บทที่ 94: ดาบเทวะเงาคราม [อ่านฟรีวันที่ 05 กรกฎาคม 2562]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 94: ดาบเทวะเงาคราม
เนื่องจากมีผู้ฝึกตนระดับจินตันอยู่ใกล้ ๆ แต่มู่ซื่อหรงยังกล้ามากล่าวเช่นนี้กับเจ้าอ้วน แม้ว่านางจะใช้น้ำเสียงที่บางเบามากก็ตาม ในทำนองเดียวกันถ้าหากเจ้าอ้วนเกิดฉุนเฉียวตามที่นางยั่วยุ นั่นเท่ากับว่าเขากำลังจะตกหลุมพราง เขาจึงออกจากใบหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับเปลี่ยนมันเป็นเรื่องตลกแทน ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงสวนกลับอย่างฉับพลัน “แท้จริงแล้วนั้นข้าคิดว่าพวกเราดูค่อนข้างเหมาะสมกันทีเดียว!”
“ผายลม!” หลังจากที่มู่ซื่อหรงได้ยินที่เจ้าอ้วนกล่าว นางถึงกับโกรธเกรี้ยว นางเลิกสนใจผู้ฝึกตนระดับจินตันด้านข้างและหันมาตวาดเจ้าอ้วนทันที “ไขมันอย่างเจ้าน่ะหรือจะคู่ควรกับข้า?”
ในขณะที่มู่ซื่อหรงตะโกนออกมานั้นทำให้ดึงดูดสายตาของเหล่าคนรอบข้างได้ดี พวกเขาจ้องมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่ผู้ฝึกตนระดับจินตันมองมาด้วยความหงุดหงิดพร้อมส่งสายตาเย็นชาให้พวกเขาหยุด
ในตอนนี้มู่ซื่อหรงเริ่มรู้ตัวแล้วว่านางเดินหมากผิดและเริ่มเสียสมาธิ นางเผยยิ้มให้กับทุกคนโดยรอบบ่งบอกว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หลังจากทุกคนกลับไปชื่นชมกับการต่อสู้ของนักดาบแล้ว นางหันมาหาเจ้าอ้วนอย่างโกรธเคือง “เจ้าอ้วนที่บัดซบ หากยังเป็นลูกผู้ชาย ยามเผชิญหน้ากับข้าอย่าได้คิดยอมศิโรราบเชียว ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเลยทีเดียว!”
“อา แน่นอน ตัวข้านั้นเป็นลูกผู้ชาย! อีกทั้งข้ายังมีน้องชายตัวน้อย เจ้าสามารถลองเล่นดูก่อนได้ถ้าหากไม่เชื่อข้า!” เจ้าอ้วนตอบกลับด้วยความร่าเริง
เห็นได้ชัดว่ามู่ซื่อหรงไม่ชำนาญกับเรื่องลามกเช่นนี้ นางไม่เข้าใจว่าเจ้าอ้วนกำลังกล่าวถึงสิ่งใดพร้อมกับส่งสายตาว่างเปล่ากลับไป ในสภาพแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ไหล่ของพวกเขาสั่นไหวคล้ายกับจะระเบิดออกมา แม้ว่าน้ำเสียงจะเบามาก แต่ผู้ฝึกตนรอบข้างต่างได้ยินกันทั่ว แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันก็สามารถได้ยินเช่นกัน เขาแผ่จิตสังหารมาที่เจ้าอ้วนอย่างไม่อาจควบคุมได้ เห็นได้ชัดว่าถ้าหากเจ้าอ้วนไม่มีสัมพันธ์พิเศษกับจ้าวสำนัก ผู้ฝึกตนระดับจินตันจะต้องให้การดูแลเจ้าอ้วน ณ ที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นการแสดงออกของทุกคนที่อยู่รอบข้าง ในที่สุดมู่ซื่อหรงก็เข้าใจว่านางได้ถูกเจ้าอ้วนคุกคามทางเพศอยู่ ใบหน้าของนางวูบวาบทันทีพร้อมกับตัวสั่นเพราะความโกรธ ความต้องการของนางในตอนนี้คือดึงดาบออกมาพร้อมกับสับเจ้าก้อนไขมันนี้ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แต่ในขณะนั้นผู้ฝึกตนที่ต่อสู้กันอยู่ทั้งสองได้ตะโกนปลดปล่อยพลังเฮือกสุดท้ายออกมา ผู้ชมที่อยู่รอบข้างเห็นมังกรสีเหลืองและลูกบอลนับหมื่นดวงกำลังพุ่งชนกัน แม้ว่าตอนนี้มังกรจะอ่อนแรงลงเพราะโดนลำแสงจากดาบ แต่มันก็ยังดื้อดึงที่จะพุ่งไปด้านหน้าอย่างดื้อรั้น ในตอนท้ายมันโดนกระแทกอย่างแรงด้วยลำแสงของดาบส่งให้มันปลิวออกมา สวรรค์! ผู้ฝึกตนระดับจินตันเข้าสกัดกั้นการโจมตีทั้งหมดและหยุดทุกอย่างไว้ได้อย่างทันเวลา จากนั้นจึงยัดยาอายุวัฒนะเข้าปากผู้แข่งขันเพื่อช่วยชีวิตเขา แม้จะช่วยไว้ได้ทันท่วงที แต่ทว่าผู้ฝึกตนรายนี้จะต้องใช้เวลาอีกสองถึงสามปีเพื่อจะกลับมาสู่สภาพปกติ
แม้ผู้ฝึกตนธาตุดินจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เหนื่อยหอบของเขา แสดงให้เห็นว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บหนักไม่แพ้กันและไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แน่นอน ขอบคุณสวรรค์ที่การแข่งขันจะจัดขึ้นในทุกสามวัน หลังจากที่เขาต่อสู้ในครั้งนี้จบแล้ว เขาสามารถมีเวลาพักผ่อนก่อนการต่อสู้ครั้งต่อไปถึงสามวัน
อย่างไรก็ตามนี่เป็นวันแรกของการแข่งขัน ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนก็ทำการนองเลือดกันแล้ว ความจริงนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ว่ามันเป็นการแข่งที่ดุเดือด
ผู้ตัดสินของการแข่งขันครั้งนี้ได้ขึ้นไปประกาศว่าผู้ฝึกตนธาตุดินเอาชนะได้ หลังจากนั้นเขาจะกำหนดคู่ต่อสู้ในรอบต่อไป แต่เหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มู่ซื่อหรงไม่อาจรอคอยได้อีกต่อไป นางกระโดดขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับตะโกนเรียกเจ้าอ้วนอย่างเดือดดาล “เจ้าก้อนไขมัน ขึ้นมาที่นี่ถ้าหากเจ้าเป็นลูกผู้ชายพอ!”
เมื่อเผชิญกับการยั่วยุเช่นนี้ เจ้าอ้วนได้แต่ถอนหายใจและไม่ได้สนใจนางแม้แต่น้อย เขายิ้มให้กับผู้ฝึกตนระดับจินตันพร้อมกล่าวว่า “มีอาวุโสคอยดูแลทุกสิ่งอย่างในที่แห่งนี้แล้ว ศิษย์น้องผู้นี้จะสามารถตัดสินใจเช่นนั้นได้อย่างไร! ไม่เหมือนกับบางคน ที่มีผู้คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจนทำให้กระทำตามใจตนโดยไม่เห็นหัวอาวุโส!”
เมื่อเหล่าผู้ชมโดยรอบได้ยินเช่นนั้น พวกเขาไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือจะหัวเราะออกมาดี ต่างพากันสบถในใจ ‘สหายผู้นี้ฝีปากกล้าเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากลัวที่จะสู้กับนาง แต่สิ่งที่เขาพูดออกมาก็ถูกต้อง เขาสามารถดึงอาวุโสมาเพื่อเป็นโล่ป้องกันให้กับตนเอง ช่างน่าประทับใจเสียจริง!’
ในขณะนั้นผู้ฝึกตนระดับจินตันถูกเจ้าอ้วนดึงเข้าไปเกี่ยวอย่างน่าสงสาร ตอนนี้สถานการณ์ของเขาตกที่นั่งลำบาก หากเขาเห็นด้วยกับคำขอของมู่ซื่อหรง มันก็เท่ากับว่าเขาได้เอื้อประโยชน์ให้กับศิษย์ผู้นี้อย่างไม่เป็นธรรม ถ้าอย่างนั้นเขาจะเอาใบหน้าไปวางไว้ที่ไหน นั่นคือสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้
ในความจริงเขามีความลำเอียงให้กับมู่ซื่อหรง แต่ทว่าเขาถูกต้อนให้จนมุมโดยเจ้าอ้วน ดังนั้นความหวังเดียวเขาของในตอนนี้คือทำได้เพียงมองไปที่เจ้าอ้วนอย่างเย็นชาพร้อมประกาศออกมาว่า “ข้าขอปฏิเสธคำขอของมู่ซื่อหรง นี่คือเวลาของการแข่งขันของเจ้า!” ขณะที่เขากล่าวจบ เขาชี้นิ้วไปที่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสิบสาม
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ มู่ซื่อหรงเสียหน้าและเสียใจอย่างมาก นางรู้ตัวทันทีว่านางควรจะมีไหวพริบมากกว่านี้และควรขอความเห็นจากอาวุโสเสียก่อนเพื่อจะได้ในสิ่งที่นางต้องการ แต่ตอนนี้นางได้ทำลายมันลงไปทั้งหมดเพราะว่านางไม่อาจอดกลั้นไว้ได้
สถานการณ์ในตอนนี้ดำเนินไปเรื่อย และมันคงไม่มีประโยชน์ถ้าหากนางจะดื้อรั้นเหมือนเด็กร้องหิวนม นางเพียงกระทืบเท้าเบา ๆ พร้อมโบกมือ จากนั้นจึงปรากฏแสงสีเขียวขึ้นรอบตัวนางกว้างกว่าหนึ่งหมื่นฟุตคล้ายมหาสมุทร จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเล็ดลอดออกมาจากดาบยาวสามฟุต จิตสังหารแผ่ซ่านออกมาทำให้เหล่าผู้ชมที่อยู่รอบ ๆ ขนลุก
ดาบสั้นเล่มนี้ของมู่ซื่อหรงเป็นอุปกรณ์วิเศษที่น่าอัศจรรย์ มันคือดาบเทวะเงาคราม ข่าวลือบอกมาว่ามันเป็นอุปกรณ์วิเศษที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญระดับหยวนหยินซึ่งเป็นบรรพบุรุษของสำนักเสวียนเทียน หลังจากผ่านมาหลายชั่วอายุคน ตอนนี้มันอยู่ในมือของมู่ซื่อหรง
ในขณะที่ดาบเทวะเงาครามปรากฏขึ้น ไม่มีคำพูดแม้เพียงหนึ่งคำ มู่ซื่อหรงจับข้อมือของตน ปรากฏลำแสงสีเขียวขึ้นมากมายพร้อมกับพุ่งตรงปรี่เข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามทันที อย่างไรก็ตามการกระทำเช่นนี้ของนางนับว่าไม่มีมารยาท ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะทำความเคารพกันก่อนจะต่อสู้ เมื่อเขากำลังคำนับนาง นางกลับเริ่มโจมตีเขาทันที
แสงดาบเล่มนี้พุ่งไปด้วยความเร็วสูง และทันทีที่เขารับรู้ได้ เขาไม่สามารถจะหยิบอุปกรณ์วิเศษมาป้องกันได้ทัน ช่างน่าสงสารเพราะแม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ป้องกัน มันก็ยังคงเป็นแค่อุปกรณ์วิเศษ ไม่อาจเทียบได้กับอุปกรณ์วิเศษที่ผู้เชี่ยวชาญได้ประดิษฐ์ขึ้นมาได้ ภายใต้จิตสังหารที่รุนแรงของดาบเทวะเงาคราม อุปกรณ์วิเศษถูกทำลายในทันที พร้อมกับคลื่นดาบที่ถูกปล่อยออกมาใส่ร่างกายของเขาอย่างเหี้ยมโหด
ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสิบสามที่น่าสงสาร เขามีสิทธิ์กรีดร้องออกมาเพียงชั่วลมหายใจจากนั้นก็เสียงก็เงียบหายไปพร้อมกับลำแสงของดาบ
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้ฝึกตนระดับจินตันตกตะลึงอย่างไม่อาจทำสิ่งใดได้ เขารีบส่งลำแสงสีทองเพื่อปิดกั้นการโจมตีนั้น หลังจากที่เขาพยายามจะทำเช่นนั้น มีลำแสงของดาบถูกปล่อยออกมามากมาย ท้ายที่สุดหลังจากที่ลำแสงหายไป ผู้ชมโดยรอยมองเห็นเพียงร่างกายที่ชุ่มเลือดและเต็มไปด้วยบาดแผล แม้ว่ามันจะไม่ร้ายแรงมากแต่ทว่ารอยเลือดที่ออกมาจากบาดแผลนับร้อยถือว่าน่ากลัวเกินไป!