Chapter 164: มึงกล้าที่จะสู้กับกูหรือเปล่า?
Chapter 164: มึงกล้าที่จะสู้กับกูหรือเปล่า?
มู่จี่เซียนนั้นเป็นคนที่ชาญฉลาดและมีสัญชาตญาณที่ดีเป็นอย่างมาก สุดท้ายแล้วเธอนั้นก็เป็นคนที่ดูแลหวังหยู่ ในขณะที่พวกเขายากลำบากมาตลอด เมื่อเห็นหวังหยู่วิ่งเข้าไปหาเพื่อนที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่นั้น เธอก็หยุดช็อปปิ้งลงในทันทีและเข้าไปยังร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดเพื่อรอเขา
ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์และหวังหยู่นั้นไม่ได้ใกล้ชิดกัน พวกเขานั้นพึ่งจะพบกันเพียงแค่ครั้งหรือสองครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงอึดอัดเมื่อพวกเขาพูดคุยกัน
โชคดีที่หวังหยู่นั้นมีมู่จี่เซียนอยู่ข้างตัวเขา และเธอนั้นไม่เคยที่จะขาดแคลนหัวข้อในการพูดคุยเลย
เมื่อเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันและหยอกล้อกันไปมาอย่างมีความสุข ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ที่เงียบงันก็ถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ผู้หญิงคนนี้คือใครงั้นเหรอครับ?”
“ภรรยาผมเอง!”หวังหยู่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ในโลกใบนี้ มีเพียงสองสิ่งที่หวังหยู่ภาคภูมิใจ อย่างแรกนั้นก็คือศิลปะการต่อสู้และอย่างที่สองก็คือภรรยาที่สง่างามของเขา
“อ่า…”เมื่อเผชิญหน้ากับคู่รักที่สมบูรณ์แบบ ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ก็รู้สึกแย่มากขึ้นไปอีกและเขาก็ดื่มเหล้าไปอีกอึกนึง
“เขาเป็นอะไร?”มู่จี่เซียนส่งข้อความส่วนตัวให้กับหวังหยู่
“แฟนและเพื่อนของเขาทรยศเขาและไล่ล่าเขา..”หวังหยู่ตอบกลับ
“โอ้…”มู่จี่เซียนถอนหายใจและมองไปอย่างสงสารใส่ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ อย่างไรก็ตาม มันก็ทำให้เขารู้สึกเลวร้ายกับตัวเองมากยิ่งขึ้น
คนแรกที่ทำเควสเลื่อนอาชีพสำเร็จนั้นก็คือหมิงตู่และเขาก็รีบพุ่งเข้ามาในโรงเตี๊ยม เมื่อเขาเห็นมู่จี่เซียนนั่งอยู่ข้างหวังหยู่ เขาก็ถามขึ้น “เฒ่ากระทิง หญิงสาวที่สวยงามคนนี้คือใครกัน?”
“พี่สะใภ้นายไงละ!”หวังหยู่ตอบกลับ
“คุณเป็นภรรยาของพี่กระทิงนี่เอง! ฉันนั้นเห็นนายดูดีกว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นนายเสียอีก!”หมิงตู่เตือน
“หื้ม?”มู่จี่เซียนสับสนอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะจ้องไปยังหวังหยู่
“เหี้..! นายกล้าที่จะแกล้งฉันงั้นเรอะ??”หวังหยู่ขู่
“ฮ่าๆๆ!”หมิงตู่หัวเราะก่อนที่จะนั่งข้างหวังหยู่และเริ่มพูดคุยกับดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์
“เฒ่าปลา ทำไมพวกเราสองคนไม่ดื่มกันละ? แฟนของฉันก็พึ่งทิ้งฉันไปด้วยเช่นกัน! นี่มันมากเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญแล้ว…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา การแสดงออกของดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ก็มืดมนลงไปอีก…
เมื่อดูฉากที่เกิดขึ้นนี้ หวังหยู่ก็ทำได้เพียงเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเขาและถอนหายใจ ลักษณะนิสัยของหมิงตู่นั้นเลวร้ายมากเกินไปจริงๆ ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์นั้นกำลังอกหักและหมิงตู่ก็กำลังกวนตีนเขาอยู่…
ศักยภาพของนิกายซวนเฉินนั้นสูงมาก เพียงแค่สองชั่วโมง คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆก็เข้ามารวมตัวกันในโรงเตี๊ยม พร้อมกับการแนะนำตัวของหวังหยู่ พวกเขาก็สามารถที่จะบอกได้ว่าพวกเขารู้จักคนอื่นแล้วในตอนนี้
แน่นอนว่าหมิงตู่นั้นกลายเป็นขยะ เมื่อเขานั้นพยายามที่จะกลั่นแกล้งดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ที่น่าสงสารโดยการลากแขนเขาและประกาศ “น้องปลาและฉันนั้นเป็นเพื่อนร่วมชะตากัน! ทุกคนอย่าคิดจะขโมยตัวเขาไปจากฉันก็แล้วกัน!”
“เฮ้ เฮ้ เฮ้…ฉันต้องการที่จะกอดเพื่อนใหม่ของฉันด้วยเช่นกัน! ไม่ใช่แค่เฒ่าปลาที่อยู่ที่นั่น…”รัศมีฤดูใบไม้ผลิแสยะยิ้มอย่างคลุมเคลือ
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มู่จี่เซียนก็หยิกหวังหยู่และดุด่าเล็กน้อย “ดังนั้นนี่ก็คือคนที่คุณไปอยู่ด้วยนี่เอง? ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณถึงเลวร้ายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ…”
สถานการณ์ในปัจจุบันนี้มันพอที่จะทำให้มู่จี่เซียนด่าหวังหยู่ และเขานั้นก็บีบแก้วเหล้าแตกคามือของเขา เมื่อตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็หุบปากลงในทันที
ตั้งแต่ที่สมาชิกหลักของนิกายซวนเฉินนั้นมารวมตัวกันอยู่ที่นี่กันทั้งหมดแล้ว หวังหยู่ก็ส่งข้อวามหาพริมโรสอันนองเลือดและหลี่ซัวและคนที่เหลือด้วยเช่นกัน เสือแห่งความท้าทายและเพื่อนของเขานั้นมาจากเมืองเฮอร์ริเคนที่ห่างไกล ดังนั้นพวกเขาจึงกำลังมาอยู่ หยางนัวนั้นพึ่งจะบอกว่าเธอพึ่งจะถึง ดังนั้นหวังหยู่จึงไม่ได้ถามอีกครั้ง
หลี่ซัวและอีกสามคนนั้นรู้จักกลุ่มพริมโรสอันนองเลือดแล้วและความสัมพันธุ์กับมู่จี่เซียนนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายเลย เมื่อพวกเธอนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเกม พวกเธอทั้งสี่ก็เคยได้ยินชื่อของดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์มาก่อนด้วยเช่นกัน ดังนั้นการแนะนำตัวของเขาจึงไม่สำคัญอะไร
หลังจากที่ได้ยินชื่อของดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ พริมโรสอันนองเลือดและอีกสองคนต่างมึนงงด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขานั้นจะทำตัวไม่โดดเด่นออกมาเหมือนกับนิกายซวนเฉิน เขานั้นก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงคนหนึ่ง ตัวตนของเขานั้นทำให้หญิงสาวทั้งหลายนั้นเริ่มคำนวณนิกายซวนเฉินใหม่อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่กลุ่มของหลี่ซัวมาถึง บรรยากาศก็กลายเป็นคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
“ลุงกระทิง ลุงนี่สุดยอดที่สุดเลย!”ความทระนงตัวพึมพำกับตัวเองอย่างตื่นเต้น
“นายกำลังพึมพำอะไรอยู่กัน?”ขุนนางครอทเกาหัวและถามขึ้น
“นายยังไม่สังเกตอีกเหรอ? ผู้หญิงที่มารวมตัวกันที่นี่กันทั้งหมดก็เป็นเพราะลุงกระทิง!!!!!”ความทระนงตัวตอบกลับพร้อมกับกำหมัดแน่น
หลังจากความทระนงตัวเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด คนอื่นก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
โดยปราศจากหวังหยู่แล้ว หลี่ซัวและคนอื่นก็จะไม่เข้าร่วมกับนิกายซวนเฉิน! โดยปราศจากหวังหยู่ พริมโรสอันนองเลือดและอีกสองสาวก็จะไม่มายุ่งกับพวกเขาด้วยเช่นกัน! มู่จี่เซียนนั้นเป็นภรรยาของเขาดังนั้นมันจึงเป็นข้อยกเว้น
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว พวกเขาก็อดถอนหายใจไม่ได้และอิจฉา มันมีผู้หญิงเล่นเกมเพียงไม่มากนักและหวังหยู่ก็ยังรู้จักพวกเธอเป็นจำนวนมาก และพวกเธอทั้งหมดนั้นก็เป็นสาวสวย…พร้อมกับโชคลาภแบบนี้ ดังนั้นความสามารถที่แท้จริงของเขานั้นอยู่บนเตียงใช่ไหม?
“มันยังมีหญิงสาวที่จะมาเพิ่มอีกไหมครับ?”ความทระนงตัวถาม
“มีเพิ่มอีกคนหนึ่ง…”หวังหยู่ตอบกลับ
เมื่อได้ยินดังนี้ ความทระนงตัวก็เกือบที่จะโค้งคำนับให้กับหวังหยู่และตะโกน “ทรงพระเจริญ เทพเจ้ากระทิงเหล็กที่ยอดเยี่ยม! คุณให้โอกาสผมในการเคลียร์ดันเจี้ยนกับหญิงสาวที่สวยงามมากมายขนาดนี้!!! แม้ว่าผมจะตายและเสียระดับไปมันก็คุ้มค่าแล้ว!!!”
หวังหยู่ไม่รู้จริงๆว่าจะตอบกลับยังไงดีและสามารถทำได้เพียงนั่งกันอย่างนิ่งเงียบงันกับมู่จี่เซียน
หลังจากที่รอมาเป็นเวลาหลายนาที เสือแห่งความท้าทายและเพื่อนของเขาก็มาถึงในที่สุด
ชายที่มาพร้อมกับเขานั้นมีหน้าตาที่ค่อนข้างอ่อนเยาว์ นักธนูกคนนั้นก็มีอายุใกล้เคียงกับความทระนงตัว รูปลักษณ์ของเขาค่อนข้างน่ารักแต่การแสดงออกของเขานั้นก็พังลงเมื่อเขาเห็นหญิงสาวนั้น
เมื่อเสือแห่งความท้าทายเห็นสมาชิกของนิกายซวนเฉิน เขาก็รีบที่จะพุ่งเข้าไปหาในทันทีและทักทายพวกเขาทีละคน ทีละคนด้วยความเคาพรพอย่างมาก และทำให้พวกเขานั้นรู้สึกดีกับเสือแห่งความท้าทาย เมื่อเขานั้นเข้าหาไร้ความกลัว เขานั้นก็จับมือของไร้ความกลัวและพูด “หัวหน้าไร้ความกลัว ผมนั้นเป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งของคุณเลยครับ!!!”
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าไอ้หน้าด้านนี้จะมีแฟนคลับ….”คนอื่นถอนหายใจ
“เพื่อนของนายตรงนั้นคืออะไร?”หวังหยู่ชี้ไปที่นักธนูและถามขึ้น
นักธนูนั้นมีเจตนาของเขาอย่างชัดเจน ทันทีที่เขาเข้ามาในโรงเตี๊ยม เขาก็ใช้ประโยชน์จากรูปร่างอันน่ารักของเขากระพริบตาปิ๊งๆใส่หญิงสาวทั้งหลายและเขาดูเหมือนจะเข้าไปหามู่จี่เซียน!
เมื่อเห็นแบบนี้ สมาชิกของนิกายซวนเฉินก็อดที่จะปลื้มปิติกับสภาพอันน่าอนาถของไอ้โง่นี่ในไม่ช้า เมื่อเห็นการแสดงออกอันหงุดหงิดของหวังหยู่แล้ว เสือแห่งความท้าทายก็ตระหนักได้ว่ามันมีบางสิ่งที่ผิดปกติและเขาก็รีบดึงหลังของนักธนูและแนะนำตัวเขา “ชื่อของเขาคือจักรพรรดิไอวอรี่! เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผม!”
“จักรพรรดิไอวอรี่??”รัศมีฤดูใบไม้ผลิมีปฏิกิริยาคนแรก ตั้งแต่ที่คนที่เหลือยังคงตกตะลึงอยู่
“เกิดอะไรขึ้น? พวกนายรู้จักเขางั้นเหรอ?”หวังหยู่ถาม มันไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญมากในเกม ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พวกเขารู้จักกัน
“ลูกศรกดขี่ไอวอรี่และ ผู้ไม่มีที่เปรียบหลี่! เคยได้ยินเกี่ยวกับ เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนไหม?”ดาบน้ำแข็งถามขึ้น
“ไม่! และผมก็ไม่เข้าใจมันด้วยเช่นกัน!”หวังหยู่ส่ายหัว
“ความหมายแรกนั้นหมายถึงจักรพรรดิไอวอรี่และอย่างที่สองนั้นหมายถึงหมิงตู่…ทั้งสองคนเคยมีข้อเบาะแว้งกัน..”มู่จี่เซียนกระซิบเบาๆกับหวังหยู่
ถึงแม้ว่ามู่จี่เซียนจะทำงานในบริษัทเกม เธอนั้นก็ไม่ใช่คนเล่นเกม แต่เธอนั้นก็เคยได้ยินคำพูดนี้มาก่อน
เพียงแค่พวกเขานั้นกำลังคาดการณ์อยู่นั้น ทันทีที่พวกเขาตระหนักถึงตัวตน หมิงตู่ก็เตรียมที่จะสู้กันในทันที
“ไอ้เย็..แม่ลูกกระหรี่เอ้ย ดังนั้นมึงก็กล้าที่จะแสดงตัวแล้วสินะ? มึงกล้าที่จะสู้กับกูไหม? ไปสถานที่เปิดกันมา!”
“เหอะ ใครกลัวลูกกระหรี่ที่อ่อนแอแบบมึงกัน? มึงคิดเหรอว่าเฒ่าหลี่นั้นจำเป็นที่จะต้องหาสถานที่ต่อสู้? มึงกล้าที่จะสู้กับกูมือเปล่าๆไหม??”
เมื่อมองพวกเขาสู้กัน ทุกคนนั้นก็เข้าใจถึงขยะที่แท้จริงบนสังคมบนโลกนี้แล้ว..
สกิลหมิงตู่สามารถที่จะใช้มือเปล่าได้ ดังนั้นเขาจะไม่พ่ายแพ้ต่อนักธนูอย่างแน่นอน
โดยอาชีพอันหลากหลาย นักธนูนั้นเป็นอาชีพระยะไกลที่สุดที่สามารถกดดันนักเวทย์ได้อย่างแน่นอน….เด็กน้อยจักรพรรดิไอวอรี่นั้นรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และต้องการที่จะใช้ประโยชน์ในสถานที่ว่างๆมาเพื่อสู้ หลังจากนั้น หมิงตู่นั้นรักในการใช้ประโยคนี้ด้วยเช่นกัน… ดังนั้นเขานั้นก็เรียนมาจากที่นี่นี่เอง...
ในตอนที่การโต้เถียงนั้นถึงช่วงสำคัญนั้นเอง หวังหยู่ก็จับคอของพวกเขาทั้งคู่และขว้างพวกเขาไปคนละฝั่งของโรงเตี๊ยม
เมื่อโดนขว้างแบบนั้น จักรพรรดิไอวอรี่ก็ไม่พอใจอย่างมากและชี้ไปที่หวังหยู่และตะโกน “มึงกล้าที่จะขว้างกูงั้นเหรอ? มึงกล้าที่จะสู้กับกูหรือเปล่า…”
เมื่อมองไปที่จักรพรรดิไอวอรี่ คนอื่นก็ส่ายหัวและถอนหายใจ “เฮ้อ…เขานั้นเด็กเกินไปจริงๆ…”แน่นอนว่าในพวกเขาทั้งหมด คนที่ถอนหายใจดังมากที่สุดก็คือความทระนงตัว