ตอนที่แล้วEG บทที่ 158 เพิ่มจำนวนเงินต่อไปเรื่อยๆ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 160 การขายส่งอุปกรณ์ของอุตสาหกรรมเบา (อ่านฟรี)

EG บทที่ 159 ขอเงินกู้เพิ่มมากขึ้น (อ่านฟรี)


เฝิงหยู่รู้ว่าการโกหกเรื่องข่าวที่ได้รับฟังมาจากผู้นำระดับอาวุโสจะทำให้ฟู่กวางเจิ้งรู้สึกตกใจ เขาหวังว่าข่าวนี้จะทำให้ฟู่กวางเจิ้งสามารถไปโน้มน้าวครอบครัวของเขาเพื่อให้เฝิงหยู่ยืมเงินหรือไม่ก็ช่วยให้เฝิงหยู่ได้เงินกู้จากธนาคารฮ่องกงได้

ฟู่กวางเจิ้ง รวมถึงครอบครัวของเขาคิดมาเสมอว่าเฝิงหยู่มีคนหนุนหลังที่มั่นคงและมีอำนาจมาโดยตลอด เบื้องหน้าพ่อแม่ของเขาอาจจะเป็นแค่ชาวไร่ แต่บางทีเขาอาจจะมีคอนเนคชั่นที่แข็งแรงซึ่งคนอื่นๆ ไม่รู้ก็เป็นได้

หากเฝิงหยู่ไม่ได้รับการหนุนหลังที่มั่นคง เขาจะรู้ข่าวนี้มาได้อย่างไร? แล้วเฝิงหยู่จะไปทำการค้ากับสหภาพโซเวียตได้อย่างไร และเขาจะใช้ทหารของโซเวียตขนส่งสินค้าของเขาได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเฝิงหยู่ไม่สามารถเข้าถึงข่าวภายในได้ ทำไมเขาถึงกล้าลงทุนทุกอย่างที่เขามีลงในพันธบัตรรัฐบาลล่ะ?

บางทีเฝิงหยู่อาจจะมีคุณปู่ที่สามหรือคุณลุงที่สองซึ่งทำงานอยู่ในส่วนกลางหรือมีคอนเนคชั่นกับเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสที่นั่นก็ได้ และสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายที่กำลังจะดำเนินการ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่เฝิงหยู่สามารถหาเงินได้จากการลงทุนทุกครั้งของเขา ข่าวที่เฝิงหยู่บอกฟู่กวางเจิ้งไปนั้นต้องมาจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังเฝิงหยู่แน่ๆ

ดังนั้นดูเหมือนว่าอีไม่นานน่าจะมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศจีนหรือ?

ฟู่กวางเจิ้งโทรหาพ่อของเขาและบอกข่าวที่เพิ่งรู้มาจากเฝิงหยู่ และยังบอกด้วยว่าเฝิงหยู่อยากกู้เงินจากพวกเขาเป็นเวลาสามปีโดยให้ดอกเบี้ยทบต้น 10%

ฟู่หยงจิ้นถามต่อเพิ่มเติมและรู้ว่าเฝิงหยู่อยากได้เงินกู้เอาไปลงทุนหุ้นในประเทศจีน และยังไม่รู้จะลงทุนหุ้นไหนโดยเฉพาะแต่กลับซื้อหมดทุกหุ้นที่มีอยู่ในตลาด เขารู้สึกว่าแบบนี้มันไม่มีใครเขาทำกัน แม้ว่าหุ้นของประเทศจีนจะมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกหุ้นที่จะทำเงินได้ ไม่น่าจะมีหลายบริษัทมากนักที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงแรก และจะมีคนในประเทศจีนสักกี่คนที่จะมาซื้อหุ้น?

ฟู่หยงจิ้นติดต่อสมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลและบอกพวกเขาว่าฟู่กวางเจิ้งมีข่าวมาบอก เงินเยนจะเพิ่มสูงขึ้นและอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นจะล้มเหลว ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศจีนอาจจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า และจะมีบริษัทจีนที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆ นี้

ฟู่หยงจิ้นซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลฟู่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดการเงิน และบริษัทของเขาก็ทำการวิจัยมาก่อน สหรัฐอเมริกาได้เข้าไปแทรกแซงเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น และการเพิ่มขึ้นของค่าเงินเยนจะส่งผลประโยชน์ให้แก่สหรัฐอเมริกา

ตอนแรกเขากะจะรอดูสถานการณ์ก่อน แต่หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้จากฟู่กวางเจิ้ง เขาก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้อย่างน้อย 80% ที่เงินเยนจะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจีนจะเพิ่งเริ่มดีขึ้น แต่การเติบโตก็ถือว่าก้าวกระโดดอย่างมาก ประเทศจีนมีบุคลากรแนวหน้าชั้นนำอยู่ในคณะกรรมการวางแผนเศรษฐกิจและไม่น่าแปลกใจเลยที่จะได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่าเมื่อเทียบกับฮ่องกง

แต่พี่ชายคนที่สองของตระกูลฟู่ ฟู่หยงชวี ไม่เห็นด้วยกับข่าวนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นจะล้มเหลวได้อย่างไร? เขารู้สึกว่าเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกไม่น่าจะตกเป็นของสหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นญี่ปุ่นมากกว่า ตลาดหุ้นของญี่ปุ่นก็เจริญรุ่งเรือง และญี่ปุ่นก็มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาวอเมริกันและยุโรปจำนวนมากลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น แล้วมันจะล้มเหลวได้อย่างไร?

แม้ว่าตอนนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์จะตกลงไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นสถานการณ์ปกติทั่วไปของตลาด ภายในสิ้นปีนี้ จะต้องกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกแน่นอน ถึงตอนนั้นค่อยขายอสังหาริมทรัพย์ ก็จะยื่งได้เงินเยอะกว่าเดิม

พี่ชายคนที่สามของตระกูลฟู่ ฟู่หยงปิง นิ่งเงียบ ก่อนหน้านี้ พี่ชายคนโตของเขาและพี่ชายคนที่สี่ก็ได้จัดตั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายเพื่อจัดจำหน่ายเครื่องทำความชื้นรุ่นใหม่ ทั้งสองคนหาเงินได้เยอะมากจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป พี่ชายคนที่สองลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น และราคาอสังหาริมทรัพย์ก็เพิ่มสูงขึ้น มีเพียงบริษัทของเขาเท่านั้นที่ไม่มีการพัฒนาอะไรเลย

ครั้งนี้พี่ชายคนที่สี่บอกว่าเขาได้รับข่าวนี้มาจากเจ้านายใหญ่ในประเทศจีนเกี่ยวกับการลงทุนและเขาก็มาร่วมฟังข่าวนี้ด้วย แต่เมื่อเขาได้ยินข่าวว่าเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศจีน เขาก็ไม่รู้สึกสนใจ ประเทศจีนยังคงเป็นประเทศล้าหลังและจะมาจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์และอนุญาตให้บริษัทมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร?

สำหรับเงินกู้หรือการเป็นผู้ค้ำประกันนั้น เขาไม่เห็นด้วยแน่นอน ก่อนหน้านี้เขายังหาเงินไม่ได้เลย และตอนนี้จะให้ไปเป็นผู้ค้ำประกันงั้นหรอ? ไม่มีทาง!

“พี่ใหญ่ พี่ว่าข่าวนี้เชื่อถือได้หรอ?”

“พี่เชื่อนะ พรุ่งนี้พี่จะลองทำสัญญาซื้อขายเงินเยนล่วงหน้า ยิ่งเงินเยนเพิ่มขึ้นเร็วเท่าไร เราก็จะได้เงินมากเท่านั้น”

“พี่ใหญ่ อย่าลืมนะว่าช่วงที่ผ่านมาเงินเยนเพิ่มขึ้นมาก พี่คิดว่ามันจะยังเพิ่มขึ้นต่อไปอีกหรอ?” ฟู่หยงชวีพูดอย่างยิ้มเยาะ

นี่มันข่าวจากผู้นำระดับของประเทศจีนอะไรกันเนี่ย? ถ้าพูดถึงข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ประเทศจีนจะมาเปรียบเทียบกับฮ่องกงได้อย่างไร?

“พี่ชายคนที่สองและพี่ชายคนที่สาม พวกพี่อยากจะลงทุนในบริษัทเครื่องทำความชื้นหรอ? ถ้าพี่อยาก พี่เอาเงินมาคนละ 50 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง แล้วฉันจะขายยอมขายหุ้นบางส่วนให้พี่”

ฟู่หยงชวีและฟู่หยงปิงดวงตาเป็นประกาย พี่ชายคนโตของพวกเขาอยากขายหุ้นให้พวกเขางั้นหรอ? นี่แสดงว่าพี่ชายคนโตอยากดูแลพวกเขา และในขณะเดียวกันก็อยากจะลงทุนในฟิวเจอร์สของตลาดฟอเร็กซ์เพิ่มเติมด้วย เขาอยากจะพนันว่าเงินเยนจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก!

ฟู่หยงชวีไม่มีเงินสด 50 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดถึงกำไรของเครื่องทำความชื้นซึ่งสูงกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของเขา เขาก็ตัดสินใจขายอสังหาริมทรัพย์ของเขาในประเทศญี่ปุ่นซึ่งขาดทุนเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะมาเพิ่มเงินทุน

ฟู่หยงปิงก็ตัดสินใจเจียดเงินบางส่วนออกมาลงทุนในบริษัทตัวแทนจำหน่ายแห่งนี้ ซึ่งจะต้องได้กำไรมากกว่าอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในมือเขาแน่นอน

“พี่ชายคนที่สี่ ผู้จัดการเฝิงคนนั้นต้องการยืมเงินเท่าไร?”

ฟู่หยงจิ้น “พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวล ผมจะเป็นผู้ค้ำประกันให้เขาเอง”

พี่ชายคนโตเป็นคนที่เก่งเรื่องการลงทุนมากที่สุดเมื่อเทียบกับน้องชายอีกสามคน ตอนนี้แม้แต่พี่ชายคนโตก็ยังอยากเอาเงินให้เฝิงหยู่ยืม เขาก็อาจจะต้องเป็นผู้ค้ำประกันและให้ฟู่กวางเจิ้งเป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือเฝิงหยู่

เมื่อฮ่องกงกลับคืนสู่ประเทศจีน เขาอาจจะเป็นคนแรกที่ได้ผลประโยชน์ในการเข้าไปในตลาดขนาดใหญ่ของประเทศจีน สินทรัพย์ของเขาอาจจะไล่ตามทันพี่ชายคนโตก็ได้

ฟู่หยงชวีมองพี่ชายคนที่สี่และพยักหน้า “โอเค งั้นทำตามแผนของนายละกัน ผู้จัดการเฝิงคนนี้ไม่ธรรมดานะ”

......

“คุณช่วยผมติดต่อธนาคารซิตี้แบงค์และธนาคารเอชเอสบีซีหน่อยได้แล้วหรอ?”

เฝิงหยู่ดีใจมาก ในที่สุดฟู่กวางเจิ้งตกลงที่จะเป็นผู้ค้ำประกันให้เขา เฝิงหยู่ยังมีของมีค่าอยู่ในมือ ซึ่งก็คือหุ้น หุ้นที่เขาซื้อมามีมูลค่าและอาจนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้

เฝิงหยู่ใช้สินทรัพย์ของบริษัทเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อกู้ยืมเงินและนำเงินกู้ไปซื้อหุ้น เขาจะใช้หุ้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อให้ได้เงินกู้เพิ่มมากขึ้น นี่เหมือนกับวิธีการที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตทำกันเพื่อให้ได้เงินกู้เรื่อยๆ

การได้รับเงินกู้เพื่อนำมาซื้อที่ดินและก็จำนองที่ดินให้กับธนาคารอื่นเพื่อขอเงินกู้ในการสร้างอาคารให้แล้วเสร็จ วิธีการแบบนี้ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลงทุนเพียงแค่ 10% จากการลงทุนทั้งหมดและเงินลงทุนที่เหลือก็คือมาจากธนาคารนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม วิธีการแบบนี้ใช้ได้ไม่นาน และถือว่าเป็นการละเมิดกฎระเบียบในการกู้ยืมเงิน บริษัทที่ทำแบบนี้จึงถูกขึ้นบัญชีดำ และก็มีปัญหาในการขอเงินกู้ต่อไปในอนาคต

เหตุผลของเฝิงหยู่สำหรับการขอเงินกู้ก็คือเพื่อลงทุนในการค้า ซึ่งถือว่าการกระทำที่ไม่เหมาะสมสำหรับเงินทุนเมื่อเขาใช้เงินในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีใครรายงานเรื่องที่เขาทำ เจ้าหน้าที่ก็ไม่สนใจ แต่ถ้าเฝิงหยู่ขอเงินกู้จากธนาคารในประเทศจีนต่อไปเรื่อยๆ เขาก็จะถูกจับได้ และอาจจะติดคุก

การขอเงินกู้จากฮ่องกงเป็นเรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ธนาคารในประเทศจีนไม่มีทางรู้เรื่องนี้ ธนาคารของฮ่องกงพิจารณาแค่มูลค่าของหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้น และจากการที่ฟู่หยงจิ้นเป็นผู้ค้ำประกันให้ ทำให้เขาได้เงินกู้จำนวนมากมาอย่างปลอดภัย

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเงินจำนวนนี้มากกว่าจำนวนเงินที่ตระกูลฟู่จะสามารถให้เขายืมได้เสียอีก!

“เป็นอย่างไรบ้างผู้จัดการเฝิง? พอใจมั้ย?” ฟู่กวางเจิ้งถามอย่างมีความสุข

“ผมสงสัยว่าสองธนาคารนี้จะให้ผมกู้ได้เท่าไร?”

“คุณมีหุ้นเท่าไรล่ะ?”

เฝิงหยู่ชูหนึ่งนิ้ว “100 ล้านหยวน”

“เท่าไรนะ? 100 ล้านหยวน!” ฟู่กวางเจิ้งตกใจมาก เขารู้ว่าเฝิงหยู่ลงทุนไปกับหุ้นของจีนจำนวนมาก แต่เขาไม่คิดว่าจำนวนเงินจะมากขนาดนี้ 100 ล้านหยวน? บริษัทของเฝิงหยู่ไม่ต้องใช้กระแสเงินสดหมุนเวียนหรอ?

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าบริษัทการค้าไท่หัวได้ร่วมงานกับซัพพลายเออร์มาเป็นเวลานานและได้เครดิตเป็นเวลา 1 เดือน เฝิงหยู่ก็คงไม่กล้าทำแบบนี้ เขาไม่สามารถเลิกทำการค้ากับสหภาพโซเวียตได้เพราะว่ามันเป็นคอนเนคชั่นกับคิริเลนโก

สำหรับเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ซื้อมาจากสหภาพโซเวียต เฝิงหยู่จะเก็บรวบรวมเงินฝากก่อนและค่อยส่งให้คิริเลนโก เมื่อผู้ซื้อจ่ายเงินจำนวนที่เหลือมาครบหลังจากที่ได้รับเครื่องจักร เขาก็จะโอนให้คิริเลนโก วิธีนี้ทำให้เขาไม่ต้องใช้เงินสดจำนวนมาก

ครั้งนี้เฝิงหยู่ลงทุนทุกอย่างที่เขามีอยู่ไปหมดแล้ว

“100 ล้าน โอเค หุ้นจำนวนมากขนาดนี้แถมพ่อของผมก็เป็นผู้ค้ำประกันให้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะได้เงินกู้อย่างน้อย 100 ล้านหยวน!”

ติดตามตอนใหม่ได้ก่อนใคร คลิกเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด