บทที่ 3 - ลาก่อน คุณผู้หญิง
"ผม..." คุณลุงพูดไม่ออก
ฉันส่ายหัวขณะที่ฉันถอนหายใจอย่างหมดหวัง "นอกจากนี้คุณลุง ฉันเพิ่งบอกไปว่าให้ลุงยืนห่างจากฉัน ลุงก็น่าจะรู้ว่ากลิ่นตัวลุงมัน... ลุงมีปืนไหม? ถ้าลุงมีปืน ก็หยิบขึ้นมายิงฉันจากระยะไกล ทำอย่างรวดเร็ว อย่ามายืนใกล้ฉัน! ฉันขอร้อง!"
"ผมไม่ต้องการให้คุณสอนผมว่าผมควรทำยังไง!" ลุงหยิบกริชมาจากชั้นวางและวางมันไว้บนคอของฉัน "บอกลาชีวิต! และเป็นเหมือนคนหมอนั่นที่นอนอยู่บนพื้น!"
ฉันหลับตาลงขณะที่ฉันกำลังรอชีวิตของฉันจบลง ฉันสงสัยว่าบอดี้การ์ดสุดหล่อและเมียน้อยจะตอบสนองยังไงเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าฉันกลายเป็นผี?
เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถพูดได้ ฉันก็ไม่เคยสื่อสารกับพวกเขาเลย แต่ถ้าฉันกลายเป็นผี นั่นหมายความว่าฉันจะสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้งั้นสินะ?
ท้ายที่สุด ผีก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันคิด
โอ้ ใช่แล้ว คุณพ่อคุณแม่....
ฉันไม่ได้คิดถึงพวกเขามาหลายปีแล้ว ภาพของพวกเขาที่อยู่ในหัวของฉันพร่ามัวอย่างแปลกประหลาด แม้ว่าฉันจะสามารถเห็นผี ฉันก็ไม่เคยเห็นพ่อแม่ของฉัน พวกเขาอาจจะกลับมาเกิดนานแล้ว เฮ้อออ คนที่ฉันอยากจะเห็นคือคนที่ฉันไม่สามารถเห็นได้
"ลุงแปลกใจกับปฏิกิริยาของฉันงั้นสินะ? หรือเป็นครั้งแรกที่ลุงเจอคนแบบฉัน?" ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันก็ไม่อยากตายเหมือนกัน สำหรับตอนนี้ ฉันต้องการพูดคุยกับฆาตกร
"คุณหมายถึงอะไร?"
"อืมม ถ้าคนส่วนใหญ่เผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาจะร้องไห้หรืออ้อนวอนว่า"ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน! อย่าฆ่าฉันเลย! นั่นคงจะเป็นปฏิกิริยาปกติใช่รึเปล่า?"
"ใช่แล้ว คุณน่ะผิดปกติ" คุณลุงเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของฉัน
"คุณลุง ไม่ใช่ว่าฉันผิดปกติ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ฉันก็แค่ยึดติดกับโลกใบนี้น้อยเกินไป ฉันมีแค่ตัวคนเดียว ถึงแม้ว่าวันนี้ลุงจะฆ่าฉัน ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นศพของฉัน ดังนั้นคุณลุง ลุงโชคดีมาก ลุงจะฆ่าพยานและก็จะไม่มีใครสังเกตเห็น จะไม่มีใครสักคนสงสัยว่าเธออยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ไม่มีใครสักคนที่จะมาเช็คเธอ.... เพราะฉะนั้นลุงยังมีเวลาหนีอีกมาก ฉันมีชีวิตอยู่มา25ปีโดยที่ไม่มีอะไร วันนี้ชีวิตที่ไร้ความหมายของฉันจะสิ้นสุดลง ไม่ว่าฉันจะมีความสุขหรือไม่มีความสุข ฉันก็ยังคงอยู่อย่างเดียวดาย..."
เมื่อฉันเข้าใจส่วนนี้ ฉันก็รู้สึกขุ่นเคืองมากๆ ฉันกำลังจะตาย แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกมีอารมณ์กันล่ะ? นี่ไม่ใช่สไตล์ของฉัน.....
"ถ้าคุณต้องการพูดกับใครสักคน ผมสามารถรับฟังคุณได้" ราวกับว่าคุณลุงกลายเป็นคนละคน ฉันรู้สึกเหมือนมีรัศมีส่องแสงออกมาจากด้านหลังของเขา ถ้าเขาเป็นผู้ศรัทธาในศาสนา ฉันอาจจะเข้าร่วมกับเขาโดยทันที
หลังจากใช้ชีวิตมา25ปี ในที่สุดก็มีใครบางคนมารับฟังฉัน? หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า "พระอาทิย์เชิดฉายหลังฝนตก"?
ฉันกำลังคิดเรื่องนี้อีกครั้ง นี่คือฆาตกร ลืมมันไปเถอะ.... "ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการให้คุณเสียเวลา รีบฆ่าและหลบหนีไป!"
จากนั้นฉันก็หลับตาลง นี่คือจุดจบ ฉันค่อยๆบอกตัวเองให้สงบขณะที่ฉันรอกริชแทงหัวใจของฉันอย่างเงียบๆ จากนั้นวิญญาณของฉันก็จะออกจากร่าง
“ล่าก่อน คุณผู้หญิง…”
นี่อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันได้ยินในชีวิตนี้ บางทีนั่นเป็นเหตุผลที่เสียงของลุงดูอ่อนโยนและไม่แหบแห้งเป็นพิเศษ
“หยุด!”
ขณะที่กำลังรอ ก็มีเสียงอื่นดังเข้ามาในหูของฉัน ฉันไม่ได้รอจนถูกแทงขณะที่ฉันเปิดตา
แม่เจ้า! คุณลุงที่นั่งอยู่บนพื้นลุกขึ้นมา!
"ค-คุณ!" ฉันพูดตะกุกตะกักขณะที่ฉันตะโกนด้วยสายตาเบิกกว้าง "คุณกลับมามีชีวิต?!"
เขาอาจจะเป็นผี ใช่แล้ว จะต้องเป็นแบบนั้นแน่.....เดี๋ยวนะ! ไม่มีใครอยู่บนพื้น ถ้าอย่างงั้น....
"โชคดีที่นายบอกว่าหยุด! ถ้าไม่อย่างงั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง นายรวบรวมข้อมูลพอรึยัง?" คุณลุงฆาตกรหันไปหาคุณลุงที่แกล้งตาย
"รวบรวมข้อมูลพอตูดนายน่ะสิ! ฉันไม่เคยเจอใครบางคนที่ไร้ความรู้สึกและน่าเบื่อแบบนี้มาก่อน เธอกำลังจะตายและพ่นแต่เรื่องไร้สาระออกมา เธอไม่ได้แสดงความกลัวอะไรเลย เสียเวลาฉันไหมเนี่ย!"
คุณลุงแกล้งตายบอกขณะที่เขาเปิดม่านหน้าต่างอย่างฉุนเฉียว แสงแดดส่องเข้ามาในห้องทันที พวกเราทั้งสามคนปิดตาลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
"ไอบ้าเอ้ย! อย่างน้อยก็เตือนฉันก่อนสิ!" คุณลุงนักฆ่าตะโกน
ความสามารถในการปรับตัวของฉันดีกว่าพวกเขาทั้งสอง ฉันยังสามารถมองเห็นขณะที่ฉันมองไปยังคุณลุงที่แกล้งตาย
เนื่องจากเขาอยู่ในน้ำนาน ผมและเสื้อผ้าของเขาจึงเปียก น้ำไหลหยดจากผมของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาเป็นคนผอมสูง แต่หนวดของเขาก็กีดขวางใบหน้าเขา ฉันไม่สามารถมองหน้าตาของได้จริงๆ เสื้อเชิ้ตของเขาถูกคลายออก ดังนั้นฉันจึงสังเกตเห็นผิวของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาใช้นิ้วที่เรียวยาวบังแสงแดดนิดหน่อย แสงแดดพุ่งเข้าใส่เขาและสาดเข้ามาในห้อง น้ำในห้องใสสะอาด ด้วยระลอกคลื่นเล็กๆ น้ำใสสะท้อนภาพของคุณลุงที่แกล้งตาย
นี่มันบ้าอะไรกัน? ภาพลักษณ์อันอบอุ่นนี้ไม่เหมาะกับสถานการณ์เลย
คุณลุงฆาตกรแก้มัดฉันขณะที่เขาอธิบายอย่างอ่อนโยน "พวกเรากลัวคุณแทนที่คุณจะกลัวพวกเราซะอีก พวกเรากำลังซ้อมบท ผมเป็นฆาตกรและเขาก็เป็นเหยื่อ คุณเพิ่งมาขัดจังหวะและก็กลายเป็นพยาน ฮ่าฮ่าฮ่า!"
อา..ฮะ?!
ฉันรู้สึกประหลาดใจขณะที่เขายกฉันขึ้นมาและวางไว้บนเตียงอย่างระมัดระวัง "ใจเย็นก่อน พวกเราต้องทำความสะอาดห้อง พวกเราจะคุยกันภายหลัง"
ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ยินเสียงอีกต่อไป ฉันไม่รู้อะไร ฉันไม่เข้าใจอะไร ฉันดึงหมอนขณะที่ฉันขดตัวเข้าหากันและวางหมอนไว้บนคางของฉัน
นี่เป็นความฝัน นี่เป็นเพียงแค่ความฝันไร้สาระ เมื่อฉันตื่นมา ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น ฉันยังคงพูดคำเหล่านั้นซ้ำไปมาและฉันก็พยายามปลอบใจตัวเอง ฉันหลับตาลงและหลับไปโดยไม่รู้ตัว