ตอนที่ 6 - เจ้าโง่ กับเหตุผล
มิย่าเดินไปรอบๆ ใช้ความคิดอย่างหนัก หัวใจของเธอเต้นเร็วราวกับมีรถแข่งวิ่งอยู่กลางหน้าอก และก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ได้แต่นั่งเวียนหัว
ทำไงดีล่ะ?
นี่เธอทำบ้าอะไรลงไป? ยิ่งไปกว่านั้น เธอจะหาทางออกจากสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ได้ยังไง?
เธอมองข้ามไปที่เตียงนอนตรงหัวมุม ที่เธอพาเบนเข้านอนอย่างเงียบๆ เด็กชายกรนเบาๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง เธอเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น และคิดว่า : หรือเธอจะทิ้งตึกนี่ซะ แล้วหนีไป? แต่เธอต้องทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้น ก่อนที่ CEO นี่จะรู้สึกตัว
หรือจะใช้ยาสลบ เพื่อเธอจะได้มีเวลาเพิ่มอีกสักสองสามชั่วโมง
และเกือบจะทันทีทันใด เธอกลับรู้สึกโกรธขึ้นมา
นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย?! ทำไมสมองของเธอถึงได้คิดเอาตัวรอดด้วยวิธีที่รุนแรง และร้ายกาจแบบนี้ เธอเกลียดความคิดแบบนี้!
ไม่ต้องพูดถึง คนที่เธอเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ คือทายาทของฮันเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ไม่ใช่เรื่องยากถ้าพวกเขาจะติดตามหาเธอ เธอไม่ใช่สายลับ ที่จะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอยได้
มิย่าถอนหายใจ เธอเริ่มรู้สึกปวดหัวตอนนี้
เธอครุ่นคิด คงเหลือเพียงโอกาสเดียวคือ หวังว่าเขาจะให้อภัยเธอ เธอเป็นเพียงคนอนาถาที่ครอบครัวชนชั้นสูงแบบนั้น ไม่จำเป็นต้องมาสนใจ ตระกูลฮันเตอร์นี้ จะมีเมตตาพอที่จะปล่อยเธอไปเฉยๆ หรือไม่นะ?
“เธอฟาดเขาด้วยไม้กวาดแม่สาวน้อย” เสียงในหัวดังขึ้น
“เธอสาดเขาด้วยน้ำถูพื้นสกปรก แล้วเช็ดมันออกด้วยไม้ถูพื้น และตอนนี้เขาก็นอนอยู่ในถังขยะ”
มิย่าทุบหัวตัวเอง
ไม่มีทางออกสำหรับเธอเลยหรือนี่?
ทำไมเธอถึงได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงขนาดนี้ได้นะ?
แต่ว่าไปแล้ว.. คนใหญ่คนโตแบบ CEO นี้ จะมาที่บ้านเธอทำไม?
เธอหน้านิ่วคิ้วขมวด ครุ่นคิดหนักกว่าเก่า
เดี๋ยวนะ มันมีบางอย่างผิดปกติ
มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาต้องมาหาเธอถึงที่บ้าน หรือเพราะเขาเป็นพวกบ้ากามหรือ? แต่คนอย่างเขา น่าจะมีผู้หญิงในสต๊อคมากมาย อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่คนสวย แล้วทำไม..
หรือว่า.. เขาอาจเป็นเพียงพวกโรคจิต ที่มีเยอะแยะทั่วไปตามท้องถนน
ช่างสับสน.. เธอกวาดสายตาไปรอบห้องเล็กๆ ของเธอ แล้วสายตาก็ไปพบกับโทรศัพท์มือถือใต้ที่นอน แม้มันเป็นโทรศัพท์มือถือราคาถูก แต่เธอก็คิดหนักเหมือนกันก่อนจะตัดสินใจซื้อ แต่ในยุคปัจจุบัน การจะใช้ชีวิตแบบไม่มีอินเทอร์เนตนั้น แทบเป็นไปไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนแบบเธอ
เธอรีบพิมพ์ชื่อ “จิมมี่ ฮันเตอร์” ลงไปในกูเกิ้ล (google) ผลลัพธ์คือมีถึงสิบหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมรูปอีกสองสามรูป จิมมี่ ฮันเตอร์ในรูปที่ปรากฏนั้น ดูภูมิฐาน เยือกเย็น ยากที่จะเข้าถึง แต่เมื่อเธอเหลือบไปมองที่ถังขยะ ตาเธอถึงกับเบิกกว้าง เขาแทบไม่เหลือเค้าโครงของชายหนุ่มในรูปเลย ยิ่งไปกว่านั้น สภาพเขาตอนนี้ก็ดูไม่ได้เลย ไหล่ก็ลู่ แถมน้ำยังหยดจากผมไม่หยุด
ช่างแตกต่างจากรูปภาพโดยสิ้นเชิง
เธอยักไหล่ เริ่มเปิดเข้าไปอ่านในลิงค์แรกสุด
เธอใช้เวลาอ่านราวครึ่งชั่วโมง พยายามเก็บข้อมูลต่างๆ ของศัตรูคนใหม่เท่าที่เธอจะทำได้ ความรู้คืออำนาจ และเธอก็เสียเวลาไปอีกครึ่งชั่วโมงสำหรับการคิดใคร่ครวญ เพราะเท่าที่อ่านมาทั้งหมดนั้น ไม่มีแหล่งข้อมูลใหน ที่พูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณฮันเตอร์กับผู้หญิงเลย
มีเพียงบางโพสที่สันนิษฐานว่าเขาอาจเป็นเกย์ แต่ก็ยังไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา มีเพียงข้อมูลว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถสูง และไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ใหน นอกเหนือจากข้อมูลด้านการศึกษา ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดมากมายเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ ที่เปิดเผยสู่สาธารณะชน
จากข้อมูลทางอินเตอร์เนต ที่เธอค่อนข้างเชื่อถือ เขาไม่น่าใช่คนเจ้าชู้ เว้นแต่ว่า เขาจะเก็บเรื่องงานอดิเรกในการไล่ล่าผู้หญิงอย่างว่าของเขาไว้เป็นความลับ ซ่อนไว้ไม่ให้โลกรับรู้ ซึ่งก็เป็นไปได้ แต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ยังห่างไกล
มิย่าถอนหายใจ
ความรู้คืออำนาจ แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไร ที่จะทำให้เธอรู้สึกเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจเลย
ขณะเดียวกัน จิมมี่ ฮันเตอร์ ก็เริ่มขยับตัว
เขากำลังเยี่ยมชมทุ่งหญ้าแพรี่ส์ ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเลสาป และตอนนี้เขาต้องกลับบ้านแล้ว เขาบินอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ โลกอยู่ด้านล่างของเขานี้เอง แต่ทันใดนั้น บางสิ่งบางอย่างก็ตกใส่ศรีษะเขา เขาเงยหน้าขึ้นไป มองเห็นไม้กวาด มันเริ่มปัดถูใบหน้าของเขาอยู่กลางอากาศ
ไม้กวาดสกปรกพวกนี้... กล้าดียังไงมาถูกตัวผม!
“อย่าแตะต้องตัวผม!” เขาตะโกนขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกกระชากออกมาจากดินแดนแห่งความฝันอย่างแรง “ไม่เคยมีใครกล้าแตะตัวผม!”
เสียงของเขาดังมาก วิญญาณมิย่าแทบหลุดออกจากร่าง โทรศัพท์มือถือของเธอหลุดจากมือ ตกลงไปที่พื้น
เธอมองจิมด้วยความประหลาดใจ
ท่านประธานหนุ่มขยับตัว ดวงตาของเขาแดงกล่ำราวปีศาจเมื่อเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกขยะแขยง และสายตาก็เย็นชาราวกับใบมีด เขาเหลือบตามองภายในห้องเพียวชั่วครู่ กลิ่นเหม็นบนตัวเพียงพอที่จะรื้อฟื้นความทรงจำของเขา ว่าได้เกิดอะไรขึ้นที่นี่
เขาตะคอก..
คนพวกนี้ต้องตาย เขากำลังจะจัดการคนพวกนี้ด้วยมือเปล่า
เมื่อมิย่าเห็นหน้าเขา เธอก็ขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย ชายหนุ่มต้องคิดเรื่องฆาตรกรรมแน่ๆ เธออยากจะร้องไห้
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ เขาสามารถทำได้ และสามารถหลบหนีได้ โดยไม่มีใครรู้
จิมมี่ยังคงจ้องมองเธอ ค่อยๆ กวาดสายตาไปทั่วร่างเล็กๆ ของหญิงสาว เธอนิ่งราวกับน้ำแข็ง จ้องมองเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เธอมองชายหนุ่มราวกับเห็นศัตรู
เขาต้องฆ่าเธอแน่ เขาต้องฆ่าเธอ! ที่เธอกล้าทำ... เธอ...
โอ้!! ตอนนี้ไม่มีทางที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้!
“แต่นายต้องทำให้ได้ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของนาย” สมองตอบเขาทันที
จิมมี่ไม่ชอบใจนักที่ต้องฟังเหตุผลของตัวเอง เพราะเขารู้ว่าบางครั้งสำนึกก็ไม่ถูกต้องเสมอไป อย่างเช่นตอนนี้ เขาอยากแก้แค้นมากกว่า มีคนมากมายที่ยอมเข้าแถวทั้งวัน เพียงเพื่อให้ได้มีโอกาสชำเลืองมองเขาแม้เพียงครั้งเดียว แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้..!!
“ฟังฉันนะ” เจ้าโง่.. เหตุและผลในตัวเขาเริ่มทำงานอีกครั้ง “นายได้พบกับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับนายแล้ว ตอนนี้นายควรใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือข่มขู่ ไม่มีใครแตะต้องนาย ถูกต้องไม๊? จัดการให้เธอแต่งงานกับนายซะ นายมีเวลาเหลือไม่มาก ส่วนเรื่องแก้แค้นเจ้าหล่อน อาวุโสฮันเตอร์จะจัดการแทนนายทันที่ที่พวกนายแต่งงานกัน
จิมลังเล โกรธ แต่ก็ลังเล
มันฟังดูมีเหตุผล
แน่นอน.. หากเขาเล่นบทคนร้ายที่ร้ายกาจสุดๆ เขาอาจโดนประณาม แต่มันก็เป็นประโยชน์กับเขา ตอนนี้หญิงสาวดูท่าทางจะกลัวเขามาก และเมื่อเข้าจ้องเธอด้วยสายตาแข็งกร้าวขึ้น เธอก็สะดุ้งจนเกือบสั่นไปทั้งตัว
จิมยิ้มกริ่ม
เรื่องท่าจะง่ายแล้ว..
เขาลุกขึ้นจากที่ที่เขาอยู่ ณ ตอนนี้ แปลกจัง.. ทำไมเขารู้สึกเจ็บที่ก้น เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะลุกขึ้น ก่อนจะรู้ตัวว่า เขาถูกจับมัดมือ มัดเท้าไว้แน่น
นี่มันบ้าอะไรกัน!!
ผู้หญิงคนนี้ สมควรถูกเรียกว่านางปีศาจ ตอนนี้เธอต้องตายจริงๆ!!