บทที่ 152: สามผู้อาวุโสลอบทำร้าย
การแสดงออกของหวงเสี่ยวหลงเปลี่ยนเป็นหนาวเย็น เมื่อเขามองไปที่โจวเต็ง เขายกกาปั้นขวาและต่อยออกไปจนกระแทกโจวเต็งบินถอยหลังย้อนกลับไป
โจวเต็งหมุนไปข้างหลังเหมือนเต่าไม่มีขาอยู่ในอากาศ แต่เขาก็สามารถลงสู่พื้นเวทีแต่ยังคงเซไปมา
ในช่วงเวลาที่หวงเสี่ยวหลงแผ่กระจายปีกออกมาจากทางด้านหลังเขาก็บินไปที่ด้านหน้าของ โจวเต็ง แสงแวววาววิบวับปรากฎขึ้นในขณะที่ฝ่ามือของเขาพุ่งออกไปโดยปราศจากความเมตตา
"ฝ่ามือผนึกเทพ!"
ภาพฝ่ามือรูปทรงกลมอันวิจิตรถูกยิงออกไป และกระแทกออกไปยังโจวเต็ง
โจวเต็งรู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะหลบ ในขณะนั้นแสงสีดากระพริบออกมาจากอักษรของนักปราชญ์บนกระดองเต่าด้านหลังของเขา และด้วยความเกลียดชังอย่างรุนแรงฝ่ามือผนึกเทพของหวงเสี่ยวหลงกระแทกล้มบนกระดองเต่าดา
เช่นเดียวกับหลงกวง และหลิวเหม่ยจวิน การเคลื่อนไหวทั้งหมดของโจวเต็งเริ่มถูกตรึงในขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น
เงาของหวงเสี่ยวหลงกลายเป็นภาพเบลอหลังจากการเคลื่อนไหวแล้วไปปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ด้านหน้าของโจวเต็ง และต่อยไปที่หน้าอกของโจวเต็ง
เลือดออกจากปากของโจวเต็งเหมือนน้าพุ เขาล้มลงกับพื้นนอกพื้นที่ของเวที
โจวเต็งพ่ายแพ้แล้ว!
ฝูงชนที่ได้ชมภาพนี้ต่างตกใจ ทุกสายตาจดจ้องมองไปอย่างโง่เขลาไปที่โจวเต็งที่นอนอยู่บนพื้นดิน โจวเต็งแพ้แล้วจริง ๆ ? หมายเลขหนึ่งของลานภายในพ่ายแพ้ต่อหวงเสี่ยวหลงอย่างรวดเร็ว!
ตอนแรกทุกคนคาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่ยาวนาน และเข้มข้นระหว่างหวงเสี่ยวหลง และโจวเต็ง ... ฉากที่น่าตื่นเต้นอะไรที่กาลังจะเกิดขึ้น! ความจริงก็คือมันได้สร้างความผิดหวังอย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงมัน่าเบื่อ และน่าเบื่อมากกว่าตอนที่หวงเสี่ยวหลงต่อสู้กับหลงกวง และหลิวเหม่ยจวิน
ในที่สุดฝูงชนก็นึกได้หลังจากนั้นว่าการต่อสู้จบลงแล้ว
เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังออกมาจากฝูงชนโดยรอบ
โดยทั่วไปแล้วทุกคนที่เฝ้าดูต่างก็มองไปที่ผู้แพ้อย่างโจวเต็งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"นี่คืออันดับหนึ่งของลานภายใน? สิ่งที่....! "
"นั่นอาจจะไม่เป็นความจริง โจวเต็งเพียงแต่โชคร้ายที่มาศัตรูของหวงเสี่ยวหลง! "
เสียงกระซิบจากการพูดคุยต่าง ๆเริ่มดังขึ้นไปที่เวที
แม้ว่าคาพูดนั้นอาจจะเป็นเพียงการกระซิบเบา ๆ แต่ทุกถ้อยคาก็เข้ามาในหูของโจวเต็ง มันดัง และชัดเจน เขาลุกขึ้นจากพื้นดิน และเกิดความเกลียดชังและความโกรธทั้งหมดกาลังเข้ามาครอบงาเขาในขณะที่เขาจ้องมองไปที่หวงเสี่ยวหลง มีประกายเข่นฆ่าปรากฎในสายตาของเขาหากใครได้มองจะไม่สามารถเข้าใจผิดได้
ความอัปยศอดสูเช่นนี้!
เขาไม่สามารถยอมรับในเรื่องนี้ได้! เขาจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้!
"หวงเสี่ยวหลงข้าจะฆ่าเจ้า!" โจวเต็งพุ่งไปที่เวที และเริ่มโจมตีหวงเสี่ยวหลง
ฝูงชนก็พากันตกใจที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และเสียงซุบซิบก็หยุดลง ไม่มีใครคาดหวังว่าโจวเต็งจะไม่สนใจกฎของสถาบันหลังจากที่พ่ายแพ้ต่อหวงเสี่ยวหลง เขาแทบกระโดดกลับขึ้นไปบนเวที และทาร้ายหวงเสี่ยวหลงอีกครั้ง?!
บนเวทีหลักซุนจาง และ เซี่ยงฉู่ต่างให้ความสาคัญกับการเฝ้าดูเรื่องนี้ จากนั้นความโกรธเข้ามาในความคิดของพวกเขา
ดูโจวเต็ง เขาเหมือนคนบ้า และกาลังบ้าคลั่ง ในสายตาของหวงเสี่ยวหลงเปลี่ยนเป็นเย็นชา และมีดคู่เทพอสูรก็ปรากฏตัวขึ้นในมือของเขา
"ความโกรธเกรี้ยวของเทพอสูร!"
สองชิ้นส่วนของแสงเช่นประกายของสายฟ้าได้พุ่งผ่าออกไปออกอย่างบ้าคลั่ง !
มีแสงประกายระยิบระยับเต็มพื้นที่ของเวที
ด้วยความโกรธเกรี้ยวจากปราณฉีของโลกเบื้องล่างของหวงเสี่ยวหลง โจวเต็งได้รับพลังทาลาย และถูกส่งบินลอยออกไปพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องที่เศร้าหมองสะท้อนดังก้องในอากาศ
"โจวเต็ง!"
"หวงเสี่ยวหลง เจ้ากล้า?"
ขณะที่หวงเสี่ยวหลงได้ทาร้ายโจวเต็งมีเงาสามดวงเข้ามาในหอศักดิ์สิทธิ์จากภายนอก และมาถึงด้านหน้าของหวงเสี่ยวหลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสามคนมุ่งหน้าลงมือลอบโจมตีเขาพร้อมกัน
การโจมตีที่มีประสิทธิภาพทั้งสามทาให้เกิดลมแรง พื้นที่สั่นสะเทือนอย่างแรงแม้แต่หอศักดิ์สิทธิ์ก็สั่นสะเทือนไปทั่วหอ
ฝูงชนต่างพากันหน้าซีด
ทั้งซุนจาง และเซี่ยงฉู่ไม่ได้คาดหวังอะไรแบบนี้จะเกิดขึ้น
"เซียเหว่ย! เจียงเฮิงยี่! เฉิงฟงลี่! เจ้ากล้า ? " ซุนจาง และเซี่ยงฉู่บินออกไปเพื่อที่จะหยุดพวกเขา อย่างไรก็ตามทุกคนเห็นได้ชัดว่าการกระทาของพวกเขาสายเกินไป
ทั้งสามคนลงมือลอบทาร้ายหวงเสี่ยวหลงร่วมกันพวกเขาเป็นผู้อาวุโสจากลานภายใน -เซียเหว่ย, เจียงเฮิงยี่ และเฉิงฟงลี่! ทั้งเซียเหว่ย และเจียงเฮิงยี่ยังเป็นอาจารย์ของโจวเต็งอีกด้วย
หวงเสี่ยวหลงมองไปที่คนทั้งสามที่ลอบโจมตีเขา การแสดงออกบนใบหน้าของเขายังคงสงบและเย็นชา พวกเขาคิดว่าพวกเขาซ่อนตัวได้ดี แต่จริง ๆ แล้วหวงเสี่ยวหลงได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของพวกเขาตั้งแต่ต้น ตอนนี้เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของนักรบระดับสิบขั้นปลายความรู้สึกของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยขยายไปถึงหนึ่งร้อยจั้ง แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขั้นนักรบเหนือธรรมชาติขั้นต้นก็ไม่สามารถซ่อนตัวจากการตรวจจับผ่านความรู้สึกของเขาไปได้
เมื่อการโจมตีของคนทั้งสามคนกาลังจะเข้าถึงตัวของหวงเสี่ยวหลง เสียงสะท้อนจากเสียงคารามของมังกรก็ได้คารามก้องดังจนแม้แต่หลังคาของหอศักดิ์สิทธิ์ยังสั่นสะเทือน ทุกคนเห็นมังกรสีดาที่ลอยอยู่เบื้องหลังของหวงเสี่ยวหลง ในช่วงเวลาสั้น ๆ หวงเสี่ยวหลงได้ใช้การเปลี่ยนวิญญาณ
ชั้นของเกล็ดจากมังกรดาได้ครอบคลุมไปทั่วผิวหนังของหวงเสี่ยวหลงอีกทั้งกระดูกมังกรยังขยายตัวออกมาจากมือของเขาคล้ายกับชุดหนามสีดาที่น่ากลัว
รอยสักหัวของมังกรดาโผล่ขึ้นมาบนหลังของเขาพร้อมเสียงคารามดังขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ไม่มีสีขาวในสายตาของหวงเสี่ยวหลงในขณะที่พวกเขาเห็นได้แต่สีดา ถึงเวลานี้การโจมตีของคนทั้งสามก็ได้มาถึงแล้ว
ดวงตาสีดาที่ส่องแสงเรืองรองเต็มไปด้วยใบหน้าของคนทั้งสาม จากนั้นมือทั้งสองก็กาแน่น และเขาก็ชกไปที่เซียเหว่ยเป็นคนแรก
"ช่างไม่รู้จักประมาณตน!" เซียเหว่ยเย้ยหยันเขาชกส่วนออกไปอย่างฉับพลัน
ปัง!!!!
กาปั้นชนเข้าด้วยกัน และในขณะนั้นใบหน้าของเซียเหว่ยเปลี่ยนไปเป็นตกใจ และตามมาด้วยความหวาดกลัว
"เจ้า!" ก่อนที่เขาจะเสร็จสิ้นแขนของเขางอ และกระดูกแขนของเขาแตกกระจายออกจากเนื้อและผิวหนังของเขา เสียงโหยหวนจากความเจ็บปวดดังขึ้นในขณะที่เขาถูกโยนออกไปเช่นเดียวกับศิษย์ของเขาโจวเต็งก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้นนอกเวที
ในขณะนั้นการโจมตีของเฉิงฟงลี่ และเจียงเฮิงยี่ก็เข้าสู่ร่างของหวงเสี่ยวหลง
อย่างไรก็ตามทั้งคู่ตกใจเมื่อพบว่ามือของพวกเขาโดนลาตัวของหวงเสี่ยวหลง พวกเขาต่างรู้สึกเหมือนปะทะเข้ากับผนังเหล็กที่ไม่อาจทาลายได้ แต่แรงตอบสนองเริ่มสั่นสะเทือนมือของพวกเขานาความเจ็บปวดที่รุนแรงกลับมาที่มือ และแขนของพวกเขา!
"เป็นไปได้อย่างไร? " พวกเขาต่างอุทานออกอย่างโง่งม
ดวงตาของหวงเสี่ยวหลงมองไปที่คนทั้งสอง จากนั้นเขาก็ส่งฝ่ามือทั้งสองออกไปรวดเร็วกว่าฟ้าผ่ากระทกลงไปบนทรวงอกของพวกเขาทั้งสอง
เลือดไหลออกมาจากปากเมื่อทั้งสองคนถูกกระแทกออกไป พวกเขาล้มลงที่ด้านนอก และกลิ้งไปจนหยุดลงข้างร่างกายของเซียเหว่ย
ฝูงชนเฝ้าดูฉากนี้ต่างก็พากันมึนงงไม่อาจเข้าใจได้
ตั้งแต่ตอนที่โจวเต็งได้ละเมิดกฎของสถาบัน และลอบทาร้ายหวงเสี่ยวหลง หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ไปจนถึงวินาทีต่อมาที่เซียเหว่ย เจียงเฮิงยี่ และเฉิงฟงลี่ปรากฏตัวแล้วแอบลอบโจมตี และถูก หวงเสี่ยวหลงลงมือตอบโต้ เวลาที่ใช้ไปน้อยกว่าการกะพริบตาเสียอีก การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น
อย่างรวดเร็ว และรวดเร็วจนไม่มีใครสามารถประมวลผลได้รวดเร็วพอที่จะตอบสนองได้ บางทีอาจเป็นการดีที่จะบอกว่าไม่มีใครสามารถยอมรับสิ่งที่พวกเขาได้เห็นในเวลานี้!
การจ้องมองไปที่เซียเหว่ย เจียงเฮิงยี่ และเฉิงฟงลี่ที่ได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของหวงเสี่ยวหลง สร้างความตกใจที่ไม่อาจอธิบายได้ในใจของทุกคน
สามคนนี้เป็นผู้อาวุโสของลานภายใน!
นอกจากนี้เซียเหว่ยยังเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับแรก
แม้ว่าเจียงเฮิงยี่ และเฉิงฟงลี่อยู่ในขั้นปลายของนักรบระดับสิบ แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างโจวเต็งสามารถเปรียบเทียบได้ แม้กระนั้นก็ตามทั้งสามคนก็พ่ายแพ้ต่อหวงเสี่ยวหลงไปอย่างรวดเร็ว !
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเซียเหว่ยที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับแรก ไม่มีอานาจต่อต้านหวงเสี่ยวหลงได้แม้แต่อึดใจเดียว !
ซุนจาง และเซี่ยงฉู่ที่กาลังมาช่วยหวงเสี่ยวหลง หยุดลงครึ่งทางเกือบตกจากกลางอากาศขณะที่พวกเขาเห็นฉากที่หวงเสี่ยวหลงจัดการกับเซียเหว่ย เจียงเฮิงยี่ และเฉิงฟงลี่ภายในพริบตา
การรักษาความสมดุลอย่างรวดเร็วของพวกเขา ซุนจาง และ เซี่ยงฉู่กลับไปยืนอยู่บนเวที
นัยน์ตาของซุนจาง และเซี่ยงฉู่เปล่งประกายระยิบระยับด้วยความรู้สึกกลัวเมื่อมองไปที่หวงเสี่ยวหลง แม้ว่าซุนจางจะเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับสองก็ตามที
ทั้งสองคนไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีใครที่สามารถเอาชนะนักรบเหนือธรรมชาติได้ เมื่อพวกเขาอยู่ในจุดสูงสุดของนักรบระดับสิบขั้นปลาย !
ช่องว่างระหว่างจุดสูงสุดของนักรบระดับสิบขั้นปลาย และผู้เชี่ยวชาญขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับแรก อาจดูเหมือนไม่ค่อยสาคัญ แต่ในความเป็นจริงช่องว่างระหว่างระดับทั้งสองมีความต่างกันเหมือนชั้นฟ้า และปฐพี มันยิ่งใหญ่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับนักรบระดับเก้าไปยังจุดสูงสุด
ของนักรบระดับสิบขั้นปลาย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จุดสูงสุดของนักรบระดับสิบขั้นปลาย จะสามารถชนะผู้เชี่ยวชาญขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับแรกได้!