ตอนที่แล้วบทที่ 94: ดาบเทวะเงาคราม [อ่านฟรีวันที่ 05 กรกฎาคม 2562]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 96: แม่นางฉุ่ยจิ้ง [อ่านฟรีวันที่ 19 กรกฎาคม 2562]

บทที่ 95: ใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด! [อ่านฟรีวันที่ 12 กรกฎาคม 2562]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 95: ใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด!

เมื่อรับชมบุคคลที่น่าสงสารผู้นั้น ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ไม่อาจช่วยอะไรได้นอกจากตกใจ แม้แต่ใบหน้าของผู้ฝึกตนระดับจินตันยังขมวดคิ้วแน่น ปากของเขากระตุกราวกับว่าอยากจะสั่งสอนมู่ซื่อหรง แต่ในสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากเดินไปช่วยเหลือเด็กผู้น่าสงสารคนนั้น

ส่วนมู่ซื่อหรงนางไม่ได้สลดใจแม้แต่น้อย พร้อมกับมองไปที่เจ้าอ้วนเผยยิ้มเยือกเย็นให้กับเขา เห็นได้อย่างชัดเจนว่านางตั้งใจจะฆ่าเจ้าอ้วนอย่างแท้จริง

เมื่อเห็นใบหน้าที่ยั่วยุของมู่ซื่อหรง เจ้าอ้วนตกใจเล็กน้อยแต่กลับแสดงออกอย่างสงบพร้อมถามว่า “อย่าบอกนะว่าเจ้าจะทำเช่นนี้กับทุกคนที่เจ้าต่อสู้ด้วย?”

“ฮ่าฮ่า เจ้าเข้าใจถูกแล้ว!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างบ้าคลั่ง “โดยเฉพาะเจ้าที่ข้าตั้งใจจะดูแลเป็นพิเศษ!”

มู่ซื่อหรงคิดว่าการกล่าวออกมาเช่นนี้ จะทำให้เจ้าอ้วนเก็บกระเป๋าพร้อมถอนตัวออกจากการแข่งขัน แต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือปรากฏรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ขึ้นบนใบหน้าของเจ้าอ้วน มันเหมือนกับเขาวางแผนอะไรไว้สักอย่างแล้วมันสำเร็จ สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกงุนงงอย่างมากจากการกระทำของเขา

ในขณะที่มู่ซื่อหรงยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้แข่งขันที่เหลือหน้าซีดพร้อมกล่าวเบา ๆ กับผู้ฝึกตนระดับจินตัน “ศิษย์พี่ ขณะนี้ศิษย์น้องรู้สึกไม่ค่อยสบาย ข้าคงจะไม่สามารถร่วมการแข่งขันในวันนี้ได้ ดังนั้นข้าขอยอมแพ้!”

หลังจากกล่าวจบ เขารีบจ่ายเงินให้กับผู้ฝึกตนระดับจินตันพร้อมกับวิ่งออกไปทันที

ผู้ฝึกตนระดับจินตันมึนงงกับสถานการณ์ ก่อนที่เขาจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ ผู้แข่งขันที่เหลือทำการสละสิทธิ์การแข่งทั้งหมดพร้อมกับวิ่งออกไป ข้อแก้ตัวของพวกเขาทั้งหมดต่างเหลวไหล มีทั้งอาการปวดท้องหรือแม้แต่ท้องเสีย! ผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสิบขึ้นไปจะเจ็บป่วยด้วยโรคเหล่านี้ได้เช่นไร? เห็นได้ชัดเจนว่านี่คือการหลีกหนีการต่อสู้!

สิ่งที่น่าตกใจก็คือผู้ฝึกตนธาตุดินที่เพิ่งชนะการต่อสู้มาในตอนนี้กำลังยืนกรานที่จะสละสิทธิ์การแข่งขันอย่างหนักแน่น อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพูดในสิ่งที่ต้องการเสร็จแล้ว เขาวิ่งออกไปทันทีเพราะเกรงว่าผู้ฝึกตนระดับจินตันจะปฏิเสธคำร้องขอ

วินาทีถัดมา มีเพียงเจ้าอ้วนและมู่ซื่อหรงเท่านั้นที่ยืนอยู่กับผู้ฝึกตนระดับจินตัน ในที่สุดมู่ซื่อหรงก็เข้าใจความหมายในรอยยิ้มของเจ้าอ้วน เห็นได้ชัดว่าเขาใช้ประโยชน์จากนางเพื่อข่มขู่ผู้แข่งคนอื่น

ก่อนอื่นที่ต้องรู้คือการแข่งขันนี้เป็นเพียงการแข่งเล็ก ๆ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะก้าวไปด้านหน้าได้ หลังจากที่พวกเขาได้เห็นการแสดงออกของนางแล้ว การที่พวกเขาต้องเผชิญกับมู่ซื่อหรงเพื่อที่จะไปยืนอยู่ในสิบอันดับแรก ผู้ใดจะมีความกล้าหาญไปต่อสู้กับหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งเช่นนี้?

พวกเขาไม่อาจก้าวต่อไปได้ หากไม่ได้ต่อสู้กับมู่ซื่อหรง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดที่จะขวางทางนางและการเอาชีวิตไปเสี่ยงไม่ใช่เรื่องเล็ก เนื่องจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ทุกคนจึงพร้อมใจกันที่จะสละสิทธิ์การแข่งขันทันที

ในตอนท้ายผลก็คือเหลือเจ้าอ้วนที่เป็นคู่แข่งเท่านั้น เพราะเขาไม่ได้สละสิทธิ์และถอยร่นไป มันจะถือว่าเป็นชัยชนะอย่างง่ายดายถ้าหากเขาสามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกได้ แม้ว่าเขาจะต้องพบเจอกับมู่ซื่อหรงทันทีในการแข่งถัดไป มันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งเขาไม่ได้กังวลสิ่งใดกับมันนัก สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเจ้าอ้วนสามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้มากมายที่จะเกิดขึ้นได้ เขามั่นใจว่าเขาจะชนะ เพราะฝ่ายตรงข้ามนั้นคือระดับเซียนเทียนขั้นสิบสองและสิบสาม จะเป็นงานหนักมากถ้าหากต้องเอาชนะพวกเขาทั้งหมด การได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องสู้รบถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้

มู่ซื่อหรงโกรธจัดเพราะนางเพิ่งรู้ตัวว่าถูกเจ้าอ้วนใช้เป็นเครื่องมือ นางตะโกนออกมา “ไอ้สารเลวไร้ยางอาย!”

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้ฝึกตนระดับจินตันที่กำลังมึนงงกับสถานการณ์ได้แต่เพียงประกาศออกมาเท่านั้น “ผลของการแข่งขันในวันนี้ก็คือพวกเจ้าทั้งสองได้เข้าสู่รอบถัดไป พวกเจ้าต้องกลับมาที่นี่ในอีกสามวันข้างหน้าเพื่อชิงตำแหน่งในสิบอันดับแรก!” หลังจากกล่าวจบ เขาพุ่งทะยานออกไปทันที

มู่ซื่อหรงตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ “ไม่! ข้าไม่สามารถรอคอยได้ถึงสามวัน ต่อสู้กันในวันนี้เถอะ!”

“เรื่องนั้น…” ผู้ฝึกตนระดับจินตันไม่กล้าที่จะขัดใจหญิงสาวผู้นี้ พร้อมกับหันไปมองเจ้าอ้วนด้วยอาการขมขื่น เพื่อขอความยินยอมจากเขา

เจ้าอ้วนจะสามารถเห็นด้วยกับมู่ซื่อหรงได้อย่างไร? จริงอยู่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ แต่เพราะเขาจะสามารถยั่วยุนางได้มากขึ้นในอนาคต และเขายินดีจะทำเช่นนั้นมากกว่า! เขายักไหล่พร้อมกล่าวว่า “ศิษย์พี่ได้แข่งขันไปแล้วหนึ่งครั้ง ถ้าหากท่านต้องการจะต่อสู้กับข้า ชัยชนะที่ข้าได้รับคงไม่น่าภูมิใจ?”

“บัดซบ เจ้าคิดหรือว่าจะสามารถเอาชนะข้าได้?” มู่ซื่อหรงลุกขึ้นยืนทันที “นี่เจ้ากำลังฝันกลางวันแบบไหนอยู่กัน?”

“เรื่องนั้นข้าหาได้สน ข้าเพียงแค่ปฏิเสธที่จะแข่งขันในวันนี้!” เจ้าอ้วนตอบอย่างเรียบง่าย “ศิษย์พี่ กฎของสำนักได้สร้างมาเนิ่นนาน หลังจากแข่งขันจบจะต้องพักผ่อนสามวัน ข้าเชื่อมั่นว่าคงไม่มีผู้ใดคิดจะฝ่าฝืนกฏหรือบังคับให้อีกฝ่ายเข้าร่วมการแข่งขันตามใจตนได้ ถูกต้องหรือไม่?”

ผู้ฝึกตนระดับจินตันกลอกตาของเขาไปมา พร้อมกับคิดว่า ‘เจ้ากล่าวถึงกฎระเบียบเช่นนี้แล้วข้าจะต้องกล่าวสิ่งใดอีก?’ ในช่วงเวลานี้ เขาทำได้เพียงพยักหน้าเพื่อยืนยันเท่านั้น “ถูกต้อง ดังนั้นแล้วการต่อสู้ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในอีกสามวัน!” หลังจากกล่าวจบประโยค เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตามู่ซื่อหรง พร้อมกับบินหายไปในฟากฟ้าทันที

ในเวลานี้มู่ซื่อหรงต้องการระบายความโกรธของนางกับเจ้าอ้วนทันที และในตอนนี้ไม่มีผู้ใดรู้เห็นอีกแล้ว แต่ใครจะคาดคิดว่าเจ้าอ้วนได้บินห่างออกไปสองถึงสามลี้แล้ว! ความเร็วของเขาไม่อาจทำให้มู่ซื่อหรงตามได้ทัน นางไม่มีแม้แต่โอกาสจะหยุดเขาไว้ทำได้เพียงแต่เก็บงำความเกลียดชังไว้ภายในใจเท่านั้น อีกทั้งผู้ฝึกตนระดับจินตันยังทำให้มู่ซื่อหรงไม่อาจกระทำการโผงผางต่อหน้าฝูงชนเช่นนั้น นางกระทืบเท้าเบา ๆ พร้อมกล่าวกับตนเอง “เจ้าก้อนไขมัน อีกสามวัน ข้าจะเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นหมูบะช่อ!” จากนั้นนางไม่อาจทำสิ่งใดได้อีกจึงทำได้เพียงเดินจากไป

เมื่อเห็นว่ามู่ซื่อหรงจากไปแล้ว เจ้าอ้วนจึงกลับไปยังสนาม หูของเขาได้ยินเสียงดังลั่นของผู้ชมใกล้ ๆ เขาตั้งใจฟังทันที พร้อมกับก้าวเดินไปตามทิศของเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ

“ดูนั่น ดู แม่นางฉุ่ยจิ้งกำลังมาโน่นแล้ว!”

“แม่นางฉุ่ยจิ้ง? ข้าได้ยินมาว่านางแข็งแกร่งที่สุดในสำนักชั้นใน!”

“ไม่ใช่แค่ในสำนักชั้นในเท่านั้น ความแข็งแกร่งของนางเป็นเลิศกว่าผู้ใดในสำนักเสวียนเทียน นางอยู่ในจุดสูงสุดของคนรุ่นใหม่ แม้ว่าจะอยู่แค่ระดับเซียนเทียน แต่ผู้อาวุโสบางคนได้แสดงให้เห็นแล้วว่านางแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ที่อยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นสูงสุด!”

“นางแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือ? บางคนบอกว่านางอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น?”

“เจ้ากล่าวอะไร? ความแข็งแกร่งของฉุ่ยจิ้งไม่สามารถประเมินได้ สิ่งนี้เหล่าผู้คนในสำนักล้วนแต่ยอมรับ มิเช่นนั้นนางคงไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรก!”

เมื่อได้ยินการบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความสนใจต่อฉุ่ยจิ้งได้เกิดขึ้นภายในใจของเจ้าอ้วน แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบนาง แต่ชื่อเสียงของนางเขาเคยได้ยินมาก่อนแล้ว

ความแข็งแกร่งของนางจัดได้ว่าอยู่ในอันดับหนึ่งของผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนทั้งหมด ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้ฝึกตนที่มีอายุสามสิบถึงสี่สิบปีในสำนักชั้นใน อีกทั้งอายุของนางยังไม่ถึงยี่สิบปี เจ้าอ้วนเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับนางมากมาย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด