บทที่ 17: เฉพาะหวงเหว่ยเท่านั้น
เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของจิตวิญญาณการต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นเบื้องหลังของเขา หวงเสี่ยวหลงตกใจอย่างแท้จริง
นี้วิธีการนี้สามารถเรียกว่าจิตวิญญาณการต่อสู้งูสองหัวได้อีกหรือ นี้มันกลายเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์อันดับต้น ๆ ! และแถมยังเป็นมังกรคู่ !
"วิญญาณคู่!" เกิดเป็นประกายข้ามความคิดของหวงเสี่ยวหลงเข้าเชื่อว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในโลกจิตวิญญาณแห่งนี้ ผู้ที่มีวิญญาณคู่เป็นคนที่หายากมาก และแต่ละคนถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของสวรรค์
นอกจากนี้วิญญาณคู่ของหวงเซี่ยวหลงยังมีพลังการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม!
แม้ว่าวิญญาณการต่อสู้ที่อยู่ข้างหลังเขายังอีกไกลที่จะคล้ายเทพมังกรโบราณ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พัฒนาขึ้นเมื่อเขาก้าวขึ้นสู่นักรบระดับเจ็ดจิตวิญญาณของเขาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งที่สองและเมื่อถึงจุดนั้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา จะกลายเป็นเทพมังกรโบราณที่แท้จริง
หลังจากที่ตกตะลึง ความกระตือรือร้นก็ระเบิดออกมาจากหัวใจของหวงเสี่ยวหลง
เขาไม่ได้คาดหวังว่าการวิวัฒนาการของจิตวิญญาณการต่อสู้ที่เขากาลังรอคอยจะออกมาในรูปแบบนี้ จิตวิญญาณของเขากลายเป็นจิตวิญญาณคู่ที่ยอดเยี่ยม!
แล้วความสามารถของจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ตื่นขึ้นมามีอะไรบ้าง?
"มีอยู่จริง ๆ สองอย่าง มีสองอย่างจริง ๆ !!!!!" ความสามารถที่สืบทอดจากความทรงจาถูกย้ายไปที่หวงเสี่ยวหลงจากมังกรคู่
โดยทั่วไปแล้วจิตวิญญาณการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกจะกระตุ้นให้เกิดความสามารถเฉพาะด้านจากมรดกของความทรงจาของจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขา และ
เนื่องจากหวงเสี่ยวหลงครอบครองจิตวิญญาณการต่อสู้คู่ เขาจะได้รับความสามารถโดยธรรมชาติสองอย่าง
ผ่านความทรงจาของมรดกในใจของเขา หวงเสี่ยวหลงนั่งไขว้บนเตียงหยกเย็น ภาพเงาของเขาก็เบลอ และหายตัวไปจากห้อง ประมาณหกอึดใจหลังจากนั้นก็หายใจไม่ออก เงาของเขาปรากฏขึ้นบนเตียงหยกเย็น
นี่คือความสามารถในการต่อสู้โดยกาเนิดอย่างแรกของหวงเซี่ยวหลง -ความสามารถในการปกปิดซ่อนเร้นในอากาศ!
ปกปิดและทุกอย่างกลายเป็นโมฆะ ไม่ว่าจะเป็นเงา รูปร่าง, ไม่สามารถติดตามหรือมองเห็น!
"ความสามารถนี้ดูน่ากลัวมาก!" เกิดประกายแวววาวในดวงตาของหวงเสี่ยวหลง
ลองจินตนาการดูว่าถ้าหวงเสี่ยวหลงกาลังหายตัวไปอย่างฉับพลันในระหว่างการต่อสู้ที่กาลังดุเดือด แล้วลอบแอบอยู่เบื้องหลังฝ่ายตรงข้าม และลงมือฆ่าในทันที ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถป้องกันได้ ทักษะนี้เหมาะสาหรับการลอบสังหารเท่านั้น!
แม้ว่าหวงเสี่ยวหลงจะสามารถหลบหนีได้เพียง 6 อึดใจ แต่ขณะที่เขาแข็งแรงขึ้นความยาวของเวลาจะเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการเติบโตของพลัง ยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าใดเขาก็ยิ่งสามารถซ่อนตัวภายในพื้นที่ได้นานขึ้นอีก
ถ้าทักษะแรกคือการปกปิดซ่อนเร้นแล้วสิ่งที่เป็นอย่างที่สอง?
คิดถึงเรื่องนี้ร่างของหวงเสี่ยวหลงลอยขึ้นมาจากเตียงหยกเย็น โดยไม่มีความหมายและเปลี่ยนเป็นรูปเงาสีดาพุ่งออกมาจากห้องของเขาออกไปจากบ้านพักของเขา
ความสามารถที่สองคือเงาปีศาจ!
ในขณะที่ทาการทดสอบความสามารถที่สอง, หวงเสี่ยวหลงสังเกตเห็นความเร็วของเขาได้เพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งในสามของความเร็วปกติของเขา!
การต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีความแข็งแรงที่คล้ายกันเพื่อคว้าชัยชนะความเร็วมีบทบาทสาคัญ การรวมกันของทั้งสองความสามารถโดยธรรมชาติของการต่อสู้ ของจิตวิญญาณการต่อสู้ เขาอาจจะสามารถกล้าที่จะสู้ได้อย่างเต็มที่
หวงเสี่ยวหลงสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ขณะที่อารมณ์ต่าง ๆ รวมถึงความภาคภูมิใจทาให้เขาเต็มไปด้วยรัศมีที่ครอบงาจากร่างกายของเขา
ครู่ต่อมาการหลั่งไหลของอารมณ์ของหวงเสี่ยวหลงค่อย ๆ สงบลง
ทันใดนั้นหวงเสี่ยวหลงก็กระโดดขึ้นกลางอากาศมือของเขายืนออกไปข้างหนึ่ง
ฝ่ามือหยางที่ควบแน่นปราณฉีในท้องฟ้ายามค่าคืน
หลังจากผ่านช่วงเวลานี้ หวงเสี่ยวหลงเห็นได้ชัดว่าความว่องไวของเขาเพิ่มเป็นสองเท่า และการโจมตีแต่ละครั้งของเขาสามารถระเบิดพลังของกล้ามเนื้อของเขาได้รุนแรงขึ้น สิ่งนี้ไม่อาจทาได้เมื่อเขาอยู่ในนักรบระดับสาม
ในช่วงเริ่มต้นของนักรบตั้งแต่นักรบระดับแรกไปถึงนักรบระดับสาม ปราณฉีในเส้นลมปราณจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อทั้งร่างกายทาให้เนื้อหนังมีความกระชับขึ้น หนาแน่น และมีพลังมากขึ้น แต่หลังจากก้าวมาสู่นักรบระดับสี่ปราณฉีในเส้นลมปราณได้รับการขัดเกลา ไม่เพียงแต่กล้ามเนื้อแต่ยังรวมไปถึงเส้นเอ็น!
หนึ่งในการโจมตีจากฝ่ามือของหวงเสี่ยวหลงได้โจมตีลงไปที่หินขนาดใหญ่ที่ถูกลืมวางไว้ที่มุมลานหน้าบ้านพักก่อนที่เขาจะลงสู้พื้น สายลมยามค่าคืนได้พัดผ่านมา และหินขนาดใหญ่ระเบิดเป็นเศษผงกระจายไปทั่วทุกมุมของลานหน้าบ้านพัก
จากนักรบระดับแรกไปจนถึงนักรบระดับสาม การก้าวไปในแต่ละขั้นจะเพิ่มพลังให้กับผู้คนเทียบได้กับหินขนาดใหญ่หนึ่งก้อนต่อหนึ่งระดับ และเมื่อไปถึงนักรบระดับสี่จะเพิ่มเป็นสองเท่า ปัจจุบันการจู่โจมหนึ่งครั้งของหวงเสี่ยวหลงมีพลังเท่ากับหินหกก้อน!
รุ่งอรุณเดินทางเข้ามา และแสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องไปที่ผิวของหวงเซี่ยวเหลาราวกับว่าตัวเขามีชั้นของรัศมีสีทอง
หวงเสี่ยวหลงยืนอยู่โดนไม่เดินไปไหนภายในลานห้านบ้านของเขาปล่อยให้ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ส่องไปทั่วร่างกายของเขา ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปในทิศทางตะวันออก แต่ตอนที่เขาเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ของเรือนรับรองทางตะวันออก พ่อของเขา หวงเผิงไม่ได้อยู่ที่นั่นมีเพียงแม่ของเขา ซูเย่วอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
"ท่านพ่อไปที่ห้องโถงหลัก?" หวงเสี่ยวหลงถามอย่างงง ๆ
ซูเย่วพยักหน้า และกล่าวว่า "เมื่อเช้านี้ท่านปู่ของเจ้าเรียกเขาไปพบแม้กระทั่งหวงหมิงและผู้อาวุโสของคฤหาสน์ตระกูลหวงก็ถูกเรียกตัวไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะหารือกันในเรื่องอะไร "
ได้ยินเรื่องนี้หวงเสี่ยวหลงตัดสินใจรอจนกว่าพ่อของเขาจะกลับมา
ในห้องโถงหลัก หวงฉี่เต๋อนั่งอยู่บนที่นั่งหลัก และดวงตาของเขากวาดไปทั่วใบหน้าของทุกคนที่รออยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะเปิดปากเพื่อพูดว่า "พรุ่งนี้ข้าจะเปิดสระวิญญาณ และหวงเหว่ยจะถูกเลือกให้ฝึกภายในสระวิญญาณเป็นเวลาหนึ่งเดือน ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ผู้ที่อยู่ในห้องโถงหลักได้แลกเปลี่ยนกันทางสายตา และลอบดูท่าทางที่แอบแฝงเพื่อดูปฏิกิริยาของหวงเผิง
หวงฉี่เต๋อก่อตั้งคฤหาสน์ตระกูลหวงมาด้วยสองมือเปล่าของเขา ดังนั้นจึงไม่มีผู้อาวุโสคนใดกล้าพูดเรื่องที่เขาได้ตัดสินใจแล้ว ตามกฎที่ถูกกาหนดไว้หลายปีที่ผ่านผู้ชนะในงานชุมนุมประจาปีของตระกูล หลังจากปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้มีสิทธิ์เข้าไปใช้สระวิญญาณเพื่อทาการฝึกฝนเป็นเวลาหนึ่งเดือน เห็นได้ชัดว่าหวงเสี่ยวหลงเป็นผู้ชนะ และควรที่จะได้เข้าสู่สระวิญญาณในครั้งนี้
เมื่อหวงเผิงได้ยินการประกาศของบิดาของเขา เขารู้สึกอึดอัดใจสักครู่ก่อนที่ความโกรธจะเผาอยู่ภายในหัวใจของเขา และเขาได้ลุกขึ้นยืนพร้อมความโกรธ "ท่านพ่อนี้ไม่มันยุติธรรม! งานชุมนุมประจาปีของตระกูลปีนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเสี่ยวหลงที่เอาชนะหวงเหว่ยได้ แต่ทาไมการเข้าไปฝึกฝนที่สระวิญญาณถึงเป็นหวงเหว่ย! "
หวงฉี่เต๋อรู้สึกลาบากเล็กน้อย เขาไม่ตระหนักถึงความไม่ยุติธรรมของสถานการณ์ และไม่มีเหตุผลอะไรที่ทาให้เขาสามารถประณามพฤติกรรมลูกคนรองของเขาได้ เขาได้พูดพึมพาได้อย่างไม่น่าเชื่อว่า "ถึงแม้ว่าปี นี้เสี่ยวหลงจะมีชัยเหนือหวงเหว่ย แต่ก็เป็นเพียงโชคจากสวรรค์เปรียบเทียบพวกเขาด้วยพรสวรรค์ ความสามารถของหวงเหว่ยสูงกว่า เสี่ยวหลงมาก คราวนี้เขาสามารถผ่านไปสู่นักรบระดับสองได้เนื่องจากผลไม้หยางสามผลที่เขาได้กลืนกินเข้าไป ตอนแรกข้าตั้งกฎไว้ว่าผู้ชนะจะสามารถเข้าไปฝึกฝนยังสระวิญญาณได้นั้น ข้าหมายถึงคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในแต่ละปีของจิตวิญญาณที่ตื่นขึ้นมาใหม่มีสิทธิ์เข้าใช้สระวิญญาณเพื่อฝึกฝน! "
ความโกรธภายในใจของหวงเผิงไม่สามารถสงบได้ง่าย ฉับพลันเขาสบถออกมา: "ผายลม! เฉพาะคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าใช้สระวิญญาณเพื่อฝึกฝน? เหตุใดจึงไม่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทาไมต้องรอจนเสี่ยวหลงชนะถึงจะกลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุด? "
หวงฉี่เต๋อสะดุดในคาพูดไม่ทราบว่าจะตอบเช่นไร
ในขณะนี้หวงหมิงกล่าวว่า "น้องรองนี่คือท่านพ่อเป็นจ้าวคฤหาสน์หรือเจ้าที่เป็น? เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาตั้งคาถาม หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจของท่านพ่อ "
มือของหวงเผิงจับกุมกาหมัดแน่น และด้วยความโกรธของเขา เขาจ้องมองไปที่หวงหมิงแต่เขาไม่สามารถปฏิเสธความจริงในคาพูดของหวงหมิงได้
"นายรองการตัดสินใจของจ้าวคฤหาสน์ทาเพื่อประโยชน์ของ คฤหาสน์ตระกูลหวง " โจวกวงเปิดปากของเขากล่าวว่า "ทุกคนรู้ดีว่าความสามารถของนายน้อยเสี่ยวหลงแย่กว่านายน้อยหวงเหว่ย ถ้านายน้อยเสี่ยวหลง เข้าไปใช้สระวิญญาณมันจะเสียประโยชน์ของสระวิญญาณไปเปล่า ๆ !
ชี้นิ้วไปที่โจวกวง หวงเผิงกล่าวว่า: "หุบปากสุนัขของเจ้าที่นี่ไม่ใช่สถานที่สาหรับเจ้าที่จะพูด"
โจวกวงกลายเป็นมีใบหน้าแดงแล้วกลายเป็นสีแดงเข้มไม่กล้าที่จะพูดคาใดออกมาอีก
ครู่ต่อมาหวงเผิงได้แสดงความโกรธของเขา หวงเผิงได้หันไปมองหวงฉี่เต๋อ "ตามที่ท่านพ่อต้องการ ตั้งแต่ที่ท่านบอกว่าคราวนี้เป็นความบังเอิญแล้วถ้าในช่วงปีถัดไป เสี่ยวหลงยังคงเป็นชนะหวงเหว่ย ท่านจะว่ายังไง?"
หวงฉี่เต๋องงงันแต่ยังคงถามต่อ
"ในความเห็นของเจ้าในปีถัดไปของงานชุมนุมประจาปีของตระกูล, เสี่ยวหลงจะไม่วิ่งไปสู่ความร้าย?"
หวงหมิงกล่าวเสริมว่า "ดีแล้ว ถ้าเสี่ยวหลงชนะอีกครั้งในระหว่างงานชุมนุมประจาปีของตระกูลในปีหน้า ข้าจะชดเชยให้เจ้าด้วยยาเสริมปราณฉี 100 เม็ด และกล่าวขอขมาเจ้า!"
ยาเสริมปราณฉี 100 เม็ด เกือบจะเทียบเท่าการฝึกฝนหนึ่งเดือนในสระวิญญาณ
"ดี!" หวงเผิง จ้องไปที่หวงหมิง: "จาสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้ไว้ให้ดี!" หลังที่ทิ้งประโยคนี้ไว้ หวงเผิงหันหลัง และเดินออกไปจากห้องโถงหลักโดยไม่ได้กล่าวคาลาต่อหวงฉี่เต๋อ