ตอนที่แล้วEG บทที่ 143 ถอนตัวโดยสมัครใจ? (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEG บทที่ 145 ไปต่างประเทศครั้งแรก (อ่านฟรี)

EG บทที่ 144 อาจารย์ที่ถูกคัด (อ่านฟรี)


เฝิงหยู่และเหวินตงจุนเดินออกจากห้องเลขานุการเหวินตงจุนดึงแขนเสื้อของเฝิงหยู่ "เอ่อขอขอโควต้าให้จางหานด้วยสิ"

"มีชื่ออยู่แล้วจะมีพวกเรา5คนนาย, ฉัน, หลี่น่า, หลิวคุนและจางหานโดยโรงเรียนจะจัดสรรนักเรียนส่วนที่เหลือด้วยประสบการณ์ระดับนี้ขอเพียงเราสามารถรักษาผลการเรียนในปัจจุบันของเราได้เราก็สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในปักกิ่งได้ "เฝิงหยู่เชิดคอเพื่อรอให้เหวินตงจุนพูดชื่นชมเขา

แต่พอเขาหันกลับไปก็สังเกตเห็นว่าเจ้างี่เง่าเหวินตงจุนไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วเขาอดใจรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวดีกับจางหาน

แม่ง. คนอื่นเค้ายอมหลั่งเลือดเพื่อเพื่อนแต่เจ้าโง่เหวินตงจุนกลับยอมหลั่งโลหิตของเพื่อนๆเพื่อผู้หญิง !

การต่อสู้เพื่อชิงโควต้าเป็นตัวแทนโรงเรียนไปค่ายฤดูร้อนสิ้นสุดลงแต่ในเมืองผู้นำของสำนักงานเพื่อการศึกษาและคณะกรรมาธิการกำลังถกเถียงกันจนตบโต๊ะเสียงดังเพื่อให้ได้โควต้าในการเป็นหัวหน้าทีม!

ผู้อำนวยการได้รายงายเรื่องนี้ไปยังสำนักงานเพื่อการศึกษาพอได้ยินเรื่องนี้ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นพวกเขากำลังปรึกษาหารือกันว่าอาจารย์คนไหนที่จะได้ไปที่ค่ายนี้นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับครูในการได้ประวัติการทำงานจากโซเวียติ

แต่ข่าวนี้รั่วไหลไปถึงหัวหน้าอีกฝ่ายของสำนักงานเพื่อการศึกษาหัวหน้าผู้รับผิดชอบคณะฝ่ายกรรมาธิการได้ไปที่สำนักงานศึกษาธิการเพื่อจัดโต๊ะและเรียกร้องโควตาอาจารย์ฝ่ายกรรมาธิการการศึกษาต้องการ2โควต้าไม่เช่นนั้นพวกเขาจะต่อต้านการไปค่ายที่โซเวียติครั้งนี้!

ทั้งสองฝ่ายต้องการครอบครองโควตาที่มีค่าเหล่านี้ต่างฝ่ายต่างก็ไปฟ้องระดับสูงของตัวเองซึ่งได้แก่รัฐบาลเมืองและคณะกรรมาธิการประจำเมืองเรื่องราวไปเข้าหูอันดับที่2และอันดับที่1ของเมืองพวกเขาต่างก็สงสัยว่าทำไมมหาวิทยาลัยมอสโคว์ต้องเชิญโรงเรียนมัธยมปลายของเมืองปิง? ถ้ามหาวิทยาลัยมอสโกส่งจดหมายเชิญไปยังมหาวิทยาลัยเทคนิคคงฟังดูมีเหตุผลกว่า

ผู้อำนวยการไปที่สำนักงานของรัฐบาลเมืองเพื่อชี้แจงให้เหล่าผู้นำทราบแต่เขาไม่ได้กล่าวออกไปว่าว่าคำเชิญนี้ได้มาเพราะเฝิงหยู่เขาอ้างว่านี่เป็นเพราะเครดิตของเขาและรองผู้อำนวยการซุนเขากล่าวว่าเป็นเพราะรองผู้อำนวยการซุนเคยศึกษาในสหภาพโซเวียตมาก่อนจากความสัมพันธ์นี้ทำให้โรงเรียนได้รับจดหมายเชิญเข้าค่ายฤดูร้อนฉบับนี้

แม้ว่าผู้นำไม่เชื่อเขาแต่ก็ไม่อาจคิดหาเหตุผลอื่นๆได้มีเพียงจางรุ่ยเฉียงผู้รับผิดชอบด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์วัฒนธรรมและสุขภาพเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่

เฝิงหยู่สามารถนำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีขั้นสูงมาได้ในราคาถูกขนาดนั้นทั้งยังใช้รถไฟโซเวียตในการขนส่งสินค้าของเขาการที่จะจัดค่ายฤดูร้อนคงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา

นอกจากนี้ทำไมโรงเรียนมัธยมปลายถึงได้รับการคัดเลือกละ? ทำไมถึงเจาะจงนักเรียนมอปลายปีหนึ่ง? เมื่อกี้เขาลองถามออกไปคำหนึ่งก็ได้รู้ว่ามีชื่อของเฝิงหยู่อยู่ในจดหมายเชิญต่อให้ตีจางรุ่ยเฉียงจนตายเขาก็ไม่เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเฝิงหยู่!

พอมองไปที่ผู้นำของสำนักงานเพื่อการศึกษาและคณะกรรมาธิการการศึกษากำลังถกเถียงกันจางรุ่ยเฉียงก็ผุดความคิดมหาวิทยาลัยมอสโกก้าวหน้ามากในด้านเทคโนโลยีหากพวกเขาสามารถเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของที่นั่นได้พวกเขาก็สามารถเข้าเยี่ยมชมโรงงานทางทหารทั้งยังสามารถแอบเรียนรู้เทคโนโลยีเหล่านั้นจากมหาวิทยาลัยมอสโก

จางรุ่ยเฉียงแจ้งความคิดนี้แก่อันดับ1และอันดับ2ของเมืองดวงตาของสองผู้นำเป็นประกายเมืองนี้ยังมีคนที่มีความสามารถระดับนี้ถึงกับสามารถสร้างสัมพันธ์อันดีกับสหภาพโซเวียต? ถ้าความคิดนี้ลุล่วงก็จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

อืม ... ไม่มีใครควรได้รับโควต้าครูรัฐบาลเมืองต้องการจัดสรรโควตาครูแก่อาจารย์มหาวิทยาลัยพวกเขาจะโอนชื่อของศาสตราจารย์มายังโรงเรียนมัธยมปลายพวกเขาก็จะมีสิทธิ์ในการเดินทางครั้งนี้

อาจารย์มหาวิทยาลัยต่างก็ยอมรับเรื่องนี้เพราะพวกเขาอาจจะได้เข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยมอสโกแต่อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยต้องไม่เก็บข้อมูลนั้นไว้กับตัวเองต้องส่งมอบให้กับรัฐบาลเมือง!

แต่เรื่องนี้ค่อยมาพูดคุยกันในภายหลัง!

ปัง

นายกเทศมนตรีตบโต๊ะอย่างกะทันหัน: "หยุดโต้เถียงกันโควต้าสำหรับอาจารย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักงานเพื่อการศึกษาหรือคณะกรรมาธิการการเพื่อศึกษาอย่างไร?ในบรรดาพวกคุณทั้งหมดมีใครมาจากโรงเรียนมัธยมปลายไหม? ไม่ว่าจะสำนักงานเพื่อการศึกษาหรือคณะกรรมาธิการก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไป! "

ผู้นำจากสำนักงานเพื่อการศึกษาและคณะกรรมาธิการตกใจกับสิ่งที่นายกเทศมนตรีกล่าวพวกเขาเพียงต้องการสิทธิ์ในการไปโซเวียติเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งโควต้าก็ยังดีแต่ตอนนี้แค่หนึ่งสิทธิ์ยังไม่ได้เลยถ้าพวกเขารู้ตั้งแต่แรกพวกเขาคงจะปรึกษากันเอง

ในเวลาเดียวกันพวกเขาจ้องมองผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมปลายหากผู้อำนวยการได้ให้โควตาครูสี่สิทธิ์พวกเขาจะได้แบ่งกันฝ่ายละสองสิทธิ์เรื่องนี้ก็คงจะจบลง

อำนวยการอยู่ในสภาวะที่อึดอัดใจเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้จะถกเถียงเรื่องนี้จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแม้กระทั่งผู้นำอันดับ1และอันดับ2ของเมืองยังออกหน้ามาเองถ้าเขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกเขาจะให้เลขาอีกหนึ่งสิทธิ์ยังดีกว่าแต่ช่างมันเถอะในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สามารถส่งคนไปได้เขาก็จะกลับไปหารือกันว่าอาจารย์คนใดที่ควรจะได้ไป

ในครานี้เลขานุการยังกล่าวอีกว่า "โควต้าอาจารย์ที่จะนำทีมนักเรียนไปโซเวียตจะต้องหารือกันต่ออาจจะมีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาทำงานที่โรงเรียนมัธยมปลายของคุณชั่วคราวด้วยวิธีนี้เราจะสามารถแสดงถึงศักยภาพด้านการศึกษาของมืองปิงได้ "

ผู้นำจากสำนักงานเพื่อการศึกษาและคณะกรรมาธิการถึงได้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่พูดๆมาทั้งวันแท้ที่จริงแล้วรัฐบาลเมืองต้องการโควต้าของครูทั้งหมด! แต่ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเกี่ยวข้องอะไรกับโรงเรียนมัธยมปลาย?

......

"คุณเรียกผมมาที่นี่มีอะไรหรือครับ?" เฝิงหยู่นั่งอยู่บนโซฟาที่ออฟฟิศของจางรุ่ยเฉียงเขามองจางรุ่ยเฉียงแล้วยิ้มอย่างมีความสุขการลงทุนในความสัมพันธ์ของพวกเขาแสดงผลลัพธ์อันดีความสัมพันธ์ของเขากับจางรุ่ยเฉียงเริ่มแนบชิดกันมากขึ้น

"ฉันได้ยินมาว่ามหาวิทยาลัยมอสโคว์ได้ส่งจดหมายเชิญในการเข้าร่วมค่ายฤดูร้อนให้แก่โรงเรียนมัธยมปลายใช่ไหม?" จางรุ่ยเฉียงเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยถาม

"ถูกตัองครับผมเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ผมแค่ต้องต้องการชุบทองให้ตัวเองเพื่อจะได้โควต้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง "เฝิงหยู่ไม่คิดจะปิดบังเรื่องนี้ต่อจางลุ่ยเฉียง

จางรุ่ยเฉียงส่ายหัว "เธอนี่ใจกว้างจริงๆเพื่อจะได้สิทธิ์ในการเข้ามหาวิทยาลัยสำรองเอาไว้ถึงขนาดหาวิธีจนได้ไปสหภาพโซเวียตได้! ฉันขอถามเธอหน่อยมหาวิทยาลัยมอสโกเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำมีเทคโนโลยีชั้นนำแล้วพวกเธอจะได้ไปห้องปฏิบัติการหรือห้องวิจัยของพวกเขาในระหว่างการเยือนครั้งนี้หรือเปล่า? "

เฝิงหยู่กระพริบตาถี่ๆและกล่าวว่า "ไปเข้าร่วมทำไมละครับผมพึ่งเรียนมอปลายปีหนึ่งผมไม่เข้าใจหรอกครับ"

"เธอไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอกให้อาจารย์ที่ตามไปด้วยเข้าใจก็พอบอกฉันมาว่านี่เป็นไปได้หรือเปล่าถ้าเป็นไปได้ฉันจะยื่นข้อเสนอให้เธอหนึ่งข้อถ้าหากฉันสามารถทำได้ฉันจะรับปากทันที! "

"อาจารย์?แม้ว่าพวกเขาจะเป็นอาจารย์ก็ไม่น่าจะเข้าใจนะครับ"เฝิงหยู่กล่าวอาจารย์จากโรงเรียนมัธยมปลายไม่สามารถเข้าใจการวิจัยในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยหากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอาจจะเข้าใจบ้างแต่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ

"ถ้าเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีละ?" จางรุ่ยเฉียงยิ้มอย่างมีเลศนัย

เฝิงหยู่ตกใจและถามว่า "คุณกำลังจะให้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปลอมเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมปลายแล้วเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยมอสโกเพื่อขโมยข้อมูลหรือ?"

จางรุ่ยเฉียงกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า "เธอกำลังพูดอะไร? มันเป็นการเยี่ยมชมและเรียนรู้จากพวกเขา! นอกจากนี้ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยียังสามารถทำงานชั่วคราวในโรงเรียนมัธยมปลายอย่างเช่นพวกเขาอาจจะอยู่ฝ่ายการสอนแน่นอนว่าเขาคืออาจารย์ในโรงเรียนมัธยมปลายของเธอ! "

ข้อมูลทางเทคโนโลยี่ทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากต้องการแรงบันดาลใจหากอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสามารถเยี่ยมชมสถานที่วิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโกได้พวกเขาอาจได้รับประสบการณ์อย่างท่วมท้น

เรื่องนี้อาจถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและเฝิงหยู่ก็สามารถยื่นเงื่อนไขแก่จางรุ่ยเฉียงได้หนึ่งข้อฉะนั้นเฝิงหยู่จะพยายามทำให้ดีที่สุด

อืม ... แล้วเขาควรจะขออะไรกับรัฐบาลเมืองดีนะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด