกลั่วเทียนฆ่าในการโจมตีเพียงครั้งเดียว.
แม้กระทั่งหลิงหานซานผู้ที่อยู่ในขึ้นปราณจิตวิญญาณที่ได้ชมฉากเหล่านั้นก็ยังไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์นี้.
ในเวลานั้น...
หลิงหานซานรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้จากหัวใจของเธอ
มีความประหลาดใจเล็กน้อยผสมกับความรังเกียจ.
มันเป็นไปได้ที่เธอประหลาดใจอย่างมากเพราะลั่วเทียนได้สร้างความอัฒจรรย์อีกครั้งนึง ความรู้สึกรังเกียจก็คือหลีซูเอ๋อร์ได้มีเหตุผลอีกอย่างที่เธอจะอยู่ต่อ.
แต่ดูเหมือนว่าหลิงหานซานลืมอะไรบางอย่างที่สำคัญ.
ถ้าเธอจำข้อตกลงที่เธอได้ทำไว้ให้กับหลี่ซูเอ๋อร์ จะเห็นได้ถึงความรู้สึกรังเกียจของเธอมากที่สุด.
หลิงหานซานได้สังเกตลั่วเทียนอย่างจริงจังและจดจำใบหน้าของเขา คำถามที่เป็นไปไม่ได้และแปลกอย่างมากเกิดขึ้นในในของเธอ “ถ้าเขาและหมายเลขหนึ่งของเมือนภาแยก มู่หรง หวันเจี่ย สู้กันผลที่จะเกิดขึ้นคือ? เขาสามารถทำปาฎิหารอย่างอื่นได้หรือไม่?”(TL:อันก่อนๆแปลเป็น มู่หรงหวันจิน)
“เอ๋?”
“เกิดอะไรขึ้นกับข้า?”
“แม้ว่าลั่วเทียนบ่มเพาะมาเป็นพันปี เขาก็ไม่มีทางที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามกับมู่หรงหวันเจี่ยได้ ทำไมข้าถึงได้คิดเรื่องงี่เง่าเหล่านั้น?”หลิงหานซานเริ่มหัวเราะกับตัวเอง
โคลนบนพื้นจะเปรียบเทียบกับดาวบนฟ้าได้อย่างไร?
มันเป็นไปได้ยากอย่างมาก!
แน่นอนหลิงหานซานไม่อาจทราบได้ว่าดาวบนฟ้าเป็นไปได้หมอกควัน!
“5555…”
“ชนะหัวหน้า! ชนะหัวหน้า! ฆ่าหัวหน้าซูซางเฟย 555…”
ทันใดนั้น...
ไม่ทราบว่าใครในฝูงชนตะโกนออกมา แต่มันทำให้ทุกคนหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ สายตานับไม่ถ้วนมองไปที่ลั่วเทียนต่อๆกัน เขามีสายตาที่เย็นชาและมีบรรยากาศที่หยิ่งยโสอย่างมาก ใกล้ๆเท้าของเขามีร่างที่เป็นสองส่วนของซูซางเฟยกองอยู่พร้อมกับแอ่งเลือกขนาดใหญ่แทบเท้าของเขา.
จตุรัสกลายเป็นเงียบอีกครั้ง.
ความเงียบค่อนข้างน่ากลัว.
“เขา เขา เขาเอาชนะได้จริง...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เงินข้า เงินข้า! ข้าได้สูญเสียอีกครั้งและแน่นอนว่าครั้งนี้ข้าหมดตัวแล้ว!”
“ซูซางเฟยที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นปราณเชี่ยวชาณขั้น 9 ถูกฆ่าโดยเขา อย่างนั้นผู้คนในเมืองภูเขาหยกทุกคนจะต้านเขาได้?”
“เด็กคนนี้ของตระกลูลั่วยังเด็กเกินไป เขาไม่ทราบหรือว่าซูซางเฟยและคนอื่นๆเป็นสาวกของนิกายเมฆคราม? ฆ่าซูซางเฟยและคนอื่นๆก็เท่ากับเป็นการล่วงเกินนิกายเมฆครามและผลของนิกายเมฆครามอาจจะหมายถึงการล้างตระกูล ตระกูลหนึ่งด้วยตัวของพวกเขาเอง.”
ฝูงชนเริ่มซุลซิบ.
ลั่วเทียนกำลังมองไปยังทิศใดทิศหนึ่งด้วยริมฝีปากโค้ง จากนั้นเขาก็เยาะเย้ยและพูดว่า: “ซูเหยาซงมันควรจะเป็นเจ้าตอนนี้.”
ดวงตาของซูเหยาซงเย็นจืดและหมองคล้ำขณะที่เขาถอนหายใจขณะมองขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเอง“เป็นไปได้หรือไม่ว่าสวรรค์ต้องการให้ตระกูลซูพินาศในวันนี้?”
“ซางเฟย ข้าจะพาเขาลงหลุมพร้อมกับเจ้า.”
“สาวกทุกคนของตระกูลซูจงฟัง! ทุกคนต้องมุ่งความสนใจไปกับการฆ่าลั่วเทียนเพื่อแก้แค้นให้กับซูซางเฟยและเหล่าสาวกตระกูลซูที่ตกตาย!”
“ฆ่าเขา!”
ทันใดนั้น...
บรรดาสาวกตระกูลซูวิ่งขึ้นไปยังเวที.
ซูซางเฟยตายหมายถึงความกล้าหาญของซูเหยาซงมอดลง.
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือสู้ด้วยชีวิตที่อยู่บนเส้นด้าย ตราบเท่าที่หัวหน้าตระกูลลั่วตาย ตระกูลซูยังเป็นผู้ปกครองเมืองภูเขาหยก.
ด้วยความคิดของเขา ซูเหยาซงวิ่งออกไปอย่างมุ่งมั่นเพื่อฆ่า!
ซ่งหยวนหนานกลายเป็นกังวลและตะโกน“สาวกทุกคนของตระกูลซ่งจงฟัง!ปกป้องลั่วเทียนจากคนของตระกูลซูที่เข้ามาใกล้!”
การฆ่าซูซางเฟยที่อยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่ลั่วเทียนก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้ นี่เป็นการแก้แค้นในนามของตระกูลซ่ง.
ซ่งหยวนหนานรู้สึกขอบคุณอย่างมากในใจ แม้ว่าเขาจะยอมแพ้ในชีวิตของเขา เขาก็จะพยายามอย่างมากที่สุดที่จะปกป้องลั่วเทียนในวันนี้.
“ปกป้องหัวหน้า!”
“ฆ่าไอ้ลูกโสเภณีเหล่านั้นที่มาจากตระกูลซู!”
“พี่น้องตามมา ฆ่าาาา!!!”
บรรดาสาวกตระกูลลั่วปลุกพลังฮึกเฮิมทั้งจิตวิญญาณและพลัง พวกเขาวิ่งกรูไปยังเวทีพร้อมกับจิตสังหาร.
ลั่วเทียนยิ้มเบาๆขณะมองไปยังพี่น้องของเขาและพึมพำ“มีพี่น้องที่อยู่เบื้องหลังนี้มันทำให้ข้ารู้สึกดีมาก.”
นี่มันแตกต่างจากเกมส์.
นี่คือความเป็นจริง ในเวลาแห่งความเป็นตาย ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้เลือดเขาเดือด เขาไม่ลังเลที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อพวกเขา!
ทันใดนั้น...
ลั่วเทียนกระโดดขึ้นไปบนอากาศและตะโกน “ตระกูลซ่งและตระกูลลั่วถอนตัว! ออกไปจากพื้นที่นี้ให้เร็ว!”
“ข้าจะจัดการคนเหล่านี้ให้หมด!”
เรากำลังพูดถึงฆ่าประสบการณ์จำนวนมากยังไม่รวมถึงแต้มไร้พ่าย ดังนั้นลั่วเทียนไม่อาจปล่อยให้มันเสียไปได้แม้แต่แต้มเดียว.
ยิ่งกว่านั้น...
นอกจากนี้เขาไม่ต้องการให้คนอื่นตายด้วยน้ำมือของตระกูลซู.
ซ่งหยวนหนานมองไปที่ท่าทีที่รุนแรงของลั่วเทียน เขามองอย่างขุ่นเคืองและลังเลก่อนที่เขาจะตะโกน“สาวกตระกูลซ่งทั้งหมด ถอนกำลัง!”
เขาเชื่อในลั่วเทียน.
เมื่อซ่งหยวนหนานสั่งให้ตระกูลของเขาถอนตัว ตระกูลลั่วเชื่อมั่นในตัวของเขามากกว่านั้น.
วิ่งเข้ามาดั่งน้ำมาและถอนตัวออกไปดั่งน้ำออก บวกกับสาวกตระกูลซูตอนนี้พวกเขาเต็มเวทีภายในเวลาไม่กี่วินาที.
แม้กระทั่งปราณเชียวชาญสุดยอด ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ให้กับคนทั้งหมด.
ไม่ต้องพูดถึงลั่วเทียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของซูซางเฟย สำหรับผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาในเวลานี้มันง่ายที่จะปลิดชีวิตของเขา.
ซูเหยาซงมีท่าทีเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขาขะณที่เย้ยหยันอกมา“ลั่วเทียน ดูเหมือนเจ้าจะให้ค่าตัวเองมากเกินไป.”
ลั่วเทียนยิ้มน้อยๆและตอบ “บิดาคนนี้ตีค่าตัวเองมากแล้วยังไง? เข้ามากัดข้าสิ.”
“ฮึ่ม!”
“ลองดูว่าเจ้าจะทำหน้าตาอย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหน ขึ้นไปและฆ่าเขา!”ซูเหยาซงสั่ง.
สาวกชั้นยอดของตระกูลซูกว่าร้อยเคลื่อนไหวขึ้นไปโจมตีอย่างพร้อมเพียงกันและปล่อยการโจมตีที่แรงที่สุดในชีวิตของพวกเขา พวกเขาเห็นได้ชัดว่าถ้าลั่วเทียนไม่ตายวันนี้พวกเขาก็จะทำภายหลัง.
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาทั้งหมดรีบวิ่งออกไปโดยไม่คิดถึงชีวิตตนเอง.
ลั่วเทียนยิ้ม เขามองซูเหยาซงที่อยู่ไม่ไกลเกินไปและพูดเสียงดัง“ข้าจะให้เจ้าได้สัมผัสกับด้านที่บิดาคนนี้กระทำ.”
หลังจากที่พูด...
ลั่วเทียนก็เกร็งและตะโกน “Level 2 Berserk!”
“ฮู่มมมม~...”
พลังสี่เท่าระเบิดออกมา.
ในทันที...
ลั่วเทียนคำรามอีกรอบ“หมื่นฟ้าคำราม!”
ชั้นเมฆพายุก่อตัวเหนือเวทีอย่างฉับพลัน ฟ้ารองและฟ้าแลบก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากการกดดันอย่างต่อเนื่อง.
เจ้าคิดว่ามันจะจบแค่นี้?
มันยังห่างไกลอย่างมาก...
ก่อนที่หมื่นฟ้าคำรามจะสำแดงลั่วเทียนก็พึมพำ “เสือ-สิงห์คำรามขยี้วิญญาณ!”
“กรรรรร~...”
เสียงคำรามที่คล้ายกับเสือและสิงโตที่จู่โจมมนุษย์ในป่าด้วยเสียงทีทรงพลังและมีรูปแบบคลื่น คนที่อยู่ในระดับปราณเชียวชาญขั้น 6 สามารถจัดการคนอื่นได้หลายคน นอกจากนี้ทักษะการต่อสู้ระดับ 6 ทำให้ตรกูลซูททั้งหมดที่วิ่งขึ้นไปล้มลงทันที.
ช่วงต่อไปเป็นรอบที่สอง...
ลั่วเทียนยิ้มอย่างฉกรรจ์ “หมื่นฟ้าคำราม บดขยี้มันซะ!”
“ตูม~”
“ตูม~”
“ตูม~”
สายฟ้านับไม่ถ้วนผ่าลงมาบนเวที มันแผดเผาและสังหารหมู่อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีใครต่อต้านได้.
“ติ้ง!”
“ติ้ง!”
“ติ้ง!”
ในจิตใจของลั่วเทียนเหมือนมีคนกำลังจุดประทัดในช่วงตรุษจีน มันทำทุกอย่างไม่หยุดนิ่ง.
ประสบการณ์,พลังปราณและแต้มไร้พ่ายของเขาพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกลิ่นอายแห่งการสังหารของเกราะเลือดปีศาจก็พุ่งขึ้นเช่นกัน.
เลือดสดๆได้ระเบิดขึ้นทุกที่ทำให้ทุกแห่งมีแต่หมอกเลือด.
กว่าครึ่งของสาวกตระกูลซูได้ตายไปแล้ว แต่ลั่วเทียนก็ไม่ยอมปล่อยให้คนอื่นหนี เขาเปิดหมื่ฟ้าคำราม อีกครั้ง.
เมื่อคิดถึงต้องซ่อนพลังของเขา ลั่วเทียนจึงได้ทำการยั้งมืออยู่บ้าง.
ถ้าเขาปล่อยให้พวกเขาหลบหนี ใครจะรู้ว่าวันใดที่พวกเขากลับมาแก้แค้น?
“ตูม~!”
เมื่อหมื่นฟ้าคำรามรอบสองจบลง เหล่าสาวกตระกูลซูที่บาดเจ็บในรอบแรกก็ตายหมดทันที.
ลั่วเทียนเสบผมของเขาก่อนที่จะตะโกนอย่างโดดเด่น “เวรเอ้ย ข้าต้องการถามอะไรบางอย่าง ใครต้องการเศษเนื้อเหล่านี้บ้าง?!”
ในเวลานั้น...
“ติ้ง!”
“เกราะเลือดปีศาจได้ดูดซับจิตสังหาร 100 จุด, พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 1%.”
“จิตสังหารของเกราะเลือดปีศาจเต็มแล้ว.”
เกราะเลือดปีศาจในใจของเขาเริ่มมีเส้นเลือดสีแดงเต้นไปมา เช่นเดียวกับอุปกรณ์ที่เติบโตได้ในเกมส์ เมืองลั่วเทียนมองไปที่ค่าสถานะของเกราะเลือดปีศาจ...
เขาก็ตะลีงทันที!
--------------