ตอนที่แล้วบทที่ 145: ข่าวของหยูหมิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 147: ไม่มีความเมตตา

บทที่ 146: เข้าชั้นเรียนเป็นหนแรก?


"หลายวันที่ผ่านมาคนของคฤหาสน์เทียนซวนของเราถูกส่งไปหาซื้อเสบียง และระหว่างทางพวกเขาไปพบกับคนของจวนอุปราช และพวกเขาก็อ้างว่าเสบียงของเราถูกจองโดยกพวกเขาไว้นานแล้ว" เฟยฮาวกล่าวต่อว่า "แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น คนของจวนอุปราชคนหนึ่งเข้าโจมตีอย่างกระทันหันโดยการลงมือทาร้ายคนของเราคนหนึ่งลัวหลังจากนั้นก็เกิดการต่อสู้ขึ้น "

หวงเสี่ยวหลงพยักหน้า

จวนอุปราช ?

"ผ่านคาสั่งออกไป ต่อไปนี้ถ้าพวกเขาได้เผชิญหน้ากับคนของจวนอุปราช ไม่จาเป็นต้องสุภาพจัดการได้ตามที่เห็นสมควร มันไม่สาคัญตราบเท่าที่พวกเขายังไม่ตาย! " เสียงของหวงเสี่ยวหลง ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

"ขอรับท่านจักรพรรดิ!" เฟยฮาวพร้อมรับทราบคาสั่ง

"มีข่าวเกี่ยวกับนิกายเทพนักรบหรือไม่ ?" หวงเสี่ยวหลงเปลี่ยนหัวข้อ เสียงของเขาฟังดูเคร่งขรึมเมื่อถามคาถามนี้

(TL : ต่อไปหลังจากนี้จะใช้ชื่อว่านิกายที่หลี่ลู่ไปอยู่ว่า นิกายเทพนักรบ)

เมื่อปีที่แล้วหวงเสี่ยวหลงได้มอบหมายให้เฟยฮาวค้นหาข่าวเกี่ยวกับนิกายเทพนักรบ

เฟยฮาวส่ายหัว: "ไม่มีข่าวใด ๆ "

ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมาเขาได้ใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดที่เขามีแม้กระทั่งสั่งให้คฤหาสน์ตระกูลเฟยที่อยู่ภายในอาณาจักรยู้จิงเพื่อสืบหาข่าวเกี่ยวกับนิกายเทพนักรบ แต่ก็ยังไร้ซึ่งเบาะแส ราวกับว่านิกายเทพนักรบนี้ไม่มีตัวตน ความจริงจะต้องบอกว่าเมื่อเขาพยายามหาข่าวของนิกายเทพนักรบนี้ก็ดูเหมือนว่าจะมีการทางานร่วมกันที่มองไม่เห็นโดยปริยายเพื่อปกปิดพวกเขา และป้องกันไม่ให้เขาหาข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ ได้

เฟยฮาวอธิบายถึงความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติของการขัดขวางนี้ไปยังหวงเสี่ยวหลง

ฟังคาอธิบายของเฟยฮาว, หวงเสี่ยวหลงเริ่มมีความคิดที่หม่นหมอง

ราวกับว่ามันไม่มีอยู่จริง? ดูเหมือนว่านิกายเทพนักรบนี้มีพลัง และลึกลับกว่าที่เขาคิดไว้ในตอนแรกมากนัก

ข้าสงสัยว่าหลี่ลู่กาลังทาอะไรอยู่ หวงเสี่ยวหลงคิดกับตัวเอง

เมื่อปีที่แล้วหลี่ลู่จากไปงานฉลองในคฤหาสน์เทียนซวนดูไม่ร่าเริง และตอนนี้ก็ถึงช่วงปลายปีอีกรอบหนึ่งแล้ว ในอีกหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีใหม่

อย่างไรก็ตามวิญญาณของหลี่ลู่ได้ตื่นขึ้นก่อนที่นางจะจากไป: ดาบคู่ของแสง และความมืดหนึ่งบวก และลบ หนึ่งความสมดุลของหยิน และหยาง ความเร็วในการบ่มเพาะของนางต้องน่ากลัว และในเวลาหนึ่งปีนางอาจจะก้าวไปสู่ระดับที่แปดเป็นอย่างน้อย !

รวบรวมความคิดของเขาไว้ หวงเสี่ยวหลงยังคงสนทนากับเฟยฮาว และถามเกี่ยวกับเรื่องเก้าสมาพันธ์การค้า และเรื่องภายในของคฤหาสน์เทียนซวน

เก้าสมาพันธ์การค้าได้เริ่มขยายสาขาไปในอาณาจักรใกล้เคียง ตั้งแต่เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับ หอไร้เมฆาทาให้เกิดปัญหาในมณฑลต้าฉู่กวง หวงเสี่ยวหลงบอกกับเฟยฮาวให้จ้างนักรบระดับแปด ระดับเก้า และนักรบระดับสิบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของสาขาของเก้าสมาพันธ์การค้า

หลังจากที่ทุกสิ่งที่เก้าสมาพันธ์การค้ามีไม่ได้ขาดคือเงิน

แม้ว่าจะเป็นการยากที่จะจ้างนักรบระดับสิบให้เข้าร่วมกับพวกเขา แต่สาหรับนักรบระดับแปด และระดับเก้าไม่ใช่ปัญหา

หลังจากเสร็จสิ้นการฟังรายงานของเฟยฮาวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ หวงเสี่ยวหลงได้ถามเฟยฮาว เกี่ยวกับความคืบหน้าในการบ่มเพาะ

เฟยฮาวได้ก้าวมาถึงระดับที่หกของทักษะกลั่นสายฟ้าที่หวงเสี่ยวหลงมอบให้ และเฟยฮาว ปัจจุบันอยู่ที่จุดสูงสุดของนักรบเหนือธรรมชาติระดับแรกขั้นปลาย แต่การก้าวบุกเข้าไปในขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับสองก็ยังอยู่ห่างอีกหลายปี

จิตวิญญาณการต่อสู้ของเฟยฮาวถูกจากัดความสามารถโดยธรรมชาติเนื่องจากเป็นจิตวิญญาณระดับสิบ ด้วยข้อจากัดนี้ถึงแม้ว่าเฟยฮาวจะได้รับมุกมังกรเพลิงจากหวงเสี่ยวหลงทุก ๆ วันแต่การที่จะก้าวไปสู่ขั้นนักรบเหนือธรรมชาติระดับสองจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีอยู่ดี

หลังจากนั้นไม่นาน เฟยฮาวก็ออกจากห้องไป

ก่อนเฟยฮาวจะก้าวออกไป หวงเสี่ยวหลงได้มอบมุกมังกรเพลิง 30 เม็ดให้กับเขา

ความจริงก็คือหากปราศจากเฟยฮาว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการพัฒนาเก้าสมาพันธ์การค้าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าเฟยฮาวจะทาตามแนวความคิด และวิธีการของหวงเสี่ยวหลง หากไม่มีเฟยฮาว และทักษะการจัดการของเขา เก้าสมาพันธ์การค้าอาจไม่สามารถประสบความสาเร็จได้ถึงครึ่งหนึ่งเช่นของทุกวันนี้

หลังจากที่เฟยฮาวจากไป หวงเสี่ยวหลงมุ่งหน้าไปยังที่พักของพ่อแม่ของเขา เมื่อเขามาถึงทั้ง หวงเผิง และซูเย่วกาลังฝึกทักษะการต่อสู้กันอยู่ภายในลานหน้าที่พักของพวกเขา

ด้วยความช่วยเหลือของหวงเสี่ยวหลง การบ่มเพาะของหวงเผิง และซูเย่วได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

หวงเผิงในตอนนี้ได้เข้าสู่จุดสูงสุดของนักรบระดับแปดแรกเริ่ม ในขณะที่ซูเย่วก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของนักรบระดับเจ็ดขั้นปลาย

เมื่อเห็นว่าหวงเสี่ยวหลงเดินเข้ามาภายในลานหน้าที่พัก ทั้งสองมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของพวกเขา และหยุดฝึกฝนทันที ซูเย่วเดินไปจับมือของหวงเสี่ยวหลงพาเขาไปนั่งที่เก้าอี้ภายในสวน เมื่อได้มองดูหวงเผิง และซูเย่ว, หวงเสี่ยวหลงรู้สึกอบอุ่นภายในหัวใจของเขา

อีกหนึ่งชั่วยามต่อมาหวงเสี่ยวหลงได้ออกจากที่พักของพ่อแม่ของเขา และกลับไปยังที่พักของตนแล้วเริ่มใช้งานแหวนผนึกเทพ และเข้าสู่สนามรบโบราณเพื่อฝึกฝน

แม้ว่าเขาจะก้าวมาถึงจุดสูงสุดของนักรบระดับสิบขั้นปลายแล้วก็ตาม แต่หวงเสี่ยวหลงก็ยังคง มุ่งหวังฝึกฝนเพื่อเข้าสู่ขั้นนักรบเหนือธรรมชาติก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังจักรวรรดิต้วนเรินเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ของเมืองจักรพรรดิ

ในความเห็นของเขาผลลัพธ์หลังจากนั้นจะน่าสนใจมาก เขาจะได้รับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของทรัพยากรการบ่มเพาะ เมื่อเขาเข้าเรียนในสถาบันต้วนเรินแล้วมันจะสร้างสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะที่ดียิ่งขึ้นสาหรับหวงเสี่ยวหลง

แม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิของนิกายประตูเทพอสูร แต่ความจริงก็ยังคงเป็นแค่ในนาม และยังไม่เป็นทางการดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะได้รับทรัพยากรสาหรับการบ่มเพาะจากที่นั่น

อีกหนึ่งเดือนผ่านไป

กิจวัตรประจาวันของหวงเสี่ยวหลงคือการฝึกฝนทักษะเทพอสูร และคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นในสนามรบโบราณ ในเวลานี้เขาได้เข้าสู่ขั้นที่ 10 ของคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นแล้วมันทาให้เขาเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากสิ่งทั้งสองนั้นแล้ว หวงเสี่ยวหลงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกฝนทักษะดาบเทพอสูร และฝ่ามือผนึกเทพ

ความพยายามของหวงเสี่ยวหลงในการฝึกฝนทักษะกงเล็บปีศาจเทพอสูรน้อยลงอย่างมากเมื่อเทียบกับทักษะอื่น ๆ

เวลาล่วงเลย และปลายปีก็ใกล้เข้ามา และใกล้มากขึ้นเมื่ออีกหนึ่งเดือนผ่านพ้นไป ปราณฉีของหวงเสี่ยวหลงได้ใกล้เคียงกับระดับนักรบเหนือธรรมชาติ

กล้ามเนื้อ และผิวหนัง รวมถึงเส้นลมปราณของหวงเสี่ยวหลงได้รับการกระชับ และสดใสมากขึ้น และกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นของหวงเสี่ยวหลงมีความยืดหยุ่น และมีชีวิตชีวาซึ่งมีพลังเป็นอย่างมาก และพร้อมที่จะระเบิดพลังได้ตลอดเวลา ชั้นนอกของผิวของเขาแข็งแกร่งมาก และตามการคาดการณ์ของเขาถ้าใช้การเปลี่ยนวิญญาณ แม้แต่นักรบระดับสิบขั้นปลายแทงเขาด้วยดาบ

เขาก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ อย่างมากที่สุดก็จะเกิดเส้นสีขาวคลุมเครือบนพื้นผิวโดยไม่บุกเข้าไปในผิวหนังของเขา

"พรุ่งนี้เป็นการแข่งขันของสถาบัน" หวงเสี่ยวหลงพึมพากับตัวเอง

คราวนี้ไม่เพียงแค่เรื่องการแข่งขันเท่านั้น แต่หวงเสี่ยวหลงต้องการคว้าอันดับที่หนึ่งสาหรับการแข่งขันปีที่สาม เขาต้องการที่จะคว้าหมายเลขหนึ่งของสถาบันทั้งหมด!

เพื่อการแก้ปัญหาของเขา หวงเสี่ยวหลงออกจากสนามรบโบราณ

เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ หวงเสี่ยวหลงได้เห็นทั้งพ่อแม่ของเขา หวงเผิง และซูเย่วรวมทั้งน้องสาวของเขาหวงหมิ่น และหวงเสี่ยวไห่ พวกเขาทั้งหมดพูดอย่างมีความสุขเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง

"มีเรื่องอะไรที่ทาให้มีความสุขไหนเล่าให้ข้าฟังบ้างสิ ?" หวงเสี่ยวหลงกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าในขณะที่เดินเข้ามา

เมื่อเห็นว่าเป็นหวงเสี่ยวหลงทุกคนในห้องโถงใหญ่ก็รู้สึกมีความยินดี

"เสี่ยวหลง เป็นเรื่องที่เยี่ยมมากที่เจ้าได้ออกมาจากการปิดด่านฝึกฝน หมิ่นเอ๋อร์บอกว่านางได้เชิญกั้วไท้มาทานอาหารในอีกไม่กี่วันข้างหน้า " ซูเย่วอธิบายเรื่องนี้ในขณะที่มีรอยยิ้มที่แจ่มใส -เห็นได้ชัดว่านางอยู่ในอารมณ์ที่ดี

"โอ้เป็นเช่นนั้นเหรอ ?" หวงเสี่ยวหลงหันไปหาน้องสาวของเขา หวงหมิ่น

หวงหมิ่นพยักหน้าด้วยความเขินอายในขณะทาการยืนยัน

"กั้วชิหยวนรู้หรือไม่ว่าเจ้าสองคนกาลังคบหากันอยู่ ?" หวงเสี่ยวหลงถาม

หวงหมิ่นส่ายหัวของนาง และกล่าวว่า "กั้วไท้กล่าวว่าเขาจะกล่าวกับพ่อของเขาในอีกไม่กี่วันถัดไป"

ซูเย่วกล่าวเพิ่มเติมว่า "ถึงแม้ว่าตระกูลกัวจะเป็นตระกูลที่ทรงพลังจากจักรวรรดิต้วนเริน แต่ในปัจจุบันตระกูลของเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา หมิ่นเอ๋อร์ของเราสามารถจับคู่กับกั้วไท้ได้โดยไม่มีปัญหา เมื่อกั้วชิหยวนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็จะไม่มีการคัดค้านใด ๆ "

หวงเสี่ยวหลงพยักหน้าในขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ จากนั้นความสนใจของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นน้องชายของเขา หวงเสี่ยวไห่ เขาอาจจะอายุน้อยกว่าหวงหมิ่นถึง 2 ปี แต่พรสวรรค์ในการต่อสู้ของเขาสูงกว่าของหวงหมิ่นมาก หลังจากปีใหม่เขาจะมีอายุสิบสี่ปี แต่เขาในตอนนี้ก็เป็นถึงนักรบระดับหกขั้นปลายแล้ว

ตกค่า แสงจันทร์สาดส่อง และหมอกเริ่มลง

คืนนี้ หวงเสี่ยวหลงไม่ได้ฝึกซ้อม เขายืนอยู่ในลานหน้าที่พักจ้องมองดวงจันทร์ในขณะที่กาลังราลึกถึงใครบางคน และนึกถึงบางเรื่อง

ในเวลาหนึ่งเดือนหลังจากปีใหม่เขาจะมีอายุสิบเจ็ดปี

สิบเจ็ดปี หมายถึงเขาอยู่ที่นี่ในโลกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นี้มาสิบเจ็ดปีแล้ว

มีความเป็นไปได้ที่ข้าจะไม่สามารถกลับไปยังโลกก่อนหน้าได้หรือไม่ ...มีความคิดเป็นประกายข้ามความคิดของหวงเสี่ยวหลง

เมื่อถึงเวลาเช้า หวงเสี่ยวหลงถอนตัวออกจากการทาสมาธิ และลุกขึ้นยืน เดินออกไปจากที่พักของตัวเอง เขาเดินไปในทิศทางของห้องโถงใหญ่เพื่อที่เขาจะไปสถาบันพร้อมกับพี่น้องของเขา

เมื่อพวกเขามาถึงสถาบันแสงดารา พวกเขาก็กาลังจะเดินผ่านเข้าไป ลู่ไคได้สังเกตเห็นหวงเสี่ยวหลง ความสุขดูเหมือนจะบานออกมาบนใบหน้าของลู่ไค ขณะที่เดินเข้าไปหา และชกไปที่ไหล่ของหวงเสี่ยวหลง "น้องชาย ข้าเพิ่งได้ยินมาว่าเจ้าได้รับการเลื่อนไปอยู่ที่ชั้นเรียนปีที่สาม เจ้าอย่าบอกนะว่าเจ้าวางแผนที่จะคว้าตาแหน่งอันดับหนึ่งของชั้นปีที่สามนี้ด้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด