ตอนที่ 277 ต้นโอ๊กอมตะ
ตอนกลางคืน หลายคนรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับเงาที่ปรากฏขึ้นไกลออกไป เพราะมันมีโอกาสเล็กน้อยที่พืชจะเติบโตได้ในสถานที่เช่นนี้
และเช่นเคย ซือ คงเจี้ยนกำลังแสยะยิ้มขณะที่เขาเข้าใกล้ป่าด้วยความเร็วคงที่
เมื่อคนที่วิ่งตามซือ คงเจี้ยนเข้าใกล้ป่า พวกเขาก็ตื่นตระหนก
ต้นไม้ทุกต้นในป่าล้วนแห้งเหี่ยว คล้ายกับคริสตัล ต้นไม้ไม่แม้แต่จะมีใบไม้ ต้นไม้แต่ละต้นดูราวกับถูกเผาด้วยไฟความร้อนสูงและไหม้เกรียมในพริบตา แต่ทว่า กิ่งไม้กลับยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม ต้นไม้ดูดุร้ายและน่าขนลุกราวกับป่าผีสิง
หลายคนไม่รู้ชื่อของป่า มีเพียงหลิน ฮวงและไม่กี่คนที่รู้ถึงเจตนาของซือ คงเจี้ยน
“ดูเหมือนว่าหลายคนจะถูกกำจัดในรอบนี้ เจ้าตาตี่นั่น....”หลิน ฮวงไม่คิดว่าซือ คงเจี้ยนจะพาพวกเขามาในสถานที่นี้
“เกิดอะไรขึ้น?ป่านี้มันทำไมงั้นหรอ?”หยี่ เยว่หยู๋ถามเมื่อเธอได้ยินการพึมพำของหลิน ฮวง
“คุณไม่รู้จักต้นโอ๊กอมตะ?”หลิน ฮวงถามด้วยสีหน้าแปลกๆ
“นั่นคือต้นโอ๊กอมตะ?!”ดวงตาของหยี่ เยว่หยู่เบิกกว้างขึ้น แน่นอน เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับมอนสเตอร์นี้มาก่อนแต่เธอไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกมันมีลักษณะยังไง“มันเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถสกัดพลังชีวิตจากร่างของสิ่งมีชีวิตได้โดยตรง?”
“ไม่ใช่แค่นั้น ต้นโอ๊กอมตะจะอาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีพลังงานเพียงพอเท่านั้น ดังนั้น ผมจึงคิดว่าลาวาใต้ดินต้องมีพลังวิญญาณสำหรับต้นโอ๊กอมตะ หากมีใครเกิดตกลงไปในลาวา บางทีพวกเขาคงจะต้องกังวลมากกว่าบาดแผลเผาไหม้....”หลิน ฮวงเบนสายตาไปทางพื้นด้านใต้ต้นโอ๊กอมตะ
ลาวาธรรมดาจะเพียงร้อนและไม่ได้ประกอบด้วยพลังชีวิต บาดแผลส่วนใหญ่จะถูกแยกโดยชั้นป้องกันของพลังชีวิต ดังนั้น แม้ว่าความร้อนจะสูงกว่า1000เซลเซียส ผลของมันก็ทำได้เพียงสร้างบาดแผลเผาไหม้กับนักล่าระดับทองเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ลาวาที่ปกคลุมด้วยพลังวิญญาณจะแตกต่างออกไปเพราะมันสามารถโจมตีพลังชีวิตได้ ยิ่งไปกว่านั้น อุณหภูมิของมันยังสูงยิ่งกว่าลาวาปกติด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า3000เซลเซียส ภายใต้ความร้อนสูง มีเพียงผู้หลุดพ้นที่ใช้สมบัติป้องกันเท่านั้นที่สามารถป้องกันมันได้เพราะแม้กระทั่งอาวุธระดับทองยังหลอมละลาย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นระดับทองขั้น3หรือระดับทองสมบูรณ์ ทุกคนก็จะตายหากตกลงไปในบ่อลาว่าที่มีพลังวิญญาณ
สิ่งแรกที่หลิน ฮวงคิดหลังจากที่เห็นป่าไม่ได้เกี่ยวกับความอันตราย แต่เกี่ยวกับความก้าวหน้าของไทแรนด์ ตอนนี้เขาพบลาวาที่มีพลังวิญญาณแล้วและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับไทแรนด์เพื่อเลื่อนขั้น แต่ทว่า ป่าก็ยังเป็นอุปสรรค เขาต้องกวาดล้างมัน มิฉะนั้น หากไทแรนด์ตกลงไปในลาวา มันอาจจะตกเป็นเหยื่อของป่านี้
แม้ว่าไทแรนด์จะทรงพลัง มันก็ยังมีต้นโอ๊กอมตะกว่า1หมื่นต้นในป่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งหมดยังอยู่ในระดับทองที่ครอบครองความสามารถในการสกัดพลังชีวิต ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับไทแรนด์ ดังนั้น ปัญหาหลักของหลิน ฮวงจึงแตกต่างจากคนอื่นเพราะเขาไม่ได้คิดว่าเขาควรจะก้าวข้ามความยากลำบากนี้ยังไง เขากำลังพิจารณาว่าเขาควรจะกวาดล้างป่ายังไงต่างหาก
“ต้นโอ๊กอมตะไม่กลัวไฟ นอกจากพลังชีวิต พวกมันยังดูดซับพลังงานไฟส่วนใหญ่ได้ มีเพียงการโจมตีกายภาพที่สามารถสร้างความเสียหายแก่มันได้....แต่ทว่า ต้นโอ๊กอมตะคือสายพันธ์อันเดท สายพันธ์อันเดทและวิญญาณส่วนใหญ่จะกลัวพลังงานบริสุทธิ์...”เพียงเมื่อเขากำลังขบคิด ซือ คงเจี้ยนก็หายไปในป่า
แม้ว่าหลายคนจะไม่รู้ว่าป่านี้คืออะไร เมื่อพวกเขาเห็นบางคนเริ่มนำอาวุธออกมา ทุกคนก็ทำตามและตื่นตัว
แม้กระทั่งหลิน ฮวงก็ยังนำดาบทองออกมา จากนั้นหยี่ เยว่หยู่ก็หยิบเอาดาบยาวที่มีด้ามดาบสีดำออกมา
อาวุธเฉพาะมักจะมีคุณสมบัติที่ดีกว่าอาวุธของหลิน ฮวง เพราะนอกจากมันจะเหมาะสมกับผู้ใช้แล้ว มันยังใช้วัสดุคุณภาพสูงเช่นกัน แน่นอน ราคาของมันย่อมสูงกว่าปกตินับ10เท่า
อย่างไรก็ตาม สำหรับหลิน ฮวง มันไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเฉพาะ เขาเลื่อนระดับเร็วมาก เขาใช้เวลาไม่ถึงปีเพื่อเลื่อนจากระดับเหล็กเป็นระดับปัจจุบัน หากเขาใช้อาวุธเฉพาะ เขาคงจะใช้มันได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
ไม่เหมือนกับหยี่ เยว่หยู่ เนื่องจากเธอเป็นสมาชิกราชวงศ์ พวกเธอจึงไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร มันเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเธอที่จะครอบครองอาวุธเฉพาะ
“ระวังเอาไว้ โจมตีโดยใช้พลังกายเท่านั้น อย่าโจมตีพวกมันด้วยพลังชีวิต!”หลิน ฮวงเตือนหยี่ เยว่หยู่“มอนสเตอร์ประเภทนี้จะสัมผัสถึงพลังงานได้ดีมาก พวกมันจะกอดคุณไว้หากคุณใช้พลังชีวิตเพื่อโจมตีพวกมัน”
“ฉันรู้ แม้ฉันจะไม่ค่อยสนใจสารานุกรมมอนสเตอร์นัก ฉันก็เคยได้ยินเกี่ยวกับมอนสเตอร์นี้มาก่อน”หยี่ เยว่หยู่พยักหน้า
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในป่า ต้นไม้ดำก็ดูเหมือนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น พวกมันได้กลิ่นของพลังชีวิตที่กำลังรุดหน้ามาทางพวกมัน
แม้ว่าพลังชีวิตที่ปลดปล่อยออกมาระหว่างการหมุนของทักษะเคลื่อนไหวจะเบาบาง ต้นโอ๊กอมตะก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังงานอย่างชัดเจน
เมื่อหลิน ฮวงเห็นต้นโอ๊กอมตะรอบๆเริ่มขยับกิ่งก้าน มาทางขาของพวกเขา เขาก็สังเกตเห็นถึงปัญหาทันที จากนั้นก็บอกกับหยี่ เยว่หยู่ว่า“หยุดใช้ทักษะเคลื่อนไหว....”
ทั้งคู่หยุดใช้ทักษะเคลื่อนไหวทันที และเปลี่ยนเป็นการวิ่งด้วยพลังกายแทน
มีเพียงกลุ่มคนเล็กๆเท่านั้นที่ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นต้นโอ๊กอมตะจึงไม่สนใจพวกเขา อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มใหญ่กลับไม่รู้จักต้นโอ๊กอมตะและไม่รู้ถึงลักษณะของมอนสเตอร์ พวกเขาต้องการออกจากป่าให้เร็วที่สุด ดังนั้น พวกเขาจึงอัดพลังชีวิตลงไปในร่างมากยิ่งกว่าเดิม
เมื่อมันเกิดขึ้น ปฏิกิริยาของต้นโอ๊กอมตะจึงทวีความรุนแรงขึ้น
ตอนแรก กิ่งไม้เพียงกำลังมองหาเป้าหมายของพวกมัน แต่หลังจากที่ยืนยันเป้าหมาย พวกมันก็เริ่มพันรอบขาพวกเขา
กลุ่มคนที่ถูกโจมตีโดยต้นโอ๊กอมตะได้กวัดแกว่งอาวุธของพวกเขาเพื่อตัดกิ่งไม้ และปัญหาก็ยิ่งทวีคูณขึ้น การโจมตีด้วยพลังชีวิตยิ่งดึงดูดความสนใจจากพวกมันกว่าเดิม
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าต้นโอ๊กอมตะจะมีความสามารถในการฟื้นฟูที่รวดเร็วอย่างมาก หลังจากที่พวกมันถูกตัด พวกมันก็สามารถงอกกิ่งใหม้ได้ในพริบตา และในไม่ช้า พวกมันก็พันรอบขาของผู้คนอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าใครหลายคนต่างถูกโจมตี หลิน ฮวงก็ส่ายหัว จากนั้นเขาก็เหลือบมองหยี่ เยว่หยู่และกล่าว“นี่เป็นผลจากการไม่อ่านสารานุกรมมอนสเตอร์ให้ดี พวกเขาสามารถผ่านป่านี้ไปได้โดยง่ายแต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา”
หยี่ เยว่หยู่หันมามองหลิน ฮวง เธอไม่ได้ปฏิเสธเขาเพราะมันคือความจริง หากทั้งหมดรู้ถึงลักษณะของต้นโอ๊กอมตะ พวกเขาคงจะเลือกเดินผ่านป่านี้ไปอย่างเงียบๆ
เธอทำได้เพียงเฝ้าดูกลุ่มคนตรงหน้าเธอถูกพันรับโดยกิ่งของต้นโอ๊กอมตะ บางกิ่งไม้แม้กระทั่งทะลวงผ่านร่างและสกัดพลังชีวิตพวกเขา จากนั้นหยี่ เยว่หยู่ก็ถาม“จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา ใช่ไหม?”
“ใช่ พวกเขาจะไม่เป็นไร ความเร็วการดูดซับพลังชีวิตของพวกมันช้ามาก มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์เพื่อดูดซับพลังชีวิตของเหยื่อในระดับเดียวกันกับพวกมัน มีเวลาเหลืออีกเพียงสองวันจนกว่าจะจบการฝึก พวกเขาจะถูกช่วยเหลือและถูกส่งออกไปจากสถานที่นี้เมื่อการฝึกสิ้นสุดลง”
หลิน ฮวงส่ายหัวและกล่าวต่อ“ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าคนที่เข้าร่วมการฝึกยังเป็นพวกชั้นสูง มันต้องมีคนคอยดูแลพวกเขาที่นี่”
แม้ว่าพวกเขาจะวิ่งด้วยพละกำลัง พวกเขาก็ไม่ได้ช้าไปกว่าคนที่วิ่งด้วยทักษะเคลื่อนไหว
นอกเหนือจากการโจมตีที่พวกเขาต้องเผชิญแล้ว ทั้งคู่ยังเห็นเหล่าคนที่ถูกจับโดยต้นโอ๊กอมตะ และพวกเขายังผลาญพลังชีวิตจำนวนมากเพื่อโจมตีกิ่งไม้ที่พันรัดพวกเขา เขาส่ายหัว“พวกเขาไม่อาจหยุดทำให้ผู้คนเป็นกังวลเกี่ยวกับพวกเขาได้เลย(ดีแต่สร้างปัญหา)....”